Super Bodyguard

บทที่002 น้องสาวเยซวง



บทที่002 น้องสาวเยซวง

“ไม่ใช่ครับ ผมต้องการทั้งหมดห้าแสน ระยะเวลาจ้างงานจะเวลา หนึ่งปีก็ดี หรือสองปีก็ดี แล้วแต่คุณ แต่ว่าผมมีข้อแม้อย่างนึง ผม ต้องการเงินห้าแสนนี้ทันที” ชายหนุ่มส่ายหัวแล้วพูด

“ห้าแสนต่อหนึ่งปีจำนวนนี้ค่อยสมเหตุสมผลหน่อย แต่ว่าตอน นี้ก็ให้เงินนายเลย เป็นไปไม่ได้แน่ ถึงแม้เราจะเซ็นสัญญาว่าจ้าง กันแล้ว แต่ว่านายไม่ใช่คนของบริษัทรักษาความปลอดภัยแล้ว ฉันจะไปร้องเรียนนายได้ยังไง? ถ้านายได้เงินไปแล้วเกิดหนีขึ้น มา ฉันจะไปตามกับใครได้?”หลี่เซียนหยวนขมวดคิ้วถาม

“นี่คือบัตรประชาชนของผม ข้างในมีที่อยู่บ้านผม คุณไปตรวจ สอบดูได้ ผมสามารถเอาบัตรประชาชนไว้ที่คุณ อีกอย่าง ผม สามารถเขียนใบกู้ยืมให้คุณ ถ้าผมไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ คุณ แจ้งความมาจับผมได้ตลอดเวลา บัตรประชาชนของผมอยู่ที่คุณ ผมก็หนีไม่ได้อยู่แล้วใช่ไหมหล่ะ?” ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ

“ดี เขาว่าคนน่าสงสัยก็อย่าจ้าง คนที่จ้างแล้วก็อย่าสงสัย ฉัน หลี่เซียนหยวนทำธุรกิจตามกฎกติกาเสมอ แต่ว่าวันนี้ฉันจะขอ แหกกฎสักครั้ง ฉันเชื่อนาย เอาตามนี้ห้าแสนต่อหนึ่งปี ถ้านาย เอาเงินแล้วหนีไปจริง ๆ ก็ถือซะว่าฉันหลี่เซียนหยวนตาบอดก็ แล้วกัน” หลี่เซียนหยวนพูดจบก็หยิบปากกากับกระดาษขึ้นมา เขียน พอเขียนเสร็จก็ยื่นกระดาษไปตรงหน้าชายหนุ่ม ตอนที่ชาย หนุ่มยื่นมือจะมาหยิบนั้น เขาก็ชักกลับมา แล้วพูดว่า “แต่ว่า ก่อนอื่นฉันมีบางเรื่องต้องพูดให้ชัดเจนก่อน ฉันจ้างนายมาเพราะว่า จะให้ไปเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของลูกสาวฉัน นายต้องคุ้มกัน ความปลอดภัยของเธอทุกวันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง นี่คือเรื่องพื้น ฐาน อีกอย่าง นายห้ามไปวุ่นวายกับชีวิตเธอ และยิ่งห้ามมี พฤติกรรมเกินเลยใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่งั้น ถึงนายจะฝีมือดีแค่ไหน ฉัน ก็จะต้องให้นายได้รับผลตอบแทนอย่างสาสมแน่นอน”

“เรื่องนี้คุณไม่ต้องพูดผมก็รู้อยู่แล้ว ผมรู้ว่าควรทำอย่างไร เรื่องพวกนี้คุณสามารถระบุให้ชัดเจนในสัญญาได้เลย ถ้าหากผม ผิดสัญญา ก็ต้องรีบชดใช้เงินห้าแสนคืนให้คุณทันที และรับโทษ ตามที่กฎหมายกำหนด” ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วกล่าว

“ดี เสี่ยววัง ไปร่างสัญญามาฉบับหนึ่ง” หลี่เซียนหยวนพูดจบก็ หันไปบอกกับเลขาข้าง ๆ หลังจากนั้นก็ยื่นกระดาษแผ่นนั้น ให้ ชายหนุ่มแล้วพูด “นายไปเซ็นสัญญาที่เลขาฉัน เสร็จแล้วก็นำ กระดาษแผ่นนี้ไปรับเงินที่ฝ่ายการเงิน ฉันหวังว่านายจะเริ่มงาน ได้ทันที”

“เรื่องนี้ไม่ได้ครับ ผมรับเงินเสร็จแล้วจำเป็นต้องออกไปครั้ง นึง อย่างมากก็ชั่วโมงนึง หนึ่งชั่วโมงให้หลังผมจะกลับมาหาคุณ ที่นี่อีกครั้ง” ชายหนุ่มส่ายหัวแล้วพูด

หลี่เซียนหยวนมองชายหนุ่มอย่างวิเคราะห์ แล้วพยักหน้า กล่าว “โอเค ได้ ฉันเชื่อใจนาย บอกฉันมาว่า นายชื่ออะไร?”

“ผมชื่อเย่หลิงเทียน ครับ” ชายหนุ่มพูดจบแล้ว ก็ถือกระดาษ แผ่นนั้นแล้วเดินไปที่ห้องทํางานของเลขาข้างนอกเลย
พอเย่หลิงเทียนเซ็นสัญญาเสร็จ และได้เงินแล้วก็ออกจาก บริษัทซานหยวนกรุ๊ปไป เขาเรียกแท็กซี่ได้คันนึงก็ตรงไปโรง พยาบาลเลย ที่โรงพยาบาลพอหาห้องทำงานของหมอเจ้าของไข้ เจอ เขาก็เข้าไปถามเลย “คุณหมอหว่างผมหาเงินได้ครบแล้ว ครับ อยากทราบว่าถ้าผมไปจ่ายเงินตอนนี้เลย จะผ่าตัดได้เร็ว ที่สุดเมื่อไหร่ครับ?”

“คงจะสัปดาห์หน้ามั้ง สำหรับวันเวลาที่แน่นอนเราต้อง กําหนดตามสภาพร่างกายของคนไข้อีกที คุณรีบไปจ่ายเงินก่อน เลย เพราะว่าทั้งหมดก็มีแค่ไตอันนี้ที่เข้ากันได้ อีกอย่างยังมี คนไข้อีกคนก็เตรียมจะผ่าตัดปลูกถ่ายไตเหมือนกัน คุณต้องรีบ ไปซื้อไตไว้ก่อนค่อยว่ากัน” คุณหมอบอกกับเย่หลิงเทียน

“ได้ครับ ผมจะรีบไปจ่ายเงินทันทีเลยครับ เย่หลิงเทียนพยัก หน้า แล้วเดินออกไป

เย่หลิงเทียนรูดบัตรไปทั้งหมดสองแสน ค่าไตหนึ่งแสน ค่า ผ่าตัดอีกหนึ่งแสน นี่แค่เป็นค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดเท่านั้น ตามที่ คุณหมอคาดการณ์ไว้ ค่ารักษาหลังการผ่าตัดยังต้องใช้อีกแสน กว่า ถ้าจะให้มั่นใจว่าพอแล้วละก็ ต้องเตรียมไว้ประมาณห้าแสน นี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมเย่หลิงเทียนถึงเปิดปากก็ต้องขอเงินห้า แสนทันทีเลยด้วย”

หลังจากจ่ายเงินแล้ว เย่หลิงเทียนจัดการเรื่องราวขั้นตอนต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย มองเด็ก สาวที่ใบหน้าขาวซีดในห้องผู้ป่วย ถึงแม้จะเป็นชายแข็งแกร่ง อย่างเย่หลิงเทียน ดวงตาก็ยังอดไม่ได้ที่จะน้ำตารื้นขึ้นมา
“พี่ พี่มาแล้วเหรอ ทำไมวันนี้พี่มาเร็วจัง เด็กสาวเห็นเย่หลัง เทียนแล้วดีใจพูดขึ้น

เด็กสาวอายุประมาณสิบสองขวบ ดูเป็นเด็กเรียบร้อย

“วันนี้เป็นวันหยุดพี่ เป็นยังไงบ้าง? รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม?” เย่ หลิงเทียนเอ่ยถาม

“ก็เหมือนเดิม ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เราเลิกรักษากันเถอะ เราออกจากโรงพยาบาลเถอะนะ ฉันได้ข่าวว่า ค่ารักษาต้องใช้ เงินทั้งหลายแสน เราจะไปหามาจากไหนทั้งหลายแสน? และตอน นี้รออยู่ที่นี่ก็ไม่เห็นมีประโยชน์อะไรเลย วันนึงยังต้องใช้เงินตั้ง เยอะขนาดนี้ ที่จริงหนูรู้ว่าพี่เสียดายหนู แต่ว่าพี่ เรื่องเกิดแก่เจ็บ ตายเป็นเรื่องที่ฟ้ากำหนดมาแล้ว ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้หรอก หนูอยู่มาตั้งสิบสองปีแล้ว มีพี่ชายที่รักหนูขนาดนี้ หนูก็พอใจแล้ว จริง ๆ นะ อย่าเปลืองเงินเยอะขนาดนั้นกับคนที่ไม่มีความหวัง อย่างหนูอีกเลย พี่ยังต้องแต่งงานต้องซื้อบ้านอีกนะ” เด็กสาวพูด อยู่ก็น้ำตาไหลลงมา

“เธอพูดจาเหลวไหลอะไร ใครบอกว่าเธอไม่มีความหวังแล้ว?

เธอไปฟังใครพูดมา? พี่บอกเธอนะ พี่ถามหมอแล้ว โรคของเธอ

รักษาได้ ขอแค่หาไตที่เข้ากันได้ ได้ผ่าตัดปลูกถ่ายไตก็พอแล้ว

รักษาต่อเนื่องอีกระยะหนึ่งก็หายเป็นปกติได้แล้ว เรื่องเงินเธอไม่

ต้องกังวล พี่จ่ายเงินให้โรงพยาบาลแล้วนะ ตอนนี้เธอไม่ต้องคิด

อะไรทั้งนั้น ทำใจให้สบายรักษาร่างกายให้แข็งแรงเตรียมพร้อม

ผ่าตัดก็พอ เข้าใจไหม?” เย่หลิงเทียนบอกกับเด็กสาว
“จ่ายเงินแล้วเหรอ? พี่ไปเอาเงินมาจากไหน? นี่มันตั้งหลาย แสนนะ?” เด็กสาวตกใจมาหน้าเหลิงเทียน

“เรื่องนี้เธอไม่ต้องสนใจหรอก ในเมื่อเป็นเงินที่พี่หามาได้ไม่ ได้ปล้น ไม่ได้ขโมย ใครมา อีกอย่าง ช่วงนี้พี่ต้องทำงานล่วงเวลา อาจจะไม่มีโอกาสมาเยี่ยมเธอบ่อย ๆ โทรศัพท์เครื่องนี้ เธอเก็บ ไว้ดี ๆ ฉันจดทะเบียนเบอร์โทรให้แล้ว มีอะไรก็โทรหาพี่โดยตรง เลยนะ ได้ยินไหม อยากกินอะไรก็บอกพยาบาล พี่ฝากพยาบาล ไว้แล้ว ถึงเวลาพี่ค่อยเอาเงินให้เธอ พี่ยังต้องกลับไปทำงานต่อ อีก ก็จะไม่คุยเยอะแล้วนะ เธอต้องเชื่อฟังและทำตามคำแนะนำ ของหมอด้วย เข้าใจไหม?” เย่หลิงเทียนกำชับกับเด็กสาวอีกครั้ง

“อืม โอเคค่ะพี่ พี่อย่าเหนื่อยมากนะ” เด็กสาวได้ยินว่าตัวเองมี ทางรอดแล้ว ก็ดีใจมาก ๆ ในใจเธอรู้ดี เงินก้อนนี้ต้องได้มา อย่างยากลำบากมากแน่นอน

ตอนที่เย่หลิงเทียนเดินออกจากห้องผู้ป่วยนั้น ในที่สุดน้ำตาก็ ไหลลงมา เขารีบเอามือปัดออก แล้วเดินไปนั่งบนม้านั่งตัวยาว หยิบบุหรี่ออกมาจุดหนึ่งม้วนแล้วก็เริ่มสูบ

เด็กสาวข้างในเอเย่ซวง เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเขา พวกเขา สองพี่น้องมีชีวิตตกระกำลำบากมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนเย่หลิง เทียนอายุได้แค่สิบขวบบิดาก็เสียชีวิตไป มารดาของเขาต้อง เลี้ยงดูครอบครัวตัวคนเดียว เย่หลิงเทียนไปเป็นทหารตอนอายุ สิบแปด เพราะว่าร่างกายและทักษะหลาย ๆ ด้านของเขา แสดงออกมาได้ดี ก็เลยถูกเลือกให้เข้าไปฝึกกับหน่วยฝึกพิเศษ
ตอนอยู่ในหน่วยฝึกพิเศษนั้น เขาผ่านการฝึกโหดราวกับ นรกมาสองปี หลิงเทียนกลายเป็นหนึ่งในสองร้อยกว่าคน ได้เข้าร่วมกับหน่วยพิเศษ ช่วงต้นมา นี้ เขารับจดหมายจากทางบ้าน เป็นจดหมายที่เข่วงเป็นคน เขียนมา ในจดหมายเขียนว่ามารดาของเขาหนักมาก หวัง ว่าจะได้เห็นเขาครั้งสุดท้าย แต่น่าเสียดาย ตอนเป็ หลิงเทียนกำลังปฏิบัติหน้าที่ ไม่เห็นจดหมายฉบับด้วย รอจนเขาหน้าที่กลับมาเห็นจดหมายฉบับนี้นั้น มารดา ของเขาก็จากโลกไปได้หนึ่งเดือนแล้ว

ามารดาเสียชีวิตแล้ว เขาเหลือแค่น้องสาวที่กำลังเรียน หนังสืออยู่ หลิงเทียนรู้สึกเขาติดค้างครอบครัวเยอะมาก เพราะฉะนั้น ก็ยื่นเรื่องลาออกจากกรม ตอนแรกหัวหน้าครูฝึก กรมเห็นด้วย แต่พอหลิงเทียนแล้ว เลยอนุมัติเรื่องยื่นออกของเขา

หลังจากเย่หลิงเทียนกลับมาแล้วใช้ชีวิตอยู่กับน้องสาว แต่ ว่านอกจากเรื่องฆ่าแล้ว เขาทำอย่างปลอดภัย เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้โกดังแห่ง หนึ่ง ช่วงเวลาดี มักเสมอ เมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล แล้วตรวจพบเป็นภาวะยูรีเมีย และค่อนข้างรุนแรง จำเป็นต้องปลูกถ่ายไตด่วน แต่ ว่าการถ่ายไตรวม แล้วต้องเงินประมาณห้าแสน ทางบ้านหลิงเทียนยากจน เงินเดือนเป็นทหารมาหลายเขาก็ส่งกลับบ้านหมด เวลานี้ พอดีได้ยินว่าบริษัทรักษาความ ปลอดภัยต้องการคนที่มีฝีมือดีไปเป็นบอดี้การ์ด ได้ยินมาว่าเป็น บอดี้การ์ดได้เงินเดือนไม่น้อย และแล้วเย่หลิงเทียนก็เสนอตัวไป เอง และนี่ก็ทำให้มีฉากเปิดตัวตอนต้นเรื่องของเรื่องนี้เกิดขึ้น

ในใจของเย่หลิงเทียน เชวงคือญาติคนเดียวที่เหลืออยู่บน โลกนี้ เขาติดค้างมารดาไว้เยอะแล้ว แม้แต่หน้าครั้งสุดท้ายก็ ไม่ทันได้เห็น เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะยังไง แม้ว่าตัวเองจะต้องตาย เขาก็จะต้องดูแลน้องสาวให้ดี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ