เทพนักรบ

ตอนที่ 5 ความเกี่ยวข้องกันของเมเปิลกับมะม่วง



ตอนที่ 5 ความเกี่ยวข้องกันของเมเปิลกับมะม่วง

ตอนที่ 5 ความเกี่ยวข้องกันของเมเปิลกับมะม่วง

ฉินเฟิงยักไหล่ หายใจอย่างเบื่อหน่าย: “ในสายตาของ ผมพวกคุณล้วนไม่ต่างกันเท่าไร ไม่มีอะไรแตกต่าง”

สายตาของหยางเฟิงเย็นเยียบ และโค้งตัวลง พูดอย่าง ตรงไปตรงมา: “พอแล้ว อย่าพูดเรื่องไร้สาระเลยดีกว่า บอกราคามาเลยดีกว่า ต้องการเงินเท่าไรถึงจะออกไป จากป่ายฉิน ขอเพียงแค่คุณออกไป ฉันจะไม่ขมวดคิ้ว เลย”

เป็นอย่างที่คิดไว้ มวยจีนประเภทนี้…….ฉินเฟิงส่ายหน้า อย่างอับจนหนทาง พวกลูกคนรวยเหล่านี้ก็ทำไปทำมาก็ เป็นมวยจีนอย่างนี้ ไม่ให้เงินก็ขู่เข็ญ อย่างนั้นก็คล้ายกับ เขา ใช้กำปั้นแก้ไขปัญหา

“คุณมีเงินอย่างนั้นหรือ?” ฉินเฟิงถามกลับพร้อมหัวเราะ

“ฉันพูดไปแล้ว ขอเพียงคุณบอกราคามา ฉันจะไม่ขมวด คิ้ว” หยางเฟิงเป็นคนไม่พูดมากอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่ควร พูดเขาได้พูดไปแล้ว ถ้าหากฉินเฟิงยังไม่ฟังรู้ความ เขาก็ ไม่ถือสาที่จะมอบบทเรียนให้เขาในตอนนี้
ฉินเฟิงลุกขึ้นยืน คิดแล้วคิดอีกจากนั้นจึงพูด: “เอาอย่าง นั้นก็ได้ ให้ผมสักร้อยพันล้านก็พอ ผมไม่ใช่คนโลภขนาด นั้น เพียงแค่คุณให้ผมแค่ร้อยพันล้าน ผมจะรีบไสหัวออก ไปตอนนี้เลย จะไม่หันกลับมามองเลยแม้แต่น้อย”

ร้อยพันล้าน? กลุ่มลูกคนรวยที่อยู่รอบ ๆ ได้ฟัง ก็แทบ อยากจะเอาหัวของเขาไปล้างบนชักโครก

ถ้าหากมีเงินหลายพันล้านจริง ๆ ใครจะไปต้องการป่าย ๆ ฉิน? มีร้อยพันล้าน ผู้หญิงที่ไหนบ้างจะไม่เข้าหา? หลัง จากได้กลายเป็นคนที่ร่ำรวย ไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงเลย แม้แต่ผู้ชายก็จะมาคอยรับส่งที่หน้าประตูยังได้

สีหน้าของหยางเฟิงเปลี่ยนไป พูดเสียงลึก: “คุณแค่ ต้องการหาเรื่องใส่ตัวอย่างนั้นหรือ?”

ฉินเฟิงยังคงทำตัวเหมือนเดิม แต่น้ำเสียงหนักขึ้นเล็ก น้อย: “นี่คุณพูดผิดแล้ว ผมเป็นคนชอบสร้างเรื่อง แต่ว่า คุณล่ะ ก็ไม่ต่างจากขยะกลุ่มนั้นเท่าไร พวกเขาเป็นขยะ ที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ส่วนคุณยเป็นขยะที่ยัง เอามาใช้ใหม่ได้ แต่ว่าก็มีสิ่งที่เหมือนกัน ในสายตาของ ผม พวกคุณทั้งหมดล้วนเป็นขยะ”

คำพูดของเขา ทำให้คนที่มองอยู่โกรธเกรี้ยว…
“บัดซบ คนคนนี้หยิ่งยโสเกินไปแล้ว คุณชายหยาง ฆ่า เขาเลยครับ เจ้าโง่คนนี้ไม่เคยเห็นคูรอยู่ในสายตาเลย”

“ถูกแล้ว ฉันยังไม่เคยเจอคนที่หยิ่งยโสขนาดนี้มาก่อน ฉินเฟิงนับเป็นอะไร มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว”

“ป่ายฉินไปเอาคคนคนนี้มาจากที่ไหนกัน ไม่โง่ไปหน่อย หรือ? ช่างวางตัวเองเป็นพระเจ้าเสียจริง

สีหน้าของหยางเฟิง ไม่น่ามองอย่างเป็นธรรมชาติ ตั้งแต่ เกิดจนถึงตอนนี้ เป็นครั้งแรกที่โดนคนอื่นว่าเป็นขยะต่อ หน้าคนอื่น ถ้าหากที่นี่ไม่ชผับของคนคนนั้น ตอนนี้เขาคง สั่งให้คนลงมือแล้ว

ร่างกายของคุณชายสำนักเฟิงโข่ คนของเขามีความ สามารถเล่นกังฟู แถมยังเป็นเชื่อถือได้

อย่างน้อยแค่ฉินเฟิงคนเดียว ไม่มีความหมายในสายตา เขา แต่น่าเสียดาย สถานที่ไม่ได้ แม้ว่าเขาจะเคยลงมือที่ นี่ครั้งหนึ่ง แต่ว่าค่าเสียหายที่จ่ายไป ทําให้เขาปวดใจ

แต่ว่าป่ายฉินที่อยู่ในที่นั่งพิเศษ จึงเดินจากที่นั่งพิเศษ เข้าไปในห้องเพื่อพบชายคนหนึ่ง

“ฉินฉิน วันนี้เธอเล่นหนักมือไปหน่อยนะ ฉันเห็นว่าที่คู่หมั้นน้อยของเธอ ช่างโง่เขลาจริง ๆ กล้าพูดต่อหน้าว่า หยางเฟิงเป็นขยะ ฮาฮา พวกเราไม่ได้มีอะไรที่น่าตื่น เต้นขนาดนี้” ผู้ชายคนนั้นดูแล้วเหมือนอายุสามสิบปี หน้ากากด้านข้าง แม้จะเห็นแค่เพียงด้านข้างก็สามารถ เห็นได้ว่าเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลา

คนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เป็นเจ้าของผับแห่งนี้เอง และเป็นที่ ชายของฟางหยูน ฟางเสี่ยง

ป่ายฉินหน้านิ่ง พูดอย่างไม่พอใจ: “คนกลุ่มนั้นทำเกินไป หรือเปล่า แต่เดิมฉันแค่อยากเห็นฉินเฟิงโดนสั่งสอนนิด หน่อย ใครจะไปรู้คนพวกนั้นเป็นพวกเท้ากุ้ง พี่ชายใหญ่ ฟาง คุณลงมือช่วยฉันสักครั้งเถอะนะคะ”

ฟางเสียงมองผ่านกระจก ดูฉินเฟิงแล้วส่ายหน้าพูด: “ไม่ทันแล้ว คู่หมั้นของเธอสร้างความขุ่นเคืองให้หยาง เฟิงไปแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก วางใจเถอะ หยางเฟิง จะช่วยเธอสั่งสอนเขาได้ แต่ฉันก็แปลกใจนะ เธอเรียก คนอื่นมาก็พอแล้ว ทำไมถึงได้เรียกเจ้าเด็กหยางเฟิงมา ด้วยได้?”

พูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของป่ายฉินก็อับจนหนทาง

เดิมทีเธอให้ปางหยูนเรียกทุกคนที่ตามจีบเธอมา แต่ว่า คนกลุ่มนั้นไม่นับรวมหยางเฟิง ในคนกลุ่มนั้นใครบ้างไม่รู้ ว่าเป็นคนบ้าที่กัดไม่ปล่อยคนหนึ่ง ถ้าหากเขามานั่นจะไม่ใช่แค่การสั่งสอนแบบธรรมดา

ก่อนหน้านี้ ป่ายฉันยังบ่นเรื่องการมาถึงของหยางเฟิงกับ หางหยุนไปแล้ว

ฟางหยูนเองก็รีสึกผิดยิ่งกว่าเดิม วางขวดน้ำมันในมือลง: “เป็นความผิดของฉันเอง ฉันจะไปรู้ที่ไหนว่าเธอไม่อยาก ให้หยางเฟิงมาน่ะ จะอย่างไรฉันก็เอารายชื่อของทุกคนที่ ตามจีบเธอมาจดไว้ แล้วติดต่อทีละคน

ฟางเสียงหัวเราะมองฟางหยูน จู่ ๆ ก็นึกขึ้นมาได้ ถาม: “ใช่แล้ว เจ้าลิงตัวนั้นล่ะ?” ตั้งแต่เขาเปลี่ยนคำเรียกหยวน โหวมา เขาก็ไม่เคยมองหยวนโหวดีได้เลย

ฟางหยูนสีหน้ามืดครึ้ม แล้วคิดถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวัน พูดอย่างอามรมณ์เสีย: “ตายไปแล้ว”

พูดถึงเขา ก็นึกถึงเรื่องที่ตัวเองโดนฉินเฟิงเอาจูบแรกไป อยากที่จะตาย ชายหนุ่มคนนี้ยังเป็นว่าที่คู่หมั้นของฝ่าย ฉิน แต่ก็ยังมีโชคดีที่ป่ายฉินต้องการกำจัด จะได้แก้แค้น ได้โดยไม่พะว้าพะวังกับการรักษาหน้าของเธอ

คิดถึงตรงนี้ ฟางหยูนก็กลอกตา ลากฟางเสี่ยงมาอีก

ด้าน

“พี่คะ ช่วยฉันหน่อยได้ไหม ครั้งนี้พี่ต้องช่วยฉัน ไม่อย่างนั้นฉันต้องตายแน่ ๆ” พ่างหยูนพูดเสียงต่ำ ใน สายตาของเธอ วันนี้ฉินเฟิงอย่าได้หวังว่าจะออกไปจากที่ นี่ได้โดยง่าย

“มีเรื่องอะไรถึงได้ทำให้น้องสาวของพี่จริงจังได้ขนาดนี้ พูดมา

“ฉินเฟิงคนนั้น……….จะต้องช่วยฉันสั่งสอนเขานะ เขามัน คนลามก คนลามก พี่คะ พี่จะต้องช่วยฉัน” ฟางหยูน หยุด ไปนาน แถมยังไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องเมื่อกลางวันออกมา แต่ผลลัพธ์ก็ไม่เปลี่ยน ฉินเฟิงอยู่อย่างไม่เป็นสุข

ฟางเสี่ยงมองฉินเฟิง แล้วก็มองฟางหยูนที่ขบเขี้ยวเคี้ยว ฟัน หันมาถามด้วยความสับสน: “พวกเธอรู้จักกัน?”

ฟางหยูนโกรธเกรี้ยวมาก ด่าทอเสียงต่ำ: “ใครจะไป รู้จักเจ้าคนลามกแบบนั้นกัน การรู้จักเขาให้ฉันดูตกต่ำ อย่างไรฉันก็ไม่สน วันนี้พี่ต้องช่วยฉันสั่งสอนเขา ไม่ อย่างนั้น ไม่อย่างนั้น ฉันจะบอกพ่อว่าพี่เปิดผับอยู่ที่นี่”

การข่มขู่นี้ ฟางเสี่ยงต้องอ่อนให้

“ได้ได้ได้ ต้องเอาเรื่องนี้มาขู่พี่ทุกวัน พี่เป็นพี่ชายสุด ที่รักของเธอจริงหรือเปล่า” ฟางเสี่ยงอยากจะร้องแต่ก็ไร้น้ำตา โตมาตั้งขนาดนี้ยังโดนสาวน้อยบีบบังคับได้ แถมยังโดนเธอใช้ประโยชน์นับครั้งไม่ถ้วน

“88 นี่สิถึงสมกับเป็นพี่ชายที่ดี” ฟางหยูนหน้าผากของ เขาหนึ่งที หัวเราพจนตาหยี คล้ายดอกไม้

แต่ภายในใจของเธอ ก็ร่ำร้องถึงการตายของฉันเพิ่งอ ย่างเงียบงัน

“ให้เจ้าบัดซบนั้นเงียบซะ” หยางเฟิงตะคอกใส่ มองฉิน เฟิงอย่างเงียบงัน: “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินอะไรแบบนี้ คุณช่างหยิ่งยโสจริง แต่ขณะเดียวกันก็โง่มาก ถ้าคุณเป็น ลูกผู้ชาย ก็เดินออกไปกับฉัน”

ฉินเฟิงพูดอย่างสนใจ: “ออกไป? พูดตามตรง คุณไม่ เหมาะกับการที่จะผมออกแรง ดังนั้นตอนนี้อารมณ์ของ ผมค่อนข้างดีอยู่ รีบไปซะ ถ้าหากรอจนผมอารมณ์ไม่ดี จุ๊ จุ๊ ไม่สามารถรู้ได้จริง ๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

คำพูดส่วนนี้ หยางเฟิงเองก็เริ่มโกรธขึ้นมาแล้ว

เมื่อไรกันที่เขาต้องทนรับอะไรแบบนี้? ถ้าหากไม่ใช่ เพราะผลที่ตามมาจากการลงมือที่นี่ เขาคงเรียกคนของ เขามานานแล้ว แต่ว่าในตอนนี้ แม้ว่าเขาจะต้องยอมรับ ผลที่จะตามมาจากการสั่งสอนฉินเฟิงเขาก็ยอม
“ให้ฉันได้สั่งสอนเขา อย่ายื่นมือมาช่วย ฉันอยากเห็น สิ่งที่ทำให้พวกเขาหยิ่งยโส” หยางเฟิงตะคอกด้วยความ โกรธ ในเวลานั้น ผู้ชายวัยกลางคนก็กรูกันเข้ามาจาก นอกผับ พวกเขาล้วนใส่ชุดสูท หน้าผากเป็นรอยนูนที่จุด ไท่หยาง มองคล้ายสำนักศิลปะการต่อสู้

และทั้งหกคน ก็คือผู้คุ้มกันฝีมือดีของหยางเฟิง

ในฐานะคุณชายน้อยขององค์กร ถ้าหากไม่มีคนฝีมือ ดีคุ้มกัน ก็ไม่รู้ว่าจะรอดจากลูกศรสีดำอย่างไร และเป็น เพราะมีคนคุ้มกันทั้งหก ดังนั้นหยางเฟิงจึงได้ข่มขู่ได้ ตามใจชอบ และรอดมาได้เสมอ

สามารถพูดได้ว่า เพราะมีคนมีฝีมือทั้งหก ไม่ว่าจะพบ อะไรเขาก็วางใจ

ทั้งหกคนไม่มีลังเล ใช้เท้าเตะกังฟูอย่างคล่องแคล่ว อย่า คิดว่ามีระยะทางมาจากประตูจนถึงฉินเฟิง เพียงไม่กี่ก้าว เท้าก็ใกล้ถึงด้านหน้าฉินเฟิง และล้อมเขาไว้อย่างรวดเร็ว

การใช้ร่างกาย ทำให้ฉินเฟิงรู้สึกสนใจขึ้นมา

“ไม่เลว แต่ก็ยังเป็นแค่เด็กฝึกหัด คิดว่าวันนี้คงได้ ออกแรงอย่างดีแล้ว” ฉินเฟิงสะบัดร่างกาย ยังไม่ทันพูด อะไร เขาก็หายใจไม่ออกแล้ว เมื่อก่อนเขาต้องออกแรงทุกวัน จนกระทั่งถูกข่มขู่จากพวกที่ไม่สนใจวิธีการ แต่ ทว่าชัยชนะก็น่าตื่นเต้น

การมีชีวิตก็ต้องมีเรื่องที่น่าตื่นเต้นบ้างนิดหน่อย…….

ตั้งแต่กลับมา พบสาวสวยมาก็ไม่น้อย จนกระทั่งได้มี ความสัมพันธ์กับหญิงสาวที่งดงามอย่างป่ายฉินแบบมึน ๆ แต่ในสายตาของฉินเฟิง ชีวิตแบบนี้มันช่างน่าเบื่อหน่าย เกินไป

ในตอนที่เริ่มลงมือจากทั้งสองฝั่ง จู่ ๆ ป่ายฉินก็เปิดประตู ที่นั่งพิเศษออกมา ฟางเสี่ยงก็ออกมาจากข้างใน

ใบหน้าที่ครึ่งหนึ่งโดนแสงสลัวของผับส่องทำให้ดูแปลก ไป เสียงเรียบเรื่อยเหมือนน้ำ: “คุณชายหยาง ลงมือในที่ ของผม คุณคงเข้าใจถึงผลลัพธ์ดีนะ หรือจะพูดคือ คุณ ได้ลืมกฎที่ผมตั้งของที่นี่ไปหมดแล้วสินะ”

เมื่ออยู่ต่อหน้าฟางเสี่ยง อารมณ์โกรธของหยางเฟิงก็ สงบลงไปมาก

“พี่ชายใหญ่ฟาง จะอย่างไรวันนี้ผมก็ต้องได้ทำร้ายฉิน เฟิง ผลลัพธ์ที่จะตามมาของที่นี่ของพี่ผมรู้ดี ไม่ว่าจะมี ผลอย่างไร ผมหยางเฟิงก็ยอมรับ” วันนี้ไม่ว่าจะอย่างไร เขาจะต้องทำให้ฉินเฟิงรู้ความขึ้น ว่าใครกันที่เป็นขยะ
ฟางเสียงได้ยินเขาพูดดังนั้น ก็ไม่ยุ่งอะไรมาก กลับมอง ไปทางฉินเฟิง: “พี่น้องฉิน กฎของฉันที่นี่คือทุกคนที่มาที่นี่ สามารถให้ฉันคุ้มครองได้ แค่เพียงตอนนี้นายเปิดปากขอ ร้องฉัน เขาก็จะไม่ทำอะไรนายแล้ว

ในสายตาของเขา ฉินเฟิงอย่างไรก็เป็นคนรักสนุกแน่ แถมการทะเลาะกันที่ใบหน้าจะต้องปูดบวม แต่ทว่ากฎนี้ เขาเป็นคนตั้งเอง เพราะว่าเป็นกฎ อย่างไรก็ต้องทำตาม ไม่มีใครพูดอะไร ไม่เว้นแม้แต่หยางเฟิง

“พวกคุณนี่พูดไร้สาระไม่น้อยจริง ๆ ต่อยก็ต่อย วันนี้ เล็กจะพาพวกคุณเล่นเอง” ใครจะไปรู้ ฉินเฟิงไม่ได้รับ บุญคุณ หลังพูดจบ หมัดทั้งคู่ก็ปล่อยออกมา ซกไปยัง ชายวัยกลางคนที่อยู่ใกล้ที่สุด

เพียงแค่ ตอนนี้เขาใช้แรงเพียงระดับสาม ถ้าหากเป็น สิบ เวลาแค่นี้ คาดว่าเหล่าชายวัยกลางคนจะต้องไป จิบชายามบ่ายอย่างไรสาระแทนแล้ว แน่นอนว่า เขาไม่ สามารถฆ่าคนที่นี่ได้

คนพวกนี้ ยังไม่มีค่าพอให้เขาฆ่าด้วย………

ลาผ่านไปไม่นาน เนื่องจากฉินเฟิงลงมือก่อน ผู้คน โดยรอบล้วนหยุดนิ่ง แม้แต่ฟางเสี่ยงเองก็ไม่เว้น แม้ว่า หยางเฟิงจะหยิ่งยโสมากแค่ไหน แต่เขาก็หยิ่งเพราะมีเงิน เป็นพื้นฐาน ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แม้แต่ผู้มีฝีมือทั้งหกคนที่อยู่ข้างกายเขา แม้ว่าฟางเสี่ยงอยากจะ เอาชนะพวกเขาก็ยังต้องมีของแลกเปลี่ยนชดเชย

แต่เท่าที่เห็นในตอนนี้ คล้ายจะไม่เป็นอย่างนั้น…….

ภายใต้วงล้อมของผู้มีฝีมือร้ายกาจทั้งหก แท้จริงแล้วฉิน เฟิงเป็นคนมีฝีมือ ดูเหมือนว่ายังไม่ได้ออกแรงเต็มที่ แต่ ทว่าเป็นเพื่อนเล่นกับพวกเขาไปอย่างนั้น บางครั้งฉินเฟิ งก็เล่นจนเหนื่อย จึงจัดการกับปัญหาก่อนค่อยไปเล่นกับ คนอื่น

ในเวลานี้ ฉินเฟิงได้ใช่ศักยภาพที่มีเป็นการพิสูจน์ว่าใคร กันที่เป็นขยะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ