Super Bodyguard

บทที่ 017 อาจารย์สูเสียวถึง



บทที่ 017 อาจารย์สูเสียวถึง

“นายกเทศมนตรีหลิว เรื่องทั้งหมดมันเป็นแบบนี้ครับ ผมขอโทษ ด้วย ตัวตนของอีกฝ่ายอาจมีบางอย่างที่ผิดปกติจริงๆ เพราะ ฉะนั้นผมก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรที่มันล่วงเกิน ผมเลยมาที่นี่ด้วยตัว เองเพื่อให้ท่านพิจารณาดูว่าท่านจะให้จัดการยังไง

ท่านผู้อำนวยการสำนักงานเขตมาที่สำนักงานของรองนายก เทศมนตรีหลิวโดยตรง รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบและ เหตุผลต่างๆต่อหน้านายกเทศมนตรีหลิว

“เวรตะไล ไอลูกชายฉันมันเวรตะไล แกอายุเท่าไหร่แล้วยัง เป็นไอโง่อยู่เหรอ เขาทำเรื่องไร้สาระก็คือเรื่องของส่วนบุคคล แกละ ยังจะใช้อำนาจของรัฐบาลเพื่อส่งเสริมเขาเล่นอะไรโง่ๆนั่น เหรอ แกเป็นอะไร พวกไม่เคารพกฎหมาย

“คนหนึ่งคนแค่ทะเลาะวิวาทชกต่อยพวกแกอยากให้เขารับ ข้อหาพยายามฆ่าคน ในสายตาพวกแกยังมีกฎระเบียบวินัยกัน อยู่ไหม โชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้ามันเกิดเรื่องขึ้นจริงๆแกคน แรกที่ดิ้นไม่หลุด แล้วยังเกี่ยวโยงมาถึงฉันที่หนีจากความ สัมพันธ์นี้ไม่ได้ ฉันจะบอกแกไว้นะ พูดจาไม่น่าฟังแล้วยังใช้ปืน คนอื่นอย่างพวกแก มันคือการที่พวกแกไปข่มขู่ประชาชน

พอนายกเทศมนตรีหลิวได้ยินเรื่องที่เล่ามาอารมณ์เสียมาก และพูดต่อ “ฉันจะบอกให้ หลังจากนี้ไม่อนุญาตให้แกมีการ ติดต่ออะไรทั้งสิ้นกับลูกเวรตะไลของฉันอีกเป็นอันขาด ไม่ว่าเขาจะเรียกใช้ให้แกท่าอะไรก็ไม่ต้องไปสนใจ อย่าคิดนะว่าการที่แก ช่วยเขาจะทำให้ฉันเห็นดีเห็นงามในตัวแก ในตรงกันข้าม ฉันจะ เกลียดแก แกเป็นอะไร มันคือการทำร้ายเขาทางอ้อม”

“เรื่องนี้ให้มันจบลงตรงนี้นะ อย่าพูดถึงมันอีก สมแล้วละที่เขา โดนต่อย ทางที่ดีอย่างให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่โต ทุกคนที่ รู้จักบอกให้หุบปากเงียบไว้ซะ ถ้ามันถูกเปิดเผยจะทำให้เกิด ความตื่นตระหนกที่ไม่จำเป็นในสังคม เข้าใจหรือยัง ตอนนี้ออก ไปได้ละ จําคำพูดที่ฉันบอกแกไว้ให้ดี เวลาที่ไม่มีปัญหาอะไรก็ ช่วยดูแลยศตำรวจบนหัวตัวเองไว้ดีๆละ แล้วจำไว้อีกอย่าง แก คือทรัพยากรของประเทศชาติ ไม่ใช่อันธพาลของใคร

หลังจากที่รอท่านผู้อำนวยการสำนักงานเขตออกไป นายก เทศมนตรีหลิวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาลูกชายของตัวเอง “หลิวอี้เหา ตอนนี้ฉันไม่สนว่าแกจะอยู่ที่ไหน รีบกลับมาที่บ้าน เดี๋ยวนี้ ครึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ฉันจะต้องเห็นแกอยู่ที่บ้าน

“ช่วงบ่าย เย่หลิงเทียนรับโทรศัพท์ที่โทรมาจากเย่ซวง”

“พี่ ตอนบ่าย ว่างหรือเปล่า” เย่ซวงถามเย่หลิงเทียนอย่าง ระมัดระวัง

“ทำไมเหรอ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” เย่หลิงเทียนถามอย่าง ประหม่าเล็กน้อย

“เปล่าคะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ก็คือตอนนี้อาจารย์ของ เรากับพวกนักเรียนมาเยี่ยมผมที่โรงพยาบาล อาจารย์บอกว่า อยากจะพบผู้ปกครอง อยากเจอพี่ ไม่รู้ว่าตอนบ่ายพี่พอมีเวลาว่างหรือเปล่า ถ้าหากไม่ว่างก็ไม่เป็นไร หนูแค่บอกอาจารย์ให้ ทราบก็เรียบร้อยแล้ว” เย่ซวงพูดจาย้อนแย้งกัน แต่เหตุผลใน พูดนั้นเห็นได้อย่างชัดเจน เขาหวังให้เย่หลิงเทียนไปให้ได้

เย่หลิงเทียนคิดอยู่สักพัก แล้วพูดต่อ “ได้สิ พี่ไปขอลางานก่อน สักพักพี่จะไปที่โรงพยาบาล

เย่หลิงเทียนคุยเสร็จแล้ววางสายโทรศัพท์ จากนั้นสูบบุหรี่ต่อ เขาเป็นคนที่ไม่ว่าเรื่องอะไรจะต้องหลักการเสมอ เนื่องจาก งานที่ได้รับมาเขาก็อยากจัดการให้เสร็จเรียบร้อย เพื่อให้แน่ใจ ว่าปลอดภัย และไม่ต้องการให้เหตุผลส่วนตัวมีผลกระทบต่องาน ที่ได้รับมา แต่ว่าคำขอร้องจากน้องสาวตัวเขาเองเขาไม่รับปาก ไม่ได้ คิดไปคิดมาเย่หลิงเทียนเดินออกไปข้างนอกที่โต๊ะทำงาน ของหวงหลงแล้วถามหวงหลังว่า “เลขาฯหวง เธอช่วยฉันดู ตารางงานช่วงบ่ายวันนี้ของคุณหลี่หน่อยสิ”

“คุณหลี่ มีประชุมช่วงบ่ายคะกับทุกแผนกและทุกโรงแรม รวมถึงผู้จัดการร้านอาหารที่เข้าร่วมด้วยคะ” หวงหลิงตอบหลัง จากดูเสร็จ

พอได้ยินเย่หลิงเทียนก็พยักหน้า หลังจากพูดขอบคุณเสร็จก็ จากไป แล้วเดินเข้าไปในออฟฟิศหลื่อวซินโดยตรง พูดกับหลอวู่ ซินว่า “คุณหนูหลี่ อยากจะขอลา ช่วงบ่ายนี้ที่บ้านผมมีธุระนิด หน่อยเลยจําเป็นต้องกลับไปดู ไปไม่นานแน่นอน ผมจะไปตอนที่ คุณประชุม แล้วกลับมาหลังจากคุณประชุมเสร็จ”

หล่อจู่ในขมวดคิ้วไปมา แล้วพูดว่า “แล้วแต่นาย นายไม่กลับมาเป็นหรอก แล้วอีกอย่าง นายช่วยเรียกฉันคุณ หลี่เวลาบริษัทด้วยไม่ใช่เรียกคุณหนูที่มันบริษัท”

เย่หลิงเทียนพหน้า พูดอะไรต่อแล้วออกไป

ความจริงแล้ว ถึงแม้หลิงเทียนอยู่ข้างเธอมาแทบจะวัน แล้ว วันก็หลายต้องผู้ชายหนึ่งคนอยู่ข้างตลอดยังคงเรื่องไม่ชินเอา มากๆเลย แล้วก็น่าหงุดหงิด เพราะฉะนั้น นานเท่าไหร่ตัว เธอยิ่งรังเกียจเย่หลิงเทียนมากเท่านั้น

เย่หลิงเทียนรออยู่พัก รอหล่อขึ้นไปประชุมแล้วถึงลง ไปข้างล่าง นั่งรถโดยสารไปโรงพยาบาลในทันที

พอเข้าไปในห้องผู้ป่วย เย่หลิงเทียนก็มองเห็นว่ามีคนอยู่หลายในห้องนี้

“เย่ซวงเย่หลิงเทียนเดินไปข้างหลิงเทียนแล้วตะโกน เรียก “พี่คะ

ที่ปรึกษาของพวกเราอาจารย์ คือ…..

สำหรับที่เยซวงแนะนำอื่น หัวหน้าไหนจะประธานสภา นักเรียนและอื่นๆหลิงเทียนแทบจะได้ยินไม่ค่อยชัด เพราะว่า เขากำลังกับที่ซวงเรียกว่าอาจารย์ประจำชั้นและที่ ปรึกษาอาจารย์คนคนไม่ใช่คนไกล มัน สูเสี่ยวด้วยกันเมื่อวานนี้
“คุณสู?”

“เย่หลิงเทียน?”

ทั้งสองคนเรียกชื่อกันออกมาทั้งๆ ที่ยืนอึ้งอยู่

“พะ….พวกพี่…..สองคนรู้จักกันเหรอคะ” เยซองมองไปที่เ หลิงเทียนกับสูเสี่ยวนิ่งด้วยความแปลกใจ

“เคยเจอกันหนึ่งครั้ง” เย่หลิงเทียนพูดออกมาเบาๆ

“ฉันกับพี่ชายเธอเป็นเพื่อนกัน เมื่อวานยังทานข้าวด้วยกันอยู่ เลย” สูเสี่ยวฉิงจ้องเขม็งเย่หลิงเทียนหนึ่งที่แล้วพูดกับเย่ซวง

“นึกไม่ถึงเลยว่าโลกมันช่างแคบจริงๆ นายก็คือพี่ชายของเซ วง ทำไมฉันถึงคิดไม่ถึงเลยนะ พวกนายนามสกุลเย่เหมือนกัน” สูเสี่ยวฉิงพูดต่อ

เย่หลิงเทียนหัวเราะออกมาเบาๆ เหตุผลนี้มันช่างดูห่างไกล เหลือเกิน บนโลกใบนี้มีคนใช้นามสกุลเยตั้งเยอะแยะ เป็นไปไม ได้ที่ทุกๆคนจะมีความสัมพันธ์กัน

“ผมก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าคุณเป็นอาจารย์ของเย่ซวง” เย่ หลิงเทียนพูดไปพยักหน้าไป

“มาพูดเรื่องเป็นทางการดีกว่า วันนี้ที่ฉันมามีอยู่สองเรื่อง เรื่องแรกก็คือมาเยี่ยมเยซวง เรื่องที่สองคือทางโรงเรียนและสภา นักเรียนของพวกเราได้พิจารณาถึงสภาพทางครอบครัวของเซ วงและอาการป่วยของเซวง เพราะฉะนั้นพวกเราเลยตั้งกลุ่มขึ้น มาทั้งนักเรียนและอาจารย์จัดกิจกรรมระดมทุน นี่คือประธานสภานักเรียนของพวกเรา ครั้งนี้เรานำเงินบริจาคที่เราระดมทุนได้ มามอบให้กับผู้ปกครองด้วยตนเอง ทั้งหมดห้าหมื่นแปดพันบาท ถึงแม้ยอดเงินจะห่างจากค่ารักษาของเยซวงอีกไกล แต่ว่านี่ก็คือ น้ำใจของพวกเรา”

สูเสี่ยวฉิงพูดคุยกับเย่หลิงเทียน จากนั้นก็ให้ประธานนักเรียน น่าซองจดหมายซองใหญ่หนึ่งของมอบให้กับเย่หลิงเทียน เห็น ได้ชัดเจนว่า ด้านในมีเงินเต็มไปหมด

เย่หลิงเทียนไม่ได้รับซองจดหมายนั้นแน่นอน มองดูแล้วพูด ออกมา “ผมขอบคุณนักเรียนและอาจารย์ทุกคนมากที่ดูแลเป็น ห่วงและช่วยเหลือเยซวงของเรา และขอบคุณผู้ใจดีทุกคน ผมขอ โค้งคำนับให้พวกคุณที่นี่”

หลังจากเย่หลิงเทียนพูดจบก็ก้มหัวโค้งคำนับ แล้วพูดว่า “แต่ ว่า เงินก้อนนี้ผมรับมันไม่ได้จริงๆ”

“เพราะอะไรถึงไม่รับ” สูเสี่ยวนิงถลึงตาแล้วถามว่า

“ทุกคนบริจาคเงินพวกนี้ก็เพื่อให้เยซวงได้จ่ายค่ารักษา พยาบาล แต่ว่าตอนนี้ผมเก็บเงินมาได้จำนวนมากแล้ว ถึงแม้ สภาพครอบครัวของพวกเราจะไม่ได้มีอะไร พูดได้เลยว่าขัดสน มา แต่ว่า ค่ารักษาพยาบาลของเยซวงมีพอแล้ว เงินก้อนนี้ผมรับ ไว้ไม่ได้จริงๆ พวกคุณเอามันกลับไปเถอะ นำไปช่วยเหลือคนที่ ต้องการเงินก้อนนี้มากกว่าเรา” เย่หลิงเทียนพูดออกมานิ่งๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ