รักทรหด นายปีศาจสุดร้าย

บทที่ 14 ทรมานด้วยความอัปยศอดสู



บทที่ 14 ทรมานด้วยความอัปยศอดสู

บทที่ 14 ทรมานด้วยความอัปยศอดสู

เจียนถงนึกถึงเรื่องนี้ก็ส่ายหัว “ไม่เอา คุณเสน ฉันไม่ไปฝ่าย ประชาสัมพันธ์” เจี๋ยนถงร้องขอด้วยความตื่นตระหนก “ฉันผิด ไปแล้ว คุณเสิ่นขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันติดคุกมาสาม ปีแล้ว ฉันชดเชยให้คุณไปหมดแล้ว คุณคืนบัตรธนาคารให้ ฉันเถอะนะ ฉันจะรีบไปจากที่นี่ ฉันจะหนีไปไกลๆ ฉันสัญญา ว่าจะไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าคุณอีก”

เจียนถงขอร้องให้เขายกโทษให้โดยที่เธอไม่ทันสังเกตว่าซู เพิ่งมีสีหน้าตกใจเมื่อได้ยินว่าเธอเคยติดคุกมาสามปี

ซูเมิ่งเพิ่งจะย้ายมาอยู่เมือง S เมื่อสองปีก่อน แต่เดิมเธอไม่ใช่ คนเมืองนี้ ดังนั้นเธอจึงไม่รู้เรื่องราวของเงี่ยนถึง

ถ้าเป็นคนที่ติดตามเส้นซิวจิ่นมานานจะต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับ เงี่ยนถงอย่างดีแน่ๆ

ดวงตาแคบของเสิ่นซิวจิ่นหรี่ลงแฝงไปด้วยความ

อันตราย…เธอยังคิดจะหนี?

เธอจะไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีกงั้นหรือ?

“ฮี” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน เขาหยิบ โทรศัพท์ขึ้นมาและสั่งการให้ลูกน้องทำอะไรบางอย่าง ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น มีลูกน้องคนหนึ่งเดินเข้ามาและ ส่งบัตรใบหนี่งให้เขา

ชายหนุ่มค่อยๆย่อตัวลงและมองหน้าหญิงสาวที่กำลังคุกเข่า อยู่บนพื้นโดยถือบัตรธนาคารไว้ในมือ “เงินที่อยู่ในบัตร ธนาคารใบนี้ เสิ่นยีเพิ่งถอนออกไปหมดแล้ว” เงี่ยนถงมองไปที่ บัตรธนาคารใบนั้นและเงยหน้ามองเสิ่นซิวจิ่นอย่างงงงวย

ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากและพูดว่า “เธอต้องการให้ฉันปล่อย เธอไปใช่ไหม?”

เจียนถงนิ่งไปสักพัก แม้ว่าจะกำลังงุนงง แต่เธอก็รีบพยักหน้า

รับ

“เธอคิดว่าฉันเป็นคนดีงั้นหรือ?” ชายหนุ่มพูดต่อโดยที่ เจี่ยนถงไม่ได้พูดอะไร เขายิ้มเบาๆ “งั้นก็ดี เสิ่นซิวจิ่นก็ไม่ใช่ คนดีอะไรอยู่แล้ว เขาจะปล่อยเธอไปง่ายๆได้อย่างไร”

เหมือนกับว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องคนอื่น เส็นซิวจิ่นมองเจี่ยนถ งอย่างบีบคั้นราวกับแมวไล่จับหนู เขาเล่นกับเหยื่อที่อยู่ในกำ มือ ใบหน้าที่หล่อเหลาค่อยๆยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย

“เจี่ยนถง ในบัตรใบนี้ไม่มีเงินเหลืออยู่แล้ว ตราบใดที่เธอทำ เงินได้ถึงห้าล้านหยวน” ในขณะที่พูด ชายหนุ่มก็แกว่งบัตร ธนาคารที่อยู่ในมือ “และตราบใดที่เธอสามารถฝากเงิน
ไว้ในบัตรใบนี้ได้ถึงห้าล้าน ฉันจะปล่อยเธอไป เป็นอย่างไร ล่ะ?”

เป็นอย่างไรงั้นหรือ?…เจียนถงมองบัตรธนาคารที่เสียบอยู่ บนนิ้วของเขาด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ไม่มีความสิ้นหวังอยู่บน ใบหน้าของเธออีกต่อไป…เขาไม่มีทางยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ!

สำหรับตอนนี้ ห้าล้าน…ถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่มากสำหรับ เธอ ใหญ่มากจนเธอไม่กล้าจินตนาการ! ทว่าสำหรับเสิ่นซิวจิ่น แล้ว เขาจะขาดเงินห้าล้านนั่นไปได้อย่างไร? เงี่ยนถงเข้าใจ แผนการของเสิ่นซิวจิ่นขึ้นมาทันที

ดวงตาที่ลึกล้าของชายหนุ่มจับจ้องใบหน้าของหญิงสาวตรง หน้าอย่างหนักแน่น ไม่ปล่อยให้เธอแสดงความรู้สึกใดๆผ่าน ทางสีหน้า แววตาลุกโชน มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย…คิดอยากจะ หนีไปงั้นหรือ? ฝันไปเถอะ!

“พรึ่บ” เสิ่นซิวจิ๋นลุกขึ้นยืนและปล่อยบัตรธนาคารที่อยู่ในมือ หล่นลงตรงหน้าเจียนถง “เจี่ยนถง ไม่ว่าเธอจะใช้วิธีไหน แต่ ถ้าบัตรใบนี้มีเงินถึงห้าล้านเมื่อไหร่ ฉันก็จะยอมปล่อยเธอไป เมื่อนั้น มิฉะนั้นก็อย่าแม้แต่จะคิดถึงอิสระที่เธอใฝ่ฝัน แล้วอย่า คิดหนีไปอีกล่ะ ตราบใดที่เธอยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ฉันมี ความสามารถพอที่จะตามหาเธอให้เจอได้

ห้าล้าน…เธอจะเอาเงินห้าล้านมาจากไหน?
เธอเงยหน้าเรียกเสิ่นซิวจิ่นที่กำลังเปิดประตูอย่างร้อนรน “คุณเสน คุณบังคับให้ฉันทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้! ฉันเป็นแค่ แม่บ้านจะเอาเงินห้าล้านมาจากไหนล่ะ?”

ชายหนุ่มหันไปด้านข้างและชำเลืองมองมาที่เธอ “ซูเมิ่งจะ ย้ายเธอไปที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ขายรอยยิ้ม ขายความน่า สงสาร ขายความน่าเกลียด หรือจะขายอะไรก็ได้ตามที่เธอ ต้องการ คนรวยมีตั้งหลายประเภท ไหนเธอบอกว่าเข่าของ เธองอได้มากพอไง เธอลองก็จะรู้เอง แต่ถ้าเธอพยายามแล้ว มันไม่ได้ผล เธอก็ขายตัวสิ” พอพูดถึงตรงนี้ เขาก็ยกมุมปาก

“แต่สภาพเธอตอนนี้…มันยากที่บอก” เสิ่นซิวจิ่นหรี่ตาลงและ พูดมาประโยคเดียวว่า “ทำตัวให้ดีดีเถอะ” เงี่ยนถงมองไปที่ แผ่นหลังสูงใหญ่ของเสิ่นซิวจิ่นที่หายลับตาไป

เงี่ยนถงหน้าซีดเซียวไม่มีสีเลือด ซูเมิ่งที่ยืนมองเธออยู่ข้างๆก็ อดถามไม่ได้… “เธอไปทำอะไรให้ประธานเสิ่นโกรธเข้าล่ะ?”

เจี่ยนถงเงยหน้ามองซูเมิ่งพลางยิ้มด้วยความโศกเศร้า ใน เวลานี้ซูเมิ่งก็เห็นว่าริมฝีปากขาวซีดของเจี่ยนถงมีรอยฟัน ประทับไว้ เธอ เธอโอเคไหม?” ซูเมิ่งถาม

“ฉันโอเค” เจี่ยนถงยืนขึ้น ร่างของเธอโงนเงนไปมา ซูเมิ่งยื่น มือออกไปประคองเงี่ยนถงไว้อย่างช่วยไม่ได้ ใบหน้าซีดขาว เผยรอยยิ้มซาบซึ้งให้ซูเมิ่ง “ขอบคุณ พี่เมิ่ง”
“เธอ…แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร?” เธอเห็นเงี่ยนถงยืนไม่มั่นคง เธอไม่เชื่อเลยจริงๆว่าเงี่ยนถงจะไม่เป็นอะไรตามที่พูด

เจี่ยนถงส่ายหน้าให้ซูเมิ่งและพูดอยู่เพียงหนึ่งประโยค “ฉัน ไม่เป็นอะไรค่ะ”

ใครจะเชื่อ…ซูเมิ่งมองผู้หญิงที่เดินไปข้างหน้าอย่างไร้ เรี่ยวแรง จู่ๆเธอก็อดถามไม่ได้ “เธอรู้จักประธานเสิ่นสินะ”

ซูเมิ่งเห็นอย่างชัดเจนว่าแผ่นหลังของหญิงสาวที่อยู่ตรง หน้าเกร็งไปชั่วขณะ อีกฝ่ายถามเธอกลับว่า “พี่เมิ่ง ฝ่าย ประชาสัมพันธ์อยู่ที่ไหนคะ? คืนนี้ฉันต้องไปทำงานไหม?”

คำพูดนี้ทำให้ซูเมิ่งตกตะลึง “เธอ…” เดิมทีซูเมิ่งยังคิดอยากจะ ถามต่อ แต่เธอก็กลืนมันเข้าท้องและเปลี่ยนเรื่อง “มาสิ ฉันจะ พาเธอไป

ระหว่างทาง ซูเมิ่งจงใจชะลอความเร็ว เธออยู่สถานบันเทิง นี้ย่อมมีสายตาเฉียบแหลม สายตาเธอมองลงมาที่ขาของ เจี่ยนถง ก่อนหน้านี้เธอไม่ทันได้สนใจแต่ตอนนี้กลับรู้สึกได้ถึง ความผิดปกติบนขาของเจี่ยนถง

“เจี่ยนถง เธอปวดขาเพราะนั่งคุกเข่าเมื่อกี้นี้ใช่ไหม?”

เจี่ยนถงคิดได้สักพักก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องปิดบังซูเมิ่งอีกต่อ ไป เงี่ยนถงเงยหน้ามองซูเมิ่ง แล้วค่อยๆหันหลังพลางเลิกเสื้อขึ้น เธอพูดเบาๆว่า “พี่เมิ่ง”

ซูเมิ่งมองตามความเคลื่อนไหวของเจี่ยนถง สายตาเธอหยุด ลงบนเอวเปลือยที่เลิกเสื้อขึ้นทางด้านหลัง เธอสูดหายใจแล้ว อุทานออกมา “เธอ…” ซูเมิ่งเบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัว โดยไม่รู้ตัว เธอเอามือทาบปากและมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ

เจียนถงค่อยๆดึงเสื้อลงและจัดแจงให้เรียบร้อย เธอมองซูเมิ่ง ที่มีสีหน้าตกใจ “พี่เมิ่ง ฉันขาดไตไปข้างหนึ่ง ต่อมาร่างกายก็ เลยแย่ลง หากเดินเร็วจะทำให้เจ็บได้”

“ตะ ตะ …ไตล่ะ?”

“บริจาคน่ะ ฉันเองก็ไม่รู้

ซูเมิ่งเห็นหญิงแกร่งแบบนี้มาจนชินตาแล้ว แต่ในเวลานี้เธอ กำลังเผชิญหน้ากับเงี่ยนถงที่พูดอย่างใจเย็นว่าเธอไม่รู้ด้วย ซ้ำว่าไตของเธอไปอยู่ที่ไหนแล้ว หัวใจเธอสั่นไหวอย่างห้าม ไม่ได้…เงี่ยนถงยังทําตัวสงบเสงี่ยมอย่างนี้ได้อย่างไร?

“นั่นมันไตเธอนะ มันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเธอ!” ซูเมิ่ง พยายามสงบอารมณ์ของตัวเองไว้โดยการระงับเสียง เธอ พยายามพูดอย่างใจเย็น เงี่ยนถงพูดออกมาแบบนั้นได้ อย่างไร?

เงี่ยนถงกระตุกมุมปาก “ฉันรู้ค่ะ” นอกจากสามคำนี้ เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เธอเพียงมองไปที่ซูเมิ่ง และขอร้องด้วยความหนักแน่น “พี่เมิ่ง เรื่องนี้คุณช่วยฉันเก็บ เป็นความลับได้ไหม?” เธอไม่อยากให้คนอื่นรู้

“เธอ…ก็ได้!” เมิ่งสุดหายใจเพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเอง เธอ ยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่เธอรู้สึกได้อย่างหนึ่งว่าผู้หญิงตรงหน้า ช่างคล้ายกับตัวเองมาก

พอคิดได้สักพักซูเมิ่งก็ถามว่า “ในเมื่อเธอเสียไตไปข้างหนึ่ง เธอยังจะทำงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้ไหม? เพราะแผนกนี้จะ ต้องดื่มเหล้าเป็น แม้เธอจะดื่มเป็นแต่ก็ควรดื่มอย่างน้อยหนึ่ง แก้วถึงสองแก้ว ฉันจะคุยกับประธานเสิ่นให้เองว่าจะให้เธอมา ทำงานที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ไม่ได้” ซูเมิ่งอยากช่วยเจี่ยนถงอีก แรง

“พี่เมิ่ง อย่าไปเลย” เงี่ยนถงรีบดึงตัวซูเมิ่งเอาไว้ เธอมองหน้า ซูเมิ่งด้วยความวิงวอน “…คุณเสิ่นจะต้องไม่รู้เรื่องนี้” เธอแบมือ ออกเผยให้เห็นบัตรธนาคารที่อยู่ข้างในและยิ้มกับซูเมิ่งด้วย ความหดหู่ “พี่เมิ่ง คุณเป็นคนฉลาด คุณคิดว่าฉันจะสามารถ หาเงินห้าล้านด้วยสภาพแบบนี้ได้จริงหรือ?”

คำตอบนั้นเห็นได้จากสภาพความเป็นจริง ร่างกายซูเมิ่ง สั่นเล็กน้อยราวกับเข้าใจอะไรบางอย่างประธานเสิ่นกำลัง ทรมานผู้หญิงคนนี้ด้วยความอัปยศอดสู

แต่นี่มันไม่โหดร้ายเกินไปหน่อยหรือ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ