ตอนที่ 8 นักฆ่าเข้ามา
ตอนที่ 8 นักฆ่าเข้ามา
ปัง!
สีหน้าของป้ายฉินแดงกว่าเดิม ขนาดลำคอขาวใสยังมีสี แดงออกมา ถ้าพูดขึ้นมาอันที่จริงก็มีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง แต่ นั่นเป็นความทรงจำที่ผ่านมายาวนานมากแล้ว ไม่คิดว่า น้าหรุงจะเล่าเรื่องนี้ให้ฉินเฟิงฟัง
“ไม่มีเรื่องแบบนี้!” ป่ายฉินจะไม่ยอมรับแน่นอน
“จริงหรือ อาจจะเพราะน้าหรุงจำผิดแล้ว ฉันค่อยไปถาม พรุ่งนี้อีกรอบ” ฉินเฟิงหัวเราะแหะๆ
“หึ” ป่ายฉินออกเสียง หี อยางเย็นชา พูดว่า”ฉันเตือน เธอนะ ไม่ต้องมาทำพฤติกรรมแบบนี้ ฉันกับเธอไม่มีทาง เป็นไปได้เลย”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เสียงของป้ายฉินเย็นชา กลับสู่ความ เป็นประธานบริษัทที่เย็นชา
“ได้ เธอเป็นเจ้าของห้อง เธอพูดอะไรก็ได้”ฉินเฟิงก็ไม่ อยากจะกระตุ้นป่ายฉินมากเกินไป เห็นได้ดีแล้วก็หยุด พูดว่า”ใช่แล้ว คืนนี้ฉันนอนที่ไหน? ฉันเห็นว่าโซฟานี้ก็ไม่เลวนะ ไม่นั้นนอนที่นี่ก็ได้แล้ว”
เขาไม่พูดยังจะดีกว่า พอพูดมาแบบนี้ ป่ายฉินก็ไม่ อยากจะทำแบบนั้นได้แต่พูดอย่างไม่มีทางเลือกว่า”ตาม ฉันขึ้นมา”
ฉินเฟิงรีบตามติดอยู่ข้างหลัง เมื่อเดินมาถึงชั้นสองแล้ว เลือกห้องแขกหนึ่งห้อง
“ฉันเตือนเธอนะ อย่าไปเดินไปทั่ว ถ้าไม่นั้นฉันจะไล่เธอ ออกไปเลยนะ”เหมือนไม่ค่อยไว้ใจฉินเฟิง ป่ายฉินอดที่ จะพูดไม่ไว้
“พอแล้ว เข้าใจแล้ว”ฉินเฟิงโบกมือจะไล่ป่ายฉินออกไป
หลังจากป่ายฉินออกไปแล้วเขารีบปิดประตูห้องและ รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไปด้วย
เมื่อกี้นี้เขารู้สึกได้ว่ามีกลิ่นอันตรายเข้ามา
“ไม่ใช่ว่าหยางเฟิงมาหาถึงหน้าบ้านได้เร็วขนาดนี้เลย หรือ?”ฉินเฟิงไม่แน่ใจ แต่เวลาที่เขาอยู่ในเมืองซีจินยัง น้อยและไม่ได้ไปยุ่งกับกองกำลังอื่น คิดว่าน่าจะเป็น หยางเฟิงไม่มีผิด
แต่ว่าสิ่งที่ทําให้เขาประหลาดใจคือหยางเฟิงมีใจกล้า ถึงขนาดที่สามารถลงมือภายในวิลล่าหวงถิงเป่ย่วนเลย หรือ? แม้ว่าเขาไม่รู้ว่าเบื้องหลังของวิลล่าหวงถิงเป่ย่วน คือใคร แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นในตรงนี้จริงคิดว่าตระกูล หยางจะยืนอยู่ในเมืองซีจิงคงจะยากแล้ว
“เรื่องที่คิดไม่ออกสามารถไว้ข้างๆก่อน จัดการกับคนที่ ต้องการก่อนค่อยว่ากัน”สายตาของฉินเฟิงเต็มไปด้วย ความดุร้าย
ห้องพักแขกที่ฉินเฟิงเลือกไว้ห้องนี้พอดีเป็นห้องที่ขัด ขวางทางที่ไปหาห้องพักของป่ายฉิน อย่างไรก็ตาม อันที่ จริงเป้าหมายของคนนั้นคือฉินเฟิง ส่วนของป่ายฉินฝาง นั้นน่าจะปลอดภัย
“หู่!” ฉินเฟิงถอนหายใจยาวๆออกมา เริ่มที่จะปรับความ สมดุลของร่างกายรอให้คนนั้นขึ้นมาหาด้วยตัวเอง
เวลาผ่านไป แต่ภายในวิลล่าบ้านเลขที่สิบเก้ายังไม่มี เสียงอะไรเกิดขึ้น แต่ฉินเฟิงเหมือนโดนสะกดจิตหยุดนิ่ง นั่งตัวตรงอยู่บนขอบเตียง
“เป็นคนยอดฝีมือ”ฝ่ายตรงข้ามสามารถอดทนมีความ พยายามขนาดนี้เป็นสิ่งที่ฉินเฟิงคาดไม่ถึง แต่ตอนนี้ที่นี่ เขาเป็นคนควบคุมก็ย่อมได้เปรียบไม่น้อย
“01……”
ทันใดนั้น ภายในห้องของป่ายฉินมีเสียงร้องตกใจออก
มา
“ให้ตายเถอะ!”
ฉินเฟิงตะคอกเสียงเบาๆ ไปลากเปิดประตูแล้วกระโดด ออกไป ทําไมเขาคิดไม่ได้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมาเพราะ ป่ายฉิน เพราะฉะนั้นการตัดสินใจเกิดความผิดพลาดไป ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับป่ายฉินเขาจะต้องเสียใจไปตลอด ชีวิตเลย
“เปิดให้ฉัน!”ประตูที่ทำมาจากต้นโอ๊กที่มีคุณภาพอย่างดี โดนเขาใช้เท้าถีบจนบินออกไป
ฉินเฟิงทำตัวเหมือนเสือดาวหลังจากที่ประตูห้องบินออก ไปแล้วก็กระโดดเข้าไป สายตามองไปที่รอบห้องแต่ไม่
เห็นมีเงาของป่ายฉิน
“ซู่ๆๆ!”เหมือนมีเสียงน้ำไหลดังขึ้นมา
“อยู่ห้องน้ำ!”ฉินเฟิงสายตาสว่างขึ้นมาใช้ศอกทุบตี กุญแจประตูแล้วผลักเข้าข้างในโดยไม่ลังเล และตะโกน ดังๆว่า “ใจเย็นๆ มีเรื่องอะไร……
คำพูดของฉินเฟิงที่มีพลังอย่างมากมายแต่ก็ไม่สามารถ พูดต่อไปได้
ป่ายฉินยืนอยู่หน้าเขาโดยที่ไม่ได้สวมใส่แม้แต่ชิ้นเดียว และทำหน้าอึ้งมองมาทางตัวเอง ในสายตานั้นเต็มไปด้วย พลังความแค้นอันตรายที่ฆ่าคนได้เป็นระยะๆ
“ฉันจะบอกว่าที่ฉันเข้ามาคือจะมาช่วยเธอ อย่างนี้เธอ น่าจะเชื่อนะ”ฉินเฟิงทำท่าหันหัวกลับไปอย่างยากลำบาก และทำการอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น
“ไสหัวออกไป ออกไปเลย”แต่ตอนนี้ป่ายฉินจะฟังเขา อธิบายได้ที่ไหน หยิบครีมอาบน้ำมาหนึ่งขวดโยนไปที่ฉิน เฟิง
“Ůj!”
ฉินเฟิงไม่หลบหลีก โดนไปหนึ่งที พูดว่า”เมื่อกี้นี้ฉันคิด ว่ามีนักฆ่าเข้ามาถึงจะวิ่งเข้ามาหา ไม่ว่าเธอเชื่อหรือไม่แต่ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง”
“ออกไป….ออกไป…”ป่ายฉินรีบก้มตัวลงพูดเสียง ร้องไห้
ดูท่าทางแล้วในเวลาชั่วครู่ชั่วยามไม่สามารถพูดให้ เข้าใจกันได้
“เรื่องทั้งหมดนี้คืออะไรกันนะ”ฉินเฟิงยิ้มแบบไม่รู้จะทำ อย่างไร และออกจากห้องน้ำพร้อมใช้มือปิดประตูไป ด้วย
“ปัง!”
ทันใดนั้น ไฟในห้องป่ายฉินก็ดับไปหมดเลย มีลมพัด แรงๆเข้ามาตรงไปที่หลังคอของฉินเฟิง
แม้ว่าไม่เห็นแต่ฉินเฟิงยังสามารถคาดเดาได้ว่านี่คือ เท้าขวาที่ใหญ่และแข็งแรง แรงนี้สามารถทำให้หินแตก ละลายได้ ถ้าโดนถีบจริงๆหัวของเขาอาจจะบินออกไป เลย
“ปัง!”
จะหลบหนีก็ไม่ทันแล้ว นักฆ่าคนนี้เลือกเวลาที่กำลังดี ทําให้ฉินเฟิงไม่มีที่หลบ ในเมื่อไม่มีทางเลือก เขาได้แต่ ยื่นหลังออกไปแทนคอที่อ่อนโยน มีแรงกระทบอย่างแรง เข้าไปในร่างกายของเขาทันที ทำให้เขาบินออกไปชนไป ที่ประตูห้องน้ำที่โดนทำร้ายไปแล้ว
“อา….เธอทำอะไร!”ป่ายฉินยังไม่ฟื้นจากเหตุการณ์เมื่อกี้นี้ ทันใดนั้นร้องเสียงกรี๊ดขึ้นมา
“อย่าออกเสียง นักฆ่ามาแล้ว”ทันใดนั้นฉินเฟิงถุยเลือด ออกมาและตะคอกเสียงเบา
ป่ายฉินเห็นเลือดละอองเต็มไปทั่วอากาศ เชื่อครึ่งไม่ เชื่อครึ่ง
แต่ในขณะนี้ฉินเฟิงกระโดดไปถึงหน้าห้องน้ำ เอียงตัว ไปด้านข้าง ใช้ไหล่ด้านข้างใช้แรงดันเข้าไป
“ปัง!”
รู้ว่าคนนั้นคาดไม่ถึงว่าฉินเฟิงจะฟื้นตัวเร็วคล่องแคล่ว ขนาดนี้ ในเวลาอันเร่งรีบ กมือต่อยไปหนึ่งทีแต่ไม่ได้ทำ ให้ฉินเฟิงบาดเจ็บ กลับโดนแรงกระเทือนทำให้ถอยไป หลายก้าว
“อยู่ข้างในไม่ต้องออกมา”ฉินเฟิงตะโกนพูดกับป่ายฉิน ไปแล้วรีบวิ่งเข้าไปในความมืด
เดินผิดหนึ่งก้าวก็จะผิดทั้งหมด
ป่ายฉินร้องออกมาด้วยความตกใจทำให้แผนของฉิน เฟิงพังไปหมดเลย เขาตกอยู่แผนของฝ่ายตรงข้าม
ถ้าฝ่ายตรงข้างเป็นแค่ยอดฝีมือธรรมดาเขายังสามารถ
เอากลับคืนได้
แต่หลังจากที่ได้ทดสอบการต่อสู้แล้วเขาสังเกตได้เลย ว่าคนนี้ไม่ธรรมดา เมื่อเทียบกับตัวเองแล้วก็ไม่ได้ด้อย กว่านะ
“นี่คือคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวมาก”ฉินเฟิงใช้พยายามมากถึงได้ เอากลับคืนมาหนึ่งตรา แต่ให้คู่ต่อสู้รู้มีป่ายฉินอยู่ในนี้ แล้ว ถ้าคนนั้นใช้ป้ายฉินเป็นอาวุธมาโจมตี บังคับการเค ลื่นไหวของฉินเฟิง ถ้าเป็นอย่างนั้นการเป็นอยู่ของเขาจะ ลำบากกว่าเติม
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงไม่ได้เพราะอย่างนี้รู้สึกตื่นตัว กลับกลายเป็นว่าในสมองเข้าใจชัดเจนกว่าเติม
อยู่ในความมืด คนนั้นเหมือนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ขนาดเสียงหายใจก็มีบ้างไม่มีบ้าง ทำให้ไม่สามารถรู้ ตำาแหน่งที่แน่ชัด
ทางกลับกันตำแหน่งของฉินเฟิงชัดเจนมาก
ป่ายฉินเหมือนตกใจจนอึ้งไปเลย ร่างกายสั่นไม่หยุด ในหัวมีแต่ประโยคเดียวที่วนเวียนอยู่คือ “เขาไม่ได้โกหก ฉัน มีนักฆ่ามาแล้วจริงๆ ……”
“ปัง!”ทันใดนั้น ไฟส่องทางเดินก็ดับไปทั้งหมดอย่าง กะทันหัน
ฉินเฟิงตะคอกด้วยความโมโห”อยากจะไปหรือ ไม่ง่าย ขนาดนี้”ตัวกระโดดขึ้นก็ได้ไล่ตามไป ถ้าให้คนนั้นหนี ไปแบบนี้ นั้นหมายความว่าหลายปีที่ผ่านนี้มาการฝึกฝน อย่างความตั้งใจของเขาก็เหมือนไม่เคยทำ
“หึ่ง!”
เมื่อฉินเฟิงใกล้จะไล่ตามมาถึงหน้าประตูห้อง มีลมพัด จากการชกมือออกมาจากทางเดินอีกด้านหนึ่งมาตรงที่ ศีรษะของเขา
อันที่จริงแล้ว คนนั้นไม่เพียงแต่ไม่ได้อยากจะหนีไป ยัง กลับวางแผนไว้
แต่ฉินเฟิงเหมือนคาดเดาได้ว่าครั้งนี้จะหนึ่งครั้งหนึ่งที ทันใดนั้นร่างกายก้มลง เท้าซ้ายกระโดดไปข้างบนถีบไป ที่ด้านหลัง
การชกมือต่อยของคนนั้นไม่สำเร็จ เมื่อคิดไว้ในใจว่าแย่ แล้วก็โดนฉินเฟิงใช้เท้าถีบไปจนถอยหลังไปหลายเก้า
แต่การถอยหลังนี้ก็จะทำให้ตัวเองอยู่ในมุมอาบโดนฉิน เฟิงขัดขวางทางที่จะหนีไปแล้ว ถ้าเขาอยากจะหนีไปจะ ต้องผ่านด่านฉินเฟิงก่อน
“ใครสั่งให้เธอมา?”ฉินเฟิงถามด้วยเสียงต่ำ
แต่ฝ่ายตรงข้างไม่ยอมพูดยังคงเงียบเหมือนเติม
“ถ้าเธอไม่ยอมพูด นั้นฉันก็จะตีจนเธอจะพูด”ฉินเฟิง ตะคอกออกมา ลำตัวยกขึ้นอีกครั้ง เปลี่ยนกำมือเป็น ฝ่ามือ เหมือนมีดหนึ่งเล่มที่แหลมคมทิ่มลงมาอยู่รวดเร็ว
นี่เป็นท่าทางการฆ่าของหนึ่งในการต่อสู้ แสดงว่าเขา รู้สึกโกรธมากเลยจริงๆ
ทันใดนั้น คนที่อยู่ในความมืดถีบเท้าออกมา อยากจะ
ทําฉากที่ฉินเฟิงขัดขวางเขา
“ยังจะมาอีก!”
ฉินเฟิงมือซ้ายตบไปหนึ่งที ตบไปที่ข้อต่อเท้าขวาของ คนนั้นที่ถือขึ้นมาอย่างตรงๆ เขาถือโอกาสนี้ขึ้นมา เปลี่ยนมือขวากลายเป็นมีดใช้ความแรงตัดไปที่ไหล่ของ คนนั้น
ฮะ!
เมื่อถึงเวลาอันสำคัญ ทันใดนั้นคนนั้นย่อตัวลงทำตัวเตี้ย ลงไป ทำให้ฉินเฟิงท่ามือกลายเป็นมีดนี้ไม่ได้ตัดไปที่ไหล่ ตรงๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าคนนั้นจะไม่เป็นอะไร แม้ว่า ไหล่ของเขายังอยู่แต่ภายในสามเดือนอย่าคิดที่จะขยับ
โดนรังแกถึงขนาดนี้แล้ว คนที่อยู่ในความมืดนั้นก็ไม่ อยากจะอยู่ต่อไป ทันใดนั้นก้มตัวลงมาวิ่งออกไปจากใต้ ตัวของฉินเฟิงเมื่อฉินเฟิงกำลังบินขึ้น
ไม่ใช่มีแค่นี้ เขายังต่อยมือออกมาไปที่ใต้เท้าของฉินเฟิง
“เจาะ!”
ภายในลมพัดของกำมือนั้น ฉินเฟิงรู้สึกถึงพลังของการ หมุนเวียนไม่กล้าไปรับ ได้แต่บินขึ้นข้างบินต่อและได้ ลอยบนฟ้าเลยจริงๆ
รอให้เขาลงมาถึงครึ่งทาง หมุนตัววิ่งออกไปคนนั้นก็ได้ หนีออกไปไกลแล้ว
“ฉันเคยบอกไว้ว่าถ้ามาแล้วก็อย่าคิดจะไป”ฉินเฟิงยิ้มอ ย่างเย็นชาไม่หยุดและวิ่งตามไป
หลังจากวิ่งตามไปไม่กี่ก้าว ฉินเฟิงแอบถอนหายใจ ถอย กลับมา
เขาเกือบจะลือไปเลยว่าในห้องยังมีป่ายฉินคนหนึ่งที่ ต้องการดูแล เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้อย่างน่าสงสารของ ป่ายฉิน ในสมองของเขามีเงาของอีกคนหนึ่งปรากฏขึ้น มา นั้นคือภารกิจสุดท้ายของเขา คนที่ต้องปกป้องถางโล่ วอวู่ ในภารกิจนั้นเขาได้พบเจออันตรายไม่น้อยเกือบจะ ไม่รอด
เสียงร้องไห้ของทั้งสองมาประทับกัน ทั้งในความทรงจํ และในความเป็นจริง ทำให้ฉินเฟิงมีความรู้สึกไม่รู้จะทำ อย่างไรดี
“ฉินเฟิง…………….เธออยู่ที่ไหน……….ยฉินใส่เสื้อ คลุมออกมาจากห้องน้ำ เดินไปด้วยร้องไห้ไปด้วย
“ปัง!”ฉันเฟิงรีบเดินเข้าไปและเปิดฟ้าในห้อง
“ฉินเฟิง เธอไม่เป็นไรใช่ไหม”ป่ายฉินวิ่งเข้าไปกอดฉิน เฟิงทันที ถามอย่างเป็นห่วง เมื่อกี้เธอเห็นฉินเฟิงถุยเลือด ออกมารู้สึกเป็นห่วงมาก
ฉินเฟิงยิ้มขึ้นมาและกอดป่ายฉินไว้อย่างแน่น พูดว่า”วางใจได้แล้ว คนร้ายโดนฉันไล่ออกไปแล้ว ไม่เป็นไร แล้ว”
สําหรับบาดแผลที่อยู่บนร่างกาย นั้นไม่สำคัญไม่จําเป็น ต้องพูดถึง
“คุณหนู…….คุณหนู……”
ทันใดนั้นน้าหรุงร้องวิ่งขึ้นมา แต่นาทีนั้นได้เห็นฉาก นี้ รู้สึกดีใจมาก แต่เมื่อได้เห็นสภาพภายในห้องอย่าง ยุ่งเหยิง ถามไปว่า”คุณหนู เธอเป็นยังไงบ้าง?”
เมื่อได้ยินเสียงของน้าหรุง ป่ายฉินรีบออกมาจากอ้อม กอดของฉินเฟิง ทำหน้าแดงวิ่งไปหาน้าหรุง
“อาลี่วิ่งออกไปตามแล้ว คุณหนูเธอสบายใจได้แล้ว”น้า
หรุงพูดปลอบใจไม่หยุด
แต่ฉินเฟิงรู้สึกไม่สบายใจ ก่อนหน้านี้คนที่ต่อสู้กับเขา เป็นคนที่มีความสามารถ แต่คนที่ชื่ออาลี่เขายังไม่เคย เจอไม่รู้ว่าจะรอดจากการต่อสู้นี้หรือไม่
“ฉันตามไปดู”มีน้าหรุงอยู่กับป่ายฉิน ฉินเฟิงก็สบายใจได้
“ไม่ต้องแล้ว”
ทันใดนั้น มีเสียงดังขึ้นจากด้านล่าง พูดว่า”คนนั้นไปเร็ว มาก ฉันตามไม่ทัน”ในความพูดของเขามีอารมณ์เย่อหยิ่ง แฝงอยู่ หมายความว่าขนาดฉันยังตามไม่ได้ เธอไปก็ไม่มี ประโยชน์
“อาลี เธอได้รับบาดเจ็บไหม”ทันใดนั้นป่ายฉินถาม
“สบายใจได้ คุณหนู ให้เวลาฉันสองวัน ฉันจะต้องจับ เขาออกมาให้ได้”เมื่ออาลี่พูดจบประโยคนี้ก็ได้กลับห้อง ของตัวเองไป
แต่ฉินเฟิงก็ยังฟังออกว่า น้ำเสียงของอาลี่เหมือนรู้สึก อึดอัด น่าจะโดนรังแกมา อย่างไรก็ตาม สามารถรอดจาก คนนั้นได้ แสดงว่าฝีมือของอาลี่ก็ถือว่าดี
หลังจากเปลี่ยนห้องแขกไปอีกห้องแล้ว น้าหรุงก็ได้ กล่องให้ป่ายฉินนอนหลับไป
แต่ฉินเฟิงก็ได้อยู่บนเตียงไม่ได้หลับตาทั้งคืน เขาคิดไว้ ตลอดว่าฝีมือของเขาสามารถจัดการทุกเรื่องได้ แต่ตอน นี้เพิ่งจะกลับมาก็ได้เจอปัญญาหนักอย่างนี้ทำให้เขาได้ ทบทวน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ