บทที่ 003 หลี่อวซิน
เย่หลิงเทียนออกจากห้องผู้ป่วยแล้วก็ไปบริษัทซานหยวนกรุ๊ปอีก ครั้ง แล้วก็เข้าไปห้องทำงานของประธานบริษัทหลี่เซียนหยวน
“คุณหลี่ผมกลับมาแล้วครับ ครบหนึ่งชั่วโมงพอดี ไม่ขาดไม่ เกิน” เย่หลิงเทียนเดินเข้ามาในห้องทำงานของหลี่เซียนหยวน แล้วดูเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองแล้วบอกกับหลี่เซียน หยวน
“ดี ดูแล้วฉันยังดูคนไม่ผิด นายเป็นคนรักษาสัญญาดี ไม่เอา เงินแล้วหนีไป เสี่ยววัง เอาน้ำชามาให้เสียวเย่หน่อย เสี่ยวเมา มานั่งลงตรงนี้ ฉันมีบางเรื่องอยากจะคุยกับนายหน่อย” หลี่เซียน หยวนวางปากกาในมือลง ยิ้มแล้วพูดกับเย่หลิงเทียน
เย่หลิงเทียนพยักหน้า แล้วนั่งลงข้างหน้าหลี่เซียนหยวน
“คนที่จะให้นายคุ้มกันเป็นลูกสาวของฉันเอง เรื่องนี้ฉันบอก นายไปก่อนแล้ว ก็อย่างที่นายเห็น ฉันมีบริษัทใหญ่โตแบบนี้ ถึง แม้จะไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่เงินของฉันก็พอให้ฉันกับลูกสาวใช้ได้ ตลอดชีวิต สำหรับฉันแล้ว เงินไม่ใช่ปัญหา และไม่ใช่สิ่งที่สำคัญ ที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดคือลูกสาวฉัน ฉันก็มีลูกสาวอยู่แค่คนเดียว เธอเป็นทุกอย่างของฉัน ไม่รู้ที่ฉันพูดแบบนี้นายจะเข้าใจฉัน ไหม?” หลี่เซียนหยวนมองหน้าเย่หลิงเทียนแล้วพูด
เย่หลิงเทียนรับน้ำชาที่เลขาเอามาให้ พูดขอบคุณแล้วหันไป มองหลี่เซียนหยวนแล้วพยักหน้า พูดว่า “ผมเข้าใจทุกอย่างครับนี่เป็นความคิดที่มาจากก้นบึงหัวใจของพ่อแม่ทุกคนอยู่แล้ว”
“นายเข้าใจก็ดีแล้ว ตอนนี้ลูกสาวของฉันไปเป็นผู้จัดการทั่วไป ของบริษัทในเครือของเรา อีกไม่กี่ปีรอเธอเติบโตแล้วฉันก็จะยก กิจการทั้งหมด ให้เธอดูแล แน่นอน สิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่ประเด็น
“นายอาจจะสงสัยว่าทำไมฉันถึงหาบอดี้การ์ดให้ลูกสาวโดย เฉพาะ นายไม่ต้องคิดไปในทางไม่ดี บริษัทในเครือเราเป็นบริษัท ที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง แต่ว่า ในการทำธุรกิจมันก็ต้อง มีไปขัดขาคนอื่นบ้าง และมีบางคนก็มักจะอารมณ์ร้อนทำเรื่องที่ มันขาดสติออกมา เรื่องแบบนี้ตลอดชีวิตฉันเห็นมานักต่อนัก แล้ว”
“อย่างเมื่อหลายวันก่อน ฉันได้รับจดหมายข่มขู่ส่งมาจากคนที่ ตั้งใจปิดบังตัวตน เนื้อความส่วนใหญ่คือ ถ้าฉันไม่อำนวยความ สะดวกให้มัน ก็ระวังลูกสาวฉันไว้ให้ดี ที่จริงฉันรู้ว่าใครเป็นคน ส่งมา มันเป็นคู่แข่งทางธุรกิจของฉันคนนึง คนคนนี้แต่ไหนแต่ไร มามือเท้าก็ไม่สะอาดอยู่แล้ว แถมยังจิตใจโหดเหี้ยมอีกด้วย มี เรื่องบางอย่างมันอาจจะลงมือทำได้จริง ๆ”
“ตัวฉันนั้น อายุก็เยอะแล้ว คนเรามันยิ่งโตขึ้นความกล้าก็ยิ่ง น้อยลง ฉันไม่กลัวเขาทำอะไรฉันหรอก แต่กลัวว่าลูกสาวฉันจะ โดนทําร้ายไปด้วย เพราะฉะนั้นฉันก็เลยอยากจะหาบอดี้การ์ด ให้กับลูกสาวฉัน เสี่ยวเยถ้านายคิดว่าจำนวนเงินนี้มันไป เมื่อ ถึงเวลานั้นฉันจะเพิ่มเงินให้นายอีก เพิ่มเท่าไหร่ก็ไม่มีปัญหา แต่ ว่าไม่ว่ายังไง นายต้องคุ้มกันความปลอดภัยของลูกสาวฉัน ฉัน เห็นฝีมือนายแล้ว ฉันเชื่อว่านายจะทำได้” หลี่เซียนหยวนพูดอย่างเปิดใจกับเย่หลิงเทียน
“ไม่ต้องแล้วครับ ผมคุยกับคุณไว้ว่าห้าแสนก็คือห้าแสน เป็น มาสักหยวนผมก็ไม่เอา คุณเชื่อใจผมเย่หลิงเทียนและยังเอาเงิน ให้ผมก่อน คุณมีความเมตตา ส่วนผมเย่หลิงเทียนก็รู้ว่าอะไรคือ คุณธรรม ผมไม่อาจรับปากความปลอดภัยของลูกสาวคุณได้ร้อย เปอร์เซ็นต์ ผมคิดว่าบนโลกนี้ก็คงไม่มีใครกล้ารับประกันหรอก เพราะว่า ถึงแม้พละกำลังจะแข็งแกร่งหรือว่าจะวางแผนมาดีแค่ ไหนก็อาจจะมีสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ ผมแค่กล้ารับ ประกันว่าผมจะใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีมาคุ้มกันลูกสาวของ คุณ แม้กระทั่งเสียสละชีวิตของผมเย่หลิงเทียน นี่เป็นคำสัญญาที่ ผมเย่หลิงเทียนจะให้กับคุณหรี่ได้ ผมเย่หลิงเทียนให้คำสัญญา กับผู้อื่นน้อยมาก แต่ถ้าผมพูดแล้วก็ต้องทำให้ได้” เย่หลิงเทียน พูดเสียงเรียบ ถึงแม้น้ำเสียงจะราบเรียบ แต่กลับแฝงไว้ด้วยพลัง บางอย่าง
“ดี งั้นลูกสาวฉันก็ฝากนายดูแลด้วย” หลี่เซียนหยวนเห็น ความกระฉับกระเฉงของเย่หลิงเทียนแล้วก็ดีใจมาก เขาทำธุรกิจ มาทั้งชีวิต จะว่าเขาว่าเป็นคนรอบรู้ก็ไม่เกินไปหรอก เขามีความ สามารถพิเศษอย่างนึงก็คือการดูคน จากวิธีการทำงานของคน แบบเย่หลิงเทียนมาพูด เขาก็สามารถดูออกได้ว่า เย่หลิงเทียน เป็นคนที่ไว้ใจได้อย่างไม่มีข้อแม้
“นายรอฉันอยู่ที่นี่ก่อนสักเดี๋ยวนะ เดี๋ยวฉันจะเรียกลูกสาวฉัน มา ให้พวกนายทำความรู้จักกันสักหน่อย เรื่องนี้ฉันยังไม่ทันได้ พูดกับเธอเลย” หลี่เซียนหยวนยิ้มแล้วพูด แล้วก็ถือโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเบอร์เบอร์นึง
เย่หลิงเทียนไม่ได้นั่งหน้าโต๊ะทำงานของหลี่เซียนหยวนต่อ แต่ กลับย้ายไปนั่งที่โซฟาในห้องทำงานของหลี่เซียนหยวนอย่าง รู้ตัว ในใจยังคิดเรื่องอาการป่วยของน้องสาวอยู่ เผลอหยิบบุหรี่ ออกมาสูบม้วนนึงอย่างไม่รู้ตัว เมื่อก่อนเขาไม่สูบบุหรี่หรอก แค่ ว่าช่วงหลายปีที่ทำงานกับหน่วยลับพิเศษเขาค่อย ๆ ติดบุหรี่ขึ้น มา และยิ่งสูบก็ยิ่งหนัก มันไม่มีวิธี ในเมื่อต้องเจอกับกลิ่นคาว เลือดทุกวัน ทุกวันจะต้องเห็นเพื่อนร่วมทีมของตัวเองล้มลงข้าง กายตัวเอง อยู่ภายใต้ความกดดันแบบนี้ คนเราก็ต้องหาทาง ปลดปล่อยตัวเองบ้าง บางคนอาจจะเลือกเหล้า แต่คนที่ทำงาน แบบนี้อย่างพวกเขา เหล้าเป็นสิ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาด นั่นเป็น สิ่งที่กำลังล้อเล่นกับชีวิตตัวเอง เพราะฉะนั้นคนส่วนใหญ่จึงเลือก บุหรี่ และยังเป็นผีบุหรี่ชั้นเยี่ยมกันทั้งนั้น
ในตอนที่เย่หลิงเทียนกำลังคิดอะไรเพลน ๆ อยู่นั้น ข้างนอกก็ มีเสียงรองเท้าส้นสูงกำลังกระทบกับพื้นส่งเสียงเข้ามา หลังจาก นั้นก็เห็นหญิงสาวที่สวมใส่ชุดสูทแบบกระโปรงเดินเข้ามา หญิง สาวดูแล้วอายุประมาณยี่สิบห้าหก รูปร่างสวยงาม หน้าตายิ่งไม่ ต้องพูดถึง ถึงแม้จะเป็นผู้ชายแบบเย่หลิงเทียนที่ผ่านความเป็น ความตายมามากมายจนหัวใจที่เหมือนน้ำนิ่งสนิทก็ยังเกิด ระลอกคลื่นขึ้นมาเบา ๆ เธอช่างสวยงามมากจริง ๆ และเป็นผู้ หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่เย่หลิงเทียนเคยเจอมาตลอดชีวิตนี้
หญิงสาวเดินเข้ามาแล้วขมวดคิ้ว แล้วหันหน้ามาทางเย่หลิง เทียน แล้วเห็นเย่หลิงเทียนที่กำลังพ่นควัเปลี่ยนเป็นแหลมคม เหมือนว่าไม่พอใจมากที่เย่หลิงเทียนสูบ บุหรี่ที่นี่ แต่ว่าเธอไม่ได้ว่าอะไร แต่เดินไปหน้าโต๊ะทำงานของหล เซียนหยวนแล้วถาม “มีเรื่องอะไรคะพ่อ มีเรื่องอะไรทำไมถึงพูด ผ่านโทรศัพท์ไม่ได้คะ ถึงจะต้องให้หนูมาหาถึงที่ให้ได้
“อชิน มา พ่อจะแนะนำให้รู้จัก นี่คือเสี่ยวเย่ เย่หลิงเทียนเขา เป็นทหารปลดประจำการ และก็เป็นคนที่พ่อเลือกให้มาเป็นบอดี้ การ์ดส่วนตัวให้หนู” หลี่เซียนหยวนพูดแล้วเดินออกมาจากโต๊ะ ชี้ไปทางเย่หลิงเทียนแล้วพูดกับหล่อชิน
“สวัสดีครับ” เย่หลิงเทียนรักษามารยาท รีบดับก้นบุหรี่ แล้ว ลุกขึ้นทักทายหลี่อวู่ซิน
แต่ว่าหล่อชินกลับไม่สนใจเขา แต่ถลึงตาโตจ้องมองหล เซียนหยวนแล้วพูดว่า “บอดี้การ์ดเหรอคะ? พ่อ ล้อเล่นใช่ไหม คะ? พ่อคิดว่ามันเป็นสมัยเก่าแห่งศตวรรษที่20อยู่เหรอคะ? ตอนนี้มันเป็นสังคมแห่งกฎหมายแล้วค่ะ ไม่ใช่แก๊งอันธพาล คลองเมืองแบบสังคมเก่าแล้ว จะเอาบอดี้การ์ดมาทำไมคะ?”
“ลูกจะไปรู้อะไร? ลูกคิดว่าสังคมกฎหมายตอนนี้ก็จะไม่มีคน กล้าแหกกฎเหรอ? สะพานที่พ่อข้ามมายังมากกว่าทางที่ลูกเดิน ซะอีกนะ ฟังพ่อ ไม่มีผิดหรอก และอีกอย่าง ถึงจะไม่มีเรื่องอะไร แต่ป้องกันตัวไว้ก่อนก็ดีนะ เสี่ยวเยฝีมือดีมาก คุ้มครองลูกได้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว และอีกอย่างมีเสี่ยวเยอยู่ด้วย พ่อก็จะได้ สบายใจถูกไหม?” หลี่เซียนหยวนพยายามพูดเกลี้ยกล่อม ลูกสาว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ