เมียชาวนา 18+

บทที่14 เรื่องนี้มีทางออก



บทที่14 เรื่องนี้มีทางออก

ที่กุ้ยหลานตอบตกลงแต่งงานกับหลิน เหตุผลหลักๆก็คือ หลินคล้ายกับจินกุ้ยอย่างมาก มารยาทดีเหมือนกัน สุภาพอ่อน โยนเหมือนกัน ไร้เดียงสาเหมือนกัน อีกทั้งยังจิตใจดีเหมือนกัน

สิ่งที่ไม่เหมือนก็คือ หลินดูเป็นคนเนิร์ดอย่างมาก และเรือ นกุ้ยนั้นนอกจากความหล่อแล้ว บนหว่างคิ้วยังมีความเย่อหยิ่ง อย่างหนึ่ง

นั่นเป็นความหยิ่งที่จะยอมรับประเภทหนึ่ง และยังกล้าเสี่ยง เพื่อคนข้างกายจะไม่สนสิ่งใดทั้งสิ้น ความเย่อหยิ่งนี้นั้นดึงดูด สายตาของผู้หญิงได้อย่างมาก

วันที่หนึ่งที่นอนห้องเดียวกันกับหลิน กุ้ยหลานนึกถึงเหอจินกู้ ยอีกแล้ว อีกทั้งตามกาลเวลา ความคิดถึงนี้ยิ่งอยู่ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เรื่อยๆ

กุ้ยหลานย่นหน้าผาก มองไปทางหลินพลางถอนหายใจ ยัง ไงซะเขาก็ไม่ใช่เหอจินกุ้ย บนหว่างคิ้วไม่ได้มีความเย่อหยิ่งนั้น จึงพูดออกไป : “มะรืนนี้ยังต้องไปเรียนหนังสือ นอนเถอะ”

ยู่หลินดูไม่เป็นธรรมชาติอย่างมาก เป็นเด็กซื่อสัตย์คนหนึ่ง คืนแรกของการแต่งงานเขาก็ไม่รู้ว่าการมีภรรยามันหมายถึง อะไร ก็รู้แค่ว่าการที่ชายหนึ่งคนและหญิงหนึ่งคนนอนอยู่บนเตียง เดียวกันก็เป็นกระบวนการทั้งหมดของการแต่งงานแล้ว
……………………ครับ ผมนอนแล้วนะครับ” เอ่ยบอกกับพี่ สะใภ้คำหนึ่ง หลินก็ไม่เกรงใจแล้ว น่าหัวเอนลงไปบนเตียง ซึ่ง ผ้าห่มผืนหนึ่งขึ้นคลุมถึงหัวแล้วก็นอนไป นอนตัวตรงคล้ายกับ ร่างซอมบี้อายุพันปี

หลี่ซวนและแม่ซู่หลินยิ้มกริ่มอยู่ด้านนอก ลูกสะใภ้อนุญาต ให้ลูกชายนอนเตียงเดียวกัน ก็เป็นการพิสูจน์ได้แล้วว่าเรื่องนี้ ทางออก

หลี่ซวนเอ่ยถาม : “คุณว่าจะสำเร็จไหม?”

ด้านายหลีพูด : “ฉันว่าสำเร็จ พวกเรารออุ้มหลานได้เลย คืนนี้ ด้านายหลีลากหลชวนเข้าบ้านอย่างมีความสุข ขึ้นนอน บนเตียง กอดกันกลม

เกือบสามเดือน ในที่สุดพวกเขาก็สามารถออกมาจากความ ทุกข์ทรมานจากการตายจากของลูกชายทั้งสองคนได้แล้ว เริ่ม ทำเรื่องอะไรต่างๆได้อีกครั้ง

กุ้ยหลานนั่งอยู่หัวเตียงคิด การตายของซูหลินและด้าหลิน ทำให้เธอไม่เข้าใจและหวาดกลัวอย่างมาก เกิดเป็นเงาลึก ภายในใจ

เธอเกิดความรู้สึกกลัวกับผู้ชาย กลัวอย่างมากว่าหลินจะ ตายเหมือนกันกับหลินและด้าหลิน เธอล้วนผ่านค่ำคืนไปอย่าง ไม่สบายใจ จนถึงแสงอาทิตย์ส่องสว่าง

เป็นอย่างนี้อยู่สามวัน หลินไม่ได้แตะต้องเธอเลยสักนิด และยังพูดน้อยจนน่าสงสาร

ผ่านไปสามวัน หลินก็ต้องไปโรงเรียนแล้ว ในตอนที่จะไปกู้ย หลานไปส่งเขาที่ปากทางหุบเขางู และยังบอกกับเขา ; “บนเขา ไม่มีทาง และก็มีหมาป่าเยอะ ระวังตัวด้วยนะ

หลินยิ้มและเอ่ยพูด : “ไม่ต้องเป็นห่วงครับพี่สะใภ้ ผมจะ ระวังตัว คราวนี้ไม่สนว่าจะสอบเข้าได้หรือไม่ได้ ฤดูร้อนนี้ผมก็จะ เลิกเรียนแล้ว กลับบ้านดูแลคุณให้ดีดี ผมจะทำให้คุณกินดี อยู่ดี ทำให้คุณมีความสุขตลอดชีวิต ไม่อย่างนั้นผมคงตายตาไม่ หลับ”

ในตอนที่ยหลินจะไปได้พูดถึงเรื่องตาย ในใจของกุ้ยหลานก็ รู้สึกไม่ดีอย่างมาก รีบพูด : “นี่นี่นี่ จะพูดเรื่องตายทำไมกัน ฉันไม่ให้นายตาย”

ยหลินเหมือนกันกับพี่ชายคนโตของเขาหลินเลย ชอบกุ้ย หลานอย่างมาก อยากจะทำดีกับเธอไปตลอดชีวิต ถึงแม้ว่ากุ้ย หลานไม่ชอบหลิน แต่ก็ไม่ได้อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับเขา ใจ เธออ่อนแอเกินกว่าจะรับกับเรื่องอะไรที่หนักหนาได้อีกแล้ว

หลินก็ไปทั้งอย่างนั้น นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เขากับกุ้ยหลานเจอ กัน คำพูดเหล่านี้ก็กลายเป็นคำพูดสุดท้ายของเขา ในตอนที่ กลับมาอีกครั้ง สิ่งที่ยกเข้ามาในบ้านกลับเป็นร่างศพที่มีเลือด เนื้อร่างหนึ่ง

ครอบครัวหรี่ก็โชคร้ายเกินไปแล้ว พระอาทิตย์ยังไม่ทันโผล่ พ้นภูเขา ก็มีข่าวร้ายส่งมาอีก เป็นเพราะทางที่หลินต้องเดินไปโรงเรียน ระตอนต้องทําให้ตกลงในหุบและเสียชีวิต..

ร่างของยู่หลินนั้นถูกหมอหลิวพบเข้าในตอนที่เขาขึ้นเขาไปหา

ยา

วันช่วงบ่าย หมอหลิวผูกเชือกเอว เดินขึ้นหน้าผา หุบเขาเก็บรังนกทั้งหนึ่งอยู่บนหน้าผา มองเห็นไกลๆว่ามีฝูง หมาป่ากำลังกัดร่างหนึ่ง เขาจึงเดินเข้าไป หมาป่า กระเจิงไป

เดินนอนอยู่ เขาถูกกัดแทะจนเนื้อไปหมด บนร่างไม่เหลือกระดูก เป็นชิ้นเป็นเลยสักชิ้น ล้วนถูกกัดแทะจนแตกสลายหมด แล้ว

หน้าถูกฟันคมของหมาป่าแทะจนออก หัวใจ กระเพาะก็ล้วนลากออกมานอกร่างกาย เนื้อบนต้นขาก็ฉีก ไม่น้อย ถ้าหากหมอหลิวมาเห็นเข้าสะก่อน ร่างของเขาคงฝูงหมาป่าลากไปแล้ว

หมอหลิวแทบจะสนใจที่เก็บนกอีกแล้ว วิ่งเข้าไปใน บ้านอย่างร้อนรน แจ้งคนไปยกร่างบนเขา

ร่างของยู่หลินเพิ่งจะถูกยกเข้าประตูบ้าน ด้าบายหลีก็ทรุดไปกอง

คราวซู่หลินไม่ได้ร้องไห้ และไม่กรีดร้อง นั่งเหม่ออยู่ อย่างนั้น นั่งได้นั่งไปหลายไม่กินอาหารไม่พูดจา
หลังจากหลี่ซวนเห็นร่างของลูกชาย ร้องออกมา : “ลูกชาย ของฉัน! ” ทรุดตัวสลบลง ไม่เหลือสภาพของความเป็นคน H

ในตอนที่ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เขาพูดจาเพ้อเจ้อไร้สาระ เดี๋ยว ร้องไห้เดี่ยวหัวเราะ ราวกับบ้าไปแล้ว

ในเวลาภายในหนึ่งปี ลูกชายทั้งสามตายอย่างอนาถ ใครที่

สามารถผ่านเรื่องราวเหล่านี้มาได้โดยที่ไม่เป็นบ้าสิถึงจะแปลก?

ศพของยู่หลินเอามาอยู่ที่บ้านสามวัน ญาติๆมาแสดงความ เสียใจกันจนเสร็จสิ้น เขาก็ถูกคนในหมู่บ้านยกไปแล้ว สิ่งที่เดียว กับพี่ชายทั้งสองของเขา

กุ้ยหลานนั่งอยู่หน้าประตู มองดูคนในหมู่บ้านยกร่างหลิน ออกไป เธอไม่ขยับเขยื้อน ลมโชยพัดผมยาวของหญิงสาวพลิ้ว ไหว ฝนในยามฤดูฝนเคลือบชุบต้นมะเดื่อในลานบ้าน ดอก มะเดื่อร่วงหล่นลงบนพื้นท่ามกลางสายฝน

หัวใจของกุ้ยหลานแหลกสลายกลายเป็นผุยผงไปแล้ว เธอ รู้สึกว่าจิตวิญญาณของเธอไม่มีแล้ว กลายเป็นเพียงแค่ร่างที่มี เลือดเนื้อไร้ซึ่งวิญญาณ

เธอค่อยๆกลับเข้าไปในห้องดึงผ้าห่มผืนหนึ่งขึ้นคลุมศีรษะ นอนไปเป็นเจ็ดแปดวัน พร่ำเพ้อถึงชีวิตที่ทรมานของตนเอง

หลุมศพขอองครอบครัวหลี่คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง เกิดหลุมศพ ใหม่กองนูนขึ้นสูงถึงสามหลุม

ฟ้าหลังฝนในวันนี้ทำให้หลี่ซวนจูกับแม่ซึ่งจุนตกอยู่ในความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอีกครั้ง คนแก่ทั้งสองนั่งร้องไห้อย่างเจ็บ ปวดอยู่หน้าหลุมศพของลูกชายทั้งสาม ก้อนเมฆไม่สดใส ดวง อาทิตย์ไร้แสงสว่าง

ฝุ่นควันจากการเผากระดาษลอยฟุ้งอยู่ท่ามกลางสายลม เนิ่น นานไม่ยอมจากไป คล้ายกับวิญญาณของลูกชายทั้งสามที่ไม่ ยอมจากไป

หลังจากศพของหลินถูกฝังแล้วนั้น ในหมู่บ้านก็มีข่าวลือเกิด ขึ้น คล้ายกับเมฆหมอกที่ครอบปกคลุมท้องฟ้าสีครามอันสดใส คล้ายกับไฟป่าที่ลุกโชนเผาทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่ม แพร่สะพัด กระจายไปทั่วทั้งหมู่บ้านภายในเวลาอันรวดเร็ว

มีคนพูดว่า : “กุ้ยหลานเกิดปีมะแมเดือนสิบสองตามปฏิทิน จันทรคติ เป็นคนมีกรรม พ่อตาย แม่ตาย ต่อมาพี่น้องก็จะตาย ตาม ออกเรือนไปสามีก็จะตาย ญาติพี่น้องที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ใน อนาคต ลูกหลานก็จะถูกเธอทำให้ตาย โชคชะตาของคนเกิด เดือนสิบสองปีมะแมนั้นดุร้ายมาก ใครได้เธอเป็นเมีย จะต้องล้ม ตายกันไปหมดทั้งครอบครัว

ยังมีคนพูดว่า : “นี่คือสวรรค์กำลังแก้แค้นคนในครอบครัว หลี่ชวนจี้ทั้งครอบครัว หลี่ซวนและด้าบายหลีทำเรื่องไม่ดีมา มากเกินไป หลี่ซวนจี้แทบจะล่อลวงนอนกับผู้หญิงในหมู่บ้าน เกือบทั้งหมู่บ้านแล้ว ด้าบายหลีกลวงหลอกผู้ชายมานอนด้วย เกือบทั้งหมู่บ้านแล้ว สวรรค์จัดให้กุ้ยหลานแต่งเข้าไปใน ครอบครัวของพวกเขา ก็เพื่อดำเนินการแทนสวรรค์ จะทำให้ ครอบครัวหรี่ชวนไร้ทายาทสืบสกุลต่อไป”
และยังมีคนพูดว่า : “กุ้ยหลานมีดาวเสือขาว เกิดมาก็เพื่อ คร่าชีวิตของสามี ผู้ชายที่เคยขึ้นเตียงกับเธอล้วนแต่จะต้องตาย ทั้งนั้น ดาวเสือขาวก็คือผู้หญิงที่ชอบดูดเลือดของผู้ชาย เธอดูด เลือดของผู้ชายทุกคนในครอบครัวหลี่ซวนจนหมด ไม่เว้นแม่ แต่คนเดียว”

สรุปโดยรวมก็คือ ข่าวลือ พูดลือไปต่างๆนาๆ โชคดีที่ค้าขาย หลีและหลี่ซวนต่างก็ไม่ค่อยสนใจอะไร สภาพจิตใจค่อยๆฟื้น คืนกลับมา

ท้ายที่สุด ข่าวลือเหล่านี้ข้ามาถึงหูของด้าบายหลี คนแก่ได้ฟัง ก็เกิดสงสัยขึ้นมา

คุณว่าลูกชายคนหนึ่งตายไป เป็นเพราะโชคชะตาของเขาไม่ดี ลูกชายสองคนตายไป ก็อาจจะบอกได้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แล้ว การตายของลูกชายคนที่สามหลินล่ะจะอธิบายยังไง?

ด้าบายหลีเริ่มกัดฟัน โยนความผิดของการตายของลูกชายทั้ง สามของเธอไปบนตัวของกุ้ยหลานทั้งหมด ความรักที่มีต่อลูก สะใภ้ก็เปลี่ยนแปลงไปค่อยๆกลายเป็นความเกลียดชัง

ผู้หญิงคนนี้คือตัวปัญหา ไม่ควรเก็บเอาไว้ ครอบครัวหมี ลูกชายทั้งหมดสามคน พริบตาเดียวก็ถูกเธอทำให้ตายไปแล้ว ถึงสามคน เป็นอย่างนี้ต่อไป ครอบครัวหลีก็จะไม่มีทายาทสืบ สกุลจริงๆแล้ว

ไม่สามารถนำเอาลูกชายคนที่สี่เสี่ยวหลินไปแต่งงานกับเธอ อีกแล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงจะหมดทายาทเข้าจริงๆ
เพื่อที่จะยืนยันความจริง วันนี้ ค้าบายหลีแต่งตัวเป็นพิเศษ หยิบเงิน หยิบเทียนแห่ง ไปหาแม่หม้ายซุนหน้าหมู่บ้าน

แม่หม้ายซุนปีนี้อายุสามสิบกว่าแล้ว แต่ยังดูสวยสง่าอยู่ แต่ แค่อวบไปหน่อย

ไม่ต้องพูดถึงซวน กระทั่งลูกชายคนที่สองของซวน ก็ยังเคย มีความสัมพันธ์กับแม่หม้ายซุนมาแล้ว แม่หม้ายชุนชอบผู้ชาย บริสุทธิ์เป็นที่สุด

สามีของแม่หม้ายซุนตายเร็วเกินไป ขาดอากาศหายใจตาย

ทำให้หลี่ซวนเดาถูก สามีของครอบครัวซุนกลางคืนก็นอน อยู่ดีดี ตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็กลับขาดอากาศกหายใจตาย ตายคา หน้าท้องของภรรยา

ตอนนั้น ศีรษะของเขาอยู่กลางระหว่างตัวภรรยา ลมหายใจ

หยุดนิ่ง ร่างกายก็เย็นขึ้นแล้ว ถูกภรรยาจับกดตาย

หน้าอกคู่นั้นของแม่หม้ายซุนใหญ่อย่างมาก ราวกับห้อง แตงโมลูกใหญ่เอาไว้สองลูก การเคลื่อนขยับแกว่งไปมาตอน เดิน ผู้ชายในหมู่บ้านเมื่อได้เห็นก็ต่างตาลุกวาวกันเป็นแถบ

มีบางครั้งที่หลี่ชวนกลัวอย่างมาก กลัวว่ามันจะหล่นลงมา กะทันหัน ทับหน้าขาจนเละ และยังกลัวว่าตัวเองจะถูกจับกดตาย แบบสามีของครอบครัวซุน

นับตั้งแต่ที่สามีของเธอตาย แม่หม้ายซุนก็กลายเป็นแม่หม้าย หิวกระหายจนแทบไม่ไหว ลูกเธอก็มีแค่ผู้หญิงคนเดียว ปีนี้เพิ่งจะ12ขวบ หน้าตาน่ารักน่าถะนุถนอม ชื่อว่าชิง

ปัจจุบันนี้ซึ่งกำลังขึ้นชั้นป.5 คนที่เธอชื่นชมนับถือมากที่สุด ในหมู่บ้านคือเหอจินกุ้ย ในเรื่องหลังจากที่เธอโตแล้วที่ความ สัมพันธ์ฉันท์คู่รักกับเหอจินกุ้ย ค่อยว่ากันทีหลังในเรื่องนี้

หลังจากอาหารเย็น แม่หลินไปถึงบ้านแม่หม้ายซุนเงียบๆ

แม่หม้ายซุนเพิ่งจะวางตะเกียบลง

“อ้าว พี่สะใภ้ มาหรอคะ? มีเรื่องอะไรคะ?” แม่หม้ายซุน เกรงใจอย่างมาก

แม่ซูหลินเอ่ยพลับๆล่อๆ : “คุณน้องคะ ฉันมีเรื่องอยากคุย

กับเธอ”

แม่หม้ายซุนยิ้ม และเดาได้ทันทีถึงการมาของแม่หลิน ไม่

ต้องถาม ก็รู้ว่ามาเพราะเรื่องของกุ้ยหลาน

เธอจึงปัดมือและเอ่ยพูด : “ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ คุณพี่มาเพราะ เรื่องของกุ้ยหลานล่ะสิคะ? อยากจะให้ฉันช่วยดูวันเกิดของเธอ วิเคราะห์ว่าเธอมีดาวเสื้อขาวหรือเปล่า ใช่ไหมคะ?”

แม่หลินชื่นชมอยู่ในใจ : “นี่ คุณน้อง มิน่าล่ะคนทั้งหมู่บ้าน ถึงได้บอกว่าเธอคือครึ่งนางฟ้าซุน เป็นจริงสะด้วย ฉันยืนอยู่ตรง นี้ เธอก็เดาออกถึงการมาของฉันแล้ว?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ