Super Bodyguard

บทที่ 019 น้องสาวเย่ซวง



บทที่ 019 น้องสาวเย่ซวง

“ไม่หรอก เธอไม่ต้องเป็นห่วงพี่ชายเธอนะ พี่ชายเธอทำงานอยู่ที่ บริษัทซานหยวนกรุ๊ป ก็แค่งานค่อนข้างยุ่ง ก็เลยไม่มีเวลามาอยู่ เป็นเพื่อนเธอที่โรงพยาบาล เธอไม่ต้องคิดอะไรแบบนั้น” พอได้ ยินแบบนั้น สูเสี่ยวฉิงก็รีบปลอบโยนเย่ซวง

“อาจารย์สู อาจารย์รู้จักกับพี่ชายของหนูได้ยังไงเหรอคะ” สุด ท้ายเยซวงก็ถามคำถามที่สงสัยอยู่ในใจออกมา

“ฉันเหรอ มันเป็นแบบนี้ เจ้านายของพี่ชายเธอก็คือผู้จัดการ บริษัทที่พี่ชายนายทำงานอยู่ เป็นเพื่อนสนิทของฉันคนหนึ่ง รู้จัก กับพี่ชายเธอก็ตอนที่ไปทานข้าวด้วยกันนั่นแหละ เธอบอกกับฉัน สิ เล่าเรื่องของพี่ชายเธอให้ฟังหน่อย

สูเสี่ยวจึงถามออกมา เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไร ไป สำหรับเย่หลิงเทียนแล้วเธอมักจะเต็มไปด้วยความอยากรู้ อยากเห็น ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเย่หลิงเทียนก็เริ่มเป็นแบบนี้ เธอ เชื่อมั่นว่าเย่หลิงเทียนเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ก็เหมือนกับที่เธอพูดมา เธอคิดว่าเย่หลิงเทียนเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ที่มีเรื่องราว เพราะฉะนั้น ด้วยเหตุผลนี้เธอก็เลยคิดที่จะจับผู้ชาย คนนี้ปลอกเหมือนกับหัวหอมค่อยๆ ปอกออกมาทีละชั้นๆ ดูว่ามัน มีเรื่องอะไรบ้างที่แฝงอยู่ในใจของผู้ชายคนนี้

“พี่ชายของหนู จริงๆแล้วเวลาที่หนูกับพี่ชายได้อยู่ด้วยกันมัน ไม่นานมากนัก ตอนหนูสิบขวบในปีนั้นเขาก็ไปเข้ากรมทหารแล้วจนปีนี้ถึงจะกลับมา สิบปีเต็มที่หนูไม่ได้เจอกับเขา” เย่ชวงคิด แล้วก็พูดออกมา

“พี่ชายของเธอเรียนมัธยมก็ออกกลางคันเลยเหรอ” สูเสี่ยวนิง ตกใจเล็กน้อย

“ใช่แล้ว จริงๆตอนเรียนพี่ชายของหนูเขาเรียนได้คะแนนดี มากเลย แต่ว่า ครอบครัวของเราตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย พ่อของหนูท่านจากไปนานแล้ว ในบ้านก็พึ่งแม่คนเดียวที่เป็นคน คอยดูแล ในตอนนั้นเองไม่มีเงินที่จะส่งให้พี่ชายได้เรียนต่อ เพราะแบบนั้นพี่ชายของหนูเรียนจบมัธยมก็ต้องออกกลางคัน

“เพื่อที่จะให้หนูได้เรียนหาเงินจ่ายค่าเทอม เขาเรียนจบมัธยม ก็ตามไปทำงานกับคนอื่นในไซต์ก่อสร้าง จากนั้นตอนสิบแปดปี เขาก็ไปเข้ากรมทหาร ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่กลับมาอีกเลย เพียง แต่ ในทุกๆเดือนเขาจะส่งเงินเดือนก้อนโตกลับมาให้ตลอด ทำให้ฉันได้พอเรียนต่อมหาวิทยาลัย ทั้งหมดจึงได้กับเงินเดือน ของเขา”

“ทั้งหมดมันเป็นเพราะหนู ถ้าหากไม่ใช่เพราะหนู จริงๆแล้ว เขาสามารถได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยแล้วก็ยังได้หางานดีๆทำ ยิ่ง ไปกว่านั้นคงได้แต่งานมีลูกไปแล้ว ถึงแม้เขาจะไม่พูด แต่ว่าหนูรู้ ดี ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะถึงวัยเกษียณเขาถึงออกมาจากกองทัพทันที เขาต้องไปขอร้องเพื่อออกจากกองทัพด้วยตัวเองแน่นอน เพราะ ว่าแม่ของหนูจากไป หนูอยู่ตัวคนเดียว เขาต้องกลับมาดูแลหนู ถึงออกจากกองทัพ หนูติดหนี้เขาเยอะแยะเลย” เย่ชวงร้องไห้ไป พูดไป เธอไม่ใช่สาวน้อยอีกแล้ว ใกล้จะอายุ20ปีแล้ว เข้าใจสิ่งต่างๆมากมายแล้ว

พอได้ยินเย่ซวงพูดออกมา สูเสียวถึงก็คล้อยตามไปด้วย เธอก็ คิดไม่ถึงจริงๆว่า ประวัติของเย่หลิงเทียนจะมีชีวิตแบบนี้ ครั้งนี้ ยิ่งทำให้เธอสนใจในตัวผู้ชายคนนี้มากขึ้น

ในตอนที่สูเสียวจึงกำลังจะพูดออกมา โทรศัพท์ดังขึ้น เปิด โทรศัพท์มาดู เป็นหล่อซินที่โทรเข้ามา

“ฮาโหลคุณหลี่ ไม่ทราบว่ามีคำสั่งอะไรไม่ทราบคะ” สูเสี่ยวนิง แกล้งหัวเราะใส่ หลี่อซิน

“คำสั่งบ้าบออะไรของเธอ มีเรื่องอยากจะปรึกษากับเธอ” หลี่ อวูซินด่าออกมา

“เธอมีเรื่องอะไรอยากจะปรึกษาฉัน ว่ามา มันเรื่องอะไรกัน

แน่” สูเสี่ยวฉิงถามขึ้นมา

“คืนนี้มานอนเป็นเพื่อนฉันที่บ้านหน่อยได้ไหม” หลอวู่ซินพูด ตรง

“ไปนอนบ้านเธอ ที่รักของฉัน ฉันไม่ไปหรอก ฉันนะ มีชีวิตเพื่อ อาศัยอยู่ในตึกแค่นั้น บ้านพักตากอากาศของเธอฉันคงจะไม่คุ้น เคยเท่าไหร่ บ้านหลังใหญ่ขนาดนั้นอยู่กับแค่คนสองคนในนั้น มันค่อนข้างน่ากลัว พูดมา มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เธอถึงให้ฉันไป อยู่เป็นเพื่อน ถ้าพูดไม่รู้เรื่องฉันไม่ไปแน่นอน หรือว่าเธอสร้าง เรื่องอะไรไว้อีก” สูเสียวจึงพูดคุยและค่อยๆเดินออกจากห้องผู้ ป่วย
“มีเรื่องบ้าบออะไรที่ไหนกันละก็ไม่ใช่ว่าคุณพ่อของฉันยืนยัน จัดการให้เย่หลิงเทียนตามติดฉันตลอดทั้งวัน24ชั่วโมงไงละ เธอ ว่ายังไงฉันเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวอยู่ในบ้านกับผู้ชายสองต่อสอง จะให้ฉันไว้ใจได้ยังไง ไม่มีความปลอดภัยเลยสักนิด ตอนกลาง คืนก็ยังนอนไม่หลับ ขอร้องละ คืนนี้มาอยู่กับฉันที่นี่นะ” หล่อซิ นขอร้องสูเสี่ยวฉิง

“เธอกลัวว่าเย่หลิงเทียนจะแอบปีนขึ้นไปบนเตียงของเธอใน ตอนที่เธอกำลังหลับอยู่แล้วมาทำอะไรเธอเหรอ” สูเสี่ยวจึงได้ยิน เหตุผลของหลอวูซินก็หัวเราะออกมา

“เธอไม่หัวเราะจะตายไหมฮะ ไม่ใช่กลัวว่าเขาจะมาทำอะไรฉัน แต่ว่าอย่างไรก็ตามฉันก็รู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่ดี นอนหลับก็ไม่ค่อย สนิท ถ้าเปลี่ยนเป็นเธอ เธอไม่กลัวหรือยังไง แค่คำถามเดียว เธอจะมาหรือไม่มา” หล่อซินก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพูดยังไงให้ เข้าใจ

“แม่สาวใหญ่ของฉัน เธอกลัวก็เลยเรียกให้ฉันไปหา ถ้า หากว่าที่ของเธอเป็นเหมือนถ้ำมังกรหรือหมาจิ้งจอกที่ อันตรายจะทำยังไง เธอถูกขย้ำคนเดียวไม่พอ ยังต้องการให้ฉัน พลอยโดนไปด้วย ฉันจะบอกเธอไว้นะ ผู้หญิงธรรมดาอาจสู้เธอ ไม่ได้ แต่ฉันเปรียบดั่งหญิงสาวท่ามกลางดอกไม้สีเหลืองเลยนะ ถ้าหากโดนขย้ำไปจริงๆละก็ เธอจะชดใช้ให้ฉันยังไงกัน” สูเสี่ยว ฉิงเดินมาถึงระเบียงก็พูดจาตลกขึ้นมาทันที

“ทําไมเธอไม่ไปตายซะ อะไรคือเปรียบเท่าฉันไม่ได้ แล้วฉันจะ ไม่ใช่แล้วเหรอ” หลี่อยู่ในพูดออกมาอย่างหงุดหงิด
“เธอก็เป็นอีก้อนหนึ่ง ตอนที่เธออยู่อเมริกากับเสี่ยวจีนหุ้นตั้ง สามปีถามจริงไม่ทําอะไรกันเลยเหรอ ยังไงก็ตามฉันไม่เชื่ออยู่ แล้ว

“เธอจะเชื่อไม่เชื่อก็ตามใจฉันคุยเรื่องจริงจังอยู่อย่ามา ขัดจังหวะ เธอจะมาหรือไม่มากันแน่” หล่อชินรู้ตัวว่าเธอไม่มี ทางชนะสูเสี่ยวนิ่ง ดังนั้นเธอจึงออกคำสั่งแทน

“ไป ฉันต้องไปอยู่แล้ว ถ้าหากว่าโดนขยี้ขึ้นมา ฉันจะได้ไม่ เสียเปรียบมากเท่าไหร่” สูเสี่ยวถึงหัวเราะออกมา

“ในที่สุดก็พูดในสิ่งที่คนเขาพูดกัน” หล่อในอารมณ์ดีขึ้นมา

“ฉันบอกว่า ถ้าหากเธอจับเย่หลิงเทียนขึ้นมาฉันก็คงจะ เสียดายมากๆเลยละ ผู้ชายที่หล่อขนาดนี้เกิดมาฉันพึ่งเคยเจอ ครั้งแรกในชีวิต ถ้าโดนเธอจัดการไปละก็ฉันก็คงจะต้องร้องไห้ จนไม่มีน้ำตาแน่ๆเลย” สูเสี่ยวนิงหัวเราะไม่หยุด

“สูเสี่ยวฉิง เธอ .. ไม่คุยกับเธอแล้ว หลังเลิกงานไปทานข้าว ด้วยกันนะ” หล่อในอารมณ์เสียจริงๆ พูดเสร็จกดวางสายทันที

สูเสี่ยวนิ่งมองสายที่ถูกวางใส่อย่างตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะ ออกมาไม่หยุด ผู้หญิงคนนี้ช่างไม่มีอารมณ์ขันเลยจริงๆ

หลังจากเลิกงาน เย่หลิงเทียนขับรถพาหล่อชินออกมา ซึ่ง ออกมาได้ไม่นาน เย่หลิงเทียนมองกระจกหลังรถเป็นพักๆ จาก นั้นจู่ๆก็เลี้ยวรถเข้าไปในตรอกเล็กๆทันที แล้วขับทะลุผ่านตรอก นั้นไป
“เย่หลิงเทียนนายทำอะไร นี่กำลังจะไปไหน” การกระทำของ เย่หลิงเทียนทำให้หล่อชินตกใจ และอยากรู้ ในเวลานี้ฟ้าเริ่มจะ มืดแล้ว ในตรอกซอยไม่ค่อยจะมีคน แล้วจู่ๆเย่หลิงเทียนขับรถ เข้ามาในนี้หล่อชินจะไม่กลัวได้ยังไง

“คุณไม่ต้องห่วง นั่งในรถให้สบายไปเถอะ” เย่หลิงเทียนไม่ สนใจ ขับรถเข้าไปในตรอกเล็กๆเรื่อยๆ ตรอกซอยไม่ได้กว้าง อะไร มีขนาดกว้างมากกว่ารถเพียงนิดเดียว คนธรรมดาทั่วไป คงจะไม่ขับรถเข้ามาในนี้สักเท่าไหร่ เย่หลิงเทียนไม่เพียงแต่ขับ รถเข้ามาอย่างเดียว แล้วยังขับเร็วจนแทบจะบินได้ แค่ไม่นานก็ ออกมาจากตรอกเล็กๆนั้นแล้วเข้ามาในถนนใหญ่อีกเส้นหนึ่ง

“เย่หลิงเทียน นายกำลังทำบ้าอะไรอยู่ เอารถของฉันมาขับ โลดโผนหรือยังไง นายรู้ไหมว่ารถคันนี้ราคาเท่าไหร่ ถ้ามันแตก ออกมาจะทำยังไง ถ้าในซอยมีคนโผล่ออกมาจะทำยังไง” หล่อ ซินโกรธสุดขีด

“ด้านหลังมีรถหนึ่งคันตามเรามาติดๆ ตั้งแต่หลังจากออกมา จากบริษัทก็ตามหลังเรามาเรื่อยๆ” เย่หลิงเทียนพูดออกมานิ่งๆ

“สะกดรอยตาม” คำพูดของเหลิงเทียนทำให้หล่อซินตกใจ ขึ้นมา รีบหันไปดูด้านหลัง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ