Fate Agent เจตอารักษ์

บทที่ 11 งาน (ตอนต้น)



บทที่ 11 งาน (ตอนต้น)

“ขอโทษทีครับคิน วันเกิดผมพรุ่งนี้คงไม่ได้จัดจริง ๆ” เทพินกรอกเสียงใส่โทรศัพท์อย่างสำนึกผิด แม้ใบหน้าจะ ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ร่วมออกมาเท่าไรก็ตามที

[แย่จ้งแฮะ พวกเราอุตส่าห์เตรียมของขวัญรอ

ปลายสายกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าและผิดหวังอย่าง ชัดเจน เด็กหนุ่มตาสีม่วงอ่อนกลอกตาไปมาก่อนจะเลื่อน ไปมองปฏิทินตั้งโต๊ะ

“เอาไว้ผมกลับมาจากการไปเยี่ยมญาติก็แล้วกันนะครับ ถึงตอนนั้นแล้วค่อยไปฉลองกันก็ได้ แค่วันเกิดเอง”

เทพินไม่ค่อยสนใจเท่าไรกับอะไรที่ถูกเรียกว่าวันเกิด

จริง ๆ ถ้าอยู่คนเดียวเขาก็ไม่อยากจะฉลองด้วยซ้ำไป

[แล้วนายจะกลับมาเมื่อไหร่

“ก็น่าจะก่อนวันประกาศผลสอบล่ะมั้งนะ” เทพินตอบ กลับไปอย่างเฉยชา ดูจากระยะเวลาแล้วงานในครั้งนี้ ก็คงไม่ได้ใช้เวลานานเป็นเดือน อย่างมากน่าจะหนึ่ง อาทิตย์โดยประมาณทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไกราด้วยว่าจะทำงาน เสร็จเร็วแค่ไหน
งั้นเหรอ… ถ้างั้นกลับมาถึงแล้วโทรหากันด้วยล่ะ ! แล้วก็ อย่าลืมโทรไปบอกฟรีนด้วยนะ ยัยนั่นตั้งตารอจัดงานวัน เกิดให้นายมากกก มุลินพูดพลางหัวเราะ

“นายก็ไปฉลองกับฟรีนแทนผมก็แล้วกันครับ”

(จะให้ไปฉลองกันยังไงในเมื่อเจ้าของงานไม่ไปเนี่ย

“ก็ไปฉลองแทนไง ทางผมก็จะไปฉลองกับญาติไม่เสีย เที่ยวดี” เทพินพูดหว่านล้อมไปเรื่อยแล้วก็เปิดโอกาสให้ เพื่อนสาวของเขาบ้าง นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนล่ะก็ป่าน นี้เขาจับทั้งคู่ขังห้องมืดไปนานแล้ว จะได้จัดการให้เป็น แฟนกันไปซะไม่ต้องลำบากคนกลางอย่างเขา

มุคินถือเป็นหนุ่มฮอตหล่อเลิศในโรงเรียนที่เรียนดีกีฬา และฟรีนเองก็เป็นสาวน้อยคนสวยที่เรียนจัดว่าดีและ ร่วมกิจกรรมงานแสดงของโรงเรียนบ่อย ๆ ทั้งสองคนเป็น คนดังนะ แฟนคลับก็มีเยอะแยะ แถมเวลาไปไหนมาไหน ก็ชอบไปด้วยกันตลอด… อ้อ นับเขาด้วยก็ได้ แต่ถึงจะไป ด้วยกันสามคนยังไงคนที่เด่น ๆ ก็มีแค่สองเท่านั้นแหละ นะ เพราะฉะนั้นทั้งคู่เลยถูกมองว่าเหมาะสมกันมาก และ ฟรีนเองก็ชอบมุลินอยู่แล้วด้วย เหล่าแฟนคลับก็มีหลาย คนที่สนับสนุนให้เจ้าคู่นี้มันตกลงเป็นแฟนกันสักที

แต่ที่แย่กว่านั้นคือบางคนคิดว่าเป็นเพราะเทพื้นคอยเป็นก้างของทั้งสองคนความสัมพันธ์เลยไปไม่ถึงไหนสัก ที ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็ช่วยส่งเสริมนะ !

แล้วเขาก็กลายเป็นตัวร้ายที่ใครหลาย ๆ คนอยากตบ ตี… รู้สึกคิดผิดที่เป็นเพื่อนกับคนหน้าตาดีก็งานนี้แหละ

[แต่ว่า…]

“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นแหละครับ นายไปฉลองกับฟรีนแล้ว กัน จากนั้นก็ถ่ายรูปมาให้ดูด้วยเข้าใจไหม อ้อ ! ที่ซื้อเค้ก เตรียมไว้ก็ถ่ายส่งมาด้วยนะ อยากเห็นสุด ๆ” เทพินพูด อย่างร่าเริงแต่เพราะเสียงดังมากไปหน่อยจิ้งจอกอสูรใน ร่างชายหนุ่มสุดหล่อที่อยู่ใกล้ ๆ เลยหันมามองตาขวางใส่ ซะงั้น

“อย่ามาเสียงดังตอนกำลังดูละครได้ไหมเทน !”

โธ่ ! เจ้าอสูรติดละครเอ๊ย !!

[เอ่อ… เมื่อกี้เสียงอะไรน่ะ ?]

ดูเหมือนเสียงของเคไนน์จะดังเข้าโทรศัพท์ด้วย เทพิน ถอนหายใจเฮือกแล้วพูดแก้ตัว

“ญาติน่ะ ไม่มีอะไรหรอก สรุปว่าเอาตามที่ผมบอกแล้วกันครับ”

(อืม ก็ได้อยู่หรอก…

“โอเค เมื่อนายรับปากแล้วผมก็สบายใจ ถ้างั้นแค่นี้ก่อน นะ”

|อืม ๆ เที่ยวให้สนุกล่ะเทน]

“ครับ ๆ” พูดแค่นั้นแล้วเทพินก็กดวางสายไปเลย เด็ก หนุ่มก้มหน้าลงต่ำแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา ราวกับการคุยโทรศัพท์เมื่อครู่กินพลังงานไปมากมาย มหาศาลเหลือเกิน เขาเดินโซซัดโซเซไปนั่งแหมะลงข้าง ๆ จิ้งจอกอสูรในร่างมนุษย์เพศชายแล้วเอนหัวพิงไหล่ ของเขาอย่างหมดแรง ดวงตาหลับพริ้มราวกับจะหลับไป ทั้งอย่างนั้น

“เป็นอะไรของเจ้าน่ะ ทําอย่างกับเพิ่งผ่านสงครามมา อย่างนั้นแหละ” เคไนน์ถามก่อนจะผลักหัวทุย ๆ ของเด็ก หนุ่มออกไปห่าง ๆ อย่างรู้สึกเกะกะ อย่ามาขัดคนกำลังดู ละครมัน ๆ จะได้ไหมเนี่ย

“เหนื่อยกับสงครามกองอวยน่ะ” เทพินพูดก่อนจะเอียง หัวไปซบขอบโซฟาแทน แต่คนฟังนี่สิไม่เข้าใจที่พูดมา เลยสักนิดเดียว “ช่างเถอะ นายคงไม่เข้าใจหรอก”
ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่โรงแรมระดับสี่ดาวที่อยู่เขตใกล้ เคียงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่จริงก็เดินทางมาถึงเมื่อไม่นาน มานี้แหละ หลังจากที่เคไนน์ได้เอกสารลงทะเบียนและ บัตรยืนยันตัวตนของจิ้งจอกอสูรมาไว้ในมือเขาก็เดินทาง กันทันที โดยที่ไม่ได้วางแผนอะไรกันสักอย่างนอกจาก เรื่องที่พัก เพราะงานของเขาจะเริ่มวางแผนได้ต่อเมื่อเห็น สภาพงานแล้วเท่านั้น

ภายในห้องโรงแรมที่พวกเขาพักนั้นเป็นห้องโทนสีขาว และน้ำตาลที่ประกอบไปด้วยวอลเปเปอร์ลายไม้ ผ้าม่าน สีครีมลายลูกไม้ยาวปิดหน้าต่างและประตูกระจกห้องติด ริมระเบียงเอาไว้ แสงไฟในห้องเป็นสีส้มอ่อน ๆ สลัว ๆ ดู โรแมนติกนิด ๆ เตียงนอนเป็นเตียงขนาดใหญ่ มีหมอน สองใบและผ้าห่มหนึ่งผืนที่ดูหนานุ่ม การตกแต่งนี้จัดว่า เรียบแต่ก็ดูหรูอยู่ในที เป็นห้องพักที่สมกับราคาที่แพง หลายพันอยู่ล่ะนะ

เสียดายตอนที่เทพินมาติดต่อห้องพักเหลือแต่ห้องนี้กับ ห้องใหญ่แล้วเพราะช่วงนี้ใกล้เทศกาลเลยไม่ค่อยมีห้อง ว่าง เขาเลยเรื่องห้องสวีตรูมแทน โดยไม่สนว่าห้องที่เขา เลือกนั้นจะทําให้ได้รับสายตาร้อนแรงจากบรรดาสาว น้อยใหญ่ทั้งหลายที่หน้าล็อบบี้ทั้งหลายมากขนาดไหน เมื่อได้รู้ว่าเขามาพักห้องเดียวกับพ่อจิ้งจอกหน้าตาดีเลิศ และเสน่ห์แรงคนนี้

ไม่รู้ว่าจินตนาการไปถึงไหน แต่เขาขนลุกกับสายตาพวกเขามาก
“แล้วทําไมห้องที่ได้ถึงไม่เป็นเตียงคู่ล่ะเนี่ย ไหนตอน แรกเขาบอกว่าจะเอาห้องเตียงคู่ให้ไง จัดมาไม่ตรงตามที่ บอกเลยนะ” เคไนน์หันมาถามหลังจากละครที่เขากำลัง ติดพักโฆษณา

“ไม่รู้สึ” เทพินตอบ เขาก็ไม่ได้อยากได้ห้องแบบนี้ เหมือนกันล่ะน่า

“ตอบอะไรที่มันไม่กวนประสาทบ้างจะได้ไหม”

“ก็ตอบตามจริง ผมกวนประสาทตรงไหน… เฮ้อ~ ง่วง นอนจังครับ” เด็กหนุ่มพูดขณะเดินไปล้มตัวลงนอนที่ เตียง เคไนน์ลุกตามจับแขนเอาไว้ซะก่อน ก่อนจะล้มตัว ลง

“ก่อนจะไปนอนก็อาบน้ำก่อนเลย เดินทางมาก็นานถ้า นอนทั้ง ๆ อย่างนี้ข้าถีบตกเตียงแน่” เขาหรี่ตามองแล้วทำ หน้าดุใส่ นี่พูดจริงนะไม่ได้ขู่ เขาเป็นอสูรรักสะอาดจะไม่ นอนกับคนไม่อาบน้ำแน่ ๆ ล่ะ ไม่มีละเว้นว่าเป็นชายหรือ หญิงด้วย

“ไม่อาบไม่ได้เหรอ ง่วงแล้วนะครับ” เทพินมองตาปรือ เขาขับรถมานี่ก็กินเวลาตั้งหลายชั่วโมงนะ เหนื่อยและ เมื่อยจนแทบไม่มีแรงจะขยับตัวทำอะไรนอกจากเดินไป นอนที่เตียงแล้ว
“ไม่ได้ ! ไปอาบนํ้าซะดี ๆ”

“ก็ได้ ๆ ขี้เกียจฟังนายบ่น” เทพินแยกเขี้ยวใส่จิ้งจอก บ่นก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป โดยมีเคไนน์ยิ้มอย่างเหนือ กว่ามาให้ คุมเด็กไปอาบน้ำเขาทำได้อยู่แล้ว

ไม่นานนักเด็กหนุ่มที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินออกมาจาก ห้องน้ำพร้อมกับกลิ่นหอมฟุ้งจากสบู่ของโรงแรม ใบหน้า ของเด็กหนุ่มยังคงเต็มไปด้วยความง่วงงุนแม้จะผ่านน้ำ อุ่น ๆ จากเครื่องทำน้ำอุ่นมาแล้วก็ตามที บอกไว้ลงตรงนี้ ว่าน้ำมันไม่ได้ช่วยอะไรให้คนง่วงนอนรู้สึกตาสว่างได้เลย สักนิด จริง ๆ

“อาบแล้วนะ เคไนน์ก็ไปอาบด้วย ถ้าไม่อาบล่ะก็จะดึง ขนหางให้กระจุยเลย !” เทพินสั่งแล้วซุกใบหน้าลงกับ หมอน นอนแบบไม่ห่มผ้าเลยด้วย

“รู้แล้วน่า เจ้าน่ะนอนไปเลย” เคไนน์ส่ายหน้าไปมา อย่างขบขัน

เทพินมองจิ้งจอกอสูรตาปรือ ๆ เล็กน้อยแล้วพยักหน้า รับหลับตาลงทันที เสียงกรนเบา ๆ อย่างคนหลับสนิทแล้ว ทำให้เคไนน์ที่มองดูอยู่ต้องส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนอก อ่อนใจ เขาเดินเข้าไปอาบน้ำบ้าง และอาบค่อนข้างนาน เพราะน้ำของโรงแรมอุ่นกำลังดี เขาค่อนข้างชอบน้ำอุ่น หากมีสาเกด้วยอาจจะดีกว่านี้
เมื่ออาบนํ้าเสร็จแล้วออกมาจากห้องน้ำ สิ่งแรกที่จิ้งจอก อสูรรู้สึกได้คือกลิ่นหอมหวานชวนเคลิบเคลิ้มฟุ้งกระจาย อยู่ทั่วห้องได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งไม่ต้องหางทิศทางก็รู้ได้ เลยว่ามันต้องออกมาจากร่างของเด็กหนุ่มแน่ ๆ

“เจ้าเด็ก … ใกล้วันเกิดทีไรเป็นปล่อยกลิ่นออกมาทุกที เคไนน์ยกมือขึ้นปิดจมูกที่รับกลิ่นได้ดีเกินไปของตัว เอง กลิ่นหอมชวนเคลิ้มนี้หากสูดดมเข้าไปมากจะทำให้ สิ่งมีชีวิตในทุกสายพันธุ์ลุ่มหลงอยากจะเข้าไปซุกไซ้ คลอเคลีย เป็นอันตรายอย่างมาก

ไม่ใช่อันตรายแต่คนปล่อยกลิ่นหอม แต่เป็นอันตราย ต่อสิ่งมีชีวิตที่เข้าไปซุกไซ้ต่างหาก ถ้าเทพินตื่นขึ้นมา เห็นใครมาคลอเคลียมีหวังถูกอัดเละเทะแน่ ๆ เหตุการณ์ อย่างนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปีก่อน ๆ เคไนน์จึงจำได้ ฝังใจ

เคไนน์เบนสายตาจากเด็กหนุ่มบนเตียงไปอีกที่หนึ่ง ชายหนุ่มในชุดเสื้อคลุมยาวก็ผงะกับเงาดำจำนวน มหาศาลที่ประตูและหน้าต่างกระจกติดระเบียง พวกมัน คือสิ่งมีชีวิตหลายเผ่าพันธุ์ที่ได้รับกลิ่นหอมจากภายใน ห้องนี้พยายามตะกุยกระจกหวังเข้ามาภายในห้องให้ได้ แต่ก็ติดเขตเวทของเด็กหนุ่มทำให้ทะลุผ่านเข้ามาไม่ได้

ถึงเทพินจะหลับแต่ก็ยังรู้จักระวังตัวในวันเกิด… ยังคงขึ้ ระแวงได้อย่างเสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ
เคไนน์ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะห่มผ้าให้กับเทพิน แล้ว เดนไปที่ประตูกระจกที่ยังมีพวกสิ่งมีชีวิตหลายเผ่าพันธุ์ เกาะอยู่ไม่ไปไหน ม่านสีครีมลายลูกไม้ถูกเปิดออกกว้าง ดวงตาสีทองเรียวเล็กหรี่มองเจ้าอสูรเหล่านั้นด้วยสายตา อำมหิตและทรงอำนาจอย่างผู้ที่อยู่เหนือกว่า

“กลับไปเสีย เด็กคนนี้ไม่ใช่ผู้ที่เจ้าจะเข้าใกล้ได้โดย ง่าย หากยังอยากอยู่อีกพวกเจ้าคงต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ !” น้ำเสียงเย็นยะเยือกที่ผ่านริมฝีปากออกมานั้นทำเอาสิ่ง มีชีวิตหลายเผ่าพันธุ์นับสิบ ๆ ตัวเผ่นกันกระจาย และคง ไม่มีตัวไหนที่คิดจะเข้ามาใกล้ที่แห่งนี้อีกในเร็ว ๆ นี้

เคไนน์มองพวกมันหนีอย่างพอใจก่อนจะปิดม่านลงแล้ว เดินไปนอนที่เตียง ร่างสูงมุดลงไปใต้ผ้าห่มอุ่น ๆ เพื่อหนี ลมแอร์ที่เย็นกว่าปกตินั่น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ