เทพนักรบ

ตอนที่ 1 สาวสวยร่างเปลือยเปล่าบนเตียงนอน



ตอนที่ 1 สาวสวยร่างเปลือยเปล่าบนเตียงนอน

ตอนที่ 1 สาวสวยร่างเปลือยเปล่าบนเตียงนอน

“โอย———ปวดหัวจริง” ดวงตาทั้งคู่ของฉินเฟิงที่เปิดขึ้นมา มองไปอย่างไม่ชัดเจน บริเวณศีรษะก็รู้สึกปวดแสบ คิด ได้ว่าเมื่อคืนคงจะจะดื่มมากเกินไป ก็ปล่อยเลยไป

ดื่มเหล้าไปมากขนาดนั้น ไม่ปวดหัวก็แปลกแล้ว

“เฮ้ หากไม่ใช่ว่าตาเฒ่าต้องการบังคับให้แต่งงาน แถม ยังยึดชีวิตมาบังคับด้วย ฉันก็ไม่ถึงกับทำอย่างนี้แน่ ชีวิต โสดที่น่าเวทนาของฉัน ได้จบลงอย่างไม่สามารถอธิบาย ได้” ฉินเฟิงเพิ่งจะกลับมาได้เพียงหนึ่งเดือน ก็มีคู่หมั้นสาว ขึ้นมา แทบอยากจะเอาศีรษะพุ่งชนให้ตายไปข้าง

เดี๋ยวก่อน

ทันใดนั้นฉินเฟิงก็รู้สึกว่าที่นอนข้าง ๆ คล้ายมีคนอยู่ หัน ศีรษะไปมองช้า ๆ ก็พบหญิงสาวที่สวยงามมากคนหนึ่ง อย่างไม่คาดคิด

รอยยิ้มแสนหวานจากการนอนหลับสนิท ผิวแก้มสอง ข้างยกขึ้นจนเห็นลักยิ้ม ขาเรียวเปลือยคู่หนึ่งอยู่ภายนอก เพียงแค่มองเห็นขาเรียวคู่นั้นก็สามารถรู้ได้เลยว่าต้องเป็นหญิงสาวที่งดงามมากอย่างแน่นอน

เพียงแต่ว่า นี้ไม่ใช่สิ่งที่แสบตามากที่สุด

สิ่งที่แสบตามากที่สุดคือรอยสีแดงที่อยู่บนผ้าปูที่นอน

“ฉันจะเช็ด ล้อฉันเล่นใช่ไหม ………รือว่าจะเป็นนัก ปราชญ์ผู้หญิงของยุทธภพที่ไร้ผู้สืบทอดมานาน?”

ในตอนนั้นเอง ฉินเฟิงคล้ายว่าจะนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อคืน ได้พบกับผู้หญิงที่งดงามมากคนหนึ่ง ที่แท้แล้วเมื่อคืนทั้ง สองคนดื่มไปเยอะมาก ในตอนที่พากันออกมาจากประตู ใหญ่ของผับ หญิงสาวที่งดงามและแสนลึกลับคนนั้นก็ล้ม ใส่ร่างกายของฉินเฟิง

และฉินเฟิงเองก็พาเธอกลับมาถึงโรงแรมอย่างเลอะ

เลือน

เรื่องต่อจากนั้น ก็เป็นเรื่องตามธรรมชาติที่ไม่ต้องพูดถึง

“เฮ้ ซวยแล้ว” ฉินเฟิงทอดถอนใจ: “ได้ร่วมรักกับหญิง สาวที่งดงามขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่าฉันจะเมาแล้วเลอะเทอะ ครั้งนี้ผ่านไปแล้ว รู้สึกอะไรบ้างนึกไม่ออกเลย หรือว่าจะ ลองอีกครั้ง?”
เมื่อคิดว่าจะทําอีกครั้ง ก็เห็นรอยสีแดงที่แสบตานั้น ที่ จริงแล้วฉินเฟิงใจไม่แข็งพอที่จะทำร้ายหญิงสาวที่งดงาม ได้

ไม่ทันได้ตั้งตัว ความรู้สึกสงสารหญิงสาวก็ทะลักออกมา อย่างไม่คาดคิด

ฉินเฟิงส่ายหัว รีบร้อนดื่มน้ำ เมื่อคืนรินไว้ตั้งแต่ตอน ไหนก็ไม่รู้ หลังจากนั้นก็เอื้อมมือไปลูบไล้ใบหน้ารูปไข่ ของสาวงามเบา ๆ แล้วจูบครั้งหนึ่ง ถึงเลิกรา

“กินเต้าหู้ก็ไม่ได้ผิดกฎหมาย” ฉินเฟิงที่คิดแบบนี้ก็รีบใส่ เสื้อผ้าเรียบร้อย เยี่ยม ‘คนเลว’ที่หล่อเหลาและมีสง่ายืน อยู่ด้านหน้าสาวงาม

เพียงแต่หญิงสาวที่งดงามคนนี้ยังนอนหลับสนิทอยู่

แต่ทว่าเมื่อฉินเฟิงได้เห็นกระโปรงผู้หญิงที่ถูกฉีกขาด ก็ นึกการกระทําบางอย่างของตัวเองเมื่อคืนขึ้นมาได้ ฉับ พลันก็อับอายจนเหงื่อไหลออกมาไม่หยุด

ฉินเฟิงมองนาฬิกาข้อมือ เพิ่งจะเจ็ดโมงกว่า ๆ จึงหยิบ ปากกาออกมาเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษ

เมื่อเขียนเสร็จ ก็หยิบสมุดเช็ค เขียนเช็คธนาคารจำนวน สองแสนหนึ่งใบวางไว้บนเตียงนอนก็ค่อยสบายใจ เมื่อถึงเวลาต้องไป ก็อดไม่ได้ที่จะลูบไล้ขาเรียว ของสาวงาม ทอดถอนใจด้วยความหดหู่: “ความรู้สึกที่ได้ สัมผัสช่างดีจริง ๆ เพียงแต่ว่าฉันจ่ายเงินแล้ว ลูบคลำอีก สักหน่อยก็คงไม่ผิดกฎหมายหรอกนะ?”

ภายในจิตใจมีความคิดแบบนี้อยู่ ฉินเฟิงก็ลูบไล้อีกรอบ ถึงได้จากไปด้วยความอาลัยอาวรณ์

ในที่สุด เฮ้……..

ในชีวิตคนเราการได้พบผู้หญิงที่มีเสน่ห์แบบนี้ช่างน้อย นิด แถมยังเป็นหญิงสาวที่งดงามมากขนาดนี้

ฉินเฟิงจากไปได้ไม่นาน หญิงสาวที่งดงามก็ลืมตาขึ้นมา หญิงสาวที่งดงามมองไปตามแผ่นหลังของฉินเฟิง สายตา เต็มไปด้วยความคับแค้นใจและเสียใจ เมื่อลองขับตัว ฉับ พลันก็รู้สึกถึงความเจ็บปวด กัดริมฝีปากเบา ๆ อดทนต่อ ความเจ็บปวด ถึงอย่างไรก็น้ำตาไหลลงมาอย่างกลั้นไม่ อยู่

เมื่อหันกลับมา หญิงสาวที่งดงามก็พบกระดาษแผ่นหนึ่ง กับเช็คธนาคารอยู่บนที่นอน

จึงหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาอ่านข้อความที่เขียนไว้: สวัสดี สาวสาว! เรื่องเมื่อคืนผมลืมไปหมดแล้ว อันที่จริง แล้วจําอะไรไม่ได้เลย ประจวบกับผมเองก็เป็นชายหนุ่มที่บริสุทธิ์ ทุกคนล้วนไม่เสียเปรียบ ถึงแม้ว่า……ส่วน เสื้อผ้า ผมได้ฝากไว้ที่แผนกต้อนรับให้คุณแล้ว ถ้าคุณ ตื่นแล้วก็โทรศัพท์บอกแผนกต้อนรับได้เลย ส่วนเงินสอง แสนนั้นถือว่าเป็นค่าชดเชยนะ ขอพูดอะไรสักหน่อย สัมผัสขาเรียวของคุณมันมีมากเลย

สาวงามที่แสนเซ็กซี่หยิบกระดาษและเช็คธนาคารขึ้นมา ด้วยความเคียดแค้น นำเช็คมาฉีกเป็นชิ้น ๆ ขยี้แรง ๆ แล้ว โยนออกหน้าต่างไป ในตอนนี้เองน้ำตาก็ยิ่งไหลออกมา ราวกับไม่มีสิ้นสุด

“นี้คิดว่าฉันเป็นโสเภณีอย่างนั้นหรือ” สาวงามที่แสน เซ็กซี่กัดฟันพูดเสียงต่ำ

ผ่านไปสักพัก สาวงามที่แสนเซ็กซี่ถึงได้เช็ดน้ำตา เปลี่ยนมาพูดด้วยเสียงหนักแน่น: “ถ้าหากฉันได้เจอคุณ ฉันจะไม่ปล่อยคุณไปอย่างแน่นอน”

ในตอนนี้เองฉินเฟิงก็นั่งดื่มกาแฟในร้านสตาร์บัคส์อย่าง สบายอกสบายใจ

“อืม กาแฟสักแก้วหลังจากดื่มจนเมามันช่างสบายจริง ๆ ” ฉินเฟิงคิดอย่างสุขสบาย เพียงแต่ความสุขสบายไม่ นานก็เปลี่ยนเป็นซึมเศร้าขึ้นมา: “ถ้าหากไม่มีคู่หมั้นสาวที่ แสนลึกลับคนนั้น ก็คงจะสบายมากขึ้น”
เพิ่งนึกถึงเรื่องที่ทำให้จิตใจว้าวุ่น สายที่ทำให้จิตใจว้าวุ่น ก็โทรเข้ามา

“เฟิงเอ๋อ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?” ปลายสายเป็นเสียงที่ น่าเกรงขาม ไม่ต้องพูด ก็รู้โดยธรรมชาติว่าคือฉินโจงพ่อ ของฉินเฟิง

ฉินเฟิงพูดอย่างจนใจ: “ผมจะไปอยู่ที่ไหนได้ เตรียม พร้อมรอโดนส่งขึ้นลานประหารอยู่ทุกเวลาเนี่ย”

ฉินโจงตวาด: “ไอ้เด็กบ้า พูดอะไรออกมา เที่ยงนี้แกไป บ้านป่าป่ายของแกซะ ฉันกับแม่ของแกมีธุระ แกก็ไปเอง เลยแล้วกัน ข้อมูลของป้าป่ายของแกฉันจะให้คนขับรถ เอาไปส่งแกให้ จําไว้ มีมารยาทกับแม่ยายของแกด้วย”

“รู้แล้ว เฮ้ พ่อ ผมว่าการดูตัวที่พวกคุณให้ผมไปมันไม่ ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไรนะ ให้ผมไปเอง หน้าผมบางมาก ถ้า เกิดโดนไล่ออกจากบ้านจะทําอย่างไร?”

“ไล่ออกจากบ้าน? อย่างนั้นก็ดี หลังจากนี้แม้แต่ประตู บ้านตระกูลฉินของฉันแกก็อย่าได้ก้าวเข้ามาอีก แกจำคำ ฉันไว้ คนชั่วตัวน้อย ทำตัวดี ๆ กับแม่ยายของแกให้ฉัน หน่อย ให้ดีที่สุดคือเป็นเขยแต่งเข้าไปเลย ไม่อย่างนั้น อย่าได้กลับมาอีก” ฉินโจงพูดจบก็วางสายโทรศัพท์ทันที
ฉันเฟิงตะโกนอย่างรับร้อน: “พ่อ พ่อ นี่ล้อผมเล่นใช่ไหม ลูกเขยแต่งเข้า? บ้านเรายังขาดขนาดขายผมเลยหรือ? พ่อ พ่อ”เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังกลับมา ทำให้ฉันเฟิง แทบอยากจะหลั่งน้ำตาออกมา

กลั่นแกล้ง นี้ต้องเป็นการกลั่นแกล้งแน่นอน

แค่ไปพบแม่ยายของคู่ดูตัวตามธรรมดาก็เกร็งพอแล้ว ยังต้องเป็นลูกเขยแต่งเข้าอีก ใจของฉินเฟิงในตอนนี้รู้สึก อยากตายขึ้นมา

จากนั้นไม่นาน คนขับรถก็มาพร้อมกับข้อมูลของป้าป่าย ก็มาถึง ในระหว่างนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรกับฉินเฟิงแม้แต่ ประโยคเดียว ทำราวฉินเฟิงกลายเป็นอากาศไปแล้ว มอง ข้าม มองข้ามไปอย่างสิ้นเชิง

ฉินเฟิงก็ยิ่งอยากร้องไห้ทั้งที่ไม่มีน้ำตา แม้แต่ลุงถางที่ เลี้ยงตนเองมายังทำกับตนเองแบบนี้ ต้องเป็นการจัดการ ของตาเฒ่าอย่างแน่นอน ฉินเฟิงยับเยินจริง ๆ

ตอนนี้แม้กระทั่งจะเคาะประตูอย่างไรจะพูดอย่างไรล้วน ต้องวางแผน เป็นไปได้ไหมว่าเคาะประตูบ้านป่าป่าย แล้ว ก็พูด: “สวัสดีครับ ผมคือว่าที่ลูกเขยของคุณ ผมสามารถ เป็นลูกเขยแต่งเข้าครอบครัวคุณได้ไหมครับ?”
ในตอนที่ฉินเฟิงกำลังวางแผนเดินหมาก ทันใดนั้นก็พบ เข้ากับสาวสวยคนหนึ่ง และสาวสวยคนนี้ก็งดงามเทียบ เท่าหญิงสาวที่แสนงดงามที่พบเมื่อคืนได้เลยทีเดียว

หากวัดด้วยสายตาของเขา เธอสูงประมาณ1.7เมตร สวมชุดกระโปรงสั้น หน้าอกคับแน่น ดูเหมือนว่าภูเขา แฝดที่น่าภูมิใจจะเป็นคัพ36D ท่อนขาเรียวยาว พอที่จะ พูดได้ว่ายาวและไม่หนาเกินไป ขาวและไม่มีตำหนิ ดังนั้น ความสวยงามของรูปร่างประกอบกับใบหน้าของสาววัย รุ่น สมกับที่เป็นสาววัยรุ่นที่แต่งงานแล้วตั้งแต่ยังสาว

เมื่อเห็นสาวสวย สีหน้าของฉินเฟิงก็สบายใจอย่าง

แต่ด้านหลังสาวสวย มีหนุ่มหล่อที่พูดด้วยไม่หยุด: “หยู นหยูน คุณฟังผมสักครั้งไม่ได้หรือ? ไปต่างประเทศกับ ผม ผมสัญญาว่าจะดูแลคุณอย่างดี อีกอย่างพวกเราก็มี สัญญาหมั้นหมายกันอยู่แล้ว คุณก็ไปต่างประเทศกับผม จะเป็นอะไร?”

สาวน้อยคนสวยสีหน้าเย็นชา พูดอย่างอารมณ์เสีย: “หยวนโหวจือ วันนี้ฉันได้บอกคุณอย่างชัดเจนไปแล้ว นะ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามฉันก็ไม่สามารถไปอยู่กับคุณ ได้ ยังมีสัญญาหมั้นไร้สาระอะไรนั่นอีก ภายในสามเดือน ฉันจะทำให้สายตาที่เลอะเลือนของผู้เฒ่าเข้าใจฉันให้ได้ รบกวนคุณอย่าได้มายุ่งกับฉันอีก ไปตายไกลๆ ฉันฟางหยูนเป็นคนที่จะดึงผู้ชายคนให้ได้ตามท้องถนน

มาได้ตามใจ จะไม่ยอมไปอยู่กับคุณ ”

เมื่อได้ฟังที่ฟางหยูนพูด ฉินเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้ง ให้ ปรบมือภายในใจเสียงดัง: งดงาม

คนที่โดนว่าอย่างหยวนโหวจือกลับไม่โกรธ แต่ใบหน้า กลับยิ้มแย้มแล้วพูด: “หยูนหยูน คุณอย่าได้ทำเรื่องให้ วุ่นวาย ไปต่างประเทศไม่ดีตรงหรือ อยู่ที่นี่จะไปมีอนาคต อะไร คุณฟังผมสักครั้งเถอะนะ”

คำพูดของเขาครั้งนี้ เพียงพอที่จะพูดได้ว่าทำให้ความ อดทนเส้นสุดท้ายของฟางหยูนขาดลงแล้ว

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณคือแฟนของฉัน ลูกขึ้น” ฟาง หยูนมองไปยังฉินเฟิงที่ดูรื่นเริงอยู่ไปไกลตนเองนัก ยัง ไม่ทันพูดครั้งที่สองก็เดินมาถึงตัวเขา ไม่มมีร่องรอยของ ความอายที่พูดออกมาเลย

ฉินเฟิงตกตะลึงตาค้างไปแล้ว นั่งดื้อไม่ได้พูดอะไร

ล้อกันเล่นใช่ไหม ฉันเป็นแค่คนแปลกหน้าที่เดินผ่าน เท่านั้น การมองเรื่องรื่นเริงคงไม่ถึงกับต้องติดเชื้อไฟไป ด้วยหรอกนะ สีหน้าที่แสดงออกของฉินเฟิงตอนนี้คล้าย ไม่ได้รับความเป็นธรรมจริง ๆ เพียงแต่ท่าทางไม่ได้รับ ความเป็นธรรมของเขานั้นในสายตาคนนอกก็พบแค่หมูในอวยของสาวสวย

สีหน้าของหยวนโหวเปลี่ยนไปมา ใช้แรงจับที่แขนของ ฟางหยูน ตวาดเสียงต่ำ: “หยูนหยูน คุณอย่าให้มันมาก เกินไปนัก ไม่ช้าก็เร็วคุณก็ต้องแต่งให้ผม ทำไมไม่ปฏิบัติ กับผมให้มันดีหน่อย? ผมทำเพราะรักคุณ ไม่คิดว่าคุณจะ ยังไม่เข้าใจอีกหรือ?” ขณะพูด หยวนโหวก็ยังอารมณ์เสีย อยู่

ถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะมีสัญญาหมั้นหมายก็ตาม แต่ท่าทางที่เขาปฏิบัติต่อฟางหยูนคล้ายคนตามจีบ ถึง อย่างไรเขาก็เป็นลูกของเศรษฐี เพียงแค่เขาสะบัดมือจะมี ผู้หญิงที่ไหนปฏิเสธ? แต่เขาที่รักฟางซินถึงขนาดนี้ เธอก็ ยังดูเย็นชา

“คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ คุณทำให้ฉันเจ็บ” ฟางหยู นขมวดคิ้ว เพราะรู้สึกเจ็บตรงแขนที่เขาจับขึ้นมาอย่างฉับ พลัน และในตอนนั้น เธอก็ยิ่งเกลียดชัง’ลิง’ที่อยู่ตรงหน้า มากยิ่งขึ้น

ชั่วพริบตาเดียว ฉินเฟิงก็ยืนขึ้น เดินสองก้าวก็มาอยู่ ข้างกายหยวนโหว ดึงฟางหยูนเข้ามาไว้ในอ้อมกอดของ ตนเอง

“ไม่ควรใช้ความรุนแรงแบบนี้กับสาวสวย ไม่งั้นจะโดน ประณามเอาได้” ฉินเฟิงยิ้มคล้ายไม่ยิ้มมองหยวนโหวและมองฟางหยูนที่อยู่ในอ้อมแขน แล้วพูดตัดกำลัง “ยิ่ง กว่านั้นสาวสวยคนนี้ก็เพิ่งบอกไปว่าต้องการให้ผมเป็น แฟนเธอ ผมน่าสงสารกว่าคุณเยอะนะ”

ชั่วพริบตา สีหน้าของหยวนโหวก็เปลี่ยนไปเป็นไม่น่าดู ยิ่งขึ้น คล้ายทานก้อนอุจจาระเข้าไป

“นี้เป็นเรื่องก่อนหน้านี้ของผมกับเธอ ไม่เกี่ยวข้องอะไร กับคุณ หลีกทางให้ผมด้วย” ตอนนี้หยวนโหวเก็บความ สุภาพไว้ไม่อยู่ สีหน้าขาวคล้ำ ขณะเดียวกัน ก็เอาไปที่ สะสมอยู่ในท้องกระจายไปสู่ร่างของฉินเฟิง

ฉินเฟิงกลอกตาขาวไปมา มองตรงไปที่ฟางหยูน แล้ว ถาม: “คุณบอกว่าอยากให้ผมเป็นแฟนหรือ?”

ถึงแม้ว่าฟางหยูนโดนพลังอันชั่วร้ายของเขาที่จัดการ ปัญหา แต่ก็ไม่มีความรู้สึกซาบซึ้งแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังมีท่าทางเย็นชา: “ฉันบอกว่าคุณเป็นแฟนของฉัน แต่ฉันไม่ใช่แฟนของคุณ อีกอย่างปล่อยฉัน”

ฉินเฟิงหัวเราะ: “จับคนมาเป็นเกราะก็ต้องมีข้อแลก เปลี่ยนหน่อยนะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ