บทที่ 14 การแก้แค้น
เย่หลิงเทียนถูกพาขึ้นรถตำรวจ มีแต่ความเงียบตลอดทาง หลัง จากนั้นก็ลงจากรถที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง เย่หลิงเทียน ให้ความ ร่วมมือเป็นอย่างดีมาตลอดทาง หลังลงจากรถก็เดินเข้าไปใน สถานีตำรวจด้วยตัวเอง
หลังจากนั้น เย่หลิงเทียนก็ถูกพาตัวเข้าไปในห้องสอบปากคำ โดยตรง ส่วนตำรวจสามนายที่พาเขากลับมาที่นี่ไม่ได้ตามเข้า มาด้วย จากนั้นก็ปิดประตูลง
“จับเขาใส่กุญแจมือ” ตำรวจอาวุโสคนหนึ่งกล่าว
“ไม่จำเป็นต้องใส่กุญแจมือหรอก ผมจะอธิบายเอง ผมเป็นคน ทําร้ายร่างกาย ผมยอมรับผิด” เย่หลิงเทียนมองไปมาแล้วพูด อย่างนิ่งเฉย
“นายคิดว่าครอบครัวนายเป็นคนสร้างสถานีตำรวจนี้เหรอ ไม่ อยากใส่กุญแจมือก็ได้อย่างนั้นเหรอ ตอนนี้นายทำคนบาดเจ็บ สาหัส พยายามที่จะฆ่าด้วยซ้ำ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม ใส่กุญแจมือซะ แล้วเอาโซ่ตรวนมาล่ามที่เท้าไว้
“รอสักครู่ มีบางเรื่องที่เราจะต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน ไม่ถึงกับ บาดเจ็บสาหัสหรอกครับ อย่างมากเขาก็มีบาดแผลภายนอกแค่ นั้นเอง ไม่ต้องพูดถึงพยายามฆ่าเลย ผมอยากจะฆ่าเขาตอนไหน เหรอ แม้ว่าพวกคุณจะเป็นตำรวจแต่ว่าจะทำอะไรก็ต้องพูดถึง หลักฐานบ้างสิครับ ผมก็แค่มีปากเสียงชกต่อยแค่นั้น ด้านในล็อบบี้มีกล้องวงจรปิด พวกคุณสามารถไปเช็คดูคลิปได้นะ คนที่ เริ่มก่อนคืออีกฝ่าย อย่างมากพวกคุณกักขังผมไม่เกินสองสาม วัน แล้วผมก็พร้อมที่จะจ่ายชดเชยค่ารักษาพยาบาลให้กับอีก ฝ่าย” เย่หลิงเทียนขมวดคิ้วไปมาแล้วพูดออกมานิ่งๆ
“หลักฐานพวกเรามีอยู่แล้ว นายไม่ต้องกังวลใจหรอก ตอนนี้ นายก็อธิบายแรงจูงใจที่พยายามฆ่าคนและกระบวนการอย่าง ละเอียดมาแล้ว แน่นอน นายไม่พูดก็ไม่เป็นอะไร แค่เซ็นต์ชื่อก็ได้ แล้ว ที่นี่พวกเรามีแรงจูงใจในการก่ออาชญากรรมและ
กระบวนการอย่างละเอียดหมดแล้วเสี่ยวหลี่ ไปเขียนบันทึกการ
สอบปากคํามา จําไว้นะ เป็นการเจตนาฆ่าแต่ว่าพยายามฆ่าจน
ได้รับบาดเจ็บสาหัส” ตำรวจอาวุโสสั่งการให้กับตำรวจหนึ่งใน
นั้น
หลังจากรอจนตำรวจรายนั้นออกไป เย่หลิงเทียนหัวเราะอย่าง เย็นชาว่า “พวกคุณพยายามวางแผนปลอมแปลงหลักฐานเพื่อ ฆ่าฉันให้ตายใช่ไหม”
“ปลอมแปลงเหรอ หลักฐานที่พวกเรามีเป็นการสร้างหลักฐาน ปลอมเหรอ จับเขาใส่กุญแจมือซะ งานหนักก็ยกให้พวกแก จัดการละกัน เบื้องบนสั่งการมา เอาให้มันโหดเหี้ยมหน่อย อีก เดี๋ยวพวกแกไม่ต้องออมมือนะ” ตำรวจอาวุโสหัวเราะอย่างเย็น ชา แล้วสั่งการให้ตำรวจนายหนึ่งลงมือ
ในตอนที่ตำรวจหนุ่มคนนั้นกำลังเอากุญแจมือมาเตรียมจะจับ เย่หลิงเทียนขณะนั้นเองเย่หลิงเทียนก็ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “อะไรกัน ตัดสินให้ฉันพยายามฆ่ายังไม่พอใจอีกเหรอ แล้วยังมาลงประชาทัณฑ์ฉันอีก”
“สําหรับคนที่ปากแข็งไม่ยอมรับข้อหามันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยง ไม่ได้ที่จะโดนด้วยวิธีนี้ ลงมือได้แล้ว เบื้องบนเร่งมาแล้ว อีก เดี๋ยวคงจะส่งคนมาดูสถานการณ์ แก แกจัดการเรื่องนี้เสร็จ คงจะได้รับผลตอบแทนไม่น้อย พยายามเข้าละ” ตำรวจอาวุโส นั่งสบายๆบนเก้าอี้พร้อมกับสูบบุหรี่แล้วพูดออกมานิ่งๆ ใน สายตาของเขา เย่หลิงเทียนก็คือเนื้อบนเขียงดีๆนี่เอง จะสับหรือ จะนั่นมันก็ขึ้นอยู่กับคำพูดของเขา
“คุณพ่อ เป็นยังไงบ้างคะ” หล่อในโทรศัพท์หาคุณพ่อของ เธออีกครั้ง
“พ่อถามเพื่อนแล้ว เขาช่วยพ่อถามเรื่องนี้มา เรื่องนี้จัดการ ค่อนข้างจะยาก ตอนนี้เขาโดนข้อหาพยายามฆ่าทำร้ายจนบาด เจ็บสาหัส เพื่อนพ่อคนนี้ยื่นมือเข้าไปช่วยไม่ได้ พ่อเรียกให้ทนาย หวางเข้าไปแล้ว รอดูว่าพอจะมีช่องทางที่สามารถจัดการเรื่องนี้ ผ่านทางกฎหมายได้ไหม” หลี่เซียนหยวนพูดออกมาพร้อมกัน ถอนหายใจ
“นี่มันใส่ความ ใส่ร้ายกันอย่างเห็นได้ชัด อะไรคือเจตนาฆ่า นี่ มันคือการสร้างเรื่องขึ้นมาไม่ใช่เหรอคะ ยังมีความยุติธรรมอยู่ ไหม ตั้งแต่ต้นจนจบทำแค่ตบหน้าสั่งสอนเขา แล้วมันก็เป็น เพราะเขาอ้าปากด่าเย่หลิงเทียน แล้วก็คนที่เริ่มลงไม้ลงมือก่อนก็ เป็นเขา คุณพ่อ ไม่ว่าจะพูดยังไง ครั้งนี้ที่เย่หลิงเทียนถูกจับ เข้าไปมันเป็นเพราะหนู คุณพ่อต้องช่วยเขาออกมาให้ได้นะคะ หลี่ออู่ซินพูดและโกรธมาก
“เรื่องนี้พ่อรู้อยู่แล้ว แม้ว่าครั้งนี้เสียวเยจะรีบร้อนไปหน่อย แต่ ก็นับว่าเป็นเพราะเพื่อจะปกป้องลูก การตอบแทนบุญคุณเหตุผล นี้พ่อรู้ดี ไม่ต้องห่วง ถึงแม้ว่าจะต้องเสียเงินอีกเยอะพ่อก็จะช่วย เสี่ยวเยออกมาอย่างปลอดภัย ให้ทนายหวางไปลองดูก่อน ถ้า หากว่ายังไม่ได้ผล พ่อจะไปเยี่ยมเยือนนายกเทศมนตรีหลิวด้วย ตัวพ่อเอง ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ ลูกไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้แล้ว นะ ทำงานอย่างสบายใจเถอะ ระวังตัวด้วย ตอนนี้เสียวเย่ไม่ได้ อยู่ข้างๆลูกรักษาตัวด้วยนะ ห้ามไปไหนเด็ดขาด”
ในตอนที่ตำรวจหนุ่มเตรียมตัวไปใส่กุญแจมือเย่หลิงเทียน เ หลิงเทียนหลบออกอย่างรวดเร็ว พูดออกมาอย่างเฉยชา “ฉันจะ บอกให้นะทั้งสอง อะไรที่มันปล่อยกันได้ก็ควรจะปล่อยไป อย่า กดดันคนอื่นจนมากเกินไป การเปิดทางให้คนอื่นก็เหมือนกับ เปิดทางให้ตัวเอง
“กล้ามากเลยนะ ที่แกหลบซ่อน” ตำรวจหนุ่มเห็นว่า เย่หลิง เทียนหลบหลีก ในการจับตัวได้ง่ายดายจนทำให้ตัวเองขาย หน้า โกรธเลือดขึ้นหน้า หยิบกระบองออกมาตีไปที่ร่างของเย่ หลิงเทียน แต่ว่า เย่หลิงเทียนก็ยังหลบได้อีกครั้ง
“มีเรื่องบางเรื่องก็เพียงพอแล้ว ได้อย่างหนึ่งอีกสองอย่างไม่ เอาแล้ว ฉันก็แค่มีเรื่องชกต่อยเท่านั้นเอง อย่างมากแค่กักขัง ถ้า นายยังลงมือละก็อย่ามาหาว่าฉันไม่เกรงใจนะ” เย่หลิงเทียนมอง แล้วพูดอย่างนิ่งๆกับตำรวจหนุ่ม
“ฉันเหรอ แกไม่เบิกตาโง่ๆของแกดูรอบๆบ้างว่านี่มันที่ไหน ฉันจะรอดูว่าแกจะหลบได้ไปถึงเมื่อไหร่กัน” ตำรวจหนุ่มพูดและเริ่มเอากระบองฟาดไปบนร่างเย่หลิงเทียนอีกครั้ง ในทางกลับ กันตำรวจอาวุโสมองดูแล้วยิ้มแย้มเหมือนมีการแสดงละครสัตว์
หลังจากหลบมาไม่กี่ครั้ง เย่หลิงเทียนเริ่มจะทนไม่ได้เสียแล้ว หันมาคว้ากระบองจากมือตำรวจ จากนั้นก็ตะครุบ ค่อยๆบิดมือ ตำรวจหนุ่มพาดไว้ข้างหลังแล้วถูกเย่หลิงเทียนกดลงบนโต๊ะที่อยู่ ข้างหน้า
ตำรวจหนุ่มบิดตัวซ้ายขวา พยายามดิ้นรนให้หลุดออก แต่ว่า เขาจะมาเป็นคู่ต่อสู้เย่หลิงเทียนได้ยังไงกัน ไม่ว่าเขาจะใช้กำลัง ในวิธีไหนก็ไม่มีทางที่จะดิ้นหลุดได้
“พวกแกจะทำอะไรกันแน่” เย่หลิงเทียนยิ้มอย่างเยือกเย็น จากนั้นปล่อยมือของตำรวจหนุ่มที่กดเอาไว้ แล้วผลักเขาออก
“ดี ตอนนี้แกมีคดีเพิ่มอีกเยอะเลย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ตอนนี้แกคืออาชญากรรมที่โหดร้าย พยายามฆ่าแล้วทำให้บาด เจ็บสาหัสพิการแล้วยังจะต่อต้านการจับกุมและหลบหนี ตอนนี้ก็ ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ นี่แหละคือหลักฐานทั้งหมด เป็นไปได้ที่ แกจะถูกตัดสินประหารชีวิต
ตำรวจอาวุโสหัวเราะเยาะเสียงดัง แล้วลุกขึ้นยืน หยิบปืนออก มาหนึ่งกระบอกจากกระเป๋าด้านข้างจากนั้นเอาปืนกดไปบนหัว เย่หลิงเทียนอย่างช้าๆ แล้วหัวเราะ “แกดูเหมือนจะได้เรียนรู้ไป สองครั้ง แต่ว่ามือของแกจะเร็วกว่ากระสุนไหมละ แกลองขยับตัว อีกครั้ง ฉันจะบอกไว้ให้ ฉันลั่นไกรปืนใส่แกเสร็จจากนั้นก็บอก ว่าแกพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ ฉันไม่มีปัญหาแน่นอน แกอยากจะลองดูไหมละ”
ถ้าหากว่าเป็นคนทั่วไปโดนกระบอกปืนจ่อหัวไว้คงจะฉี่ราดไป แล้วละ แต่ว่าเย่หลิงเทียนไม่มีการขยับเคลื่อนไหวอะไรเลย เพียง แต่ขมวดคิ้วไปมา แล้วพูดออกมานิ่งๆ “แกเอาปืนออกไปจะดี กว่า ฉันไม่ชอบเวลาใครเอาปืนมาจ่อฉัน ที่ยังไม่ชอบไปกว่านั้นที่ คนอื่นเอาปืนมาจ่อไว้ที่หัวของฉัน”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ