บทที่32:ถามคุณครั้งสุดท้าย
บทที่32:ถามคุณครั้งสุดท้าย
เสียงหัวเข่ากระแทกพื้น
“ประธานเสิ่นคะ เงินห้าล้านฉันจะโอนเข้าบัญชีไม่ให้ ขาดสักแดงเดียว ฉันจะขยันทำงานแน่นอนค่ะ ขอให้คุณ เชื่อฉันด้วยค่ะ ให้เวลาฉันเยอะหน่อย
เงินห้าล้าน คือเรื่องทำให้ลำบากใจของผู้ชายคนนี้ คือ การเหยียดหยามและการแก้แค้นของเขา………ถ้าแบบนี้ สามารถทำให้เขาสบายใจขึ้นมาหน่อย สามารถทำให้เขา หายโกรธได้ล่ะก็ งั้นเธอก็ทำได้ทุกอย่าง
เงินห้าล้านที่แลกมาด้วยอิสระ
ไฟที่ไม่มีชื่อในใจของเสิ่นซิวจิ่น ยิ่งอยู่ยิ่งลุกท่วม!
ตัวเขาเองก็ยังไม่พบเห็น แววตาที่เขามองเจี่ยนถงแฝง ด้วยความเจ็บปวดที่ซับซ้อน!
ผู้หญิงแบบนี้!
ไม่มีสปิริต คนน่าสมเพช ต่ำต้อย น่าสงสาร……..ตั้งแต่ เมื่อไหร่กันที่คำศัพท์แบบนี้ ได้ใช้อยู่บนตัวของผู้หญิงคน
คุกเข่า?
คุกเข่า!
การคุกเข่าที่สมควรตายนี้
“เข่าของคุณ มันไร้ค่าขนาดนี้จริงๆแล้วใช่มั้ย?”
ฮ่า ฮ่าๆ…….ๆๆ! เงี่ยนถงเบิกตากว้าง เธอไม่กล้า กะพริบตา กลัวแค่กะพริบตาทีหนึ่ง น้ำตาที่คลอเบ้าก็จะ ไหลลงมา
เธอกลัวโดนตี
ไม่ใช่กลัวเจ็บ แต่กลัวตอนที่ถูกตี จะได้ยินเสียงของ ศักดิ์ศรีที่อยู่ลึกๆในใจแตกสลาย!
เสิ่นซิวจิ่น คุณจะรู้ไหม อยู่ในคุกนั้น ฉันไม่กล้าร้องไห้ ทุกครั้งที่ฉันร้องไห้จะต้องถูกตีอย่างโหดแน่นอน
คุณจะรู้ไหม เจี่ยนถงไม่ใช่เจี่ยนถงคนเดิมอีกแล้ว
คุณจะรู้ไหม ตอนที่ถูกจับมัดให้นอนอยู่ที่ข้างชักโครก และตอนที่ถูกทุกคนหัวเราะเยาะฉัน อีกครั้งที่ฉันรู้สึกว่า ฉันไม่ใช่คน แต่เป็นสัตว์เดียรัจฉาน เป็นหมา! เป็นหมู!
“เจียนถง ผมถามคุณครั้งสุดท้าย คุณไม่เอาศักดิ์ศรี จริงๆแล้วใช่มั้ย?” ผู้ชายเยือกเย็น แต่ไหนแต่ไรเขาเป็น คนที่ไม่เผยความเคลื่อนไหวและสีหน้าออกมาภายนอก คนอื่นก็อ่านความคิดของเขาไม่ออก
ใครเล่าจะดูออก ภายใต้เสียงที่เยือกเย็นนี้ ความโกรธ และความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ แม้แต่เขาเองก็ยังสังเกตไม่ เห็น
มือทั้งสองที่ยืนอยู่บนพื้นของเจี่ยนถงกำลังสั่นไหว เธอรีบก้มหน้าลง จ้องมองพื้นที่อยู่ตรงหน้า
ศักดิ์ศรี ศักดิ์ศรีคืออะไร?
ติดคุกมาสามปี ศักดิ์ศรีที่ว่ามันไม่มีตั้งนานแล้ว
รู้สึกเคืองตาอย่างทรมาน ข้างหูคือเสียงของสาวน้อย คนนั้น เธอชื่ออาลู่ เธอบอกว่า:พี่เสี่ยวถง พี่ร้องออกมา เถอะ ฉันเห็นพี่แบบนี้แล้วฉันรู้สึกทรมานหัวใจ ฉันช่วยพี่ดู ต้นทางเอง จะไม่ให้พวกเธอเห็นแน่นอน พี่ร้องไห้ระบาย อารมณ์ออกมาเถอะ
จากนั้น เธอก็ร้องไห้
ต่อจากนั้นอีก สาวน้อยคนที่ชื่ออาลู่ คนนั้นติดร่างแห เพราะเธอ และถูก พร้อมกับตัวเอง
เส้นซิวจั่น แม้แต่สิทธิ์ที่จะร้องไห้ ฉันก็ไม่มีแล้ว
ศักดิ์ศรีที่คุณพูด มันคืออะไร?
“เจียนดงไม่ใช่เงี่ยนถึงคนเดิมอีกแล้วค่ะ” เสียงห้าวของ ผู้หญิงพูดกับเส้นซิวจิ้นแบบนี้
นาทีนี้ คนที่ไม่เผยอารมณ์ออกมาทางสีหน้าอย่างเสิ่น ชิวจิ๋น นาทีนี้ก็เบิกตากว้างเช่นกัน แววตามองผู้หญิงที่อยู่ บนพื้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ!
..พูดออกมาแบบนี้เลยเหรอ!
เธอ….อมรับแบบนี้เลยเหรอ!
บรรยากาศเงียบขึ้นมาทันที
ในห้องนอน จู่ๆ….กระแสอากาศที่แปลกประหลาด กระเพื่อมไปมา!
ริมฝีปากบางของผู้ชายค่อยๆฉีกรอยยิ้มออกมา ในเมื่อ คุณหนูเจียนพูดคำนี้ออกมาแล้ว ฉันก็ไม่อยากทําให้คุณ หนูเงี่ยนต้องผิดหวังกับความปรารถนาของตัวเอง ต่อจาก นี้ก็ขอให้คุณหนูเงี่ยน’ทำงานอยู่ที่ตงหวงดีๆด้วย
เขียนถึงหัวเราะน่าสังเวชอย่างไร้เสียง
หลุบตาลง ความเศร้าโศกสุดขีดที่อยู่ในแววตา จะให้คน เห็นไม่ได้
เส้นซิวจิ่น จำเป็นต้องทำถึงขั้นนี้เลยเหรอ?
คนที่ทำให้ฉันกลายเป็นแบบนี้ก็เป็นคุณไม่ใช่เหรอ?
ร่างกายที่พิการ วิญญาณที่แตกสลาย…..แล้วคุณเหลือ อะไรไว้ให้ฉันกันแน่?
ให้ฉันมารักษาหัวใจที่เคยเย่อหยิ่งดวงนั้นเอาไว้? แล้วทำไมต้องแสดงออกเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย
คำสั่งที่คุณสั่งการลงไป ให้คนทำให้ฉันกลายเป็นแบบนี้ เรื่องพวกนี้ คุณก็รู้เรื่องหมดไม่ใช่เหรอ?
ทำไมมาถึงวันนี้ กลับจะให้ฉันเป็นหน้าตาของเงี่ยนถุง เมื่อสามปีก่อนอีก? หน้าตาที่เย่อหยิ่งและโอหังอย่างมี ความมั่นใจคนนั้น
“ขอบคุณค่ะ ประธานเงิน
ริมฝีปากชมพูของเธอขาวซีด มีแผลฉีกขาด แค่ขยับนิด เดียวก็รู้สึกเจ็บ
คำๆนี้ กลับกระตุ้นให้ผู้ชายโกรธขึ้นมาอย่างง่ายดาย
“ไสหัวออกไป!”
“ค่ะ”
” ผมให้คุณ’กลิ้ง’ออกไป!
เสิ่นซิวจิ่นมองผู้หญิงคนนั้นด้วยสายตาเย็นชา ส่วนเธอ ก็เชื่อฟังคำสั่งอย่างไม่มีการลังเลแม้แต่นิด และหดตัว เหมือนลูกบอลอยู่บนพื้นแบบนี้จริงๆ “ค่ะ ประธานเสิ่น”
เชื่อฟังคำสั่งปาน………ไมถึงทำให้คนรังเกียจขนาด
หน้าด้านไร้ยางอายปานนั้น….ไมถึงขัดหูขัดตาขนาดนี้
ปานนั้น………นซิวจีนยกเท้าขึ้นมาอย่างกะทันหัน เต็น หลายก้าวไปที่ตรงหน้าของลูกบอล”ลูกนั้น แขนยาวยื่น ออกมาหัวคอเสื้อของ”ลูกบอล”ลูกนั้นไว้ เดินไปที่หน้า ลิฟต์อย่างรวดเร็ว และโยน”ลูกบอล ลูกนี้เข้าไป “ไสหัว ลงไป! อย่ามาขวางหูขวางตาผมอีก!”
ลิฟต์ลงไปชั้นล่างโดยตรง
ประตูลิฟต์เปิดออก ซูเมิ่งมาอย่างเร่งรีบ: “เธอไม่เป็นไร ใช่มั้ย?
เธอได้ยินว่า ประธานเสิ่นจะพาคนไป
คนอย่างลูเชนที่ผ่านมาก็ไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านอยู่แล้ว
ซูเมิ่งสำรวจเจี่ยนถงตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบหนึ่ง ถ้าหาก เงี่ยนกงมีใบหน้าสวยเหมือนนางฟ้า หุ่นเหมือนนางแบบที่ สามารถทำให้ลูเชนหลงใหลได้ งั้นก็ยังพอเข้าใจได้
แต่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง……………….หน้า
จับแขนของเจี่ยนถงไว้ เพิ่งจับ แววตาก็มีความประหลาดใจแว๊บเข้ามา ทันใดนั้นรีบเงยหน้ามองมาที่ใบหน้า ของเงี่ยนถง: “นี่เธอตัวสั่นเหรอ?”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ”
* ดูเพิ่งแอบกลอกตาขาวทีหนึ่ง อยากถามอะไร ออกมาจากปากของเงี่ยนกงนี่ยากเหมือนขึ้นสวรรค์เลย
“เธอนี่หัวแข็งจริงๆเลย
เงี่ยนถงไม่พูดจา
“หิวหรือยัง? ฉันพาเธอไปขุนหน่อย วันนี้ไม่ต้องทำงาน แล้ว”
ซูเมิ่งไม่เข้าใจ ทำไมตัวเองต้องดีกับเจี่ยนถงที่ไม่มีอะไร
เลยด้วย จะเอาหน้าตาก็ไม่มีหน้าตา จะเอาหุ่นก็ไม่มีหุ่น
ที่จริง………..อาจจะรู้อยู่ แต่แค่ไม่อยากยอมรับเฉยๆ
ราวกับว่า ดีกับเจี่ยนถงหน่อย ก็คือดีกับตัวเองที่ผ่านมา
“ไม่แล้วค่ะ บริษัทมีโรงอาหารอยู่”
“เธอ….” ผู้หญิงคนนี้นี่ดื้อจริงๆเลย
ซูเมิ่งส่ายหัว ทุกคนต่งก็บอกว่าเงี่ยนถงต่ำต้อยจนไม่มี ความเป็นตัวของตัวเอง ทำไมถึงมองไม่เห็นความเย่อหยิ่ง ภายใต้ความต่ำต้อยของผู้หญิงคนนี้นะ!
“เมื่อก่อน เธอต้องเป็นคนที่มีความมั่นใจแน่ๆเลยใช่มั้ย?” ซูเมิ่งถามแบบนี้โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
เงี่ยนกงสั่นไปครู่หนึ่ง สักพัก ราวกับผ่านไปหนึ่ง ทศวรรษ เธอถึงขยับริมฝีปาก:”เมื่อก่อนหรอคะ…..เหมือน เป็นเรื่องของชาติที่แล้วๆค่ะ”
“เดี๋ยวก่อน เช็คใบนี้ให้เธอ” ซูเมิ่งเอาเช็คใบหนึ่งให้ เงี่ยนถง:”ประธานลู่ ให้ฉันเอาให้เธอ”
“โห เยอะขนาดนี้เลยเหรอคะ?” ตอนที่เห็นตัวเลขบน เช็ค เงี่ยนถงก็ตกใจเหมือนกัน
ซูเมิ่งยิ้มอย่างขมขื่น:ตอนนั้นฉันก็ตกใจเหมือนกัน เสี่ยว ถงเธอพูดซิว่าเธอทำยังไงกับประธานลู่ท่านนี้ ถึงได้ ประจบสอพลอจนเขาชอบใจขนาดนี้ และใจป้ขนาดนี้ “ให้มาห้าแสนหยวนโดยตรงเลย!
คนที่ใจป้าอย่างนี้ อยู่ที่ตงหวงก็ใช่ว่าจะไม่มี
เพียงแต่ เงี่ยนกง………….
ซูเมิ่งมองดูเจียนถงอีก ไม่ใช่ว่าเธอประเมินค่าเงี่ยนกง ต่ำไปนะ เพียงแต่ ตอนนี้เป็นยุคของการดูหน้าตานี่น่ะ
ลูเชนเป็นคนที่มีหน้าตาและบุคลิกภาพที่โดดเด่น มี ความสามารถโดดเด่นเหนือใครๆ โดดเด่นและแตกต่าง จากคนอื่น อยู่ในเมืองSนี้ เขากับเสิ่นซิวจิ่น ต่างก็เป็น บุคคลที่ถูกคนหยิบยกขึ้นมาพูด
“พี่เมิ่ง อันนี้ รบกวนพี่ช่วยฉันฝากเข้าบัญชีนั้นด้วยค่ะ” เจียนถงเอาเช็คคืนให้ซูเมิ่งอีก: “พี่เมิ่ง มีงานไหมคะ?”
“เธอนี่!” เฮ้อ.
ชั้นสองของตงหวงนานาชาติ
ผู้ชายยืนอยู่ที่หน้ากระจกใส มองดูหอไข่มุกที่อยู่ไม่ไกล อย่างเงียบๆ บุหรี่ที่มือเรียวยาวคีบเอาไว้ เผามาถึงปลาย สุด ในที่สุดเถ้าบุหรี่เส้นยาวก็แบกรับน้ำหนักไม่ไหว และ หล่นลงมาอย่างไร้เสียง เผาโดนมือทีหนึ่ง ระหว่างคิ้วของ ผู้ชายขยับ เขาโยนก้นบุหรี่ของในมือทิ้ง
หยิบมือถือขึ้นมา: “ช่วยฉันจองตั๋วที่ไปนิวยอร์ก หน่อย…….. ไปพรุ่งนี้เช้าเลย”
วางสายทิ้ง ผู้ชายเม้มริมฝีปากบางไว้ แววตาที่เย็นชาหลับตาลง…..
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ