เมียชาวนา 18+

บทที่11 เปลี่ยนใจไปแล้วหรือเปล่า?



บทที่11 เปลี่ยนใจไปแล้วหรือเปล่า?

คิดไม่ถึงเลยว่าคำสัญญาของเหอจินกุ้ยคนนี้ จะผูกใจกุ้ยหลานไว้ แน่น ตัวกุ้ยหลานอยู่นี่ แต่ใจบินขึ้นไปอยู่กับเหอจินกุ้ยที่เขาเฮย สีแล้ว

นี่เป็นโอกาสที่ดี ที่จะเปิดหน้าต่างเข้าไป เปิดโปงเธอ ข่มขู่เธอ

ให้เธออยู่กับตนเอง

หลต้าหลินคิดถึงตรงนี้ ก็คิดจะเปิดหน้าต่างกระโดดเข้าไป การกระทำของเขาเบามาก และยังย่องเบา กลัวว่าพ่อของเขาหล ชวนจู้จะได้ยิน

ไม่นึกเลยว่าเท้าขวาเพิ่งจะยื่นไปถึงขอบหน้าต่าง ก็เกิดเรื่อง ใหญ่ขึ้นแล้ว เขารู้สึกเจ็บบริเวณลำคอ ดวงตาพร่ามัว ไม่รับรู้ อะไรอีกแล้ว มีใครคนหนึ่งอยู่ด้านหลังเขา บีบคอของเขาไว้แน่น จนเขาสลบไป

คนคนนั้นยังแบกปืนลูกซองมากระบอกหนึ่ง และยังถีบก้นของ เขาแรงๆหนึ่งที ด่าว่าเขา : “ภรรยาของพี่น้องกันเอง แกยังไม่รู้ จักเกรงใจ! อยากจะบิดหัวสมองแกจริงๆ!

เงาร่างนั้นก็คือเหอจินกุ้ย โชคดีที่หลี่ด้าหลินเป็นคน ถ้า หากเป็นหมาป่าหรือเป็นกระต่าย เหอจินกุ้ยคงจะบีบคอเขาจน หักเป็นแน่

แรงของเหอจินกุ้ยเยอะมาก เคยรัดคอหมาป่าตัวหนึ่งตายและยังต่อสู้กับหมีสีน้ำตาลที่แข็งแกร่งในหุบเขางูมาแล้ว

เหอจีนกุ้ยรออยู่ที่เขาเฮยสีอย่างทรหดมาหนึ่งเดือนครึ่งมา จนถึงตอนปีใหม่ ก็ยังไม่ได้รับข่าวเกี่ยวกับการหย่าของกุ้ยหลาน กับซู่หลินเลย และยังไม่เห็นว่ากุ้ยหลานจะแขวนเสื้อผ้าสีแดงออก มาสักที

เหอจินกุ้ยก็คิดพึมพำเองขึ้นมา กุ้ยหลานเปลี่ยนใจไปแล้วหรือ เปล่า? หรือว่าเธอจะเกิดความรู้สึกกับซูหลิน เสียใจภายหลังขึ้น มา?

หลังจากผ่านปีใหม่เสร็จ เหอจินกู้ยอดทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ต้องกลับบ้านไปถามให้ชัดเจน ตกลงว่ากุ้ยหลานเป็นอะไรไปกัน แน่?

เขารีบรนมาครึ่งค่อนคืน ลงมาจากบนเขาเฮยสี กระโดดข้าม กำแพงของบ้านหลชวน แต่กลับมองไปเห็นว่าหลี่ด้าหลินกำลัง พาดตัวอยู่บนของหน้าต่าง

ดูแล้วไอ้เด็กนี่คงอยากจะเข้าไป ทำหน้าที่แทนพี่ชายสินะ

เหอจินกุ้ยเดือดพล่าน ขึ้นไปถึงก็บีบคอเขาจนเขาขึ้นไป

ฉันให้แกขโมย เรื่องดีดีไม่เลียนแบบ กลับเลียนแบบการแย่ง ผู้หญิงของคนอื่นเขา เป็นการกระทำที่เลวจริงๆ

จินกุ้ยบีบคอหรี่ด้าหลินจนสลบไป รู้ดีว่าเขาคงไม่ฟื้นขึ้นมาใน หนึ่งชั่วโมงครึ่งนี้แน่ๆ เขาจึงเปิดหน้าต่างออก พลิกตัวกระโดด เข้าไปในห้องของกุ้ยหลาน
หยิบไม้ขีดไฟออกมา หลังจากที่จุดตะเกียงไฟในห้องจนสว่าง แล้วนั้น เขาก็พบว่ากุ้ยหลานอยู่ภายใต้ผ้าห่ม

กุ้ยหลานเพิ่งจะหลับตาลง เห็นว่าในห้องสว่างขึ้นมา ก็ตกใจ เงยหน้าขึ้นทันใดก็เห็นเหอจินกุ้ย เด็กหญิงก็ร้องตะโกนออกมา อย่างตกใจ : “พระเจ้า ทำไมคุณถึงกลับมาแล้ว?

กุ้ยหลานพลิกตัวลุกขึ้น วิ่งข้าไปในอ้อมกอดของเหอจินกุ้ย พูด ในใจ ทำไมคุณไม่กลับมาเร็วกว่านี้นะ คุณกลับมาป่านนี้ จะไม่ไว้ หน้ากันเกินไปแล้วนะ

เหอจินกุ้ยผลักกุ้ยหลานออกทันใด เอ่ยถามอย่างไม่สบ อารมณ์ : “ทำไมคุณหลอกผม?”

กุ้ยหลานถามอย่างสงสัย : “ฉันไปหลอกอะไรคุณคะ?”

“คุณบอกว่าจะหย่ากับหลี่หลินไม่ใช่หรอ? ผมรออยู่บนเขา หนึ่งเดือนครึ่ง ยังไม่เห็นว่าคุณเคยแขวนเสื้อผ้าสีแดงออกมาสัก

กุ้ยหลานหน้าแดง : “จินกุ้ย ฉันพูดไม่ออกน่ะ

“ทำไมถึงพูดไม่ออก? คุณชอบซูหลินเข้าแล้วใช่ไหม? รู้สึก อะไรกับเขาแล้วใช่ไหม?”

กุ้ยหลานส่ายหน้า : “ไม่ใช่”

“แล้วเพราะอะไร?”

กุ้ยหลานท่าทางเจ็บปวดอย่างมาก พูด :“จินกุ้ย คุณจริงใจกับฉันจริงๆหรือเปล่า? คุณจะรับประกันได้ยังไงว่าคุณเองจะไม่ เกลียดฉัน? ถ้าฉันไปกับคุณ แล้วเซียงหย่าวจะทำยังไงคะ? นั่น เป็นถึงคู่หมั้นที่รักกันมาตั้งแต่เด็กของคุณเลยนะ ถ้าพวกเราไป แล้วเธอจะเจ็บปวดใจมากขนาดไหน?

จินกุ้ยพูด : “ผมไม่ได้ชอบเชียงข่าว ผมคิดกับเธอแค่พี่สาว มาตลอด ก็ถูก เซียงหล่าวเป็นคนที่สวยมาก แต่ผมเกลียดเธอ และก็เกลียดพ่อของเธอหลี่ซวน แล้วก็หลิน ต้าหลิน ผมเกลียด พวกเขาทั้งครอบครัว

กุ้ยหลานยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ เอ่ยถาม : “ทำไมคะ คุณ

กับพวกเขามีความแค้นอะไรกันหรอคะ?”

จินกุ้ยพูด : “ใช่ มีความแค้นกัน ความแค้นมันเริ่มต้นตั้งแต่ สิบปีที่แล้ว ปู่กับย่าของผมถูกครอบครัวหลี่บีบบังคับจนตาย พวกเขาลากยาของผมไปเดินขบวนประท้วง และยังกล่าวหามั่ว ชั่วว่าพ่อของผมเป็นเด็กเหลือขอ ทำให้พวกเรากลายเป็นคน ชนชั้นต่ำต้อย พวกเราทั้งครอบครัวล้วนเงยหัวไม่ขึ้น เพราะ ฉะนั้นผมเลยเกลียดพวกเขา”

กุ้ยหลานเข้าใจแล้ว เมื่อก่อนครอบครัวของเหอจินกุ้ยเป็น เจ้าของที่ นายทุน บรรพบุรุษมีฐานะร่ำรวยอย่างมาก จะบอกว่า ร่ำรวยมีทรัพย์สินมากมายเกือบเทียบเท่าประเทศทั้งประเทศเลย ก็ว่าได้ หลายปีก่อนหน้านี้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายขึ้น ชนชั้น ในครอบครัวไม่ดีนัก มักจะถูกลากออกไปเดินขบวนประท้วงอยู่บ่อยๆ
ตอนนั้น พ่อของหลี่ชวนจู้เป็นเลขาของพรรค เขาเป็นคนสั่ง การทั้งหมด เหอจินกุ้ยจึงได้อาฆาตแค้นกับครอบครัวหรี่ และ ตัดสินใจที่จะแก้แค้นพวกเขา

โชคดีที่หลี่ซวนจูลูกชายสี่คน ถ้าหากเป็นลูกสาวสี่คน เทอ นกุ้ยคงนอนกับลูกสาวทั้งสี่คนของครอบครัวพวกเขาทุกคนเป็น แน่

เพื่อที่จะแก้แค้นครอบครัวหลี่ เหอจินกุ้ยตัดสินใจ ร่วมหลับ นอนกับเซียงหย่าวจากนั้นก็ทิ้งเธอไป ทำให้คนในครอบครัวหล ลิ้มรสชาติของการตายทั้งเป็น

ที่เขาต้องแย่งกุ้ยหลานหนีไป หนึ่งเป็นเพราะรัก สิ่งที่สำคัญ ที่สุด คืออยากทําให้ครอบครัวหรี่พังทลาย ครอบครัวแตกแยก เหอจินกุ้ยเข้าไปดึงมือภัยหลานไว้แน่น : “กุ้ยหลาน คุณจะ ไปกับผมไหม? ผมรับปาก ต่อจากนี้จะให้คุณมีชีวิตอย่างสุข

สบาย ไม่ลำบาก ผมมีความสามารถที่จะทำได้

กุ้ยหลานเจ็บปวดในใจ พยักหน้าทั้งน้ำตา : “จินกุ้ย ฉันรู้ รู้ ว่าคุณทำได้ แต่เซียงหชาวไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย การ ปฏิวัติก็ผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว ครอบครัวของคุณก็กลับมาเป็น ปกติแล้วไม่ใช่หรอคะ? ทำไมถึงยังพูดถึงเรื่องนี้อยู่อีก?”

เหอจินกุ้ยออกมา : “ฐานะทางสังคมแก้ไขกลับมาเป็นปกติ แล้วก็จริง แต่ความแค้นกลับไม่สามารถแก้ไขได้ตลอดไป ไม่ช้า ก็เร็วต้องมีสักวัน ผมจะทำให้ครอบครัวหรี่หวาดกลัวจนอยู่ไม่ เป็นสุข คุณคอยดู”
ดวงตาเหอจินกุ้ยคมอย่างมาก จนในใจกุ้ยหลานเต้นกระตุก อย่างแรง กุ้ยหลานพูด : “ฉันไม่ไป ถึงจะหย่ากับหลินแล้ว ฉัน ก็แต่งงานกับคุณไม่ได้อีกแล้ว ฉันไม่อยากทำให้คุณต้องเลิกกับ เชียง ข่าว”

เหอจินกุ้ยถาม :

“พูดแบบนี้ คุณไม่ชอบผมแล้วหรอ?”

กุ้ยหลานพูด : “ใช่ ฉันไม่ชอบคุณ คุณไปเถอะค่ะ ฉันก็จะ ผ่านมันไปแบบนี้แหละ นี่แหละคือชีวิต! ! ”

“คุณไม่เสียใจแน่นะ?” เหอจินกุ้ยถาม

“ไม่เสียใจค่ะ คุณไปเถอะ คิดซะว่าเราไม่เคยสัญญาอะไรกันไว้ และก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน” กุ้ยหลานพูดทั้งน้ำตา

.?” เหอจินกุ้ยพูดอะไรไม่ออกแล้ว เขา รู้สึกเหมือนคนโง่ที่น่าสมเพช : “กุ้ยหลาน ไปกับผม ต่อจากนี้ คุณจะสุขสบาย ผมมีภูเขาทองลูกหนึ่ง เป็นของที่บรรพบุรุษ ตกทอดมาให้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องขับรถ นั่งเครื่องบินในอนาคต แม้กระทั่งซื้อเขาเฮยสีทั้งลูกก็ยังไม่เป็นปัญหา ผมอยากให้ ทั้งหมดนี้กับคุณ ให้ลูกๆของเราในอนาคต คุณคิดให้ดีดี

“คุณ..

กุ้ยหลานตะลึงไป “ภูเขาทอง? คุณอยู่บนเขาเฮยสี ก็เพื่อที่จะ ไปดูแลภูเขาทองลูกนั้นหรอ?”

เหอจินกู้ยพยักหน้า : “ใช่ แค่คุณไปกับผม ภูเขาทองลูกนี้ก็จะ เป็นของคุณ”

กุ้ยหลานหัวเราะขมขื่นออกมาและส่ายหน้า :”ช่างมันเถอะค่ะ ภูเขาทองเก็บเอาไว้ให้คุณกับเซียงหย่าวเถอะค่ะ ชีวิตฉันเกิด มามีกรรม ไม่มีความสุขที่สมควรจะได้รับ หลินก็เป็นคนดี ฉัน กลัวว่าจะทำให้เขา……..

เหอจินกุ้ยพูดอะไรไม่ออก เขารู้สึกว่ากุ้ยหลานชอบหลินเข้า แล้ว

หัวใจของผู้หญิงยากเกินจะคาดเดาได้ นี่กุ้ยหลานเป็นอะไร ไป? ทำให้เขากระวนกระวายเป็นบ้าเป็นหลัง ที่แท้ที่ทำมา ทั้งหมดก็เสียแรงเปล่า

ดอกไม้ตั้งใจร่วงหล่นไหลลงไปตามน้ำ แต่กลับไม่สนใจ ดอกไม้ ดูเหมือนว่าเขากับกุ้ยหลานคงเป็นเขาเองที่รักเธออยู่ข้าง เดียว

เหอจินกุ้ยคลายมือของกุ้ยหลานออก มองเธอเงียบๆ หญิง สาวก็ยังคงมีเสน่ห์อย่างมากเช่นเคย ใบหน้ารูปไข่ยังคงแดงระ เรือน่าค้นหาอยู่อย่างนั้น เป็นเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เส้นผมจึง เป็นประกายเงางาม

เหอจินกุ้ยถอนหายใจออกมา มองกุ้ยหลานอย่างคิดถึงครู หนึ่ง : “ถ้างั้นคุณก็ดูแลตัวเองดีดี ขอโทษ ที่ผมรบกวนชีวิตของ

หลังจากเหอจินกุ้ยพูดจบ ก็หมุนตัวกระโดดออกจากหน้าต่าง เงาร่างแวบผ่านไปบนขอบกำแพง คล่องแคล่วคล้ายกับแร็คคูน ตัวหนึ่ง

มองดูเงาของจินกุ้ยที่หายไป กุ้ยหลานล้มทรุดลงไปบนเตียงทันใด เริ่มร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วง หัวไหล่สั่นไม่หยุดร้อง จนหมอนเปียกไปด้วยน้ำตา

เธอหลอกเหอจินกุ้ย และก็ยังหลอกตัวเอง เธอจะไม่ชอบเหอ นกุ้ยได้ยังไง? เมื่อกี้บนเตียง เธอยังต้องการอ้อมกอดของชาย หนุ่มอยู่เลย

แต่เพื่อเสียงหล่าว เพื่อจินกุ้ย และก็เพื่อหลิน เธอคงต้องทำ

แบบนี้

ในหมู่บ้านเฮยสี แต่ไหนแต่ไรมาไม่มีสักคนที่เคยหย่าร้างกัน ผู้หญิงที่เคยถูกผู้ชายไล่ออกจากบ้าน ก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนพูด เรื่องหย่ากับผู้ชายเลย

เหอจินกุ้ยไปที่หนึ่ง ก็ไปเกือบครึ่งปี จนถึงเทศกาลไหว้ พระจันทร์ในเดือนแปดของปีนี้ เขาถึงเพิ่งลงมาจากบนเขาเฮย

ชีวิตต่อจากนี้ยังต้องเดินต่อไป กลับมาราบเรียบเหมือนชีวิต

เมื่อก่อนอีกครั้ง

หลังจากที่หลินทำงานเหมืองถ่านหินสองเดือน ช่วงเวลาฝน รำไรที่ต้นข้าวสาลีกำลังหยั่งรากลงไปในดิน ข่าวร้ายที่น่าตกใจก เข้ามา

วันนี้ ในหมู่บ้านมีคนแปลกหน้าคนหนึ่งเข้ามา เดินเข้ามาใน บ้านของหลี่ซวน เขาบอกหลี่ชวนว่า ในตอนที่หลินทำงาน เหมืองถ่านหินอยู่นั้น ก็เจอเข้ากับพื้นทรุด ร่างถูกฝังลึกลงไปใน ถ่านหิน500เมตร และยังมีคนที่ถูกฝังลงไปในถ่านหินพร้อมกัน กับเขาอีกหลายคน เป็นวัยรุ่นในหมู่บ้าน
คนคนนี้ยังนำของที่ระลึกของ หลินมาให้อีกด้วย มันเป็น เพียงแค่เสื้อไม่กี่ตัวที่หลินเคยเปลี่ยนตอนที่ลงไปในถ่านหิน

หลี่ชวนได้ยินก็อึ้งค้างไป แทบจะไม่เชื่อว่านี่คือเรื่องจริง

แม่ของซูหลินก็เป็นลมไปเลยในตอนนั้นต้าหลิน หลิน เสียว หลินร้องไห้ไปตามๆกัน : “พี่ ทั้งครอบครัวหลี่เละเทะเป็นโจ๊กชั่วคณะในทันที เต็มไปด้วย

เสียงร้องไห้ คร่ำครวญ

ทุกคนอุ้มพาด้านายหลีขึ้นไปบนเตียงในห้องรีบเรียกหมอ หลิวมา ทั้งหมึกปาก ทั้งตบหน้าอก ทำอยู่นาน แม่หลินถึงฟื้นขึ้น

ด้านายหลีลืมตาขึ้น อ้าปากค้างอยู่นาน ในที่สุดก็คือ ร้องไห้เสียงดังออกมา : “ฮือ.. ฮือ เจ้าฟ้า เจ้าดิน ฮือ ลูกชายของฉันทำไมถึงได้ตายเร็วนัก ฉัน อยู่ไม่ได้ เทพเจ้าลืมตามาดู ฉันทำอะไรผิดไปหรอ ฮือ… ฮือ….. ฮือฮือฮือ”

ฮือฮือฮือ

แม่หลินกอดเข่า เงยคอขึ้นร้องไห้คร่ำครวญ เสียงร้องไห้ ฟูมฟายนั้น ไพเราะน่าฟังอย่างมาก ราวกับนักร้อง ที่ดึงดูด สายตาจากเด็กกลุ่มหนึ่ง ให้มองมาอย่างสนใจ

เสียงร้องไห้ของด้าบายหลีแหบแห้ง ร่างกายแทบจะแตก สลายอยู่รอมร่อ น้ำตาแทบจะไม่มีให้ไหลออกมาแล้ว เพื่อนบ้าน ใจดีได้ยินเสียงร้องไห้ ก็เดินเข้ามาในประตูบ้านครอบครัวห เอ่ยปลอมประโลมแม่ของ หลินอยู่นาน
“คุณป้าครับ เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แล้ว จะทำอะไรได้อีก? ทำได้ แค่เอาเสื้อของเขาไปฝัง คนตายไปแล้วก็ฟื้นคืนชีพไม่ได้แล้ว คุณ ร้องไห้จนร่างกายไม่ไหวยังไงหลินก็ไม่กลับมาแล้ว”

แม่ซู่หลินอึ้งไป จิตใจสับสนวุ่นวายไปหมด

ตอนนี้เองหลี่ชวนถึงได้เข้าใจถึงความปรารถนาดีของชาย หนุ่ม เอ่ยพูดขึ้น : “ทำที่ฝังเสื้อผ้าของลูกขึ้นมาอันหนึ่ง หลังจากนี้ ให้มีที่กราบไว้ก็พอแล้ว”

หลินมาตายไปแบบนี้ กระทั่งร่างศพที่สมบูรณ์ยังเอากลับมา ไม่ได้ คำพูดเหล่านั้นที่เขาพูดเมื่อตอนออกเดินทาง ก็เท่ากับเป็น คำพูดสุดท้ายของเขา

เขาเคยพูดไว้ว่าจะให้กุ้ยหลานมีชีวิตที่ดี ให้เธออยู่ดีกินดี ถึง แม้ว่ากุ้ยหลานจะไม่เคยมีอะไรกับซูหลิน แต่ยังไงซะเขาก็เป็น สามีที่ถูกต้องและเป็นที่รับรู้ทั่วกันของเธอ

หลังจากนั้นสามวัน เสื้อผ้าของหลินถูกฝังอยู่ในที่ฝังของศพ บรรพบุรุษหน้าหมู่บ้าน หลี่ชวนสร้างที่ฝังเสื้อผ้าอันหนึ่งให้ ลูกชาย ซ้อนทับขึ้นเป็นเงินกลมๆอันหนึ่ง

ด้าหลิน หลิน เสี่ยวหลิน สามคนพี่น้องสวมหมวกผ้าหมว หยาบ คุกเข่าเช็ดน้ำตาอยู่หน้าหลุมศพ

แม่หลินนั่งร้องไห้อยู่หน้าหลุมศพลูกชายด้วยน้ำแสงแหบ แห้งราวกับตายทั้งเป็น เสียงร้องไห้เศร้าโศกดังไปไกล คนใน บริเวณรอบๆที่ได้ยินก็ต่างเสียใจน้ำตาตกไปด้วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ