Fate Agent เจตอารักษ์

บทที่ 15 ผิดมนุษย์ (ตอนต้น)



บทที่ 15 ผิดมนุษย์ (ตอนต้น)

ดวงตาสีม่วงอ่อนกวาดมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนจะหยุดอยู่ตรงปีศาจเบื้องหน้า พวกมันชะงักไปเมื่อ เทพินปรากฏตัวขัดขวาง เด็กหนุ่มหมุนร่มในมือไปเรื่อย ๆ ไม่ได้เริ่มจู่โจมใด ๆ ไกราที่อยู่ข้างเขาลุกขึ้นยืน อีกฝ่าย มองปีศาจที่หยุดนิ่งไปแล้วหันมามองคนที่ช่วยไว้

“นาย…”

“เงียบหน่อย จังหวะนี้ไม่ใช่เวลาที่คุณควรถาม” เทพิน หันไปมองแล้วยิ้มแสยะเหี้ยมใส่ ในเวลานี้คนที่ต้องถาม คือเขาไม่ใช่ไกราหน้าหล่อคนนี้

ไกราเด็กหนุ่มที่ดูอายุเท่าเขาแต่ความสูงมากกว่าเกือบ หนึ่งคืบ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายมากกว่ามุคินแต่ก็น้อย กว่าเคไนน์ ทว่ามองดูเย็นชาไปถึงเนื้อใน เข้าถึงได้ยาก ดวงตาสีดำขลับราวกับห้วงรัตติกาล ผมสั้นระต้นคอสีดำ เหลือบม่วง เสื้อคลุมไกราสีขาวติดตราดวงจันทร์ บ่งบอก ต้นตระกูลได้เป็นอย่างดี

ตระกูลไตรวิธู สายตระกูลที่มีผู้ได้รับพรเทพแห่งจันทรา

“งั้นผมขอถามก่อน” เทพินหันกลับไปมองทางปีศาจอีก ครั้ง “ภารกิจคือกำจัดปีศาจทั้งหมดที่มาภายในงานหรือ ว่ามีจำเพาะเจาะจงกว่านั้นไหม”
“เก็บหมด” อีกฝ่ายตอบมาแค่นั้น แต่เทพินเข้าใจ

“ก็ดี นึกว่าเจาะจง” เด็กหนุ่มตาสีม่วงขมวดคิ้วน้อย ๆ กวาดตามองรอบ ๆ อีกครั้งรายละเอียดปรากฏในหัวไม่มี ตกหล่น “ปีศาจกำลังจะมาอีกแล้ว ไหวไหม”

“แล้วนาย ?”

“ผมเหรอ ? คนธรรมดาอย่างผมจะไหวได้ไงครับ อาวุธก็ มีแค่ร่มพับที่ซื้อมาจากร้านค้าเอง”

“งั้นหลบ” ดูท่าอีกฝ่ายจะไม่ได้คิดลึกซึ้งถึงเรื่องคน ธรรมดาที่ไหนเข้ามาในอาณาเขตของไกราได้เลย ใน สายตาของไกราสุดหล่อนี้มีเพียงปีศาจเท่านั้น

“ครับ ๆ หลบครับ” เทพินพยักหน้าแล้วเดินหลบทางให้ เขาพับร่มเก็บแล้วเดินควงเบา ๆ ปัดปีศาจที่เกะกะขวาง าๆ ทางออกไป ปีศาจเหล่านั้นก็เหมือนที่มที่อไปชั่วขณะที่ มองเขา ยอมให้ตีได้ง่าย ๆ เพราะคนอื่น ๆ ไม่มีใครสังเกต เห็นเขาเลยลงมือได้พอหอมปากหอมคอจนกระทั่งมาถึง จุดที่เคไนน์อยู่

แต่จิ้งจอกอสูรเห็นเต็มตา ร่างเตี้ย ๆ นั่นเอาร่มทุบหัว ปีศาจเป็นของเด็กเล่นไปเลย ถึงเขาจะสงสัยที่ปีศาจ เหล่านั้นยืนเหมือนสติหลุดเมื่อเห็นเทพินปรากฏตัวก็ตาม จะว่าไปเขาก็ยังไม่เคยเห็นปีศาจที่ไหนในประเทศนี้เข้ามาโจมตีเทพินเลยสักครั้ง แค่เดินผ่านก็ เหมือนพวกมันถูกแช่แข็งแล้ว นี่ยังปล่อยให้ทุบตีเล่น ตามใจแบบไม่สวนกลับอีก จะแปลกประหลาดเกินไปแล้ว

“อะไรน่ะ มองอย่างกับเห็นของแปลก” เทพินเลิกคิ้วขึ้น มองจิ้งจอกอสูรที่ทําหน้าประหลาด ๆ ใส่

“ก็แปลกจริง ๆ ไม่ใช่เรอะ ชิ !”

“แปลกตรงไหน ผมก็ออกจะเป็นคนธรรมดาที่มีพลังนิด หน่อยเอง”

“ไอ้ที่พูดมานั่นกำลังหลอกตัวเองอยู่ใช่ไหม” เคไนน์ชี้นิ้ว ไปที่ปีศาจที่ยังไม่ขยับเข้ามาโจมตีสักทีตั้งแต่เทพินเข้ามา ยืนตรงนี้ “เจ้านี่มันแปลกทั้งตัว มีอย่างที่ไหนแค่ยืนเฉย ๆ ปีศาจก็นิ่งไม่โจมตีแบบนั้น เป็นคนอื่นมันพุ่งเข้ามาฉีกทิ้ง แล้ว อสูรอย่างข้าก็ไม่เว้นนะเฮ้ย”

“อย่างผมนี่เรียกเว้นเหรอ ?” เด็กหนุ่มหันไปมองตามนิ้ว ที่เคไนน์ชี้ ปีศาจก็พุ่งเข้าใส่พวกเขา ลำบากจิ้งจอกอสูรผู้ เป็นเป้าให้ปีศาจขย้ำต้องลงแรงอีกครั้ง

จิ้งจอกอสูรสีเงินสะบัดมือออกไป ลูกไฟสีเงินจำนวน หนึ่งก็ปรากฏขึ้นรอบตัวของเขา เคไนน์ขยับยิ้มพรายก่อน จะชี้นิ้วไปยังร่างของปีศาจที่พุ่งเข้ามาแล้วออกคำสั่งทันที

“ไป !”

ลูกไฟจำนวนมากพุ่งเข้าใส่ปีศาจทั้งหลาย พริบตาที่ ลูกไฟปะทะเข้ากับร่างของปีศาจ ส่วนที่ถูกไฟสีเงินถูกเผา เป็นขี้เถ้าไปอย่างรวดเร็ว บางตัวที่ไม่ได้โดนเต็ม ๆ ยังคง พุ่งเข้าใส่อย่างไม่ลดละ พวกมันจัดระเบียบการโจมตีได้ อย่างรวดเร็วมาก สลับการโจมตีและหลบหลีกลูกไฟของ เคไนน์ได้เป็นส่วนใหญ่ พวกมันมุ่งเป้าไปที่จิ้งจอกอสูรกับ ไกราเป็นหลัก มีหันมาโจมตีที่เทพินบ้างนั้นก็เป็นแต่พวก พลังสูง ๆ ทั้งนั้น

เทพินมองปีศาจที่พลังสูงสุดในบรรดาปีศาจทั้งหมดที่พุ่ง เข้าจู่โจมเขา ร่มในมือเหวี่ยงใส่ปีศาจอีกครั้ง และครั้งนี้ หนักหน่วงอย่างยิ่ง กวาดทีเดียวทุกตัวที่พุ่งเข้ามาลอยลิ่ว ตกน้ำไปตาม ๆ กัน

เคไนน์กระโดดหลบปีศาจที่พุ่งมาคล้ายจงใจ ปล่อยให้ ลากปีศาจตัวอื่นในรัศมีตกน้ำไปด้วย เขาขยับมายืนข้าง ๆ เทพินก่อนจะเบ้ปากใส่

“เฮอะ ! สุดท้ายก็หลุดธาตุแท้ออกมาจนได้

“ธาตุแท้อะไรเคไนน์” เทพินเลิกคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ “ตอนนี้นายควรสนใจปีศาจก่อนนะ มันเริ่มโจมตีแบบนี้ถ้าไม่ตอบโต้หนัก ๆ คงพาไกราหนีไม่ได้”

“ไม่กําจัดพวกมันหรือ”

“ไม่ล่ะ ไม่ใช่งานของผมนี่ครับ แล้วเป้าหมายของพวก มันก็ไม่ใช่ผม แต่เป็นไกราหล่อ ๆ ที่กำลังจะโดนตะปบนั่น น่ะ”

เทพินชี้ไปที่ไกราตระกูลไตรวิธูซึ่งกำลังต่อสู้กับปีศาจ อย่างยากลำบาก แต่อีกฝ่ายก็ไม่ปริปากขอความช่วย เหลือออกมาสักคำ เห็นแล้วรู้สึกเอือมระอามากกว่าชื่นชม

ฝืนเกินไปก็มีแต่จะตายเปล่าแท้ ๆ

“ถ้าจะช่วยก็ต้องช่วยให้หมดสิเฮ้ย แล้วเจ้ามายืนตรงนี้ ทำไม ไหนว่าจะไปช่วยเขาไงล่ะ”

“ก็เขาบอกให้หลบ

“แล้วเจ้าก็เชื่อเรอะ เชื่อคนง่ายไปแล้ว !!”

“ใครเชื่อคนง่าย แค่ไม่อยากอยู่ให้โดนสอยเท่านั้นเอง” เด็กหนุ่มดีดหน้าผากจิ้งจอกอสูร “จะเอายังไงก็พูดมา ถ้า ให้ผมคิดคือไม่ช่วยใครเลยแล้วออกไปซะ ปลอดภัยสุด”

“เจ้านี่มันแล้งน้ำใจ เห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว !”

“ก็ผมไม่ชอบปัญหานี่นา”

“เจ้านี่มัน !” เคไนน์จนปัญญาจะพูดเปลี่ยนทัศนคติของ เด็กหนุ่มผู้เข้าใจว่าตัวเองธรรมดาคนนี้แล้ว “ในเวลานี้ จัดการปีศาจเพื่อเปิดทางก่อน แล้วก็ไปลากไกราคนนั้น ออกมาด้วย ข้าจะเปิดทางให้ ส่วนเจ้าก็ไปลากไกรามา ตกลงหรือไม่”

“ยังไงก็ได้ครับ”

“งั้นก็เริ่มเลย !”

ไม่ต้องมีสัญญาณหรือเตรียมตัว เคไนน์พุ่งออกไปพร้อม กับสร้างเพลิงสีเงินขึ้นมาอีกจำนวนมาก เพลิงเหล่านั้น ปรากฏในรูปของศรเพลิงแบบเกลียว มันพุ่งเข้าใส่ปีศาจ ด้วยความเร็วสูงยิ่งกว่าลูกไฟธรรมดา เจาะทะลวงและ เผาทำลายอย่างได้ผล เปิดทางให้เทพินเข้าใกล้ไกราได้ เร็วขึ้น

เด็กหนุ่มตาสีม่วงไม่รอช้าเช่นกัน ขยับตัวเพียงไม่กี่ครั้ง ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของไกราสุดหล่อที่ผงะไปเมื่อเจอศร ไฟ เขาคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายไว้แล้วหมุนตัวขว้างไกราไปหาจิ้งจอกอสูรทันที

“เฮ้ย ! / เฮ้ย !” ทั้งคนต้องรับและคนถูกขว้างร้องเสียง หลง เคไนน์ขยับตัวไปรับอีกฝ่ายไปก่อนจะกระแทกพื้น พอจะหันไปโวยวายใส่คนโยน อีกฝ่ายก็โดนลากลงน้ำไป แล้ว

“เท็นนน !!!” จิ้งจอกอสูรร้องเสียงสูง จะตามไปช่วยก็ดู จะไม่ทัน อีกทั้งรอบกายของเขาก็มีปีศาจสกัดไว้และไก ราที่บาดเจ็บ เขาทิ้งไปไม่ได้เหมือนกัน

แต่จะทำไงดี เทน… จมน้ำไปแล้ว !

“ไปช่วย… หมอนั่น” ไกราที่ถูกโยนมาก็ดูจะเป็นห่วงคน จมน้ำด้วย เขาลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและเตรียมตัวจะพุ่ง ลงน้ำ

“ไม่ได้ เจ้าในเวลานี้ลงไปก็มีแต่จะไปตาย

“แต่เขา…”

“เทนจะต้องไม่เป็นไร… ถึงจะน่าเป็นห่วงว่าในน้ำจะทน อยู่ได้นานแค่ไหน แต่ข้าก็เชื่อในความผิดมนุษย์ของเขา อย่างยิ่ง”
“ผิดมนุษย์ ?” ไกราหน้าหล่อขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ไหนตอนแรกอีกฝ่ายบอกเป็นคนธรรมดามิใช่หรือ แล้ว ทำไมตอนนี้ถูกอสูรเรียกว่าผิดมนุษย์เสียแล้วเล่า แต่ถึง ขนาดอสูรเชื่อว่าผิดมนุษย์แบบนั้นต้องผิดแปลกขนาด ไหนกัน

จะว่าอีกฝ่ายเป็นไกราก็ไม่ใช่ เพราะเขาสัมผัสถึงพรเทพ

ไม่ได้เลย

หรือจะเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ ?

“แต่จมไปนานขนาดนี้… ตายหรือยังเนี่ย ?” จิ้งจอกอสูร เองก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเทพินจะรอด แต่ก็ยังไม่คิดจะ ตามลงไป กลัวเจอลูกหลง

ซูม!

มีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือผิวน้ำ สายน้ำสาด กระเซ็นไปทุกทิศทาง ปีศาจที่ขึ้นมาเป็นปลาหมึกยักษ์ที่ สูงกว่าห้าเมตร เคไนน์มองปีศาจปลาหมึกพลางอ้าปาก ค้าง ก่อนจะตะโกนลั่นสุดเสียง

“ปลาหมึกอะไรมาอยู่ในแม่น้ำวะเฮ้ย !!”

เด็กหนุ่มข้าง ๆ มองเขม่นใส่จิ้งจอกอสูรที่ทักเรื่องไม่ เป็นเรื่อง เขาดึงหางจิ้งจอกแล้วชี้ไปที่หนวดข้างหนึ่งของปีศาจปลาหมึก “เขาอยู่นั่น”

เคไนน์มองตามไป “เทน !”

“แค่ก ๆ ระ… เรียกทำไม… มาช่วยกันสิ แค่ก ๆ” เจ้าของ ชื่อเรียกสําลักน้ำไอออกมาไม่หยุด รู้สึกแสบคอและจมูก จากการกลืนน้ำเข้าไปอย่างไม่ทันตั้งตัวจํานวนมาก เด็ก หนุ่มเปียกโชกไปทั้งตัวร่างกายถูกรัดด้วยหนวดถึงไม่ แน่นจนหายใจไม่ออกแต่ก็สลัดให้หลุดไม่ได้

หลังจากถูกลากลงไปในน้ำเทพินไม่ได้ทำอะไรเลยสัก นิดนอกจากพยายามดิ้นให้หลุดแล้วตะกายขึ้นผิวน้ำ เขา ไม่รู้ว่าทำไมปีศาจทั้งหลายถึงพร้อมใจกันลากเขาลงมา แล้วคลอเคลียไม่ห่าง แถมยังไม่มีตัวไหนโจมตีใส่เขาเลย สักตน ดวงตาที่มองมาก็เหมือนจะเคลิ้มและเหม่อลอย แปลก ๆ เห็นแล้วขนลุกขนพองไปหมด

ปีศาจปลาหมึกตัวนี้ก็เหมือนกัน พอเห็นเขาเท่านั้นก็เอา หนวดมารัดแล้วก็ดึงขึ้นจากน้ำมาก่อนที่เขาจะขาดใจ แต่ ก็ยังไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ แถมยังมีเอาหนวดมาถูกหน้า เข้าเล่นอย่างเอ็นดูเสียเต็มประดาอีก…

สะพรึงมากบอกเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ