เทพนักรบ

ตอนที่ 4 ศัตรูที่มีความแค้นเดียวกัน



ตอนที่ 4 ศัตรูที่มีความแค้นเดียวกัน

ตอนที่ 4 ศัตรูที่มีความแค้นเดียวกัน

หลังจากเดวิดขับรถออกไป สีหน้าของฉินเฟิงก็เยียบ เย็นขึ้นมา

“เด็กน้อย อย่าคิกว่าฉันไม่รู้ลำไส้ของคุณ สายตาของ คุณบอกสิ่งที่อยู่ในใจออกมาหมดแล้ว” ฉินเฟิงเดินฮัม เพลงไปที่รถออดี้ แล้วรอป่ายฉินมาถึง

ผ่านไปไม่นาน ก็ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงของป่ายฉิน

“ออกรถ ไปผับเซิ่งตี้” ป่ายฉินนั่งลงที่นั่งข้างคนขับ แล้ว บอกชื่อของผับออกมา ส่วนที่อยู่นั้น ผับนี้เป็นผับที่มีชื่อ เสียงที่สุดในละแวกนี้ เธอไม่คิดว่าฉินเฟิงที่เป็นคนรัก สนุกจะไม่รู้จัก

ฉินเฟิงหมุนพวงมาลัย ถาม: “ผับเซิ่งตี้อยู่ที่ไหนหรือ? ชื่อ ดูยิ่งใหญ่ดีนะ” ผับเซิ่งตี้ คุณต้องเด็ดขาดขนาดที่จะตั้ง เป็นผับของพระเจ้า ผู้คนในเมืองนี้ ช่างรักการจัดลำไส้ เสียจริง

ป่ายฉินย่นหัวคิ้วถาม: “คุณไม่รู้ว่าผับเซิ่งตี้อยู่ที่ไหน อย่างนั้นหรือ?”
ฉันเฟิงเกาะรษะอย่างเขินอายแล้วตอบ: “ฮิฮิ ผมเพิ่ง กลับมาได้ไม่กี่เดินเองนะ แม้แต่ทางเข้าบ้านของผมเองยัง รู้จักไม่หมดเลย ใช่แล้ว คืนนี้คุณต้อเลี้ยงผมนะ พ่อของ ผมได้ทอดทิ้งผมไปแล้วล่ะ”

“ทอดทิ้ง?” ป่ายฉินขมวดคิ้วแน่น พูดอย่างดูถูก: “ทํา มาพ๔.คุณเป็นเด็กกำพร้าหรืออย่างไร? ฉันเห็นคุณลุง ฉันจะทำอะไรล้วนมองการณ์ไกล ไม่เหมือนคุณที่เป็นคน รักสนุกไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ก็ควรให้คุณรู้จักความยาก ลำบากตั้งแต่เนิ่น ๆ ”

สําหรับการจิกกัดของป่ายฉิน ฉินเฟิงหมดแรงที่จะ ตอบโต้แล้วจริง ๆ อีกอย่างในตอนนี้ยังต้องอยู่ใต้ร่มเงา ของคนอยู่

“ใช่ใช่ใช่ คุณพูดอะไรล้วนถูกทั้งหมด ขอเพียงแค่คุณ เลี้ยงผม คุณจะพูดอะไรผมก็ยอม” ตอนนี้ฉินเฟิงทำได้แค่ เพียงกัดฟันกล้ำกลืนลงท้องไป ต้องตั้งจุดหมายให้แน่ชัด ก่อนค่อยจัดการป่ายฉิน งดงาม!

ป่ายฉินไม่ตอบเขาไปในทันที แต่ทำการถามนำก่อน: “รีบไปได้แล้ว อย่าทำให้เรื่องมันช้าไปกันใหญ่

ฉินเฟิงมองการเล่น ก็ยิ่งเพิ่มแรงเข้าไปอีก: “ได้เลย ไป กันคุณ”
ระหว่างทาง ทั้งสองคนไม่พูดอะไรกันอีกเลย ป่ายฉิน กำลังคิดในใจว่าจะทำอย่างไรกับฉินเฟิงดี และฉินเฟิงก็ กำลังคิดถึงคืนนี้ว่าควรจะกลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านดีหรือ เปล่า อย่างไรทั้งตัวก็เหลือเงินอยู่เพียงน้อยนิด ต้องเรียน รู้เรื่องการประหยัดกินกับอดออมแล้ว

ไม่ต้องสงสัยเลย นอกจากปากกาเงินบนตัวเขายังมี ทรัพย์สินอย่างอื่นอีก

แต่ว่าทรัพย์สินพวกนั้น เป็นของที่เขาเก็บไว้ให้คนอื่น นั่นคือต่อให้เขาหิวตายก็ไม่สามารถเอาไปใช้ได้แม้แต่ชิ้น เดียว………

ยี่สิบนาทีผ่านไป

ฉินเฟิงจอดรถออดี้ที่หน้าผับเซิ่งตี้ ในตอนที่เขายืนอยู่ หน้าทางเข้าผับ และก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนหายใจให้กับ ผับแห่งนี้

“ผมเชื่อคนง่ายนะ นี่ไม่ใช่ผับใช่ไหม กระทั่งเปรียบกับ ทำเนียบขาวยังระดับสูงกว่า?” ในสายตาของฉินเฟิง ผับ เซิ่งตี้แห่งนี้ ช่างฟุ่มเฟือยจริง ๆ พื้นที่โดยรอบของผับนี้ ล้วนสว่างไสว พื้นที่ไม่ถึงหนึ่งพันตารางเมตร

เดิมทีนี่ก็เป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่อยู่ก่อนแล้ว ทางเข้ามี พนักงานรักษาความปลอดภัยสิบกว่าคน ทุกคนล้วนร่างกายสูงใหญ่ แล้วคอยป้องกันไม่ให้คนทะเลาะวิวาท กวาดตามองทั้งผับหนึ่งครั้ง ก็สามารถอธิบายความงดงาม นี้ได้แล้ว

ด้านข้างเป็นโรงแรม ร้านอาหารและห้างสรรพสินค้า ทั้งหมดที่อยู่ด้านข้างคล้ายอยู่ในบริการของพับแห่งนี้

หลังจากฉินเฟิงจอดรถเสร็จ จึงเดินเข้าไปพร้อมกับป่าย ฉิน ในตอนที่กำลังถึงทางเข้า จู่ ๆ ป่ายฉินก็คล้องแขน ของฉินเฟิง ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มของเด็กสาว อบอุ่นและสวยงาม………

“ในงานอย่าพูดอะไรเลอะเทอะ ไม่อย่างนั้นคืนนี้คุณก็ ร่อนเร่อยู่บนถนนได้เลย” ป่ายฉินยิ้มแล้วข่มขู่เสียงต่ำ แต่ ในสายตาคนภายนอก เห็นคล้ายคู่รักที่รักกันอย่างมาก

“ป่ายฉิน ครั้งนี้คุณอยากเล่นที่ไหน คุณต้องการเล่นงาน ผมจนได้ทักทายกับความตายสินะ ให้ผมได้มีเวลาเตรียม ใจหน่อย” รอยยิ้มของฉินเฟิงเองก็อบอุ่น น้ำเสียงกดต่ำ คล้ายกัดฝันพูดออกมา

ตั้งแต่ที่เธอควงแขนเขา ฉินเฟิงก็รู้แล้วว่าสาวน้อยต้องมี เลศนัยแน่นอน

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ป่ายฉินก็ไม่พูดอะไรออกมาอีก
เพราะว่าตั้งแต่ทางเข้าจนถึงผับระยะทางสั้น ๆ นี้ สัมผัส ได้ถึงลูกคนรวยไม่น้อยกว่าสามสิบคน คนพวกนี้เคยเอา อกเอาใจป่ายฉินมาก่อน มองฉินเฟิงด้วยสายตาที่ราวกับ เป็นศัตรูที่ไปฆ่าพ่อของคนคนนั้นอย่างไรอย่างนั้น

ยังไม่ถึงคราวตาย ป้ายฉันต้องการประกาศสถานะของ ฉินเฟิง: ว่าที่คู่หมั้นของเขา

การโห่ครั้งนี้ ตอนนี้ฉินเฟิงกลายเป็นเป้าหมายของคน จำนวนมาก ถ้าหากเป็นแค่ลูกคนรวยธรรมดาคงไม่เป็น อะไร มีบางคนที่บ้านมีตื้นลึก ตอนนี้ล้วนคิดว่าควรจัดการ อย่างไรกับฉินเฟิงแล้ว

ภายในผับ คนที่อยู่ตรงที่นั่งสีทองบนชั้นสอง

“ผู้ชายคนนั้นคือว่าที่คู่หมั้นของฉินฉิน?” ชายหนุ่มรูป งามคนหนึ่งยืนอยู่นอกหน้าต่าง มองลงไปด้านล่างที่ฉิน เฟิงที่ยืนอยู่ข้างกายป่ายฉิน ด้วยสีหน้าที่ยากจะคาดเดา และที่นั่งด้านในที่นั่งพิเศษ ก็มีเดวิดพนักงานบริษัทของ ป่ายฉินอยู่

เดวิดรีบพยักหน้าแล้วพูด: “คนนั้นคือว่าที่คู่หมั้นของ ประธานป่าย ฉินเฟิง ดูเหมือนว่าข่าวลือที่ได้รับมาจาก สำนักงานใหญ่จะเป็นเรื่องจริงครับ แต่ว่าผู้ชายคนนี้เป็น แค่ลูกคนรวยธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น
และชายหนุ่มรูปงามคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น เป็นลูกคนรวยที่ กำลังโด่งดังมาแรง นายน้อยของสำนักเฟิงโซ่หยางเฟิง

ในที่แห่งนี้แบ่งได้สามระดับ คุณอาจจะไม่รู้ว่าใครคือ นายกเทศมนตรี แต่ทว่าจะต้องรู้จัก ‘สำนักเฟิงโข่’ องค์กร นี้ สามารถพูดได้ว่า สำนักเฟิงโข่เป็นจักรพรรดิใต้ดินของ ที่นี่ มีอุตสาหกรรมภายในเครืออยู่มากมาย แต่เดิมเริ่ม ต้นมาจากการเป็นมาเฟีย ผ่านไปสองรุ่นด้วยความตั้งใจ ตอนนี้ค่อย ๆ สะอาดขึ้นทีละนิด

แต่กระนั้นก็ไม่ใช่ใสสะอาดจริง ๆ ในจุดนี้ล้วนไม่มีใคร

หยางเฟิงจิบเหล้า ยิ้มบาง ๆ พูด: “น่าสนใจดี ดูเหมือนว่า ฉันต้องไปทำความรู้จักฉินเฟิงอะไรนี้เสียหน่อย ถ้าหาก เป็นอย่างที่คุณว่ามาจริง ภายในหนึ่งเดือน บริษัทของเธอ จะกลายเป็นของคุณ”

เดวิดพูดอย่างตื่นเต้นและซาบซึ้ง: “ขอบคุณคุณชาย หยางที่คอยอุ้มชู ขอบคุณคุณชายหยางที่คอยอุ้มชู

ภายในผับ……

ภายใต้การจัดการของเพื่อนสาวของป่ายฉิน วันนี้ที่นี่ ล้วนไม่มีคนนอก นอกจากคนที่คอยตามจีบป่ายฉินแล้ว
นอกจากนั้นก็มีแค่พี่ชายของเธอเท่านั้น ขณะนี้ปีศาจตัว น้อยหลบอยู่ด้านข้าง อย่าพูดเลยว่าตลกมากแค่ไหน

แต่ว่าในตอนที่เธอมองฉินเฟิง เห็นได้ชัดว่ากำลังอยู่ใน สถานการณ์ที่ตกตะลึง

“สวัสดีทุกคน ที่เชิญทุกคนมาในวันนี้ก็ไม่มีอะไรพิเศษ แค่อยากให้ทุกคนได้รู้จักว่าที่คู่หมั้นของฉัน ฉันจะนำ นำให้ทุกคนรู้จักสักหน่อย นี่คือว่าที่คู่หมั้นของฉัน ฉิน เฟิง” ป่ายฉินเดินไปยังฟลอร์เต้นรำอย่างใจกว้าง หยิบ ไมโครโฟนออกมา และผลักฉินเฟิงให้มาอยู่ท่ามกลาง สายตาผู้คน

ในตอนนี้ ใครที่ยังไม่รู้จักฉินเฟิง ตอนนี้ก็ได้รู้จักแล้ว

ในเวลานั้น ทุกคนล้วนหันไปพูดคุยกัน แววตาที่มองฉิน เฟิงล้วนไม่ค่อยดีเท่าไรนัก กระทั่งฉินเฟิง ลอบฝากความ คิดถึงให้ป่ายฉินในใจอย่างดุร้ายไปหลายพันรอบ สาว น้อยคนนี้ ถ้าไม่เล่นงานเขาจนตายคงไม่ยอมปล่อยสินะ

เมื่อป่ายฉินพูดจบน ก็หันมามองฉินเฟิงอย่างอ่อนโยน: “ทักคะ คุณจะไม่ขึ้นมาพูดสักคำสองคำหน่อยหรือคะ? ทุกคนที่มาวันนี้ในอนาคตเขาอาจจะเป็นคู่ค้าของบริษัท เรานะคะ ฉันคิดว่าคุณควรมาทำความรู้จักเอาไว้นะคะ”
ฝันเฟิงกัดฟันพูด: “ไม่ต้องหรอก คุณรู้จักก็พอแล้ว”

“จะพอได้อย่างไรคะ ในอนาคตคุณคือสามีของฉัน ผู้ชายทํางานข้างนอก เรื่องพวกนี้ควรเป็นคนทำ” ป้ายฉัน ยังคงมีรอยยิ้มอ่อนโยนเหมือนเดิม และยังยกไมโครโฟน มาพูด: “พวกคุณมาทำความรู้จักกับว่าที่คู่หมั้นของฉัน สักครู่นะคะ วันหน้าเขาจะเป็นรองประธานของบริษัทฉัน ถ้าอยากจะร่วมธุรกิจอะไรกันสามารถติดต่อผ่านเขาได้ โดยตรง”

เมื่อพูดจบ ป่ายฉินก็เดินไปยังที่นั่งพิเศษด้านหลังบาร์

ด้านใน มีเพื่อนสาวคนสนิทของเธออยู่ ตอนนี้ควรเป็น เวลาที่จะได้แบ่งปันผลจากชัยชนะกับเพื่อนสาวคนสนิท อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรอดูว่าฉินเฟิงจะโดนคนพวกนั้นรังแก อย่างไร แน่นอนว่า ขอเพียงไม่เล่นอะไรที่จะทำให้เป็น เรื่องใหญ่ เธอก็จะไม่ออกไปหยุด

และผู้หญิงที่อยู่ตรงที่นั่งพิเศษ ก็เป็นสาวงามเช่นเดียว กับป่ายฉิน

พูดได้ว่า ผู้หญิงคนนี้ก็รู้จักฉินเฟิงเช่นกัน

เผอิญว่าเป็นผู้หญิงที่เป็นตัวเอกของเรื่องตลกตอนดื่ม กาแฟเมื่อเช้าฟางหยูน แน่นอน ฉินเฟิงไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้ ถ้าหากเขารู้ล่ะก็ ต้องถอนหายใจอย่างหดหู่แน่นอน:“สวรรค์ บัดซบคุณกำลังเล่นงานผมให้ตายสินะ”

“ที่รักคะ ผู้ชายคนนั้นเป็นว่าที่คู่หมั้นของเธอจริง ๆ อย่าง นั้นหรือ?” ฟางหยูนเมื่อเห็นป่ายฉันเดินเข้ามา ก็ถามออก ไปอย่างรวดเร็ว สายตาของเธอมีแววแปลกใจบางอย่าง แต่ว่าป่ายฉินกำลังอารมณ์ดีจึงไม่ได้สนใจจุดนี้

“อย่าพูดถึงเลย ทั้งหมดเป็นสิ่งที่แม่ฉันจัดการให้ แต่ว่า ไม่มีอะไรแล้ว ฉันเชื่อว่าคืนนี้ คนรักสนุกอย่างนั้นจะต้อง ยากล่ามากจนถอนตัวแน่” ป่ายฉินเบนสายตากลับไป มองฉินเฟิงผ่านกระจก ในใจอย่างสบายอารมณ์

“พี่ชายทั้งหลาย ใช่ที่ไหนกัน! ยอดเยี่ยม แม้แต่หญิง งามที่เย็นชาเป็นภูเขาน้ำแข็งอย่างประธานป่ายของพวก เราก็สามารถจับอยู่ในมือได้” ป่ายฉินเพิ่งจะออกไป พวก ลูกคนรวยเหล่านั้นก็เริ่มที่จะเปิดปากพูด แน่นอนว่า จุด ประสงค์ของพวกเขาคือการขู่ให้ฉินเฟิงกลัวจนออกไป เท่านั้น

ฉินเฟิงนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ ต้องการเหล้าสักแก้ว ตอบ อย่างเย็นชา: “ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ”

ล้อกันเล่นแน่ เขาไม่เห็นพวกลูกคนรวยพวกนี้ในสายตา หรอกนะ เขามีประสบการณ์มาก่อน คนพวกนี้ต่อให้คิด ยังคิดไม่ถึง การต่อปากต่อคํากับพวกไร้สาระตัวน้อยกลุ่มนี้ ในสายตาของเขามีสองค่า: น่าขายหน้า

“พี่ชายทั้งหลาย ดื้อดึง คุณจะไปเอ้อระเหยที่ไหนก็เรื่อง ของคุณ” คนอื่นก็คล้อยตามขึ้นมา

“ทำไมถึงดื้อด้านขนาดนี้ ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่รู้? อย่า เป็นพวกลูกคนรวยจอมปลอมสิ ตอนนี้ของปลอมมีเยอะ มาก คุณดูเด็กคนนั้นใส่สิ ตั้งแต่หัวจรดเท้ายังไม่ได้แม้แต่ ราคากางเกงของผมเลย นี้หรือที่เรียกว่าลูกคนรวย?”

ฉินเฟิงดื่มเหล้าเสร็จ ก็ลุกขึ้นอย่างอารมณ์เสียว่า: “ช่าง น่าเบื่อจริง ๆ ”

เสร็จจากด้านนี้ ด้านนั้นก็สาวเท้าเข้ามาเตะลูกคนรวย ที่กำลังพูดถึงเมื่อครู่ออกไปไกลเจ็ดถึงแปดเมตร อาศัย เพียงเท้าเดียว ก็สามารถทำให้คนโดยรอบสงบลงได้ ทั้ง ผับตอนนี้ก็เงียบสงัดไร้เสียงใด

“ป่ายฉินคือว่าที่คู่หมั้นของผม ดังนั้นพวกคุณอย่าได้ สนใจเธอ ส่วนตัวผมนั้น พวกคุณช่วยลดการยั่วยุผม หน่อย ผมไม่สนใจที่จะสั่งสอนอะไรพวกคุณ รู้ไหม?” เมื่อ พูดจบ ฉินเฟิงก็กลับไปนั่งบนโต๊ะของผับ

อาศัยเพียงเท้าเดียว ในระยะเวลาอันสั้นทำให้คุณไม่ กล้าที่จะพูด….
เป็นเวลาที่เหมาะสมพอดี

“แปะ แปะ แปะ….” หยางเฟิงลงมาจากที่นั่งพิเศษเดินมา ทางโถงรับรองของผับ พร้อมปรบมือ ไม่รู้ว่าจะถากถาง หรือชื่นชม: “คุณฉินช่างยิ่งใหญ่จริง ๆ คนที่กล้าลงมือใน ที่นี้มีไม่กี่คน ผมหนึ่งคน คุณอีกหนึ่งคน”

ฉินเฟิงหัวเราะทักทาย: “ผมเกลียดพวกแมลงวันที่สุด ถ้า หากคุณเป็นแบบเดียวกันกับพวกเขา ผมก็ไม่รังเกียจที่จะ ลงมืออีกครั้ง ไม่ได้ออกแรงมานาน ร่างกายค่อนข้างฝืด คุณคงเข้าใจ”

หยางเฟิงหรี่ตามอง หัวเราะฮ์: “คุณเอาผมไปเปรียบ เทียบกับคนบ้ากลุ่มนั้นหรือ?” ในตอนที่พูดจบน เขาก็มอง คนโดยรอบ กวาดตามองกลุ่มลูกคนรวยรอบหนึ่ง และ กลุ่มลูกคนรวยพวกนั้นที่รู้ความก็ก้มศีรษะและก้าวถอย หลัง

แม่ว่าพวกเขาจะเป็นลูกคนรวยเหมือนกัน แต่พวกเขา เข้าใจอย่างชัดเจน ตัวเองกับหยางเฟิงอยู่คนละระดับกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ