บทที่40: การเฝ้าเหยื่อที่นองเลือดเริ่มต้นขึ้นแล้ว
บทที่40: การเฝ้าเหยื่อที่นองเลือดเริ่มต้นขึ้นแล้ว
รถแท็กซี่ขับมาที่ตงหวง เจี๋ยนถงลงจากรถ ยืนอยู่ที่ หน้าร้านของตงหวงนานาชาติที่แม้แต่ก่อสร้างตกแต่ง ภายนอก ก็ยังเห็นได้ชัดว่าหรูหราอย่างถ่อมตน
เธอไม่ได้รีบร้อนเข้าไปด้านใน เธอยกมือจัดความ เรียบร้อยของเสื้อให้เนี้ยบและเป็นระเบียบอย่างละเอียด เธอฉีกผ้าปิดแผลบนหน้าผากทิ้ง จัดผมหน้าม้าให้ตรงๆ ปิดแผลที่เย็บมาสามสี่เข็มนั้นไว้
จัดความเรียบร้อยทุกอย่างเสร็จ เธอยืดตัวตรง กระดูก สันหลังที่สามปีมานี้กดทับจนค่อม ก็พยายามให้มันตรง ขึ้นมา เจียนถงเพ่งมองไปข้างหน้าตรงๆ ยกเท้าเดินเข้าไป ในตงหวงนานาชาติที่แสงไฟสว่างจ้า
ด้านหลังเธอ เฟอร์รารี่สีน้ำเงินคันหนึ่งจอดอยู่ที่หน้าร้อน ของตงหวงนานาชาติ กระจกรถค่อยๆเลื่อนลงมา เผย ใบหน้าที่สามารถบอกได้ว่าสุดยอดไม่มีใครเปรียบได้ แห่งยุค ส่วนคนๆนี้ ก็คือผู้ชายแปลกหน้าที่สังเกตการพูด คุยสนทนาทั้งหมดของฉินมู่คู่กับเจี่ยนถง
นาทีนี้ ใบหน้าที่หล่อเหล่านั้น ดวงตาหงส์คู่นั้นกำลังมี ความคึกคะนองและ……………องเลือดในขณะที่กำลังล่าเหยื่อระบระยับอยู่!
“เงี่ยนถงเหรอ?” สายตาของเขาจ้องมองอยู่ที่ประตูของ ตงหวงอยู่ตลอดเวลา ผ่านไปสักพัก เขาค่อยๆหยิบมือถือ ออกมาจากในเสื้อสูท แล้วโทรออกไปสายหนึ่ง
ถามคนที่อยู่ในสายอย่างเกียจคร้าน:
“ลูเชน นายเคยเห็นผู้หญิงที่สวยที่สุดมั้ย?”
คนที่อยู่ในสายเงียบไปสักพัก ไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่ย้อนถามเสียงต่า: “ใครกลายเป็นเหยื่อรายตใหม่ของ นายอีกล่ะ?”
ทางนี้ ผู้ชายหัวเราะเสียงดังอย่างอารมณ์ดี: “นายนี่รู้ใจ ฉันที่สุดเลย”
..…………เป็นผู้หญิงแบบไหน?” ลูเชนคิดไม่ถึงแน่นอนว่า คนที่เพื่อนสนิทของเขาจ้องจับตาจะเป็น เจี่ยนถงที่เคยมี วาสนาเจอกันครั้งหนึ่ง
นี่ก็โทษลูเชนไม่ได้ ที่ผ่านมารสนิยมและความชอบของ ผู้ชายคนนี้ล้วนแต่เป็นสไตล์ดูดีและมีระดับ ใครจะคิดได้ ว่ารสนิยมของครั้งนี้จะเปลี่ยนไปเยอะขนาดนี้?
“อาเชน นี่คือผู้หญิงที่น่าสนใจที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมา ฉันว่าช่วงเวลาสามเดือนที่อยู่ในเมืองจีนคงไม่น่าเบื่อแล้ว ละ
ลูเชนที่อยู่ในสายตะลึงงันไปครู่หนึ่ง พร้อมยักคิ้ว ประเมินค่าสูงขนาดนี้เลย?” สามเดือน? ต้องรู้ไว้นะว่าไอ้ หมอนี่ จนถึงตอนนี้ การล่าเหยื่อที่ยาวนานที่สุดก็แค่สอง เดือนเท่านั้น
“เป็นผู้หญิงที่น่าสนใจมาก นี่เป็นผู้หญิงที่ขัดแย้งที่สุด เท่าที่ฉันเคยเจอมา ต่ำทรามจนไร้ขีดจํากัด เย่อหยิ่งจน ไร้ขีดจํากัด นายเคยเห็นใครที่สามารถเอาความต่ำต้อย แสดงได้เย่อหยิ่งดั่งพระอาทิตย์ที่สว่างจ้าราวกับไพ่มั้ย? นอกจากความเย่อหยิ่งที่ฝังอยู่ในลึกๆ
ฉันแปลกใจมาก เรื่องอะไรกับคนอะไร ถึงจะสามารถ ทำให้ผู้หญิงอย่างนี้คนหนึ่ง ลบล้างจนกลายเป็นสภาพใน ตอนนี้ อาเชน ฉันจะปลุกตัวจริงของเธอตื่น
ลูเชนอกสั่นขวัญแขวนอย่างแปลกประหลาด รู้จักกับ เพื่อนสนิทมาสิบกว่าปี ไม่เคยได้ยินคำพูดแบบนี้จาก ปากของเพื่อนรักเลย “นายตามสบายเถอะ”เขาก็ยังเชื่อ สติสัมปชัญญะของเพื่อนสนิทคนนี้อยู่: “ฉันไม่ห้ามนาย คาย์อัน แต่นายต้องรู้ไว้นะ อย่าเล่นกับหัวใจของคน ทำให้พอเหมาะพอควรก็ต้องหยุดนะ”
ผู้ชายแปลกหน้าที่ว่าก็คือคาย่อัน เขาหัวเราะแต่ไม่พูด จากนั้นก็ได้วางสายลง
ลงจากรถและปิดประตู เขายกเท้าเดินเข้าไปในตงหวง
“ทําไมเธอมาอีกแล้ว? ไหนบอกว่าไม่สบายไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ต้องไปสนใจเธอหรอก เรามันคนละทางกัน”
“ก็ใช่น้อ ได้ยินมาว่าฉินมู่มู่พักห้องเดียวกับเธอก็มีเรื่อง ขัดแย้งกันเยอะมาก”
“เรื่องขัดแย้งเยอะแค่ไหน สุดท้ายเวลาป่วย ก็ไม่ใช่ฉิน มู่มู่เหรอที่เป็นคนคอยดูแลเธอ?”
เจียนถงเพิ่งมาถึงที่ตงหวง เข้ามาที่แผนกประชาสัมพันธ์ ตลอดทางก็ได้ยินคนมากมายกำลังซุบซิบนินทาและวิ พากวิจารณ์อยู่ด้านหลัง สภาพจิตใจของเธอในตอนนี้ สามารถใช้คำว่าด้านชามาเปรียบเปรยแล้ว
เธอไม่ได้โง่ สาเหตุที่มีคำพูดพวกนี้แพร่สะพัดออกมาเพราะคุณงามความดีของใคร เธอรู้ดีแก่ใจ
สำหรับความจริง ก็คงไม่มีใครแคร์หรอก
ถ้าอย่างนั้น จะพูดหรือไม่พูด มันสําคัญเหรอ?
สําหรับคําซุบซิบนินทา พูดจาเสียๆหายๆและวิจารณ์มั่ว ชั่วลับหลังพวกนี้ เจี่ยนถงแกล้งทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน ผลักประตูของห้องพักผ่อนออก หามุมที่เงียบสงบแล้วนั่ง ลงมา
เพียงแต่รอบด้านมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เบาๆแว่วมาอย่าง ไม่ขาดสาย ยังมีสายตาของการสำรวจต่างๆนานา
ด้วยจิตใต้สํานึก เงี่ยนถงก้มหน้าลง จับหน้าผาก……เจ็บ เธอแค่ใช้ผมหน้าม้าปิดแผลนั้นให้มิดชิดยิ่งขึ้น แน่นอน ว่าไม่ใช่เพื่อฉินมู่ดู่ แต่เพื่อตัวเธอเอง เธอต้องการเงิน ต้องการเงินที่เยอะมาก
ถ้าเทียบกับพนักงานคนอื่นๆในแผนกประชาสัมพันธ์ เจี่ยนถงก็เหมือนเป็นตัวตลก แต่ถึงจะอย่างนี้ก็เถอะ เธอก็ ยังนั่งอยู่ที่หัวมุมอย่างนิ่งๆอีกเช่นเคย รอพวกเศรษฐีที่อาจ จะมีความชอบที่พิเรนทร์
“เจี่ยนถง ออกมา” ผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์ยืนอยู่ ที่หน้าห้องพักผ่อน เรียกเงี่ยนถงด้วยสีหน้าเรียบเฉย
พริบตาเดียวสายตาของรอบๆต่างก็เป็นประกายขึ้นมา ต่างก็รอเจียนถงถูกด่าอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของ คนอื่น
เจี่ยนถงลุกขึ้นอย่างลังเล เธอเดินไปทางผู้จัดการแผนก ประชาสัมพันธ์ไปด้วย และถามอย่างเชื่องช้าไปด้วย:
“ผู้จัดการสวี่ มีอะไรหรือเปล่าคะ? สองวันก่อนฉันไม่ สบาย ฉิน…..………” ช่วยฉันลางานแล้วค่ะ
แต่ผู้จัดการของแผนกประชาสัมพันธ์กลับหงุดหงิดใส่ เจียนถง พูดขัดเธออย่างหมดความอดทน: “ตามฉันมา ลูกค้าห้อง606เจาะจงมาว่าให้เธอไป”
ตอนที่ผู้จัดการสวี่พูดคำนี้ ประตูไม่ได้ปิด คนที่อยู่ใน ห้องพักผ่อนได้ยินแล้ว ต่างก็ตะลึงงันกันเป็นแถว
ห้อง601 ชั้นหก ชั้นV.I.P เชียวนะ”
“ก็ใช่น่ะสิ ชั้นV.I.P นี้ไม่ใช่ว่าแค่มีตังค์ก็สามารถเข้าได้ นะ ใครกันแน่? ไม่ได้ยินว่าคืนนี้มีคนจองห้อง601เลยนี่”
“อีกอย่างแถมยังเจาะจงมาด้วยว่าจะเอานังนี่? นี่ล้อเล่น ใช่มั้ยเนี่ย?”
“ซูซาน ไม่แน่อาจจะเป็นลูกค้าชอบของแปลกอีกก็ได้? เรื่องแบบนี้ ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีมั้ง?”
คนๆนี้พูดจบ คนที่อยู่ในห้องพักผ่อน ต่างก็เผยสายตาที่ ปล่อยวางออกมา “ก็ใช่น้อ งานแบบนี้เราทำไม่ได้หรอก”
ถึงมีบทเรียนจากเจินเจินกับลู่น่า แต่พนักงานของแผนก ประชาสัมพันธ์ไม่ได้เอามาใช้เป็นข้อเตือนใจเลย ยิ่งไป กว่านั้น BOSSใหญ่เกลียดคนที่ชอบปลุกปั่นปัญหา พวก เธอไม่ได้ทําอะไรเงี่ยนถงคนนี้สักหน่อย
แต่เดิมที คนพวกนี้ก็มีอคติกับเจี่ยนถงที่ไม่ตรงตาม มาตรฐานของพวกเธออยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนที่ เจียนถงเข้ามาในแผนก เป็นพนักงานทําความสะอาด ห้องน้ำอยู่ที่ตงหวงมาครึ่งปี คนที่ทำความสะอาดห้องน้ำ คนหนึ่ง อยู่มาวันหนึ่ง กลับเข้ามาที่แผนกของพวกเธอ อย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ไม่ว่าใครก็รู้สึกไม่ชอบใจทั้งนั้น แหละ
หน้าห้อง 601
ผู้จัดการของแผนกประชาสัมพันธ์สีหน้าเย็นชา เชิดหน้า เล็กน้อยใส่เงี่ยนถง: “หลังจากเข้าไป เธอต้องรู้นะว่าอะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด อะไรควรทํา อะไรไม่ควร ทํา ต้องให้ความพึงพอใจกับข้อเรียกร้องของลูกค้า และ อย่าขัดใจลูกค้า รู้มั้ย?”
“รู้แล้วค่ะ ผู้จัดการสวี่”
แววตาของผู้จัดการสงี่ไม่ปกปิดความไม่ชอบใจต่อเธอ เลยสักนิด:
“ฉันไม่สนว่าใครเป็นคนพาเธอเข้ามาในแผนก ประชาสัมพันธ์ แต่ในเมื่อเข้ามาที่แผนกของฉันแล้ว ก็ ต้องทําตามข้อเรียกร้องของฉัน เธอจําไว้ด้วย ถ้าจะอยู่ แผนกของฉันต่อ ก็อย่าสร้างปัญหาให้ฉัน มีคนมากมาย ที่อยากจะเข้ามาแผนกประชาสัมพันธ์ ถ้าเธอทำได้ไม่ ก็ออกไป อย่ากั๊กทีไว้ ไม่ว่าใครออกหน้าแทนก็ไม่มี ประโยชน์ จําได้หรือยัง?”
“จ๋าได้แล้วค่ะ ผู้จัดการสวี่ ฉัน…..ขอถามหน่อยได้มั้ยคะ ลูกค้าคนนี้ชื่ออะไรหรอคะ?” เงี่ยนถงถามอย่างลังเล เธอ ไม่คิดว่าจะมีใครจะเจาะจงเรียกเธอจริงๆ นอกเสียจากว่า เป็นคนรู้จักกัน
ถ้าเป็นคนรู้จัก….….…..วใจเธอกระตุก สีหน้าซีดเซียวเล็ก น้อย นอกจากคนพวกนั้นในสามปีก่อน ยังจะมีใครอีกน้อ?
“นี่ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องเป็นห่วง อะไรที่ไม่ควรถาม อย่า ถามเยอะ เข้าไปซะ” ผู้จัดการสวี่พูดจบ ก็ยื่นมือดึงประตู
เจี่ยนถงยังไม่ทันดึงสติกลับมา ก็ถูกผู้จัดการสวี่ผลัก เข้าไปในห้องแล้ว
ถูกผลักเข้ามาในห้องอย่างโซเซ เธอยังไม่ทันยืนนิ่ง จู่ๆก็ มีเรี่ยวแรงใหญ่ลากเธอไปข้างหน้า ในระหว่างที่ตกใจจน ทำอะไรไม่ถูก กลิ่นโคโลญกลิ่นหนึ่งก็โชยมาเตะจมูก
เสียงที่มีแรงดึงดูดดังขึ้นมาที่ข้างหูเธอ เขาพูดว่า: “ใน ที่สุดคุณก็มาสักที”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ