เมียชาวนา 18+

บทที่5เบาๆหน่อย



บทที่5เบาๆหน่อย

กุ้ยหลานไม่ได้กรีดร้องออกมา เพราะกลัวจะทำให้แม่ของเธอ ตกใจ แต่ตอนนี้แม่ของเธอกำลังแอบฟังอยู่ตรงห้องโถงแล้ว

ร่างกายของหญิงสาวร้อนรุ่มไปทั้งตัว สายตาเป็นประกาย ใบหน้าทรงไข่กำลังร้อนผ่าวเหมือนถูกไฟเผา ความรู้สึกแปลก ใหม่ลึกลับที่เร้าใจกำลังโลดแล่นอยู่ในหัวของชายหญิง

เหอจินกุ้ยเป็นผู้นำพายหลานจากโลกของเด็กสาวสู่โลกแห่ง หญิงสาว

ร่างกายที่เรียวงามของหญิงสาวหลบซ่อนอยู่ภายใต้ผ้าห่ม

นี่คือของขวัญที่ดีที่สุดที่สวรรค์มอบให้กับเขา มีเวลาเพียงแค่ ไม่กี่วัน เขาต้องรักษาโอกาสนี้ไว้ให้ได้ เพราะถ้าเวลาผ่านไป มันก็คงจะไม่มีอีกแล้ว ต่อไปมันก็จะกลายเป็นของคนอื่น ต้อง รักษาไว้ให้ได้

จังหวะหายใจของทั้งคู่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ เกิดหัวเราะขึ้นมา

อยู่ดีๆกุ้ยหลานก็

เหอจินกุ้ย “ขำอะไร?”

กุ้ยหลาน “มันคัน เบาๆหน่อย

เหอจินกุ้ยก็ค่อยๆนุ่มนวลลง

เรือนร่างอันงดงามที่เปลือยเปล่าของกุ้ยหลานถูกเปิดเผยออกมา ผิวพรรณที่ผ่องใสนุ่มนวลน่าสัมผัส

สองมือของเหอจินกุ้ยโอบกอดร่างกายของหญิงสาวเอาไว้นั่น ไหวอย่างไม่หยุดหย่อน

เหอจินกุ้ยไม่เคยมีประสบการณ์กับหญิงใด เขาเพียงแค่นำเอา สิ่งที่พี่ด้าฮานกับข้อหลานฟางเคยสอนไว้ค่อยๆทําตามไปทีละ อย่าง

สองมือของหญิงสาวสวมกอดอยู่ที่ต้นคอของเขา เหอจินกุ้ย รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะหายใจไม่ทัน

ทั้งสองได้แต่กลิ้งไปมาอยู่บนที่นอน จากหัวเตียงไปท้ายเตียง จากท้ายเตียงกลับมาที่หัวเตียง ทำจนที่นอนเกิดเสียงดัง จี๊ด จ๊าดๆ

ฝนหยุดแล้ว พายุสงบลง ร่างกายอันอ่อนล้าของทั้งคู่ก็ไม่ต่าง กับดินเหนียวที่ถูกน้ำฝนสาดจนเละ คงรูปไว้ไม่ได้ แต่ทั้งสองคนก็ ยังกอดกันอย่างแน่นแฟ้น

เหอจินกุ้ยหายใจหอบเหนื่อย เหมือนกำลังจะละลายเป็นน้ำ ความสุขที่สวยงามแบบนี้ก็ไม่ต่างกับพายุฝนที่พัดผ่าน ที่สุข

ล้นแต่รวดเร็ว

ผ่านไปพักหนึ่ง เหอจินกุ้ยอยากพูดปลอบใจเธอ แต่ก็ไม่รู้จะ ปลอบใจยังไง

ชะงักอยู่นานกว่าจะถามไป “ทรมานไหม?”
เหอจินกุ้ยกุ้ยหลานนึกว่ากุ้ยหลานกำลังโกรธ เพราะคิดว่าเขา คงใช้แรงมากไป ไม่อ่อนโยน จนทำให้เธอต้องเจ็บตัว จึงถามไป อีกรอบ “ขอโทษนะ

กุ้ยหลานยังคงนั่งเงียบ

เหอจินกุ้ยรู้สึกแปลกใจจึงลุกขึ้นมาดู ตาทั้งสองข้างของกุ้ย หลานนั้นอยู่นิ่งไม่ขยับ ที่มุมปากมีเลือดไหล รอยเลือดนั้นเกิด จากตอนที่ทั้งคู่กำลังบรรเลงเพลงรักกัน เธอได้กัดเข้าไปที่หัวไหล่ ของเหอจินกุ้ยจนมันฉีกขาด

กุ้ยหลานไม่เพียงตาค้าง แม้แต่หน้าก็เริ่มซีด

เหอจินกุ้ยลองเอามือไปยังที่จมูกของหญิงสาวดูแม้แต่ลม หายใจก็ไม่มีแล้ว

เหอจินกุ้ยตกใจจนขนหัวลุก ใจหายซะจนแทบเป็นลม

ซวยแล้ว เธอตายแล้ว…….ยังไงดี?

เขาค่อยๆเปิดผ้าห่มออก มองเข้าไปข้างใน ปรากฏรอยเลือด สดๆอยู่จุดหนึ่ง

คุณพระช่วย แทงคนตายแล้ว

หลายวันก่อนตอนพี่ด้าฮานสอนไม่เห็นพูดถึงเลยว่าไอ้นั่นแทง คนตายได้ด้วย หรือของเราจะไม่เหมือนกับของคนอื่น? นี่มันเรื่อง อะไรกัน

เหอจินกุ้ยกลัวมาก ถ้ากุ้ยหลานตายไปจริงๆเขาก็ต้องถูกจับเขามืดแปดด้าน กระวนกระวายใจ

หรือว่า….จะหนี

เหอจินกุ้ยรีบใส่เสื้อผ้าแล้วกระโดดหนีลงหน้าต่างไป ก่อนไปเขาก็ไม่วายที่จะเอาผ้าห่มไปห่มให้กุ้ยหลานก่อน ลัด เลาะไปตามกำแพง แอบหนีกลับบ้านไป

กลับถึงบ้านเหอจินกุ้ยก็ไม่ได้รายงานตัวกับพ่อแม่ เขารีบไป คว้าปืนล่าสัตว์พร้อมทั้งจูงเอาหมาพรานของเขาแล้วหายตัว เข้าไปในป่า

เหอจินกุ้ยหลบซ่อนอยู่ในเขาพ่อผานเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม จน กุ้ยหลานแต่งงานไปสามรอบ แล้วก็กลับมาอยู่ที่บ้านของเหอ นกุ้ย พอเหอจินกุ้ยรู้ว่ากุ้ยหลานยังไม่ตาย เขาจึงกล้าที่จะกลับ เข้าบ้าน

การหลบหนีของเหอจินกุ้ยในครั้งนี้ เป็นการก้าวเท้าที่ผิด พลาดอย่างใหญ่หลวง กับการไร้ซึ่งความรับผิดชอบในครั้งนี้มัน จะกลายเป็นบทเรียนราคาแพงที่แสนเจ็บปวดสำหรับเขาในชีวิต ต่อจากนี้

มันเป็นบทเรียนที่ทำให้ชีวิตของเขาผ่านไปอย่างเจ็บปวดและ เสียใจอย่างถึงที่สุด

ต้องแบกรับกับความรู้สึกผิดอย่างทรมาน

ในเย็นวันนั้น แม่ของกุ้ยหลานยกเอาอาหารอย่างดีมาเสร์ฟที่ ห้อง แต่ในห้องว่างเปล่า จินกุ้ยหายตัวไป
ผ้าห่มบนที่นอนถูกใช้งานแล้ว ลูกสาวของเธอกุ้ยหลานนอน อยู่ในนั้น แม่ของกุ้ยหลานรู้ในทันทีว่าเรื่องนั้นสำเร็จแล้ว รู้สึก ดีใจเป็นอย่างมาก

เธอเอาอาหารวางไว้บนโต๊ะเรียกลูกสาวให้ตื่นมากินข้าวลูก รัก ตื่นมากินข้าวได้แล้ว”

กุ้ยหลานไม่ขยับเขยื้อน

แม่ของกุ้ยหลานคิดว่าลูกสาวกำลังหลับอยู่หรือไม่ก็อาจจะเป็น อายก็เป็นได้ จึงเดินไปเปิดผ้าห่มออก

ภาพที่ปรากฏมันไม่ปกติ เธอตกใจจนขวัญกระเจิง เข่าแทบ ทรุด ใบหน้าอันชรานั้นขาวซีด

ภาพที่เธอเห็นคือ กุ้ยหลานที่หน้าซีดเผือด ตาเหลือก ลูกสาว ของเธอที่อยู่ในที่นอนได้ตายไปแล้ว

แม่ของกุ้ยหลานตกใจเสียงหลง”ไอ้ห! ตายแล้ว!ตายแล้ว!

ช่วยด้วย…!”

เธอรีบวิ่งออกจากบ้านอย่างตื่นตระหนก ตะโกนเสียงอยู่กลาง ถนน น้ำเสียงแตกซ่าน ผู้คนที่เพิ่งเลิกงานต่างหันมาดู

บางคนที่ใจกล้าพอก็ตามเธอเข้ามาในบ้าน มองเห็นสภาพที่ ยุ่งเหยิงของที่นอนและร่างกายที่เปลือยเปล่าของกุ้ยหลาน ทุก คนก็เข้าใจสถานการณ์ขึ้นมาในทันที

มีคนเอ่ยขึ้น”ยังไม่รีบไปตามหมออีก รีบไปตามหมอหลิวมา ช่วยเร็ว!”
แม่ของกุ้ยหลานจึงนึกขึ้นได้ว่าต้องตามหมอ

ล้มลุกคลุกคลานจนมาถึงบ้านหมอหลิว หมอหลิวกำลังฝังเข็ม ให้คนไข้อยู่

แม่ของกุ้ยหลานที่อยู่ในสภาพเหน็ดเหนื่อย หายใจติดขัด พูดจาไม่รู้เรื่อง ดึงมือของหมอไว้ก็จะไปเลย

หมอหลิวเองก็ตกใจเหมือนกัน จึงถามไปแม่ของกุ้ยหลานใจ

เย็นๆ เกิดอะไรขึ้น?”

แม่ของกุ้ยหลานเอ๋ย”ช่วยด้วย!ช่วยลูกสาวฉันด้วย เธอมีอะไร กับเหอจินกุ้ยแล้วตายอยู่บนเตียง

“อะไรนะ!”หมอหลิวตกอกตกใจ ไปคว้าเอากล่องยาได้ก็รีบ ตามแม่ของกุ้ยหลานไปที่บ้านทันที

หมอหลิวเป็นหมอเท้าเปล่าคนเดียวในหมู่บ้านเฮยสีและยัง

เป็นหมอเพียงคนเดียวในละแวกนั้นอีกด้วย

เขาอายุมากแล้ว เจ็ดสิบกว่าปี มากความรู้มากประสบการณ์ เป็นคนมีคุณธรรมสูงส่ง ในหมู่บ้านเฮยสี และเป็นคนชราที่มี ประสบการณ์มากที่สุด

พอรู้ว่ากุ้ยหลานตายเพราะมีอะไรกับคนอื่น เขาก็เข้าใจใน ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ

เมื่อมาถึงที่บ้านกุ้ยหลาน หมอหลิวไม่ได้ดูรีบร้อนอะไร โบกไม้ โบกมือ อย่าใจร้อน อย่าใจร้อน ให้หมอดูหน่อยสิ”
เขาดึงมือซ้ายของกุ้ยหลานออกจากผ้าห่มมาวัดชีพจร ปลาย นิ้วสัมผัส โยกหัวครุ่นคิด วิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน แม่ของกุ้ยหลานก็ ถามขึ้นเกิดอะไรขึ้น ยังช่วยลูกสาวฉันทันไหม?”

หมอหลิวหน้าตาผ่อนคลาย พูดด้วยรอยยิ้มว่าไม่เป็นไร แค่ เพียงเข็มเดียว เธอก็พื้นแล้ว

พูดจบหมอหลิวก็หยิบเอากระเป๋าหนังใบหนึ่งออกมาแล้วเปิด มันออก ภายในกระเป๋าเต็มไปด้วยเข็มมากมายที่กำลังส่องแสง ระยิบระยับ

เข็มเงินเหล่านั้น สั้นยาวสลับกันไป อันสั้นยาวไม่ถึงนิ้ว อันยาว ไม่สั้นกว่าสองฟุต

เขาหยิบเอาเข็มเงินที่ยาวสองนิ้วออกมาสามเล่ม เขาฝังมันลง ไปตรงหลังมือของกุ้ยหลานหนึ่งเล่ม ร่องริมฝีปากหนึ่งเล่มและ กลางหว่างคิ้วอีกหนึ่งเล่ม

เมื่อฝังเสร็จเขาก็หยิบเอากระบอกยาสูบออกมาอย่างใจเย็น ล้วงเอายาสูบออกมา หนึ่ง เติมมันลงไปในกระบอกจนแน่น จุด ไฟ แล้วสูดควันเข้าไปเต็มปอด กลุ่มควันกลุ่มใหญ่พวยพุ่งออก มาจากปากของชายชรา

มันคือความเคยชินของเขา ทุกครั้งหลังจากที่เขารักษาคนไข้ เสร็จเขาก็มักจะทำแบบนี้ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือคนไข้ปลอดภัย ดีแล้ว

แม่ของกุ้ยหลานโล่งอกเป็นอย่างมาก
แม่ของกุ้ยหลานเอ่ยถาม” ลูกสาวฉันเป็นอะไร? ทำไมถึงเป็น แบบนี้?”

หมอหลิวยิ้มไปพูดไปไม่มีอะไร แค่สลบไป มีอะไรครั้งแรก แล้วเป็นแบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมดา เป็นการตายแบบหลอกๆ ฝั่ง เข็มนิดหน่อยก็หายแล้ว”

“อ๋อ….”ทุกคนต่างพากันโล่งใจ ถ้าอธิบายมาแบบนั้น ทุกคน ต่างกันเข้าใจโดยพร้อมเพรียงกันว่าที่แท้ก็มีความสุขจนตายนั้น เอง

ตกดึก หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้านหมดแล้ว แม่ขอ งกุ้ยหลานก็เข้าครัวไปต้มน้ำตาลแดงมาด้วยหนึ่งยกไปที่ห้อง ทางตะวันตก

พอส่งน้ำสำเร็จ แม่ก็เริ่มถามไถ่ลูกสาว

“ลูกรัก เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?” กุ้ยหลานหน้าแดงเหมือนผ้าไหม หลบเข้าที่นอน”หนูก็ไม่รู้

“แล้วมันรู้สึกยังไง?มันทรมานไหม?”

กุ้ยหลานพยักหน้า”มันเจ็บ เหมือนถูกอะไรบางสิ่งมาทำให้มัน ฉีกขาด”

“แล้วทำไมลูกถึงสลบไปหล่ะ?”

“สงสัยหนูเจ็บจนสลบไปมั้งคะ

ตั้งแต่นั้นมากุ้ยหลานก็เกิดความรู้สึกกลัวผู้ชายขึ้นมา พอมีผู้ชายเข้าใกล้เธอก็จะเกิดอาการหวาดกลัว หัวใจเจ็บปวดเหมือน มีอะไรมีทิ่มแทงหัวใจ

อาการแบบนี้เธอเป็นอยู่นานหลายปี ดังนั้นถึงแม้ว่าเธอจะ แต่งงานกับชายอื่นไปแล้วสามรอบ แต่ก็ไม่เคยมีใครได้แตะเนื้อ ต้องตัวเธอเลย

พอแม่ของกุ้ยหลานเห็นลูกสาวเป็นแบบนี้ เธอก็หวนคิดถึงเมื่อ

ก่อน

ยี่สิบปีก่อนคนที่ช่วยสอนเธอคือช่างไม้ที่อยู่หน้าหมู่บ้าน ช่างไม้คนนั้นหน่วยก้านดี แข็งแรง มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆเหมือนวัว หนุ่ม

สลบเป็นตายแบบกุ้ยหลานที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน

เธอรู้สึกแปลกใจมาก เรื่องแบบนี้มันมีความสุขจะตาย หรือว่า เหอจินกุ้ยจะแตกต่างจากคนอื่น หรือของเขาจะใหญ่มาก?”

เธอยกน้ำอุ่นมา เอาผ้าขนหนูจุ่มน้ำ ช่วยกุ้ยหลานเช็ดคราบ เลือดให้จนสะอาด แล้วห่มผ้าให้ลูกสาว เพื่อให้เธอได้พักผ่อน อย่างเต็มที่

หลังจากเก็บกวาดเสร็จ แม่ของกุ้ยหลานก็เตรียมที่จะไปเอา เรื่องที่บ้านเหอจินกุ้ย

เด็กคนนี้ทำไมถึงใจ อย่างนี้ ครั้งแรกของผู้หญิงมันยาก ลำบากแค่ไหน ทำไมถึงไม่ระวังเลย น่าจะทำให้มันนุ่มนวลกว่านี้ ต้องเอาเรื่องมันให้ได้
ยังไม่ทันจะออกจากบ้าน แม่ของเธอจินกุ้ย ก็เดินตุ่มๆเข้ามา

“แม่กุ้ยหลานแม่กุ้ยหลาน!”หญิงชาวนานั้นเสียงดัง ดังจนแรง สั่นสะเทือนเข้ามากระทบกับประตูจนเกิดเสียงดัง

แม่ของกุ้ยหลานยื่นหน้าออกมาดู” จะแหกปากทำไม? ใครไป เหยียบหางแกเข้าเงียบๆหน่อยไม่เป็นหรือไง?”

แม่ของเหอจินกุ้ย”ป่านนี้แล้วยังจินกุ้ยยังไม่กลับบ้านอีก จะให้ เขานอนที่นี่เลยใช่ไหม? คงไม่ต้องให้ลูกฉันกลับบ้านแล้วมั้ง ให้ เขาแต่งเป็นลูกเขยเข้าบ้านเลยเอาไหม?”

แม่ของกุ้ยหลานได้ยินอย่างนั้นก็เกิดเป็นกังวลขึ้นมา”จินกุ้ย ยังไม่ได้กลับบ้าน”

“ก็ใช่น่ะสิ ฟ้ามืดขนาดนี้แล้วเขายังไม่กลับบ้าน เธอระวังนะ ให้พวกเขาอยู่ด้วยกันนานเดียวเกิดพวกเขาชอบพอกันขึ้นมามัน จะยุ่งเอานะ”

ชายหญิงทั้งสองห้ามมีชอบพอกัน นี่ก็เป็นธรรมเนียมเหมือน

แม่ของกุ้ยหลานตกใจแล้วก็เข้าใจขึ้นมาทันที ไม่ต้องถามก็รู้

เด็กคนนี้คิดว่ากุ้ยหลานตายแล้ว ตกใจกลัวเลยหนีไป

เธอจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้ให้แม่ของเธอจินกู้ย ฟัง พอได้ยินเช่นนั้นแม่ของเหอจินกุ้ยก็ตกใจไม่แพ้กัน “มีเรื่อง อย่างนี้ด้วยเหรอ?แล้วลูกชายของฉันจะทำยังไง? ฉันมีลูกชายแค่ คนเดียว ถ้าเกิดเขาเป็นอะไรขึ้นมา ต่อไปถ้าฉันตายไปใครจะมาสวมชุดผ้าขาว ให้ฉัน? ใครจะมาจัดงานศพให้ฉัน เอาลูกชายของ ฉันคืนมา เอาคืนมา”

แม่ของเหอจินกุ้ยร้องไห้ฟูมฟายพร้อมกับเขย่าร่างกายแม่ขอ งกุ้ยหลานไปด้วย เขย่าจนเธอแทบหมดแรง ทวงคืนลูกชาย ลูกชายที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเธอ

แม่ของกุ้ยหลานก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยพอใจแล้ว”ฉันไม่ได้คิดบัญชี ที่ลูกสาวของฉันต้องเป็นแบบนี้เลย ดูสิเขาปล่อยให้กุ้ยหลาน ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ได้ยังไง?ลูกชายตัวเบ้อเริ่มจะหายไป ได้อย่างไรกัน?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ