บทที่ 27 ช่วยระบายอารมณ์ให้หล่อน
บทที่ 27 ช่วยระบายอารมณ์ให้หล่อน
“ลูน่า หากประธานเสิ่นโกรธแล้ว เธอออกไปจากตงหวง ไปที่อื่นยังพอมีข้าวกิน ไม่อย่างนั้น หากเท้าซ้ายก้าวออก จากตงหวงเมื่อไหร่ วินาทีต่อไป ก็จะมีคนมาลากตัวเธอ ไปทำเรื่องมิดีมิร้าย เธอเชื่อไหม?” ซูเมิ่งพูดด้วยเสียงนิ่ง เรียบ
เชื่อ!… ลู่น่าสั่นไปหมดทั้งตัว กลัวจนลงไปคลานบนพื้น ทําท่าทางเหมือนกับที่หล่อนเยาะเย้ยเจี่ยนถงไปเก็บเงิน บนพื้น
เจินเจินที่นั่งอยู่ด้านข้าง ใจเต้นรัว มองเสิ่นซิวจิ่นที่นั่งอยู่ ด้านหน้าด้วยความหวาดกลัว
ธนบัตรกองใหญ่ถูกเสิ่นซิวจิ่นโปรยลงบนโต๊ะคริสทัล : “ร้องเพลงเป็นไหม? หนึ่งเพลงหนึ่งพันหยวน ร้องครบห้า สิบเพลง เอาเงินและออกไปได้ ถ้าร้องไม่ครบ เสียงแหบ กลางคัน….บังเอิญว่าช่วงนี้ฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขาดของ”
“ของ” เห็นได้ชัดว่าไม่ได้หมายถึงสิ่งของทั่วไป
ในใจของเจินเจิน เต้นดัง “ตุ๊บ” จนถึงตอนนี้ ถ้าทั้งสอง คนยังไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายเช่นนี้งั้นก็คงไร้ประโยชน์มากจริงๆ
รู้เหตุผล แต่พวกหล่อนกลับไม่เข้าใจ ว่าทำไมเจี่ยนถง เป็นแค่คนทําความสะอาด แต่สุดท้ายต้องให้นายใหญ่มา ออกหน้า ลงโทษกลั่นแกล้งพวกหล่อน
“ประธานเสิ่น ฉันร้องได้ค่ะ” เจินเจินกล่าว “แต่ฉันไม่ เข้าใจ เจี่ยนถงหล่อนเป็นเพียงแค่พนักงานทำความ สะอาด! ไร้ความสามารถและอัปลักษณ์ ไม่มีอะไรสัก อย่าง พวกเราแค่ล้อเล่นกับหล่อนเท่านั้น ประธานเสิ่นอ ยากลงโทษพวกเรา พวกเรายอมรับได้ แต่การลงโทษของ ประธานเสิ่นไม่จําเป็นต้องโหดเหี้ยมเช่นนี้ก็ได้นี่คะ”
ล้อเล่น?
เสิ่นซิวจิ๋นยิ้มเย้ยมองเจินเจิน ที่มีใบหน้าอันสวยและมี เสน่ห์ แต่ตอนนี้เขากลับไม่รู้สึกอยากชื่นชมเลย คนเช่นนี้ ในสายตาของเขาทั้งน่าเบื่อและไม่น่าสนใจ
แต่ เจินเจินในตอนนี้ ทำท่าทางจะต่อสู้ ทำให้เสิ่นซิวจิ๋ นรู้สึกคุ้นเคยขึ้นมา เหมือนกับหญิงสาวเมื่อสามปีก่อน ยืน อยู่ตรงหน้าเขา ไม่ยอมอ่อนแอเหมือนกัน อยากเอาชนะ เหมือนกัน และไม่ยอมแพ้เหมือนกัน
เหม่อลอยไปเพียงครู่เดียว เสิ่นซิวจิ่นก็หลบสายตาที่ จดจ้องมองไปที่เจินเจินออกไปทางอื่น…ไม่สิ หญิงสาวแสนสวยที่อยู่ตรงหน้า ด้อยกว่าเธอเมื่อสามปีที่แล้ว มาก หญิงสาวที่ชื่อเงินเงินผู้นี้ ไม่มีความหยิ่งยโสเหมือน เจี่ยนถงเมื่อสามปีที่แล้ว และไม่มีเสน่ห์เช่นกัน
เจี่ยนถง………
เมื่อเสิ่นซิวจิ่นนึกถึงความสวะของผู้หญิงคนนั้นในตอน นี้ ไม่เจิดจ้าเหมือนดวงอาทิตย์ในเมือง S เมื่อตอนนั้น เขา หงุดหงิดในใจขึ้นมาทันที และรู้สึกหมดความอดทนกับผู้ หญิงทั้งสองตรงหน้า
“ซูเมิ่ง อบรมกฎระเบียบหล่อนหน่อย” ริมฝีปากอันเย็น ชา ขยับ ม
“ค่ะ”
ซูเมิ่งใส่รองเท้าส้นสูง เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเจินเจิน มุมปากที่สง่างามกับแฝงไปด้วยรอยยิ้มอันเย็นชา : “เฉิน เจิน กฎระเบียบของตงหวงเคร่งครัดเสมอมา เรื่องทะเลาะ กันภายใน ถ้าไม่ร้ายแรงมาก ก็ยอมๆกันไปบ้างก็ได้”
เมื่อพูดถึงตอนนี้ สีหน้าเสียขึ้นมาทันที : “แต่ครั้งนี้ เลย เถิดมากเกินไป”
ไม่มีอะไรอื่นอีก ซูเมิ่งเพียงแค่ยิ้มเย็นชาและสง่างามจ้องมองเจินเจินที่อยู่ตรงหน้าอย่างนิ่งขรึม: “เธอเป็นคน ฉลาด ต่อไปคงรู้แล้วว่าควรทำอะไร”
ในใจของเจินเจินรู้สึกไม่เต็มใจ อดทนกัดฟัน เหลือบ มองไปที่ เมิ่ง สูดหายใจเข้าลึก : “พี่เมิ่ง ฉันร้องเพลง!”
แต่ละเพลงที่ร้อง เหมือนกับตอนที่หล่อนกลั่นแกล้ง เจียนถง ทุกเพลงล้วนแล้วแต่เป็นเพลงเสียงสูง ถึงตอน นี้ เจินเจินจึงเข้าใจความทุกข์ทรมานของเจี่ยนถงขึ้นมา ทันที
หล่อนไม่รู้ว่าตัวเองร้องไปกี่เพลงแล้ว จนทนไม่ไหวอีก ต่อไป : ” เมิ่ง ฉันขอดื่มน้ำหนึ่งแก้วได้ไหม?”
“เธอคิดว่าไงล่ะ?” ซูเมิ่งยิ้มแต่ไม่พูดอะไร
เสิ่นซิวจิ่นทําตัวเย็นชา ห้าสิบเพลง ดูเหมือนจะทําสําเร็จ ได้อย่างง่ายดาย เสิ่นซิวจิ๋นเห็นเจินเจินร้องเพลงทีละ เพลงด้วยตาของตัวเอง ได้เห็นคนร้องเพลงที่เสียงค่อยๆ แหบลงเรื่อยๆ ท่าทางทุกข์ทรมาน…ผู้หญิงคนนั้น ตอนนั้น ก็เป็นแบบนี้?
เสียงแหบแห้งของเจินเจินเมื่อร้องเพลงออกมา เพี้ยน จนผิดคีย์ไปหมด กระหืดกระหอบ พยายามกลืนน้ำลาย สุดชีวิต แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ผู้ชม แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ หล่อนทรมานและคอแห้งมาก เสิ่นซิวจิ่นมองหล่อนด้วยสีหน้าเย็นชา “ร้องไม่จบ เธอก็ไปเล่นที่เอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้สักสองสามวันแล้วกัน”
เจินเจินตัวเกร็งขึ้นมาทันที เบิกตากว้าง มองไปที่ผู้ชาย บนโซฟาด้วยความหวาดกลัว พูดด้วยความทรมานและ ร้อนรน: “ประธานเจิ่น ฉันจะร้องเดี๋ยวนี้ค่ะ”
เวลาค่อยๆผ่านไป ตอนนี้ลู่น่ารู้สึกว่าตัวเองยังโชค ดี โชคดีที่ตัวเองยังไม่ทันได้ลงมือกับเจี่ยนถง ไม่เช่น นั้น…หล่อนแทบไม่กล้าจินตนาการถึงสภาพของตัวเองว่า จะแย่ขนาดไหน!
ยิ่งเป็นคนที่อยู่ในตงหวงมานาน ยิ่งต้องเข้าใจเป็นอย่าง ดี ที่เมือง S คำว่าตงหวง” หมายถึงอะไร!
ร้องจบ50เพลง
“ประธานเงิน หล่อนสลบไปแล้ว”
ซูเมิ่งพูดขึ้น
เสิ่นซิวจิ่นลุกขึ้นยืน เดินก้าวออกไปด้วยขาอันเรียวยาว ไม่แม้แต่หันมามอง เพียงพูดทิ้งท้ายไว้ : “เอาออกไปทิ้ง”
ตงหวงคือที่ไหน?
ที่นี่ มีกฎระเบียบคุ้มครองอยู่
คนที่สามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างรุ่งเรือง แน่นอนว่ามีความ สามารถที่แตกต่างกันไป
ในตงหวง เมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ทุกคนต้องตระหนัก รู้และตื่นตัวด้วยตัวเอง สำหรับลู่น่าและเจินเจิน แทบจะ ไม่มีใครพูดถึง ราวกับว่า สองคนนี้ ไม่เคยอยู่ในตงหวงมา ก่อน และเหมือนกับว่าที่ตงหวงไม่เคยมีสองคนนี้มาก่อน และพวกเขาก็ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน
“นี่ เสี่ยวเสี่ยว ไม่เห็นลู่น่ากับเจินเจินมาหลายวันแล้ว” จู่ๆฉินมู่ดู่ฉวยโอกาสตอนพักถามขึ้นภายในห้องพัก พนักงาน
ภายในห้องพักผู้คนนับสิบคนต่างพากันเงียบ เมื่อก่อน มักจะคุยกันเรื่องของแบรนด์เนมหรือดาราชื่อดัง แต่ ตอนนี้ทุกอย่างกับหยุดไป ทั้งห้อง ต้องอยู่ในความเงียบ สงบ
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมทุกคนไม่พูดอะไรล่ะ?” “ฉินมู่มู่ทำ สีหน้าสงสัย กวาดมองไปรอบๆ
พวกคนที่ถูกหล่อนกวาดสายตามองไป รีบแยกย้าย ก้ม หน้าทำงานของตัวเอง ไม่มีใครสนใจหล่อน
“เสี่ยวเสี่ยว? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” บรรยากาศดูแปลก ประหลาด ฉินมู่มู่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
หล่อนลังเลเล็กน้อย เพราะฉินมู่มู่ถือเป็นคนที่เข้ามา พร้อมหล่อน ลังเลใจเป็นอย่างมาก : “มู่มู่จ้ะ อันที่จริง เจิน…”
“เสี่ยวเสี่ยวไปเถอะ เปลี่ยนฉากแล้ว” ทันใดนั้นมีคนพูด แทรกเสียวเสียว คนนั้นยืนขึ้น เรียกชื่อเสียวเสี่ยว ทุก คนในห้องนี้ต่างพากันทยอยยืนขึ้นตาม “ไปเถอะ เสี่ยว เสี่ยว ทํางานได้แล้ว”
สีหน้าของฉินมู่มู่แย่ลงไปทันที รีบลุกขึ้นยืน : “อันนี เธอ หมายความว่ายังไงกันแน่? ไม่ให้เสี่ยวเสี่ยวพูดคุยกับฉัน? เธอเป็นอะไรกับเสี่ยวเสี่ยว?”
คนที่พูดแทรกเสี่ยวเสี่ยว ชื่อว่าอันนี หน้าตาสวย ทั้งยัง สวยกว่าผู้หญิงในแผนกประชาสัมพันธ์มาก แต่ทว่า ในตง หวง หล่อนอดทนทำงานเป็นบริกรมาสองปีแล้ว เมื่อได้ยิน เช่นนั้น หล่อนหยุดเดิน หันหลังกลับมา:
“เจ้าโง่ เธอดูแลเรื่องของตัวเองให้ดีก่อนดีกว่า” อันนีมอง หล่อนด้วยสายดูถูกมาก ฉินมู่มู่คิดว่าตัวเองออกมาจากโคลนตมแต่ไม่แปดเปื้อนอะไรเลย ทะนงตัวว่า “ไม่มี ใครสามารถมาทำอะไรตัวเองได้” ชื่อเสียจริง ไปทำงาน ในร้านอาหารเล็กๆสิ ไปทำงานที่อบรมมารยาทวันหยุด สุดสัปดาห์โน่นสิ มาทำอะไรที่ตงหวง?
“เธอว่าใคร?” “ฉินมู่มู่โมโห
อันนีเลิกคิ้วขึ้น: “ใครยอมรับ ฉันก็ว่าคนนั้นแหละ”
เสี่ยวเสี่ยวดึงอันนีออกมา บอกเป็นนัยว่าพอแล้ว
ฉินมู่มู่กลับบิดเบือนความหมายของหล่อน มองเสี่ยว เสี่ยวด้วยความโกรธโมโห สายตามองหล่อนด้วยความ เคืองแค้นที่ถูกหันหลัง : “เสี่ยวเสี่ยว! คิดไม่ถึงเลยว่าเธอ จะเป็นคนแบบนี้”
“ajaj……”
“เสี่ยวเสี่ยวอย่าไปสนใจหล่อน” อันนีพูดแทรกขึ้น เลิก คิ้วขึ้นหันไปมองฉินมู่มู่ : “เธอรู้อยู่แก่ใจ”
ฉินมู่ดู่…หล่อนก็คือผู้รับกรรมคนต่อไป ยังกล้าโง่อวดดี ได้ขนาดนี้ วันนี้ในห้องน้ำ ยังพูดกับคนอื่นว่าตัวเองถูก เงี่ยนถงโกหกหลอกลวง ที่แท้เจี่ยนถงต่ำช้าขนาดไหนรนหาที่ตายเอง ไม่ว่าใครก็ช่วยไม่ได้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ