Fate Agent เจตอารักษ์

บทที่ 10 ร้านค้าครบวงจร (ตอนปลาย)



บทที่ 10 ร้านค้าครบวงจร (ตอนปลาย)

“เก็บได้หลังพุ่มไม้เลยเอามาเลี้ยงไว้ดูเล่นน่ะครับ” เทพินไม่ได้สนใจความหายากของอสูรมายาข้างตัว เท่าไรนัก และเพราะคำพูดของเขาเลยทำให้จิ้งจอกที่ถูก เลี้ยงไว้ดูเล่นถึงกับสำลักอาหาร

“อย่ามาพูดมั่ว ๆ นะเจ้าเด็กบ้า !”

“มาขนาดนี้แล้วปฏิเสธไปก็เปล่าประโยชน์นะครับเค ไนน์”

“เจ้า… เจ้านี่มัน !” เคไนน์คิดคำด่าไม่ออก จะประเคนใส่ ทุกคำที่คิดออกก็ไม่ได้ เขายังพอมีมารยาทอยู่บ้างที่จะไม่ ทําตัวหยาบคายต่อหน้าแขก ถึงแม้ว่าแขกคนที่ว่าจะกลั้น หัวเราะพุงกระเพื่อมได้น่ารีดไขมันก็ตามที

ฝากไว้ก่อนเถอะ เคไนน์คาดโทษในใจ

“อ้อ~ ถ้าอย่างนั้นที่มานี่ก็เพื่อลงทะเบียนอสูรสัตว์เลี้ยง สินะ”

“สมกับเป็นลุงปืน ถูกต้องแล้วครับ ต้องการให้ขึ้น ทะเบียนเขาให้เป็นคู่หูของผมด้วยน่ะครับ ป้องกันไกรา บ๊อง ๆ ที่คิดจะมาจับของของผมไปขาย” คำพูดกับรอย ยิ้มของเด็กหนุ่มนั้นหวานเจี๊ยบแต่แววตาที่ฉายอยู่บน ดวงตาสีม่วงนั้นเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกและความอ่ามหิตที่ซ่อนอยู่

นี่ล่ะแววตาของนักสู้ขนานแท้… แถมยังหวงของมาก

ด้วย

แต่อสูรมายาของหายากก็น่าหวงจริง ๆ นั่นล่ะ

“ได้ ๆ เรื่องขึ้นทะเบียนคู่หูน่ะของง่าย ๆ แต่ต้องใช้เงิน อยู่บ้าง ยิ่งระดับเป็นถึงอสูรมายาเงินประกันก็ต้องสูงนิด หน่อย ซึ่งลุงว่าหนูเทนคงไม่มีปัญหาอยู่แล้วใช่ไหม” ชาย ร่างท้วมหัวเราะร่าก่อนจะเริ่มเขียนข้อมูลอีกครั้ง แล้วจาก นั้นก็หยิบเอกสารบางอย่างให้เด็กหนุ่มกรอก ซึ่งมันเป็น เอกสารที่จะใช้อ้างอิงตอนการลงทะเบียน

การลงทะเบียนคู่หูระหว่างมนุษย์และอสูรเพื่อทำงาน ด้วยกันนั้น มันก็เป็นเรื่องปกติเช่นกันถึงแม้จะมีเป็นส่วน น้อยแต่ก็จัดว่ามี ในหมู่มนุษย์ทั่วไปที่ไม่ใช่ไกราสามารถ ขอความช่วยเหลือหรือได้รับการยอมรับจาก อสูรได้ แต่ การจะทำงานร่วมกันย่อมมีกฎเกณฑ์เพื่อความปลอดภัย และผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย สัญญาผูกมัดมีหลาย ข้อที่พึงระวัง บทลงโทษก็หนักหน่วง เพราะทางสมาคม เองก็ต้องการความมั่นใจว่าอสูรที่เป็นคู่หูจะไม่สร้างความ เดือดร้อนให้กับมนุษย์คนอื่น

เทพินกรอกรายละเอียดเรียบร้อยก็ส่งคืนให้กับลุงปืน ก่อนจะยื่นการ์ดสีดำขลับให้กับอื่นฝ่าย ซึ่งการ์ดที่ว่าคือบัตรใช้แทนเงินสด เรียกว่า ‘ออสการ์ด’ ชายร่างท้วม ด ตัวเลขลงบนเครื่องแล้วรูดบัตรอย่างรวดเร็ว ใบเสร็จถูก ปริ้นต์ออกมายื่นให้กับเด็กหนุ่มเซ็นเพื่อยืนยันจำนวนเงิน เมื่อได้รับการเซ็นเรียบร้อยลุงปืนก็เก็บมันเข้าแฟ้ม

“ขอบคุณที่ใช้บริการลุงนะหนูเทน คราวหลังก็มา อุดหนุนกันอีกล่ะ”

“ถ้ามันมีส่วนลดบ้างผมก็ว่าจะมาใช้บริการลุงปืนบ่อย ๆ เหมือนกันครับ” เด็กหนุ่มแซวพลางหัวเราะเบา ๆ อย่าง สงบ

“ฮ่า ๆ พูดเหมือนจนเลยนะ”

“ตอนแรกก็ไม่จนหรอกครับ แต่พอจ่ายค่าอะไรต่าง ๆ ให้ ลุงปืนเท่านั้นแหละ แกลบเลย”

“อย่าพูดเหมือนลุงเป็นตัวดูดทรัพย์อย่างนั้นสิไอ้หนูคน นี้” ชายร่างท้วมทำท่าจะเขกหัวเด็กหนุ่มสักทีอย่างหมั่น เขี้ยวแต่ก็ไม่ทำอะไร เพราะสายตาดุ ๆ ของจิ้งจอกอสูร นั่งจ้องเขม็งเลย

“ว่าอะไรแบบนั้นครับลุงปืน ลุงไม่ได้แค่ดูดทรัพย์หรอก ครับแต่ให้ทรัพย์ด้วย หึ ๆ”

“พูดแบบนี้คือ…จะคุยเรื่องงานด้วยสินะ ?”
“แน่นอนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ” รอยยิ้มมุมปากปรากฏ ขึ้นทันที ดวงตาสีม่วงเป็นประกายวาววับอย่างคาดหวัง

“ฮ่า ๆ ว่าแล้วเชียว หนูเทนนี่มาไม่เคยเสียเที่ยวเลย จริง ๆ นะ” ลุงปืนหัวเราะร่าก่อนจะหยิบเอกสารบางอย่าง ออกมา “อยากจะรับงานไหนก็เลือก ๆ ไปเลย ระดับของ หนูเทนสูงอยู่แล้ว ทำงานดีจนลูกค้าชมใหญ่เชียวนะ ถ้า เลือกเสร็จแล้วก็เอาไปให้ลุงข้างนอกล่ะ ลุงจะไปจัดการ เรื่องเอกสารพวกนี้ก่อน แล้วก็…” ชายร่างท้วมปรายตา มองเคไนน์เล็กน้อยแล้วอมยิ้ม “…ไม่อยากอยู่เป็นก้าง ขวางคอด้วย”

“ฮะ ? อะไรคาคอครับลุงปืน ?” เด็กหนุ่มที่ไม่ได้ยิน ประโยคท้ายเงยหน้าจากใบงานไปมองลุงปืนตาใสซื่อ เมื่อกี้ได้ยินไม่ชัดขอใหม่อีกรอบ

“เปล่า ๆ ก็แค่พึมพำตามประสาคนแก่น่ะ” ลุงปืนแก้ตัว ไปอย่างเนียน ๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่ประตูแล้วออก จากห้องไปอย่างรวดเร็ว ให้จิ้งจอกอสูรที่ได้ยินชัดเจนทุก ประโยคส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างไม่สบอารมณ์

ขอให้ก้างติดคอตายไปเลยตาลุงนี่

“นั่นเจ้ากำลังเลือกงานอะไรอยู่น่ะเทน” เคไนน์เปลี่ยนที่ นั่งมาเป็นนั่งข้างเด็กหนุ่มแทนก่อนจะก้มหน้าลงมองกระดาษบ้าง ทั้งหมดล้วนเป็นงานเก็บกวาดทั้งสิ้น ไม่มี ได้ไปสู้รบปรบมือกับใครเลยสักนิด งานปลอดภัยสมใจ อยากเจ้าตัวเขานักล่ะ

“กําลังเลือกงานที่เงินดี ๆ หน่อยน่ะครับ เคไนน์ว่าทํางาน ไหนดีล่ะ” เทพินเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าสวย ๆ ของจิ้งจอก อสูร น้ำเสียงที่ถามนั้นฟังดูกระดึ๊กระด๊ามากแต่ใบหน้ายัง คงยิ้มน้อย ๆ เคไนน์มองค้อนเด็กหนุ่มอย่างหมั่นไส้แต่ก็ ก้มดูใบงานอย่างอยากรู้อยากเห็น

“งานไหนก็ได้แหละมั้ง เราแค่เก็บกวาดไม่ใช่หรือไง”

“มันก็ใช่หรอก แต่งานมันก็มีอยู่สองประเภทนะครับ ประเภทแรกคือรอได้ งานพวกนี้ทีมเก็บกวาดจะตามไป ทีหลังเมื่อไกราทําภารกิจเสร็จ เป็นงานที่ได้เงินน้อย หน่อยแต่ก็คุ้มค่าไม่เสี่ยงภัย กับประเภทที่สองตามเก็บ ทันที งานประเภทนี้เราจะต้องติดตามไกราไป แต่ก็ไม่ ได้ติดตามอยู่ในทีมเดียวกัน แค่อยู่ห่าง ๆ รอสัญญาณ เท่านั้น แต่ก็มีความเสี่ยงมากกว่าหน่อย ค่าแรงเพิ่มขึ้นมา เกือบเท่าหนึ่งของประเภทแรกน่ะ”

“อ้อ… ส่วนมากเจ้าเลือกประเภทแรกสินะ”

“อื้ม เลือกเพราะเน้นเวลาว่างของผมเป็นหลัก ถ้าให้ ติดตามกลุ่ม ไกราไปทำภารกิจก็ไม่ไหวเหมือนกัน เสีย การเรียน”
“งั้นเจ้าลองรับประเภทที่สองดูบ้างดีไหม รายได้มันก็ไม่ เลวนะ” จิ้งจอกอสูรเริ่มเห็นแก่เงินขึ้นมานิดหน่อย เพราะ ตอนนี้เขาต้องช่วยเด็กหนุ่มแบ่งเบาภาระที่เรียกว่าค่าไฟ ด้วย

“แต่มันก็เสี่ยงอยู่นะครับ”

“เจ้าจะห่วงอะไร มีข้าไปด้วยทั้งคน !”

“มีนายไปด้วยนี่ยิ่งเพิ่มความเสี่ยง เผลอ ๆ จะเพิ่มปัญหา ด้วย”

“จะหาว่าข้าเป็นตัวอันตรายหรือไง ! คนที่อันตรายที่สุด น่ะมันเจ้าแล้ว ไอ้มนุษย์ความลับเยอะเอ๊ย !

“ผมมีความลับเยอะที่ไหน ออกจะเป็นคนเปิดเผย

“เรอะ !” ถ้านี่เรียกเปิดเผยบนโลกนี้คงไร้ความลับกัน ค่อนโลกแล้ว

“สรุปเอาเป็นงานประเภทที่สองนะ” เทพินกลับไปให้ ความสนใจกับงานอีกครั้ง “เอ… เลือกเป็นสถานที่ไม่ไกล จากบ้านมากก็แล้วกัน”

เด็กหนุ่มเลือกงานแล้วก็ดึงใบงานที่ต้องการออกมาอ่านรายละเอียด เมื่อเห็นว่ามันพอใช้ได้แล้วก็ยื่นมันให้เค

ไนน์อ่านก่อน

“งานเก็บกวาดในงานเทศกาลเหรอ ? ช่วงนี้มีเทศกาล อะไร ?”

“นี่นายอยู่บ้านเฉย ๆ จนเลอะเลือนแล้วสินะ ช่วงนี้มัน ปลายฤดูใบไม้ร่วงแล้วครับ”

“ข้าไม่ใช่คนในท้องที่เว้ยจะได้รู้ไปทุกสิ่งอัน”

“เฮ้อ… โอเค ผมจะอธิบายให้ฟัง” เทพินสูดลมหายใจ เข้าลึกรอบหนึ่งก่อนจะเริ่มอธิบาย “ช่วงนี้มีประเพณีไหล เรือไฟ เขตที่อยู่ห่างออกไปจากเขตของเราไม่ไกลนัก เป็นงานรื่นเริงดึงดูดนักท่องเที่ยว เขามีพิธีปล่อยเรือที่ ประดิษฐ์ขึ้นอย่างสวยงามลงแม่น้ำเป็นการเคารพบูชา เทพแห่งสายน้ำอย่างหนึ่ง”

ในแต่ละเขตเมืองก็จะมีประเพณีแตกต่างกันไป และ แตกต่างกันในทุกฤดูกาล เขตไหนจัดงานประเพณีได้ สวยงามโดดเด่น มันก็จะกลายเป็นเทศกาลใหญ่ ๆ ที่คน รู้จักมากกว่าเขตที่จัดงานได้เล็กน้อย

และในงานเหล่านี้เองที่สิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกรวม ๆ ว่า ปีศาจก็จะปรากฏขึ้นภายในงาน ซึ่งนั่นเป็นหน้าที่ของไก ราที่จะเก็บกวดปีศาจเหล่านั้นเพื่อไม่ให้ก่ออันตรายแก่มนุษย์

ในปัจจุบันจำนวนปีศาจไม่ได้ลดลงไปเมื่อถูกกำจัด ใน ทางตรงกันข้าม พวกมันกลับมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ไม่นับ รวมปีศาจสายเลือดต้นกำเนิดที่ไม่ค่อยออกมายุ่งเกี่ยว กับมนุษย์ ปีศาจที่เกิดใหม่ในโลกนี้ซึ่งเกิดจากความคิด ด้านมืดของมนุษย์ธรรมดา พวกมันไม่ค่อยมีสติปัญญา เท่าไรนัก มีแต่สัญชาตญาณ ไม่มีการยับยั้งชั่งใจ นั่นจึง เป็นหน้าที่ของไกราในการปราบปราม หากปีศาจไม่ได้ก่อ เรื่องพวกเขาก็ไม่คิดจะเอาชีวิตแต่อย่างใด

จิ้งจอกอสูรฟังแค่ที่เล่าเรื่องประเพณีก็พยักหน้ารับ ราย ะเอียด อื่น ๆ เขาสามารถอ่านได้เองจากใบงาน เมื่อ อ่านจนจบแล้วเคไนน์ก็ส่งมันคืนให้กับเทพิน

“ข้าเข้าใจแล้ว ดีเหมือนกันนะ ข้าอยากไปเที่ยวงาน เทศกาลบ้าง”

“เราไปทำงานนะ ไม่ได้ไปเล่น” เทพินมองตาดุ

“ไปเล่นก่อนทำงานก็ไม่ได้หรือไง”

“เอาไว้หลังทำงานเสร็จเถอะครับ

“เมื่อถึงตอนนั้นงานก็เลิกแล้วพอดีน่ะสิไอ้บ้า !”
“ตกลงจะไปทํางานหรือจะไปเล่นหีม” เด็กหนุ่มชักจะเริ่ม อารมณ์ขุ่นแล้ว ถึงเขาจะอยากให้จิ้งจอกอสูรไปเปิดหู เปิดตา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปเที่ยวเล่นได้ตามใจ นะ

“ไปทํางานก็ได้” เคไนน์ว่าเสียงอ่อยก้มหน้าหลบสายตา ดุ ๆ นั่น

“ดีนะยังรู้ตัว… แล้วเรื่องพลังของนายไม่เป็นอะไรแน่นะ งานเก็บนี้ใหญ่หน่อยเพราะปีศาจน่าจะเยอะพอสมควรที เดียว”

ตั้งแต่ตื่นมาก็ยังไม่ได้ถามถึงอาการของจิ้งจอกอสูรสาว เลยสักครั้ง แม้ดูภายนอกจะไม่รู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลง อะไร แต่เขาต้องถามให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาด

เคไนน์ก้มมองตัวเองเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพูด กับเทพินด้วยใบหน้ายิ้มแย้มกวนอารมณ์ “พลังเหลือเฟือ ดีน่ะ… ดีเหมือนหน้าตาข้าเลย”

“ทำหน้าบู๊ทู่อีกแล้วนะเทน”

“ถ้าหน้าตาระรื่นรับคำพูดหลงตัวเองอย่างกวนประสาทนั่นได้ผมคงดูบ้าบอพิลึก” เทพินได้ทีประชดใส่ ก่อนจะจัดการกับอาหารต่อไปอย่างหงุดหงิด “ปล่อยให้ นายบ้าไปคนเดียวเถอะเจ้าจิ้งจอกหัวหงอกเอ๊ย”

“บ้าที่ไหนกัน มีคนบอกไว้ว่าแค่หน้าตา ทําอะไรก็ไม่ ผิด ! เพราะงั้นข้าหลงตัวเองเพราะข้าหน้าตาดีก็ไม่ผิด เหมือนกัน” เคไนน์หัวเราะร่าทันทีที่พูดจบ

“มันใช่เรอะ !”

ใครบอกตรรกะป่วย ๆ ให้กับจิ้งจอกอสูรตัวนี้กัน อย่าให้ เจอตัวนะ

“พูดความจริงแค่นี้รับไม่ได้เหรอ?” จิ้งจอกอสูรยกมือขึ้น ป้องปากหัวเราะด้วยท่าทางชั่วร้าย ใบหน้าเชิดขึ้นตามอง ต่ำ กระเพื่อมหน้าอกอันใหญ่โตนั่นใส่เขาอีกต่างหาก มาด นางร้ายในละครหลังข่าวชัด ๆ

“พูดมากเกินไปจนผมปวดตับต่างหากล่ะ เอ้า ๆ รีบกิน เถอะ กินเสร็จแล้วจะได้กลับบ้านไปเก็บของสักที ผม เหนื่อยกายเพลียใจจะแย่แล้วเนี่ย” เด็กหนุ่มพูดปัด รำคาญก่อนจะช่วยยัดเอาอาหารคีบใส่ปากของเคไนน์ที่ กำลังจะอ้าปากพูดต่อ แล้วส่งสายตาข่มขู่ไปว่าถ้าไม่กิน ให้หมดล่ะก็… จะให้ไปนอนหน้าบ้านจริง ๆ ด้วย !

เคไนน์เลยต้องจําใจกินอาหารให้หมดทั้ง ๆ ที่ได้โอกาสเอาดินแล้วทั้งที แต่ไม่เป็นไร ป้ามีโอกาสหน้าอีก อย่างไรเสียเขาคงได้อยู่กับเด็กหนุ่มคนนี้ไปอีกพักใหญ่ เขียวแหละ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ