บทที่ 18 ร่างกายเธอเย็นเหมือนน้ำแข็งหรือร้อน เหมือนไฟ
บทที่ 18 ร่างกายเธอเย็นเหมือนน้ำแข็งหรือร้อนเหมือนไฟ
เนื่องจากเส้นซิวจิ่นเป็นเจ้านายของซูเมิ่ง ซูเมิ่งจึงไม่กล้าพูด อะไรในทางที่ไม่ดีออกไป แต่พอเธอเห็นสภาพเงี่ยนถงในตอน นี้แล้ว ก็รู้สึกเสียใจแทน
ผู้หญิงคนนี้ไปทำอะไรผิดต่อเจ้านายเธอกันแน่ ถึงได้รับการ ปฏิบัติที่แสนจะโหดร้ายแบบนี้?
ซูเมิ่งมองเจี่ยนถงที่กำลังเดินขากะเผลกออกไปตามขอบ กําแพงด้วยแววตาซับซ้อน
บัตรธนาคารที่อยู่ในมือกลายเป็นเผือกร้อน
ซูเมิ่งหันหน้าหนีและรีบกลับเข้าไปในห้องทำงานของเธอ หลังจากใส่บัตรธนาคารและเงินทั้งหมดลงในตู้เซฟในห้อง ทำงานตัวเอง เธอก็ไม่รู้สึกเจ็บฝ่ามือเหมือนเมื่อกี้
ตอนที่ซูเมิ่งกลับมาที่ห้อง 606 เธอเกือบชนกับร่างของเสิ่นซิว จิ่นในขณะที่เปิดประตูเข้าไป
“ประธานเสิ่น” ซูเมิ่งเรียกด้วยความเคารพ เสิ่นซิวจิ่นตอบ เพียง “อืม” จากนั้นก็เดินผ่านซูเมิ่งออกไป
พอซูเมิ่งเข้าไปในห้องนั้นได้ไม่นาน พวกคุณชายจากเมืองจิ งก็ยังคงพูดว่า “ผู้หญิงคนนั้นต่ำช้าเกินไปแล้ว! ขนาดฉันที่ไป มาทั่วทุกสารทิศและยังพบเจอผู้หญิงมานักต่อนักแล้วก็เพิ่ง เคยเห็นผู้หญิงต่ำช้าที่รักเงินมากขนาดนี้นี่แหละ
“ใช่แล้ว ท่าทางต่ำๆของผู้หญิงคนนั้นที่คลานสี่ขาแล้วกระ ดิกหาง มันน่าให้คนนึกอยากเข้าไปเตะสักสองสามทีซะจริงๆ ต่ำช้าได้ถึงขนาดนี้ ทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน ไม่มีใครทำได้แล้ว จริงๆ!”
ซูเมิ่งอยากโต้กลับ!
มันไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย!
ถ้าเจี่ยนถงรักเงินมากขนาดนั้น เธอก็คงออกมาจากห้อง อย่างเฉิดฉาย แต่ทำไมเจี่ยนถงถึงยอมทุ่มเงินทั้งหมดมาให้ เธอแบบนี้ล่ะ?
ถ้าเจี่ยนถงรักเงินขนาดนั้นจริง เจี่ยนถงก็คงเก็บเงินพวกนั้น ไว้กับตัวโดยไม่โยนเงินพวกนั้นให้เธอ แล้วเดินออกไปโดยไม่ ชายตามองหรอก
เจี่ยนถงเหนื่อยมาก ก่อนกลับมาเธอก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ซูเมิ่ง เอามาให้ที่ห้องแต่งตัว เธอถอดชุดตัวตลกออกแล้วใส่เสื้อผ้า ของตัวเอง
เหงื่อเหนียวๆที่หน้าผากทําให้เธอไม่สบายตัว เจียนถงจึงเดิน เข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ในห้องแต่งตัว เธอเปิดก๊อกน้ำที่อ่างเพื่อ ชำระล้างเหงื่อเหนียวๆที่อยู่บนหน้า
ดั่งพายุที่โหมกระหน่ำ…เงี่ยนถงมองผู้ชายที่ปรากฏตัวอย่าง กะทันหันผ่านกระจกด้วยร่างกายที่แข็งทื่อ เธอบีบมือแน่นโดย ไม่รู้ตัว
“ประธานเสน”
ผู้ชายที่อยู่ในกระจกมองเธอด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
จากนั้นไม่นานก็พูดเยาะเย้ย “หึ…ฉันเริ่มคิดตกขึ้นแล้วสิ คน ชั่วที่ถูกส่งไปอบรมสั่งสอนในนั้น ผลลัพธ์ออกมาก็เชื่องไม่เบา เลยทีเดียว”
มือใหญ่วางบนหน้าเงี่ยนถงเบาๆ มือใหญ่ข้างนั้นปิดใบหน้า เจี่ยนถงได้เกือบครึ่งซีก นิ้วหัวแม่มือของเขาค่อยๆลูบไล้ ใบหน้าที่ปราศจากเลือดของเจี่ยนถง เขายิ้มมุมปากอย่างเย็น ชา “น่าเสียดายที่สายไปเสียแล้ว เงี่ยนถง คุณหนูเจี่ยน ถ้ารู้ว่า จะเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก ถ้าสามปีก่อนเธอเรียนรู้เร็วได้แบบ นี้ เธอก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้หรอก เธอว่าไหม?”
หัวใจเจียนถงสั่นระริก…เธอเข้าใจความหมายของเขา
เขากําลังบอกว่า…ถ้าสามปีก่อนเธอทําตัวดีเหมือนตอนนี้หรือถ้าสามปีก่อนเธอไม่ลงมือฆ่าเซี่ยเวยเหมิง เธอก็จะไม่ถูก ตัดสินต้องโทษให้จำคุกถึงสามปี เธอก็จะยังคงเป็นคุณหนู ใหญ่ตระกูลตระกูลเจียนแห่งเมืองหมิงจู ไม่ใช่ผู้หญิงที่น่า สมเพชเหมือนอย่างตอนนี้
เธอเข้าใจ…เธอเข้าใจมันทั้งหมด!
ริมฝีปากเธอสั่นระริกกับ คําสั่งสอนของประธานเสน” ถ้าเป็น เมื่อสามปีก่อนเงี่ยนถงคงไปเรียกร้องความเป็นธรรมและโต้ เถียงอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ตอนนี้เธอใช้เวลาสามปีในการ เรียนรู้ที่จะเงียบ
เสิ่นชิวจิ่นมองเธอที่ไม่มีท่าทีจะตอบโต้ เหมือนมีไฟสุมอยู่ใน อกของเขา เขาเองก็พูดไม่ถูกว่าไฟกองนี้มาจากไหน
แววตาเขาดูโหดร้ายมากยิ่งขึ้น! ความคิดที่วุ่นวายทำให้เสิ่น
ซิวจิ่นผู้สุขุมและเยือกเย็นรู้สึกอึดอัด
ในขณะที่ขมวดคิ้ว เขาก็กระตุกรอยยิ้มปีศาจและยิ้มอย่าง เย็นชา “เงี่ยนถง คุณหนูเงี่ยน วันนี้เธอทำให้ฉันเปิดโลกได้ จริงๆ ไหนเธอบอกมาซิว่าถ้าพี่ชายของเธอต้องมาเจอเธอใน สภาพที่น่าสมเพชแบบนี้ เขาจะโมโหเจียนตายหรือไม่?”
คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้…เงี่ยนถงต้องการพูดประโยคนี้ออก ไป เธอจิกเล็บเข้าไปในเนื้อบนฝ่ามือ เจี่ยนถงเริ่มได้สติขึ้นมา
เธอหลุบตาลงโดยไม่กล้ามองเข้าไปในกระจก เพราะกลัวว่า เขาจะมองเห็นอะไรบางอย่าง
“ประธานเสิ่น ฉันไม่มีพี่ชาย ฉันเคยฆ่าคน เคยติดคุก ตอนนี้ ยังเป็นนักโทษชั้นแรงงานที่ขายความอัปลักษณ์ ขายรอยยิ้ม ตระกูลเจียนจะมีลูกสาวที่ฆ่าคนได้อย่างไร?
เสิ่นซิวจิ่นไม่คิดว่าเจี่ยนถงจะพูดคำพูดเหล่านี้ออกมา เขา ชะงักเล็กน้อยแล้วหัวเราะขึ้นมา “เจี่ยนถง เมื่อก่อนฉันอาจจะ ดูเบาเธอไปหน่อย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ตอนนั้นถึงทำเรื่องโหด ร้ายแบบนั้นได้อย่างเลือดเย็น ”
เงี่ยนถงยืนนิ่งโดยไม่ส่งเสียงแย้งออกมาสักคำ เธอปล่อยให้ คำพูดที่เยือกเย็นของอีกฝ่ายแทรกซึมเข้าสู่หัวใจ
เลือดเย็น? ไม่ใช่เพราะคุณบังคับฉันหรอกเหรอ? เสิ่นซิวจิ่น!
“แต่ฉันก็อยากรู้จริงๆว่าภายใต้จิตใจที่โหดร้ายเลือดเย็นกับ เนื้อหนังมังสาที่ปกคลุมใบหน้าที่เยือกเย็น จะเลือดเย็นเหมือน กันหรือเปล่า? หรือว่าจะ…ร้อนระอุ
ด้วยเสียงของชายหนุ่มก็ทำให้เจี่ยนถงแข็งทื่อไปทั้งตัว! จู่ๆ ร่างร้อนผ่าวข้างหลังก็แนบชิดติดกับแผ่นหลังเธอ!
พอถูกกระชับเอวแน่น เจี๋ยนถงก็ร้องด้วยความตกใจ เธอหลุบ ตามองฝ่ามือใหญ่ของเสิ่นซิวจิ่นที่กำลังจับหน้าท้องส่วนล่างของเธอ
กระดุมเสื้อโค้ตตัวใหญ่ถูกปลดออกสองเม็ด ฝ่ามือใหญ่ข้าง หนึ่งสอดเข้าไปในเสื้อผ้าของเธอ เจียนถงถึงกับร้องด้วยความ ตกใจ
เจิ่นชิวจิ่นขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว…ใต้เสื้อโค้ตยังมีเสื้อกันหนาว อยู่อีกตัว แต่ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงหน้าร้อนนี่ เธอสวมเสื้อกัน หนาวไปทําไมกัน?
ด้วยความสงสัย เจิ่น วจีนจึงเลื่อนมือสอดเข้าไปในเสื้อโค้ต และเปิดเสื้อแจ๊กเก๊ตของเจียนถงออก… “เสิ่นชิวจิ่น!” ด้วย ความตื่นตระหนกเงี่ยนถงจึงร้องออกมาโดยไม่ทันคิด!
เสิ่นซิวจิ่นหรี่ตาลงและถามด้วยความเย็นชาว่า “เธอเรียกฉัน ว่าอะไร?”
เจี่ยนถงไหล่สั่น “เสิ่น ประธานเสิ่น” เธอรู้สึกได้ว่ามือของเขา สำรวจอยู่ใต้เสื้อแจ็กเก็ตบริเวณหน้าท้องของเธอ สักพักเธอก็ รู้สึกได้ถึงฝ่ามือเคลื่อนไปที่เอวด้านซ้าย…มือนั้นยิ่งสัมผัสใกล้ ชิดมากขึ้นเรื่อยๆ เธอยอมให้เขาเห็นบาดแผลของเธอไม่ได้
เจี่ยนถงใจเต้นแรง มือนั้นตวัดผ่านเอวของเธอ…
“ประธานเสน!” เธอร้องออกมาด้วยความตกใจ!
“อะไรอีกล่ะ?” เส็นซิวจิ่นพูดอย่างไม่รู้สึกรู้สา แต่เสียงนั้นแฝง ไปด้วยความกระหาย
ในเวลานี้สมองของเงี่ยนถงกลับแล่นฉิว!
“ประธานเสิ่น! ขอเงินด้วยค่ะ!” เธอพูด “ฉันเป็นผู้หญิงขายตัว ในเมื่อมีไว้ขายและประธานเสิ่นก็แตะต้องตัวฉัน ก็ต้องให้เงิน ฉันด้วย!”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด เสิ่นซิวจิ๋นก็นึกถึงเหตุการณ์ในห้อง 606 และตอนนี้เขากำลังกอดผู้หญิงคนนี้อยู่ เธอทำเรื่องต่ำๆ ได้เพียงเพราะเงิน ทันใดนั้นความปรารถนาที่จะถูกยั่วยุก็หาย
เมื่อมองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขน ในใจเขาก็ยิ่งรู้สึกอึดอัด มากขึ้นอย่างไร้เหตุผล เสิ่นซิวจิ่นจำแนกความรู้สึกแปลกๆใน ใจของเขาว่าเป็นความรู้สึกเบื่อที่มีต่อหญิงสาวในอ้อมแขน ของเขา
เสิ่นซิวจิ่นปล่อยเงี่ยนถงอย่างกะทันหัน “ไสหัวไป”
เจี่ยนถงรีบออกจากห้องน้ำโดยไม่กล้าอยู่แม้แต่นาทีเดียว เธอเปิดประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและจากไปโดยไม่หันกลับมา มอง
ในห้องน้ำของห้องแต่งตัว ใบหน้าหล่อเหลาของเสิ่นซิวจิ่นแผ่ รังสีความเย็นชาออกไปหลายพันไมล์ มันเย็นพอที่จะตรึงหัวใจของผู้คนได้
เงี่ยนถงขอตัวลากับซูเมิ่งและรีบกลับไปยังหอพักพนักงาน หมู่บ้านหนานวาน
ฉินมู่มู่ซึ่งอาศัยอยู่ห้องเดียวกับเธอยังไม่กลับมา เธอยืนอยู่ริม หน้าต่างและทอดสายตามองออกไปยังนอกหน้าต่างอย่างว่าง เปล่า ลมหนาวและละอองฝนพัดเข้ามากระทบตัวเธอผ่านทาง หน้าต่างที่เปิดกว้าง
เธอบอกกับตัวเองว่า : พรุ่งนี้ทุกอย่างจะดีขึ้น
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ