Super Bodyguard

บทที่015 สถานีตำรวจ



บทที่015 สถานีตำรวจ

“โอ้ แกมันช่างไม่กลัวตายเลยจริงๆ แกคิดว่าฉันไม่กล้าที่จะลั่น ไกรปืนใส่แกหรือยังไง ก็แค่ยิงป้งเดียว หัวสมองของแกก็จะมีรู เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งรู จะลองของจริงเลยไหมละ” ตำรวจพูดและ หัวเราะออกมาดังลั่น

เย่หลิงเทียนขมวดคิ้วไปมาอีกรอบ จากนั้นขยับมือ คว้าไปจับ มือข้างที่ถือปืนของตำรวจที่อยู่ข้างหน้า บิดข้อมือของเขาลง ยื่น มืออีกข้างออกมาเพื่อที่จะรับปืนที่ตกมาจากมือตำรวจโดยตรง ยกมือขึ้นแล้วเอาปืนจ่อไปที่บนหัวของตำรวจคนนั้น

เหตุการณ์เมื่อสักครู่ของการเคลื่อนไหวดูเหมือนค่อนข้างนาน แต่อันที่จริงมัน ใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งวินาที แม้กระทั่ง ตำรวจที่อยู่ ข้างหน้ามองไม่เห็นอะไรสักอย่าง เพียงแค่รู้สึกว่าตัวเองนั้นมี อาการเจ็บที่ข้อมือ หลังจากนั้นปืนที่ถืออยู่ในมือก็หล่นลงไป แล้ว จากนั้นอีกก็เห็นว่ามีปืนกำลังจ่ออยู่ที่หน้าผากของตัวเองอยู่ เพียงแต่ตอนเมื่อสักครู่นี้ ตัวเขาเองพึ่งจะเอาปืนจ่อที่หัวของคน อื่นอยู่เลย

“ผมบอกแล้วว่าผมไม่ชอบให้ใครก็ตามเอาปืนมาจ่อที่ตัวผม ทำแบบนี้มันอันตรายมากนะคุณรู้ไหม” เย่หลิงเทียนพูดอย่างเย็น ชา แล้วก็พูดต่อว่า “ไม่รู้ว่าคุณไม่ทราบจริงๆหรือว่าจะลืมไปแล้ว ว่าปืนแบบนี้ก่อนที่จะลั่นไกมันต้องดึงเซฟก่อน เหมือนแบบนี้ไง

ในขณะที่เย่หลิงเทียนกำลังพูด มือข้างหนึ่งก็ปลดล็อคเซฟของปืน จากนั้นก็ออกแรง ค่อยๆกดเข้าไปบนหัวของตำรวจคนนั้น ตำรวจคนที่ก่อนหน้านี้ไม่นานที่ยังกล้าอวดดี ขาทั้งสองข้างกลับ อ่อนแรงมาทันที หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ

“น้อง…น้องชาย เอาปืนลงเถอะนี่…มันไม่ใช่เรื่องตลกเลย นะ ถ้าหากว่าปืนมันสั่นขึ้นมามันก็จะเป็นความผิดฐานฆาตกรรม เจ้าหน้าที่เลยนะ” ตำรวจอาวุโสพูดจาเร็ว และมีน้ำเสียงสั่น ตลอดเวลา

“ฆาตกรรมเจ้าหน้าที่แล้วยังไง คุณพูดมาแล้วไม่ใช่เหรอ ว่า ตอนนี้ผมโดนข้อหาพยายามฆ่า ทำให้บาดเจ็บสาหัสจน ทุพพลภาพ ขัดขืนการจับกุมแล้วยังจู่โจมเจ้าหน้าที่ ถ้าว่าตามที่ กล่าวมาผมจะต้องโทษประหารชีวิตหรือไม่ก็โดนจําคุกตลอด ชีวิต อย่างนั้นผมแค่มีข้อหาเพิ่มขึ้นมาอีกก็คือฆาตกรรมเจ้า หน้าที่ไม่เห็นจะเป็นไรเลย คุณว่าอย่างนั้นไหม” เย่หลิงเทียน หัวเราะอย่างเยือกเย็น

ในตอนนั้นเอง จู่ๆเย่หลิงเทียนก็หันหน้าตะโกนไปหาตำรวจ หนุ่มที่กำลังเตรียมตัวแอบคลานอยู่เงียบๆ เพื่อออกไปทางประตู “ถ้าแกไม่อยากให้หัวสมองของตัวเองมีเพิ่มขึ้น ก็คลานกลับมา อย่างเชื่อฟังแล้วหมอบลงพร้อมกับเอามือไว้บนหัว

ตำรวจหนุ่มตกใจและหยุดอยู่กับที่ทันที จากนั้นก็หันหน้ามา แล้วคลานกลับมาอย่างเชื่อฟัง เขาเป็นเพียงกองกำลังเสริม มี ความเกี่ยวข้องกับทางครอบครัว กำลังยุ่งกับการเปลี่ยน ตำแหน่ง นั่นคือเหตุผลที่ทำงานหนัก ในวันนี้
“พี่ชาย ฉันรู้ว่านายรู้สึกแย่ แต่เรื่องนี้นายจะมาโทษพวกเราไม่ ได้นะ พวกเราก็ถูกสั่งการมาอีกที แม้ว่าจะไม่ใช่พวกเราที่ไปจับ คน เปลี่ยนเป็นคนอื่นเขาก็ทำแบบนี้กับนายอยู่ดี เรื่องนี้มันไม่ เกี่ยวกับพวกเราเลยสักนิดเดียว ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่านายไป ขัดใจใครเข้าเลยต้องทำกับนายแบบนี้” ตำรวจคุกเข่าต่อหน้าเ หลิงเทียนแล้วพูดทั้งหมดออกมาจนแทบจะร้องไห้

“ตำรวจผู้รักษาความยุติธรรมอย่างพวกแกเขาปฏิบัติกับ ประชาชนแบบนี้เหรอ มีบางคนกำลังทำหน้าที่อยู่ชายแดนเพื่อ ปกป้องความปลอดภัยของบ้านเกิดเมืองนอน แล้วพวกแกละ เพลิดเพลินกับสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและกดขี่ประชาชนที่นี่ คนอย่างแกต่อมาเป็นร้อยครั้งก็ยังไม่มากพอเลยด้วยซ้ำ” เย่หลิง เทียนยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธขึ้นมา

“ไว้ชีวิตฉันเถอะ ยกโทษให้ด้วย หลังจากนี้พวกเราจำไม่ทำ แล้ว ไม่ทำอีกแล้ว” ตำรวจคนนั้นตกใจจนแทบจะราดออกมา

“บอกมา เรื่องนี้ใครเป็นคนสั่งการให้แกมาทำ” เย่หลิงเทียน พูดออกมานิ่งๆ

“คะ…คือ….ท่านผู้อำนวยการของเรา ดะ…ได้ยินมาว่าท่านผู้ กํากับสั่งการกับเขาด้วยตัวเองเลย” ตำรวจพูดออกมาอย่าง ตะกุกตะกัก

“ท่านผู้กำกับใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องเป็นท่านผู้กำกับเขต สถานนีตำรวจของพวกแก ได้เลย พวกแกมีเบอร์โทรศัพท์ของ ท่านผู้กำกับไหม” เย่หลิงเทียนถามออกมา
“ไม่มีหรอก แม้แต่หน้าก็ยังไม่ค่อยได้เจอเลย” ครั้งนี้ตำรวจ พูดออกมาได้อย่างชัด

“จริงเหรอ แกไม่มีทางไหนที่จะติดต่อท่าผู้กำกับแกได้เลยเห รอ ถ้าอย่างนั้นฉันเหลือพวกแกไว้ก็ไม่มีประโยชน์สินะ” เย่หลิง เทียนพูดอย่างเย็นชา

“อย่า อย่านะ ถึงแม้ว่าฉันจะติดต่อกับท่านผู้กำกับโดยตรงไม่ ได้ แต่ว่าฉันยังสามารถโทรศัพท์ไปที่สำนักงานได้นะ ฉันมีวิธี ทำให้นายกับท่านผู้กำกับติดต่อกันได้ จริงๆนะ” ตำรวจคนนั้น พูดออกมาอย่างเร็ว

“ก็ดี ถ้าอย่างนั้นแกไปลองมาก่อนละกัน ถ้าหากว่าฉันไม่ได้ ติดต่อคุยกับท่านผู้กำกับของพวกแกละก็ ฉันก็คงจะต้องส่งแกไป แล้วละ” เย่หลิงเทียนพูดนิ่งๆ

ตำรวจคนนั้นมือทั้งสองสั่นเทาและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรศัพท์ หลังจากคุยเสร็จ พวกเขาก็มีเรื่องเร่งด่วนที่จะต้อง รายงานต่อผู้อำนวยการอยู่ดี ให้พวกเขารีบนโทรศัพท์ไปให้ ท่านผู้กำกับในทันที

หลังจากรอสักพัก ถึงจะได้ยินตำรวจคนนั้นพูดขึ้นมา “ท่านผู้ กำกับซู ที่สำนักงานมีคนจะเรียนสายกับท่านครับ” เขาพูดพร้อม กับส่งมือถือให้เย่หลิงเทียน

เย่หลิงเทียนนั่งอยู่บนโต๊ะที่มีไว้สำหรับสอบปากคำ พร้อมกับ ปืนที่ถืออยู่ในมือจ่อไปที่หัวตำรวจที่คุกเข่าอยู่บนพื้น และในอีก ด้านหนึ่ง ตำรวจหนุ่มก้มตัวอยู่ที่มุมห้องแล้วใช้มือทั้งสองกุมไว้บนหัวไม่กล้าขยับไปไหน

เย่หลิงเทียนรับโทรศัพท์แล้วพูดทันที “ท่านผู้กำกับใช่ไหม สวัสดี”

“คุณคือใคร มีธุระอะไรเหรอครับ ท่านผู้กำกับก็คือท่านผู้ กํากับ ภายในน้ำเสียงมีความน่าเกรงขามเล็กน้อย

“ผมเป็นใครคุณคงจะรู้ดี เพราะก่อนหน้านี้ไม่นานนักคงจะมี คนโทรศัพท์มาหาคุณแล้วละ ให้คุณไปที่บริษัทหนึ่งในบริษัท ชานหยวนกรุ๊ปจับตัวคนคนหนึ่งที่ถูกสั่งการมาว่าให้รับบท ลงโทษ ขอโทษทีนะ ผมคือคนคนนั้นเอง เย่หลิงเทียนพูดอย่าง นิ่งๆ

“พูดจาไร้สาระสิ้นดี แกคิดจะโทรมาก่อกวนแบบนี้อีกละก็ ฉัน จะจับกุมตัวแกข้อหาขัดขวางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่” ผู้กำกับ อึ้งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดออกมา

“ใช่ไม่ใช่การขัดขวางการปฏิบัติงานเรื่องนี้เอาไว้ก่อน ตอนนี้ ในสถานีตำรวจของพวกคุณมีสหายตำรวจสองนายถูกผมจับตัว อยู่ และปืนของพวกเขานั้นตอนนี้ก็มาอยู่ในมือของผม ท่านผู้ กำกับ คุณยังจะมีอารมณ์คุยกับผมต่อไหมครับ” เย่หลิงเทียนพูด ไปหัวเราะไป

“อะไรกัน กะ..แก..จะทำอะไร ฉันบอกแกไว้ก่อน แกอย่าทำ อะไรที่มันบุ่มบ่ามเด็ดขาด ถ้าหากแกคิดจะฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ แกจะเหลือแค่ทางตายทางเดียว” ผู้กำกับช็อกมาก

“ความตายผมไม่กลัวหรอก ผมกลัวว่าถ้าผมตายไปคุณจะไม่รอดเหมือนกัน ท่านผู้กำกับ ผมบอกความจริงกับคุณนะ ผมเป็น เพียงแค่พนักงานบริษัทเล็กๆ ธรรมดา ไม่คิดจะยั่วยุโมโหใคร คิดอยากจะใช้ชีวิตที่เงียบสงบ แต่บางคนพยายามจะฆ่าผม ส่วน มันเป็นใครในใจคุณคงจะรู้ดี ผมก็ไม่มีเจตนาที่จะต่อสู้กับตำรวจ อย่างพวกคุณ แต่ถ้าก่อนหน้านี้พวกคุณไม่มายุ่งกับผมก่อน

“ผมชื่อเย่หลิงเทียน คุณจะส่งคนไปตรวจสอบแฟ้มเอกสาร ของผมก็ได้นะ เอกสารของผมหลังจากอายุสิบแปดปีก็มีแค่หน้า กระดาษเปล่า อย่างมากก็จะเป็นพวกข้อมูลตอนผมอยู่ในกองทัพ นิดหน่อย ทำไมเอกสารถึงว่างเปล่าละ คุณเป็นตำรวจมากหลาย ปีก็น่าจะเข้าใจไม่น้อย ส่วนที่เหลือผมก็จะไม่พูดอะไรเยอะแล้ว ผมไม่อยากทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมามันไม่ดี กับตัวผมแล้วยิ่งไปกว่านั้นไม่ดีกับตัวคุณอย่างมาก มันยากที่จะ หนีความผิดของคุณที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมในเหตุผลที่ผม ถูกจับกับอีกฝ่ายที่มีการแทรกแซงเข้ามา คุณว่ามันจริงไหม” เย่ หลิงเทียนพูดออกมานิ่งๆ

ฝ่ายตรงข้ามเงียบเสียงอยู่นาน จากนั้นก็พูดขึ้นมา “แกคิดจะ ทําอะไร”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ