ตอนที่ 9
“รออยู่แถวนี้นะ” เขาบอกเธอตอนที่เดินเข้าไปถึงล็อบบี้
“ค่ะ” ปองรักได้แต่รับปากเบา ๆ
เขายื่นบัตรเครดิต ให้เธอหนึ่งใบ ปองรักรับมาถือเอาไว้แบบ งง ๆ เขาเดินลิ่ว ๆ ขึ้นลิฟต์ไป เธอหมุนตัวไปรอบ ๆ ก่อนจะไปนั่ง ลงที่โซฟาในล็อบบี้
ติดๆ… มีเสียงเตือนในมือถือของที่ทำงาน
(“เที่ยงกว่าแล้ว เดินไปที่ร้านอาหารแล้วสั่งอะไรกิน แล้วจ่าย ด้วยบัตรเครดิตนั้น หลังจากนี้ไปเราสองคนต้องใช้พลังงานอีก เยอะ”)
ฟาเบียนส่งข้อความเข้ามา ปองรักรีบลุกขึ้นทันที จริง ๆ ก็หิว มาก ตั้งแต่เช้าเพิ่งได้กาแฟไปแค่แก้วเดียวเอง เธอตรงดิ่งไปที่ ห้องอาหารที่อยู่ใกล้ ๆ กับล็อบบี้ สั่งข้าวผัดทะเลหนึ่งจาน เมื่อ พนักงานมาเสิร์ฟ เธอถึงกับร้อง เพราะจานใหญ่เบ้อเริ่ม
กินเข้าไปก่อน กินเยอะ ๆ ไม่รู้บอสจะพาไปไหนมั่ง กินเอาแรง กินเอาพลัง สู้ ๆ จิล’ เธอบอกกับตัวเอง
“จิลทำงานวันแรกเป็นไงบ้าง” สุจิราส่งเสียงมาตามสาย
“ก็สนุกดี งานเยอะดี พี่ที่สอนงานก็ดีมาก ๆ แล้วของจิราเริ่ม ฝึกงานตอนไหน” ปองรักถามเพราะเธอได้ฝึกงานก่อนเพื่อน แต่ทุกคนไม่ว่าจะเริ่มตอนไหนก็ต้องฝึกให้ครบหกเดือน หรือหนึ่งพัน ห้าร้อยชั่วโมง
“ก็เริ่มวันจันทร์หน้านี่แหละ ไปฝึกงานที่บริษัทของพี่เดียวจำได้ ไหม” สุจิราทวนความจำของปองรัก เธอเอ่ยถึงลูกชายเพื่อนสนิท ของคุณพ่อของสุจิรา ซึ่งเขาอายุห่างกับพวกเธอเจ็ดแปดปี
“อ๋อ คนที่เราไปงานวันเกิดของคุณพ่อพี่เดียวใช่ไหม เขาก็ทำ ส่งออกเหมือนกัน”
“ใช่ ๆ เสียดาย จิลไม่น่าเล่นตัวเลยนะ ตอนนั้นพี่เดียวสนใจ เธอมาก” สุจิราแซวเพื่อน
“บ้า เล่นตัวที่ไหน พี่เขาทั้งหล่อทั้งรวย ตอนนั้นพี่เขาก็แสดง หนังด้วย ใครจะมาจริงจังกับคนอย่างเรา” ปองรักนึกไปถึง ภาพยนตร์ที่เขาแสดงแล้ว ตอนนี้ถือว่าดังมาก ๆ
“พี่เดียวเป็นคนน่ารักนะ เมื่อวันก่อนเจอกันยังถามถึงจิลอยู่ เลย ปากหวานฝากมาด้วยว่า ฝากความคิดถึงให้น้องจิลด้วยนะ” สุจิราทำเสียงเล็กเสียงน้อย
“ไม่จริงแน่ ๆ ประโยคหลังเนี่ย จิราเสริมมาหรือเปล่า” ปองรัก ส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ
“จริง ๆ พี่เดียวพูดแบบนั้นจริง ๆ ว่าแต่ว่า จิลไปทำงานกับคุณ ฟาเบียน ตัวจริงกับในทีวี คนไหนหล่อกว่ากัน” สุจิราถาม เพราะ เธอก็ได้ยินชื่อเสียงของชายหนุ่มมาบ้าง
“ถามอะไรก็ไม่รู้ คนหน้าตาดีตอนไหนก็หน้าตาดี” ปองรักเอ่ยถึงเขา ใบหน้าเริ่มแดงระเรื่อ
“ฮั่นแน่… อย่าหลงเสน่ห์เจ้านายเชียวนะ” สุจิรายังแซวไม่
“ไปกันได้หรือยัง” เจ้านายทำเสียงเข้มอยู่ด้านหลัง
เลิก
“คะ” เธอหันหน้าไปหาเขาด้วยความตกใจแก้มของเธอเกือบ ชนปลายจมูกของเขาที่จงใจชิดใบหน้าลงมาใกล้ ๆ
“จิราแค่นี้ก่อนนะ ไว้ว่าง ๆ จะโทรหา
“โอเคจ้า” สุจิราได้ยินเสียงทุ้ม ๆ เข้ามาในสาย เธอรีบวาง ทันที
ปองรักรีบเก็บโทรศัพท์ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย เขาดึงมือเธอ ขึ้นมาและเดินจับมือกันไป หญิงสาวเขินจนหน้าแดง เดินแทบขา ขวิด
ฟาเบียนพาปองรักไปเดินที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำกลางกรุง เขาดันหลังเธอให้เดินเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์ดัง
“รบกวนจัดเสื้อผ้าสวย ๆ ให้คุณผู้หญิงเธอด้วยนะครับ” เขา พูดขึ้นน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ ปองรักหันมามองใบหน้าของเขา ชายหนุ่มไม่พูดอะไรได้แต่พยักหน้าและยักคิ้วให้ เขาเดินไปนั่ง รอที่โซฟาเล็ก ๆ ที่ให้แขกนั่งรอ ตรงหน้าห้องทดลองเสื้อของร้าน
“ใส่แล้วเดินออกมาให้ดูด้วยนะ” เขาออกคำสั่งด้วยความคุ้น เคย ปองรักถอนหายใจเสียงดัง แต่หันหน้าไปยิ้มให้กับพนักงาน สาวสองคนที่กำลังมองหาไซส์ของเสื้อผ้าให้เธออยู่
ปองรักเดินเข้าเดินออกห้องลองเสื้อผ้านั้นไม่รู้กี่รอบ ฟาเบียน ได้แต่ยกนิ้วหัวแม่โป้งขึ้นกับคว่ำลง เล่นเอางานนี้บอกได้คำ เดียวว่าหญิงสาวเหนื่อย เพราะเขาพาเดินไปทั่วไม่รู้กี่ร้านต่อ ร้าน แถมด้วยกระเป๋าหิ้ว กระเป๋าถือ ชุดชั้นในยังไม่เว้น และ รองเท้าอีกสี่คู่
เธอกลืนน้ำลายลงคอทุกครั้งที่ได้ยินพนักงานเอ่ยถึงราคาที่ เขาจะต้องเป็นคนจ่าย
สองคนเดินหิ้วของพะรุงพะรัง ได้ยินเสียงผู้เป็นนายจ้างสั่ง “กลับสัตหีบกันเลยนะ ค่อยสั่งของไปกินที่บ้าน” เขาพูดกับเธอ ด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
เมื่อถึงรถเขาก็ขับวิ่งออกไปจากลานจอดของห้างสรรพสินค้า อย่างรวดเร็ว
ปองรักเหลือบมองใบหน้าของเขาอยู่หลายครั้ง เธอไม่
สามารถจะอ่านใจของเขาได้ว่าเขากำลังคิดอะไร
“มีอะไรติดอยู่ที่ใบหน้า หรือข้างแก้มของผมหรือ” เขาพูดขึ้น มาเสียงดัง และหันมาสบตา
“เปล่าค่ะ” เธอรีบตอบด้วยความตกใจ
“อือ…” ฟาเบียนยิ้มอย่างมีเลศนัย และส่งเสียงหัวเราะอยู่ในสําคอ
ขายหน้าเขาแล้วไหมละ ปองรักบ่นว่าตัวเอง
เสียงโทรศัพท์ของฟาเบียนเข้ามาไม่หยุด บางครั้งเขาก็คุย ออกไปเป็นภาษาอังกฤษ บางทีก็สนทนาเป็นภาษาฝรั่งเศส และ สายล่าสุดเขากุยเป็นภาษาจีน
ปองรักมองหน้าเขาแบบทั้ง ๆ คนอะไรเก่งเป็นบ้าเลย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ