บทที่010 อยู่ด้วยกัน
“โอเค ขอบใจนายมาก นายวางใจได้ ค่ารถไปกลับทุกวันของ นายฉันรับผิดชอบเอง ตามสัญญาที่นายกับพ่อฉันทำไว้ นายไม่ จําเป็นต้องรับผิดชอบค่าเดินทางก้อนนี้ และตอนนี้เพราะว่าช่วย ฉันนายต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายส่วนนี้ควร มีฉันมารับผิดชอบ” หล่อชิ้นคิดแล้วก็พูดขึ้น
“ไม่ต้องหรอกครับ คุณเข้าไปเถอะ” เย่หลิงเทียนใช้น้ำเสียง เรียบ ๆ พูดเช่นเคย แล้วพูดเพิ่มอีกคำ “ผมจะดูจนกว่าคุณเดิน เข้าไป คุณเข้าไปแล้วเปิดปิดไฟในห้องรับแขกสามครั้ง ผมจะได้ มั่นใจว่าคุณปลอดภัยหรือไม่”
“โอเค” หล่อจู๋ซินพยักหน้า แล้วก็เดินเข้าไป ล้วงกุญแจออกมา ไขประตู แล้วทำตามที่เย่หลิงเทียนพูดจริง ๆ เข้าไปแล้วก็เปิดปิด ไฟในห้องรับแขกสามครั้ง แล้วก็ล็อกประตูจากข้างใน แล้ว สุดท้ายก็ได้ยินเสียงประตูเหล็กข้างนอกปิดลง แน่นอนว่า ประตู เหล็ก ใช้แค่กลอนประตูแบบขวาง แค่เลื่อนกลอนมาขวางไว้ก็ พอแล้ว ไม่ต้องล็อกกุญแจ
หล่อชินมาถึงห้องนอนตัวเองที่ชั้นสอง แล้ววางกระเป๋าลง ดึง ผ้าม่านออกแล้วดูที่สวน ภายใต้แสงไฟที่อ่อนแสงไม่มีเงาของเ หลิงเทียนแล้ว และที่สำคัญ ประตูเหล็กข้างนอกก็ปิดไว้อย่าง ดีแล้ว หล่อชินยิ้มน้อย ๆ แล้วพึมพำกับตัวเองขึ้นมาว่า ” คิดไม่ ถึงนายท่อนไม้ใหญ่นี่จะมีด้านดีด้วย ไม่ง่ายเลยจริง ๆ “
ต่อมาหล่อนก็เข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ แล้วก็ดูหนังไปสักพัก ท่องเน็ตไปสักครู่ แล้วก็ปิดไฟนอนแล้ว
กลางดึกตีสามกว่า อยู่ ๆ หล่อชินก็ตื่นขึ้นมา แล้วก็สะลึมสะ ลือไปเข้าห้องน้ำ เพิ่งจัดการเรื่องส่วนตัวเสร็จแล้ว ก็ล้างมือ ตอน ที่กำลังจะกลับไปนอนนั้น อยู่ ๆ หล่อชิ้นก็เปิดม่านหน้าต่างออก มองดูสถานการณ์ในสวนด้วยความเคยชิน นี่คือพฤติกรรมความ ระแวงของหญิงสาวที่อยู่ตัวคนเดียว มักจะตรวจดูสถานการณ์ รอบตัวเพื่อเช็คความปลอดภัยของตนเองเสมอ
ในสวนยังคงสงบเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ประตู เหล็กก็ปิดไว้อย่างดี ในตอนที่หล่อชินหมุนตัวเตรียมกลับไป นอนต่อนั้น อยู่ ๆ ก็รู้สึกมีอะไรแปลก ๆ เธอเลยดึงม่านหน้าต่าง เปิดออกอีกครั้ง บนเก้าอี้ยาวในศาลาสวนหย่อมมีคนนอนอยู่คน นึงจริง ๆ ด้วย และที่สำคัญ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น เย่หลิงเทียนนั่นเอง
หล่อใน ถลึงตาโตมองดูภาพที่เห็นนี้ ที่จริงเธอไม่อยากจะ เชื่อว่าเย่หลิงเทียนไม่ได้กลับไปแต่มานอนอยู่ในศาลานี้ ในใจ ของหลอวู่ในมีความซาบซึ้งอยู่บ้าง แต่ที่มีมากกว่าคือความ โกรธ โกรธเย่หลิงเทียนที่หัวโบราณจนเกินไป เธอไม่อยากจะ เชื่อว่าบนโลกนี้จะมีคนดื้อหัวชนฝาแบบนี้ และไม่คิดจะใส่เสื้อ คลุม เธอใส่แค่ชุดนอนก็ลงไปชั้นล่างเลย แล้วเปิดประตูวิ่งออก ไป
เย่หลิงเทียนกำลังนอนหลับอยู่ดี ๆ อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้า ดังขึ้นมา เขารีบลืมตาขึ้น ได้ยินเสียงมาจากทางตัวบ้าน และเสียงก็ชัดเจนว่าเป็นเสียงจากรองเท้าแตะ เขาก็เข้าใจแล้วว่าเกิด อะไรขึ้น เขาลุกขึ้นมานั่งล้วงบุหรี่ซองละห้าหยวนออกมาจาก กระเป๋าแล้วก็เริ่มสูบ
หล่อชินวิ่งมาอย่างโมโหฟืดฟาดเตรียมจะเรียกเย่หลิงเทียน ให้ตื่น แต่พอเธอวิ่งมาถึงสวนหย่อมนั่นกลับพบว่าเย่หลิงเทียน ตื่นแล้ว และกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ด้วย และมองตัวเองอยู่ตรงนั้น
“อรุณสวัสดิ์” เย่หลิงเทียนพยักหน้าให้หล่อชินแล้วพูดเสียง เรียบ ถือว่าเอ่ยทักทายกับเธอแล้ว
“มาอรุณสวัสดิ์อะไรอรุณสวัสดิ์ นายก็ไม่ดูเวลาบ้างตอนนี้มัน กี่โมงแล้ว เย่หลิงเทียนนายกำลังเล่นอะไรอยู่? นายตอบตกลง กับฉันว่าคืนนี้จะไม่อยู่ที่นี่แล้วไม่ใช่เหรอ? งั้นนายมาทำอะไรอยู่ ที่นี่?” หล่อวซินโกรธจนกระพุ้งแก้มป่องขึ้นมาแล้ว
“ผมแค่รับปากกับคุณว่าจะไม่เหยียบเข้าไปในบ้านคุณแม้แต่ ก้าวเดียว ที่นี่คงไม่ถือว่าเป็นในบ้านหรอกนะครับ เย่หลิงเทียน พ่นควันบุหรี่ออกจากปากแล้วพูด
พอได้กลิ่นควันบุหรี่ที่ทำให้คนเหมือนจะหายใจไม่ออก หล่อ
ซินก็ไอขึ้นมาทันที เธอทนจนไม่อยากทนแล้วก็เลยตะคอกเย่หลิง
เทียนไปว่า “นายอย่าสูบบุหรี่ได้ไหม อยู่ต่อหน้าสุภาพสตรีห้าม
สูบบุหรี่ นี่คือมารยาทและความเคารพขั้นพื้นฐาน นายไม่รู้เห
รอ?”
“ขอโทษครับ” เย่หลิงเทียนพูดเสียงเรียบ ๆ แล้วลุกขึ้น เดิน หนีไปหลายก้าว พิงเสาศาลาแล้วหันหลังให้หล่อซินแล้วเอ่ยว่า“คุณวิ่งออกมาดึกขนาดนี้ ก็เพื่อมาบอกผมว่าอย่าสูบบุหรี่ต่อ หน้าคุณเหรอ? ตอนนี้ผมรู้แล้ว และต่อไปจะไม่สูบบุหรี่ต่อหน้า คุณอีก คุณกลับไปนอนต่อได้แล้ว”
“ยังจะนอนยังไงนอน? เย่หลิงเทียน ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าในสมอง นายกำลังคิดอะไรอยู่ หรือว่าสมองนายพังไปแล้ว อย่าเพิ่งพูดถึง ปัญหาที่ว่านอนบนแผ่นหินนี้จะสบายไหม และตอนนี้ถึงจะยัง ไม่ใช่หน้าหนาว แต่ว่าอุณหภูมิก็ไม่สูง นายนอนที่นี่ทั้งคืนก็ไม่ กลัวป่วยเหรอ? ถ้านายเกิดเป็นอะไรไปจะทำยังไง ทำไมนายต้อง ทรมานตัวเองแบบนี้ด้วย?
“ฉันรู้ว่านายรับปากพ่อฉันไว้แล้ว และเซ็นสัญญากับพ่อฉันไป แล้ว นายจะคุ้มกันความปลอดภัยอยู่ข้างกายฉันตลอดยี่สิบสี่ ชั่วโมง แต่ว่าฉันก็พูดไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ว่าชุมชนนี้มีระบบรักษา ความปลอดภัยอย่างดี และที่สำคัญบ้านฉันข้างนอกข้างในก็มี ประตูหลายชั้น อีกอย่างข้างนอกชุนชนนี้ก็มีกล้องวงจรปิดตั้ง หลายตัว หน้าประตูบ้านฉันก็มี ฉะนั้นขอแค่กลางคืนฉันอยู่แต่ใน บ้านก็ไม่มีทางเกิดอะไรขึ้นได้แน่นอน นายกลับไปนอนดี ๆ ได้ แล้ว ถ้าไม่วางใจหล่ะก็ตอนเช้านายค่อยมาก็ได้ ทำไมมีเตียง นอนสบาย ๆ ไม่นอน กลับมานอนบนแผ่นหินแบบนี้? เป็นคนนะ ลองเปลี่ยนไปตามยุคสมัยหน่อยไม่ได้เหรอ? สมองลองเปลี่ยน หน่อยได้ไหม” หลี่ออู่ซินพูดอย่างฟืดฟาด พูดเสร็จแล้วก็รู้สึกว่า หนาวขึ้นมา สองมือยกขึ้นมากอดอกไว้ด้วยท่าทางแปลก ๆ
“โอเค ผมรู้แล้ว คุณกลับเข้าไปเถอะครับ ถ้าคุณอยากจะพูด คุยปัญหานี้กับผมจริง ๆ ก็กลับไปใส่เสื้อคลุมก่อนแล้วค่อยมาพูดกันต่อ” เย่หลิงเทียนมองดูหล่อชินแล้ว ก็พูดอย่างไม่รีบร้อน
“นั่นมันเรื่องของฉัน เย่หลิงเทียนนายรีบกลับไปนอนเลย ได้ยินไหม? นายจะบีบฉันให้เป็นบ้าถึงจะมีความสุขใช่ไหม?” หล่อชินมองท่าทางไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นของเหลิงเทียน เธอ โกรธจนปอดจะระเบิดอยู่แล้ว
“ขอบคุณที่คุณเป็นห่วงผม แต่ว่าไม่มีจำเป็นเลยจริง ๆ คุณก็ ไม่ต้องโมโหมาก ผมจะบอกเหตุผลของผมกับคุณนะ อย่างแรก พ่อของคุณก็เคยบอกคุณแล้ว ผมเคยเป็นทหารมาก่อน สำหรับ ทหารคนนึงแล้ว คำสัญญากับหน้าที่รับผิดชอบสำคัญยิ่งกว่าชีวิต ของตัวเอง คุ้มครองคุณยี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่ให้คุณได้รับการข่มขู่ แม้แต่นิดเดียวก็คือคำสัญญาและหน้าที่รับผิดชอบของผม คุณ สามารถพูดได้ว่าผมเป็นคนที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย และหัวโบราณ แต่นี่คือบรรทัดฐานของผม
อย่างที่สอง สำหรับผมแล้วการนอนที่นี่หรือนอนอยู่บนเตียง ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ผมเคยนอนคลุกอยู่ในดินโคลนไม่ขยับตัวเป็น เดือนมาแล้ว กินแค่ฮาร์ดแท็กและสารอาหารเหลวแล้วเท่านั้น เพราะฉะนั้น ผมชินแล้วกับการนอนและใช้ชีวิตทรหดนอกบ้าน แบบนี้
“อย่างที่สาม ผมเห็นด้วยกับคำพูดของคุณ ใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน กับเด็กผู้หญิงอย่างคุณตามลำพังมันก็ดูไม่เหมาะสมแต่แรกแล้ว คุณไม่สะดวกและผมก็ไม่สะดวก เพราะฉะนั้น อาศัยอยู่ที่นี่ดีกว่า อยู่ในบ้าน และนี่ก็คือคำตอบของผม ที่ผมจะพูดก็มีแค่นี้ ไม่ว่า คุณจะยอมหรือไม่ยอมก็ดี แต่ผมพูดหมดแล้ว คุณกลับไปนอนต่อได้แล้ว” เย่หลิงเทียนพูดเสียงเรียบ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ