Super Bodyguard

บทที่ 020 สะกดรอยตาม



บทที่ 020 สะกดรอยตาม

“ไม่ต้องดูแล้ว เราหนีพ้นแล้ว” เย่หลิงเทียนพูดต่อทันที

“นายดูหนังจับผู้ร้ายมากไปหรือเปล่า สะกดรอยตามด้วย เป็น ไปได้ยังไง ไม่แน่เขาอาจจะแค่ไปทางเดียวกันกับเราก็ได้” หล่อ นคิดไปคิดมา

“ไม่มีทางไปทางเดียวกันแน่นอน ในช่วงเวลานั้นผมตั้งใจเปิด ไฟเลี้ยวผิดข้างทำท่าเหมือนกับว่าจะเลี้ยว แล้วรถคันนั้นก็เลี้ยว ตามเรามาทุกครั้ง เห็นว่าผมกลับจะกลับไปทางเดิมก็ขับกลับ ตามเหมือนกัน ตามหลังเรามาอย่างใกล้ชิดตลอด ถ้าหากพูดได้ ว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญละก็ มันคงเป็นโอกาสที่มีน้อยในรับรางวัล ในการจับสลากครั้งแรก” เย่หลิงเทียนพูดอย่างเย็นชา

“ทำไมถึงสะกดรอยตามพวกเราละ” หล่อชินตกตะลึง จึงถาม ออกมา

“ไม่ทราบครับ คราวหลังต้องระวังตัวให้มากขึ้น การโดน สะกดรอยตามไม่ใช่เรื่องที่ดี” เย่หลิงเทียนพูดออกมานิ่งๆ จาก นั้นจอดรถที่ปากประตูร้านอาหารบุฟเฟต์ นี่คือสถานทานข้าวที่ที่ หล่อชินกับสูเสี่ยวจึงนัดกันไว้ จริงๆ แล้วใช้เวลาไม่นานในการ มาที่นี่ เป็นเพราะว่าเย่หลิงเทียนตั้งใจวนอยู่รอบหนึ่งถึงจะมาที่นี่ เพราะแบบนั้นเลยใช้เวลาไปไม่น้อยเลย

ถูกเย่หลิงเทียนทำให้ตกใจว่ามีคนสะกดรอยตาม หลังจากที่ หลอวูซินลงจากรถมีอาการตื่นเต้นเล็กน้อย หยุดมองซ้ายมองขวา

“เข้าไปข้างในได้แล้ว หนีพ้นจากคนพวกนั้นแล้ว ผมตั้งใจขับ วนอยู่หนึ่งรอบเพื่อมาที่นี่ ไม่มีทางที่จะตามมาทัน” เห็นอาการตื่น เต้นของหล่อซู่ซินแบบนั้น เย่หลิงเทียนเลยพูดออกมาเบาๆ

พอได้ยินเย่หลิงเทียนพูดแบบนั้นหล่อนถึงจะสบายใจขึ้นมา

แล้วเดินเข้าไปในร้านอาหาร

ด้านในร้านอาหารบุฟเฟต์ สูเสี่ยวจึงนั่งอยู่ที่โซฟาตรงเขตพัก ผ่อนเล่นมือถืออยู่คนเดียว พอเห็นหล่อซินเดินเข้ามาก็พูดอย่าง ไม่พอใจ “ฉันขอพูดอะไรนะแม่สาวใหญ่ อย่าให้ทุกครั้งที่เธอ เลี้ยงข้าวฉันต้องให้ฉันมารอเธอทุกครั้งเลย เธอรู้ไหมว่า นั่งอยู่ ตรงนี้มองดูคนอื่นเขาทานอาหารกันมันรู้สึกไม่ดี”

เย่หลิงเทียนเดินเข้ามา มองเห็นเสี่ยวนิ่งแล้วพยักหน้า ทักทาย “อาจารย์สู”

หล่อซินมีความแปลกใจระหว่างเย่หลิงเทียนเรียกชื่อของ เสี่ยวนิ่งที่เปลี่ยนไป ต้องมีอะไรเกิดขึ้นและมีการเปลี่ยนแปลง อะไรแน่ๆ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร แล้วเดินตรงเข้าไปข้างใน

สองสาวนาจานของตัวเองไปตักอาหารที่ตัวเองอยากทานกัน เย่หลิงเทียนตกมาเพียงไม่กี่อย่าง จากนั้นนั่งลงที่โต๊ะข้างๆของ สองสาว

“เย่หลิงเทียน ทำไมนายไปนั่งทานตรงนั้นคนเดียวละ” สูเสี่ยว ฉิงมองแล้วถามเย่หลิงเทียน
“พวกคุณคุยกันไป ผมนั่งทานอยู่ตรงนี้ก็เหมือนกัน” เย่หลิง เทียนพูดเบาๆ ผู้หญิงสองคนพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของผู้หญิง ส่วนเขาผู้ชายคนเดียวไม่อยากจะเข้าไปร่วมด้วยอยู่แล้ว

“ไม่ต้องไปสนใจเขา เขาไม่รู้เลยว่าจะเอาเรื่องอะไรมาคุยกันที่ นี่” หล่อชินมองไปที่เย่หลิงเทียนแล้วหันมาพูดกับสูเสี่ยวฉิง

“เธอจะคุยเรื่องอะไรเหรอ ยังกลัวคนอื่นจะได้ยิน เธอเตรียมตัว จะคุยเรื่องเขาหรือว่าเตรียมจะคุยกับฉันเรื่องเสียวจนหุ้นของเธอ ละ จะบอกให้นะ คุยกับผู้หญิงตายด้านอย่างเธอมีอะไรน่าคุย เธอค่อยๆกินไปคนเดียวนะ ฉันไปคุยกับผู้ชายก่อนละกัน” สู เสี่ยวฉิงพูดเสร็จ ยกจานตัวเองไปหาเหลิงเทียนที่โต๊ะตรงนั้น

การกระทำของเสี่ยวนิ่งครั้งนี้มันเป็นความขาดหมายของหลี่ อชินอย่างสมบูรณ์แบบ หล่อซินโมโหจนตะโกนนออกมา “สู เสี่ยวฉิง เธอ………

เห็นว่าสูเสียวจึงเดินมาถึงโต๊ะของตัวเอง เย่หลิงเทียนตกใจ เล็กน้อย จากนั้นก็ก้มหน้าทานอาหารของตัวเองต่อไป

“เธอเป็นทหารมาสิบปีเลยเหรอ” สูเสี่ยวจึงถามเย่หลิงเทียน เย่หลิงเทียนเงยหน้าขึ้นมามองดูเสี่ยวนิ่งด้วยความสงสัย แล้ว ก็พยักหน้า ถือว่าเป็นการตอบแล้ว

“พูดถึงเหตุผลการเป็นทหารมาสิบปีนับว่าเป็นทหารด้วยความ เต็มใจไม่ใช่ทหารจําเป็น ไม่สามารถบังคับให้ถอนตัวได้ จู่ๆ ทำไมนายถึงออกจากกองทัพละ” สูเสี่ยวจึงถามขึ้นมา
“พวกคุณคุยกันไป ผมนั่งทานอยู่ตรงนี้ก็เหมือนกัน” เย่หลิง เทียนพูดเบาๆ ผู้หญิงสองคนพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของผู้หญิง ส่วนเขาผู้ชายคนเดียวไม่อยากจะเข้าไปร่วมด้วยอยู่แล้ว

“ไม่ต้องไปสนใจเขา เขาไม่รู้เลยว่าจะเอาเรื่องอะไรมาคุยกันที่ นี่” หล่อชินมองไปที่เย่หลิงเทียนแล้วหันมาพูดกับสูเสี่ยวฉิง

“เธอจะคุยเรื่องอะไรเหรอ ยังกลัวคนอื่นจะได้ยิน เธอเตรียมตัว จะคุยเรื่องเขาหรือว่าเตรียมจะคุยกับฉันเรื่องเสียวจนหุ้นของเธอ ละ จะบอกให้นะ คุยกับผู้หญิงตายด้านอย่างเธอมีอะไรน่าคุย เธอค่อยๆกินไปคนเดียวนะ ฉันไปคุยกับผู้ชายก่อนละกัน” สู เสี่ยวฉิงพูดเสร็จ ยกจานตัวเองไปหาเหลิงเทียนที่โต๊ะตรงนั้น

การกระทำของเสี่ยวนิ่งครั้งนี้มันเป็นความขาดหมายของหลี่ อชินอย่างสมบูรณ์แบบ หล่อซินโมโหจนตะโกนนออกมา “สู เสี่ยวฉิง เธอ………

เห็นว่าสูเสียวจึงเดินมาถึงโต๊ะของตัวเอง เย่หลิงเทียนตกใจ เล็กน้อย จากนั้นก็ก้มหน้าทานอาหารของตัวเองต่อไป

“เธอเป็นทหารมาสิบปีเลยเหรอ” สูเสี่ยวจึงถามเย่หลิงเทียน เย่หลิงเทียนเงยหน้าขึ้นมามองดูเสี่ยวนิ่งด้วยความสงสัย แล้ว ก็พยักหน้า ถือว่าเป็นการตอบแล้ว

“พูดถึงเหตุผลการเป็นทหารมาสิบปีนับว่าเป็นทหารด้วยความ เต็มใจไม่ใช่ทหารจําเป็น ไม่สามารถบังคับให้ถอนตัวได้ จู่ๆ ทำไมนายถึงออกจากกองทัพละ” สูเสี่ยวจึงถามขึ้นมา
“เอาละ อาจารย์สู ผมทานเสร็จแล้ว ขอตัวสักครู่นะครับ” เย่ หลิงเทียนลุกขึ้นยืนทันที ที่แน่ใจแล้วว่าทุกอย่างในจานสะอาด แล้ว

“ทำไมเร็วจัง” สูเสี่ยวนิงถลึงตามอง เท่าที่รู้ว่า อาหารที่อยู่ใน จานของเธอเหมือนกับไม่มีการแตะต้องเลยสักนิด

“ผมชินแล้ว” เย่หลิงเทียนพูดออกมา แล้วลุกขึ้นเดินออกไป

สูเสี่ยวฉิงทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยกจานของตัวเองกลับไปนั่ง ข้างๆหลีอวชิน

“เธอกลับมาอีกทำไมละ เธอไม่ได้ไปคุยกับหนุ่มหล่อแล้วเหรอ ทำไมละ จนมุมแล้วละสิ” หล่อชินพูดจาอารมณ์ไม่ค่อยดี

“ใครบอกละ เราสองคนคุยกันได้ดี เธอรู้ไหมว่าเราสองคนคุย

อะไรกัน ฉันบอกเขาไปว่าเธอกลัวเขามาทำอะไรเธอในตอนดึก

เลยเรียกให้ฉันไปนอนเป็นเพื่อน” สูเสี่ยวนิ่งพูดไปกินไป

“อะไรนะสูเสี่ยวฉิง เธอพูดจริงเหรอ” หล่อจู่ในถลึงตาใส่ “พูดออกไปจริงๆ เธอรู้ไหมว่าเขาพูดว่าอะไร” สูเสี่ยวฉิงพูดต่อ

“พูดว่าอะไร” หล่อจู่ซินเริ่มมีความสนใจ

“เขาบอกว่า เขาไม่สนใจเธอเลยสักนิด ถึงแม้เธอจะถอด เสื้อผ้าจนหมดต่อหน้าเขาก็ไม่สนใจ เขาสนใจแค่ผู้หญิงแบบฉัน เท่านั้น แล้วยังบอกอีกว่าฉันสวยกว่าเธอเยอะเลย พูดว่าฉันทั้ง สวยทั้งน่าหลงใหล” สูเสี่ยวฉิงพูดจาไร้สาระไปเรื่อย
“เธอโกหกชัดๆ ท่อนไม้อย่างเขาที่ทั้งพูดออกมาไม่ถึงสิบ ประโยคนะเหรอ ถ้าเขาพูดมากมายแบบนั้นกับเธอจริงๆละก็มัน ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆเลย” หล่อชินรู้ตัวว่าสูเสี่ยว งกำลังโกหกอยู่ เลยไม่โมโหอะไร

“ฉันว่านะสูเสี่ยวจิง ฉันเห็นได้ว่าสองวันมานี้เธอมีบางอย่างที่ ไม่ปกติ ทําไมเธอถึงดูสนใจอะไรในตัวเย่หลิงเทียน หรือว่าตัว เธอไปเอาอกเอาใจเขา เธอเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยอยู่ดีๆ มี การศึกษาที่ดี ให้ความรู้แก่ผู้คน เจียมเนื้อเจียมตัวหน่อยนะ ยัง ทำตัวให้คนอื่นมองข้าม เธอไม่รู้สึกขายหน้าบ้างหรือยังไง” หลี่ อซินต่อว่าให้สูเสี่ยวจึง

“ใครว่าฉันถูกมองข้ามกัน พวกเราสองคนคุยกันสนุกดี เขา….เขาก็แค่อยากไปทำธุระส่วนตัว จะต้องไปเข้าห้องน้ำ เท่านั้นเอง” สูเสี่ยวฉิงหาข้อแก้ตัวให้กับตัวเอง

“เธอโกหกกันชัดๆ เธอมองไม่เห็นจริงๆเหรอว่าเขานั่งอยู่ตรง นั้น” หล่อวซินหัวเราะออกมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ