Fate Agent เจตอารักษ์

บทที่ 16 ผิดมนุษย์ (ตอนปลาย)



บทที่ 16 ผิดมนุษย์ (ตอนปลาย)

“แล้วนั่นจะยืนเหวออีกนานไหม มาช่วยกันเร็ว ๆ สิ” เทพินถลึงตาใส่จิ้งจอกอสูรอย่างขุ่นเคือง ตอนจมก็ไม่ ช่วยขึ้นมาแล้วก็ยังยืนเฉยอีก พึ่งพาได้บ้างไหมสัตว์เลี้ยง เนีย

“ยังไม่ตายจริง ๆ ด้วย” ไกราหนุ่มหล่อพิมพ์อย่าง ประหลาดใจ

“ไม่ตายหรอก ก็บอกแล้วไงว่าเจ้านั่นมันผิดมนุษย์” เค ไนน์หัวเราะในลำคออย่างภาคภูมิใจ “แต่ดีแล้วที่ไม่เป็น อะไร ข้าจะไปช่วยแล้วนะเทน”

“อย่ามัวแต่พูดมากน่า เหวอ !!” เด็กหนุ่มถูกหนวดโยก หลบไปแอบด้านหลังโดยมีหัวอัน ใหญ่โตของปีศาจ ปลาหมึกบังเอาไว้อย่างมิดชิด ดวงตาสีแดงก่ำมองจิ้งจอก อสูรอย่างดุร้าย ไร้เสียงคำรามหนวดของมันพุ่งใส่อย่าง รวดเร็ว

“หนือย ! ปล่อยเทนเดี๋ยวนะเจ้าหมึก เดี๋ยวก็ย่างกินซะ หรอก” ลูกไฟสีเงินปรากฏขึ้นอีกครั้ง มันพุ่งเข้าโจมตี หนวดเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว แต่เพลิงสีเงินไม่อาจเผา ทำลายหนวดเหล่านั้นได้ ทำได้ก็เพียงแค่รอยไหม้เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น “หนังหนาจริงเลยเจ้าหมึกนี่ !”

“ช่วย !” ไกราหน้าหล่อตะโกนออกมาก่อนจะขยับปากร่ายเวท ภูตตัวน้อยขนาดเพียงหนึ่งคืบปรากฏตัวขึ้น เพื่อแสดงพลัง พลังของไกราผู้ได้รับพรเทพแห่งจันทรา คือห้วงมิติ ในมิติที่เขาเป็นคนสร้างเองจะสามารถบรรจุ สิ่งของที่ต้องการได้อย่างไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับพลังของไก ราคนนั้นด้วย เขาหยิบเอาดาบสองคมออกมา ความยาว ของมันมีมากถึงสี่ฟุต วัตถุชิ้นนี้มีพลังเวทเคลือบอยู่ด้วย เป็นพลังของไกราสายสร้างสรรค์ เด็กหนุ่มไกราเหลือบ ตาขึ้นมองแวบหนึ่งก็วิ่งไปบนผิวน้ำพุ่งเข้าไปหาหนวดที่ อยู่ใกล้ที่สุด เขาตวัดดาบเพียงครั้งเดียวหนวดนั้นก็ขาด กระเด็น

ตูม!

แถมยังกวาดปีศาจใกล้ ๆ ที่อยู่ในรัศมีดาบนั่นไปด้วย เค ไนน์เบิกตากว้างมองไกราหน้าหล่อนั่นอย่างตกตะลึง

“ก็เก่งนี่นา…” แบบนี้ไม่น่าเข้ามาช่วยตั้งแต่แรกเลย จิ้งจอกอสูรบ่นต่อในใจ ไกราที่ได้รับพรจากเทพแห่ง จันทราและรับพลังเปื้อนมลทินของเทพไว้ได้ก็คงไม่ กระจอกนัก เขาน่าจะเชื่อเทพินสักนิดไม่เข้ามายุ่งวุ่นวาย จนเกิดเรื่อง

ไกราหนุ่มตาสีดำตวัดดาบฟาดฟันไม่หยุดพัก ทั้งจัดการ ปีศาจและปัดป้องหนวดที่พุ่งเข้าใส่ด้วย ถึงจะดูเหมือน เขาตัดหนวดนั่นได้ง่าย ๆ แต่นั่นก็กินพลังเขาไปมากโข ด้วยพลังที่เหลืออยู่ของเขาในตอนนี้การจะฟันแรง ๆ แบบ นั้นคงทำได้อีกเพียงสองครั้งเท่านั้นเอง
ทางจิ้งจอกอสูรเองก็ต้องรับมือกับปีศาจและปกป้องไก ราที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ด้านหลังไปด้วย ถ้าให้สู้แบบ ไม่สนใจใครปีศาจทั้งหลายคงถูกกำจัดไปจากอาณาเขต แล้ว เพลิงสีเงินพุ่งเข้าไปสนับสนุนการโจมตีของไกรา หนุ่มด้วย ยังไงคนที่จะสู้ในระยะประชิดแล้วพอช่วยเหลือ เทพินออกมาได้ก็น่าจะเป็นไกราคนนั้น หรือไม่ก็ให้เทพิน ลงมาด้วยตัวเอง

แต่จะลงมาได้หรือ ต่อให้เป็นเทพินถ้าถูกจับไว้อย่างนั้น โดยไม่มีอาวุธอยู่ในมือ ก็ใช่ว่าจะจัดการหนวดปลาหมึก เหนียว ๆ นั่นได้นะ

“อุ๊ ! หยุดส่ายไปส่ายมาได้ไหม ผมเวียนหัวนะ” คนที่ถูก จับอยู่ตะโกนออกมาเสียงดัง นอกจากถูกโยกหลบสายตา ของอสูรจิ้งจอกและไกราแล้ว หนวดปลาหมึกก็ไม่นิ่งเลย สักนิด ทําให้เขาพะอืดพะอมจนจะอ้วกแล้ว

แล้วหนวดปลาหมึกก็หยุดนิ่งเหมือนถูกหยุดเวลาฉับ พลัน แม้แต่หนวดอื่น ๆ ก็หยุดนิ่งไปด้วย ปีศาจตัวเล็ก หลายตัวก็เหมือนจะหันไปมองปีศาจปลาหมึกด้วยสายตา ดุร้ายแทนด้วย

ดูแล้วอะไร ๆ ก็แปลกเกินไป ไกราหนุ่มขมวดคิ้วไม่ เข้าใจ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอปรากฏการณ์แปลก ๆ แบบ นี้มาก่อน
แต่จังหวะนี้เป็นโอกาสดีทั้งไกราและจิ้งจอกอสูรใช้เวลา ที่ปีศาจต่างชะงัก โจมตีออกไปด้วยพลังรุนแรง ทั้งเพลิง สีเงินขนาดใหญ่และดาบเคลือบพลังมิติของไกรา อัด เข้าไปเพียงครั้งเดียวรัศมีรอบตัวปีศาจปลาหมึกกว่าร้อย เมตรถูกลบหายไปเป็นวงกว้าง แม้แต่ระดับน้ำก็ลดลง ไปอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะไหลกลับมาถมร่องรอยอย่าง รวดเร็ว

“จะโจมตีแรง ๆ ก็บอกกันก่อนสิครับ จะได้เตรียมใจ” เทพินที่หลุดออกมาจากหนวดปลาหมึกที่ขาดออกจากตัว ปีศาจกล่าวเสียงขุ่น ร่างเล็ก ๆ นั่นลอยลงมายืนบนผิวน้ำ อย่างนุ่มนวล ละลอกคลื่นบนผิวน้ำที่รุนแรงจากการโจมตี ไม่ทําให้เขาเสียการทรงตัว ดวงตาสีม่วงอ่อนจ้องจิ้งจอก อสูรและไกราหน้าหล่อสลับกันไปมา

“ถ้าบอกก่อนพวกปีศาจก็ไหวตัวทันสิ” เคไนน์เถียง อย่างลอยหน้าลอยตา เทพินกัดฟันกรอดเตะน้ำขุ่น ๆ ใส่ จิ้งจอกอสูรอย่างหมั่นไส้ทันที

“ปลอดภัยก็ดีแล้ว” ไกราหน้าหล่อเอ่ยเสริมก่อนจะมี สงครามสาดน้ำระหว่างมนุษย์ไม่ธรรมดากับจิ้งจอกอสูร เกิดขึ้น เทพินหันไปมองอีกฝ่ายแล้วยิ้มให้อย่างขอบคุณ

“อื้ม ขอบใจคุณมากที่ช่วยผมไว้

“ไม่เป็นไร หายกัน”
“ครับ ถือว่าหายกัน…

“เดี่ยว ๆ คุยอะไรให้ข้าเข้าใจด้วย หายกันอะไรอธิบาย หน่อย” เคไนน์รีบเอ่ยก่อนที่ทั้งคู่จะปิดประเด็นไป พูดกัน สั้น ๆ แต่รู้เรื่องกันได้อย่างไร โทรจิตกันอยู่ใช่ไหม

“ที่ว่าหายกันคือต่างคนต่างช่วยกัน ไม่จําเป็นต้องขอบ คุณน่ะ” เทพินอธิบายโดยมีไกราหนุ่มพยักหน้ารับเป็น ลูกคู่ จิ้งจอกอสูรขมวดคิ้วนึกก่อนจะพยักหน้าเข้าใจได้ใน ที่สุด แต่ก็ยังมีเรื่องที่เขาสงสัยอยู่ดี

“แล้วพวกเจ้ารู้ความคิดกันและกันได้ยังไงน่ะ

“นั่นสิ” ไกราหนุ่มหันกลับมามองเทพินอย่างสำรวจ เด็ก หนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันคนนี้มีอะไรที่ชวนให้พิศวงอยู่ เรื่อย นี่ขนาดเจอกันไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงดีเลยนะ ถ้ารู้จักกัน มากกว่านี้ไม่มองตาก็รู้ใจแล้วหรอกหรือ

“ไม่เห็นจะเข้าใจยากเลยนี่” เทพินไหวไหล ไม่คิดจะ อธิบายเพิ่ม

.….….….. เมื่อเจ้าตัวไม่อธิบาย พวกเขาก็ไม่ซักไซ้ ในเวลานี้ สถานการณ์ยังไม่ปลอดภัยเท่าไร ถึงจะจัดการปีศาจตัว ใหญ่ไปได้แล้ว ตัวเล็ก ๆ ก็ยังเหลืออยู่ หากพวกเขาไม่ กำจัดให้หมดอาณาเขตก็จะปิดตัวลงไม่ได้ และนี่เป็นงาน ของไกราที่เหลืออยู่ต้องทำให้สำเร็จก่อนรุ่งสาง
“ไปจัดการปีศาจให้เรียบร้อยเถอะ จะได้ปิดงานทั้งของ นายและของผมเลย” เทพินพูดกับไกราหนุ่ม อีกฝ่ายย่น คิ้วแล้วมองเป็นเชิงถาม

“งาน ?”

“ผมเป็นนักเก็บกวาดน่ะ ที่จริงก็ควรอยู่ที่จุดที่ตกลงกัน แต่เพราะสัตว์เลี้ยงนิสัยดีเลิศประเสริฐศรีของผมอยาก ช่วยพวกนายเลยลงมาอยู่นี่ไงครับ”

“เฮอะ ! ขอโทษด้วยที่ข้ามันนิสัยดีเกินไป” จิ้งจอกอสูร มองค้อนคนที่แขวะเขาอย่างหน้าตาเฉย “แล้วก็เลิกเรียก เป็นสัตว์เลี้ยงสักที เดี๋ยวก็กัดหูขาดเลยนี่”

“ชอบกัดนักนะ สมกับเป็นหมาจริง ๆ”

“ข้าเป็นอสูรเฟ้ย !!

“ยังไงก็เถอะ รีบจัดการได้แล้ว พวกไกราตรงนั้นก็น่า จะพักพอแล้วด้วย ภายในหนึ่งชั่วโมงคงกวาดให้เสร็จ เรียบร้อยได้ไม่ยาก” เทพินเปลี่ยนเรื่องคุย หันไปมอง รอบด้าน ปีศาจทั้งหลายไม่ได้เร่งรีบเข้าจู่โจม ดูท่าจะยัง ระแวงพลังโจมตีเมื่อครู่อยู่

“อืม” ไกราหนุ่มพยักหน้า
“งั้นผมไปก่อนล่ะ ไปกันเถอะเคไนน์

“เดี่ยวเฮ้ย เราออกไปไม่ได้นะเทน !”

“ทำไมจะ… เออ จริงด้วยสินะ ตอนนี้เราอยู่ในเขตแดน ทับซ้อน นี่นา” เด็กหนุ่มตาสีม่วงยกมือขึ้นกุมขมับอย่าง ลืมตัว อาณาเขตนี้คนในห้ามออกคนนอกเข้าได้ซะด้วย “งั้นก็คงต้องเก็บปีศาจทั้งหมดก่อนสินะ”

แค่เด็กหนุ่มดวงตาสีม่วงอ่อนกวาดมองอย่างเย็นชา ปีศาจทั้งหลายก็เหมือนจะเป็นลมล้มพับลงไปทั้งที่เขายัง ไม่ได้ปล่อยพลังหรือจิตสังหารออกไปเลยสักนิด แถมยัง ส่งสายตาคล้ายจะร้องไห้มาให้เทพินต้องขมวดคิ้วมาก ขึ้นไปอีกกับพฤติกรรมแปลก ๆ ของปีศาจพวกนี้

กลัวอะไรกัน เขาไม่ใช่ไกราซะหน่อยนะ

“ปีศาจจํานวนไม่มากแล้ว และไม่มีมาเพิ่มด้วย แค่นี้คง พอไหวถ้าพวกเราช่วยกัน” เคไนน์ถูกแขนเสื้อขึ้น เขา พร้อมที่จะลุยแล้ว

“อืม” ไกราหนุ่มหล่อพยักหน้ารับ พลางหันไปกวักมือ เรียกไกราในกลุ่มเขาให้มารวมตัวกันด้วย การโจมตี ระลอกสุดท้ายนี่พวกเขาจะต้องกวาดปีศาจให้หมดให้ได้
ปีศาจส่งเสียงคำรามข่มขวัญออกมาทันทีเมื่อเห็นว่า จิ้งจอกอสูรและไกราพร้อมจะสู้กับพวกมันอีกครั้ง โดย เมินเทพินที่ยืนกะพริบตาปริบ ๆ ไปเลย ทั้งสองฝ่ายเข้า โจมตีกันอย่างรวดเร็วโดยไม่มีสัญญาณใด ๆ ทั้งสิ้น การ ต่อสู้ดุเดือดเหนือผิวน้ำที่น้ำสาดกระจายไปหมดทำให้ มองอะไรไม่ค่อยเห็นนัก

เทพินหันซ้ายหันขวาหาที่หลบ ในเวลานี้ตัวเขาเปียก มาก แถมกลางคืนช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงก็หนาว มีแววจะ เป็นหวัดเขาควรทำตัวให้แห้งโดยเร็วและทำตัวให้อบอุ่น เข้าไว้…

“นั่นเจ้ากำลังอู้หรือเทน !” เคไนน์ที่หันมาเห็นคนเดินหนี ร้องทักเสียงเข้ม สายตาของทั้งปีศาจและไกราหันไปมอง ตามทันที

เทพินจิกตามองจิ้งจอกอสูรของเขาอย่างขุ่นเคือง เขาอุตส่าห์เนียนหลบหนี ยังจะทักให้เป็นจุดสนใจอีก หา เรื่องตายให้เขาแล้วไหมล่ะ

ยังดีที่ปีศาจไม่ได้พุ่งเป้ามาที่เขา เป้าหมายของมันยัง คงเป็นไกราทั้งหมด เขาจึงอยู่นอกสายตา ไม่มีการโจมตี ใดพุ่งเข้ามาใกล้เลยสักนิดเดียว เป็นตัวประกอบได้อย่าง สมใจจริง

“แต่ไอ้ความรู้สึกถูกจับตามองนี่มันอะไร” เทพินพึมพำกับตัวเองเสียงเบา เขาลอบจับสังเกตรอบ ๆ อย่างไม่ให้มี พิรุธพร้อมทั้งหลบหลีกน้ำกระเซ็น แต่ลอบสังเกตเท่าไรก็ ไม่พบอะไรเลย ทั้งที่มาของสายตาที่จับจ้องและการต่อสู้ ที่ดูจะไม่จบลงในเร็ว ๆ นี้

ไม่ชอบใจเลยแฮะ…

การตกเป็นเป้าสายตาแบบไม่รู้ตัวคนร้าย ให้ความ รู้สึกไม่ปลอดภัยสุด ๆ เทพินเริ่มหงุดหงิดขึ้นเรื่อย ๆ บรรยากาศรอบตัวที่ดูรื่นเริงสดใสก็เริ่มทะมึนขึ้นเรื่อย ๆ

และโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติของเทพิน เขายกมือขึ้นแตะขมับของตนเอง ริมฝีปากขยับร่ายเวท แผ่วเบาฟังไม่ออก พลังเวทที่ไม่คล้ายของไกราแต่ก็ดู เข้มข้นทรงพลังอย่างมาก กลิ่นอายหอมหวานที่ชวน ให้เคลิบเคลิ้มแผ่ออกมาพร้อมกัน ดวงตาสีม่วงที่เป็น ประกายทรงอำนาจมองเป้าหมายของเวท กว่าใครจะรู้ตัว พลังเวทมหาศาลก่อตัวขึ้นโจมตีออกไปแล้ว

พลังเวทธาตุทั้งแปดพุ่งเข้าไปกลางวงปีศาจหมุนวนธาตุ เพื่อก่อเกิดปฏิกิริยาเวทที่ให้ผลเป็นการเพิ่มพลังโจมตี แบบทวีคูณ เกิดเป็นการระเบิดต่อเนื่องและรัศมีกว้างนับ สิบเมตร ทั้งพื้นดินและน้ำถูกใช้ร่วมกับเวทหายไปเป็น จำนวนมาก และมีเพียงปีศาจเท่านั้นที่ถูกทำลายภายใต้ เวทอันรุนแรงนี้
กว่าผลของเวทจะสิ้นสุดลงก็กินเวลากว่าสิบนาที

ความวินาศสันตะโรที่เกิดจากเวทบทเดียวทำให้ไกรา และจิ้งจอกอสูรที่เหลือรอดจากเหตุการณ์ดังกล่าวอ้า ปากค้างแทบหยุดหายใจ สายตาทุกคู่หันไปมองผู้ก่อเหตุ อย่างพร้อมเพรียงกัน

“อะ… เอ่อ… ผมไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้นะ” เทพินยกมือ ขึ้นเหนือหัวอย่างผู้ร้ายที่ถูกจับได้พลางยิ้มแห้ง ๆ ขัดตา ทัพไปก่อน

เขาไม่ได้ตั้งใจให้มันออกมาแบบนี้จริง ๆ เขาแค่ร่ายเวท โจมตีธรรมดา ๆ เอง ไม่รู้ทำไมมันถึงได้ออกมาวินาศสัน ตะโรขนาดนี้ได้กัน อีกอย่าง… เวทของเขามันเวทไร้ธาตุ แต่นี่โผล่มาพร้อมกันแปดธาตุเลย คงไม่ใช่เขาร่ายแล้ว ล่ะ !


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ