เมีย(คู่นอน)พาร์ทไทม์

ตอนที่ 33



ตอนที่ 33

ปองรักเดินหิ้วกระเป๋าใบเล็ก เข้าบ้านมาพร้อมของฝากของ

พ่อกับแม่

“อ้าว คุณฟาไม่ลงมาหรือลูก” คุณแม่ถามทันที

“คุณฟารีบค่ะแม่ อีกอย่างคงเหนื่อยกับการเดินทางเลยรีบ กลับสัตหีบค่ะ คุณฟาฝากสวัสดีแม่กับพ่อด้วย เธอยิ้มกว้าง เดิน เข้าไปสวมกอดแม่เอาไว้ทั้งตัว

“หน้าตาสดใส สนุกไหมไปเที่ยวเมืองนอก

“ค่ะแม่” เธอยิ้มกว้าง รีบเอาหมวกกันหนาวที่ฟาเบียนซื้อมา ให้พ่อ และเสื้อคลุมสีขาวน่ารัก ๆ ในแบบฉบับคนฝรั่งเศสเป็น ของฝากของคุณแม่

“คุณฟาเลือกเองเลยนะคะแม่” เธอยื่นส่งไปให้กับแม่ แม่ถอน

หายใจออกมาเบา ๆ แต่ก็ยิ้มและรับของไปถือเอาไว้

“จิล หนูทำใจได้เหรอที่จะอยู่กับคุณฟาแบบนี้” นางรู้ดีว่า ลูกสาวของนางต้องมีอะไรกับเขาไปแล้ว

“แม่…” เธอรู้ว่าปิดบังอะไรแม่ต่อไปไม่ได้แล้ว แต่ก็ไม่อยาก ให้แม่รู้ว่าเธอขายตัวเองให้กับเขา

“คุณฟาเขารักจิลนะคะ แล้วจิลก็รักเขา” เธอปดแม่เรื่องที่เขารักเธอ
“อื้อ… ลูกก็โตแล้ว รู้จักคิดเป็น แม่จะไม่ห้ามนะ อะไรที่เป็น

ความสุขของลูกแม่ก็ยินดี” นางกอดลูกสาวไว้แนบอก ไม่อยาก

จะเล่าให้ปองรักฟังเลยว่าอาการของพ่อแย่ ช่วงที่เธอไปฝรั่งเศส

พ่อก็หยุดหายใจไปครั้งหนึ่งดีว่ามีพยาบาลอยู่ด้วยช่วยปั๊มหัวใจ ให้ แล้วส่งตัวพ่อไปโรงพยาบาลได้ทัน คุณหมอบอกว่าต้องทำใจนะโรคนี้มันอยู่ที่ตัวคนไข้ เขาพร้อม ที่จะจากโลกนี้ไปเมื่อไหร่ก็ได้

“แม่ทำไมหน้าเซียว ๆ เหมือนไม่ได้นอน” เธอพิศใบหน้าของ แม่

“จิล แม่ขอให้ลูกเลือกทางเดินของตัวเองให้ดีที่สุดนะ แม่ไม่รู้ ว่าพ่อจะอยู่กับเราได้สักกี่วัน” แม่ถอนหายใจใบหน้าห่อเหี่ยวแต่ ไร้น้ำตารินไหลเหมือนช่วงแรก ๆ

“แม่จ๋า ทำไมพูดแบบนี้ พ่อต้องหาย” เธอกลับเป็นคนน้ำตา

ไหลเสียเอง

“ทุกอย่างในโลกนี้ ล้วนเป็นสิ่งไม่จริง แม่ปลงได้แล้ว พ่อจะ จากแม่ไป แม่ก็จะไม่ห้าม ไม่ทัดทาน แต่สิ่งเดียวในโลกใบนี้ที่ แม่เป็นกังวลก็คือจิล รู้ไหมลูก”

นางยกมือขึ้นลูบผมของลูกสาวอย่างแสนรัก ใช้ฝ่ามือที่ตอนนี้ เหี่ยวย่นลงไปมากแตะสัมผัสไปทั้งใบหน้าของลูกสาว ปองรักจับ มือของแม่เอาไว้ แล้วจับมันแตะที่ริมฝีปาก ปองรักสะอื้นเบา ๆ นี่ เป็นครั้งแรกที่สองแม่ลูกได้คุยกันอย่างเปิดอกหลังจากที่พ่อป่วย

“แม่อยากจะบวชตลอดชีวิตนะ หากพ่อตายไป” คำบอกเล่าของแม่ทำให้ปองรักสะอื้นหนักเข้าไปอีก เธอซบหน้าไปร้องไห้ กับอกของแม่ “บ้านหลังนี้ก็ยกให้เสียเข้าไปซะ แม่ว่ามันมีแต่ความทรงจำที่

ทรมาน จิลไปอยู่กับคุณฟานะลูกนะ” แม่พูดสั่งเสีย

“แม่ไม่ต้องเป็นห่วงจิลหรอกค่ะ จิลดูแลตัวเองได้ ขอให้แม่มี ความสุขลูกคนนี้ก็พอใจ” แม่ยิ้มให้เธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วย ความรัก ยกมือขึ้นลูบหัวลูกสาวคนเดียวของนาง สองแม่ลูกกอด กันกลมอยู่ตรงนั้น

สามวันต่อมาฟาเบียนมารับปองรักถึงที่บ้าน

“คุณแม่มีอะไรจะคุยกับคุณฟานะค่ะ” คุณแม่ของปองรักเอ่ย

ขึ้น

มองตามหลัง เธอรู้ว่าแม่จะพูดอะไรกับเขา

“ครับผม” เขาปลีกตัวออกมาจากห้องนอนของคุณพ่อ ปองรัก

“แม่อยากให้คุณฟาเอ็นดูจิล แม่อยากจะฝากฝังจิลกับคุณฟาน ะคะ แม่ก็นั่งคิดนอนคิดอยู่นานแล้วว่าจะพูดเรื่องนี้กับคุณฟาดี ไหม เฮ้อ… แม่คิดว่าวันหนึ่งหากไม่มีพ่อแล้ว แม่จะทำอย่างไรกับ ชีวิตดี” นางยิ้มแต่นัยน์ตาเศร้า

“ครับคุณแม่”

“แม่จะบวชตลอดชีวิต แต่… แม่จะทิ้งจิลไปได้ยังไง หากจิล ไม่มีคนคอยดูแล” นางจ้องสบตาฟาเบียน แววตาที่เปี่ยมไปด้วย ความห่วงใยลูกสาวเพียงคนเดียวของนาง
“ผมสัญญากับคุณแม่ครับว่า ผมจะดูแลจิลแทนคุณแม่ครับ” เขารับปาก แค่ได้ยินประโยคนี้จากปากของเขา นางก็ดีใจเป็น ที่สุด

“ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณ”

คุณแม่เอื้อมมืออันสั่นเทาแตะสัมผัสหลังมือของฟาเบียนบอก ความรู้สึกทั้งหมดถ่ายทอดไปให้เขา

“คุณฟา… ช่วยจิลด้วย” ปองรักสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากฝันร้ายใน คืนหนึ่ง เธอตัวสั่นอยู่ในอ้อมกอดของเขา ร้องไห้สะอึกสะอื้น

“จิล ๆ ๆ..” ฟาเบียนขยับตัวเปิดไฟ แล้วเขย่าตัวเธอให้ตื่น

“คุณฟา ฮือ…” เธอร้องไห้ตัวโยนทันทีที่ลืมตาขึ้นมามองเขา

“ฝันร้ายน่ะสิ” เขากอดปลอบใจ

“คุณฟาขา จิล ใจคอไม่ดีเลยค่ะ จิลฝันว่ามีคนเอาไม้ไล่ทุบจิล แล้วไม้ก็ฟาดลงมาที่ปากของจิล ฟันจิลร่วงลงมาหมดเลย ฮือๆ…” เธอร้องไห้ดังขึ้นอีก ตัวสั่นเป็นลูกนกอยู่ในอ้อมแขนของ ฟาเบียน

“ขวัญเอยขวัญมา ไม่อะไรหรอก เขาบอกว่าฝันร้ายจะกลาย เป็นดีนะ” เขาใช้มือเชยคางเธอขึ้น ก่อนจะก้มลงจุมพิตที่หน้าผา กกว้าง

“สาธุค่ะ ขอให้เป็นแบบนั้นนะคะ” เธอยกมือขึ้นมาพนมไหว้

“พรุ่งนี้คุณฟาพาจิลไปใส่บาตรที่วัดดีไหม”
“จริง ๆ นะคะ”

“จ้า เราตื่นเช้า ๆ กันหน่อย ไปวัด แล้วก็ค่อยไปท่าเรือดีไหม”

“ค่ะ” เธอกอดเขาเอาไว้ทั้งตัว ฟาเบียนเอื้อมมือไปปิดไฟ ก่อน จะตระกองกอดร่างของปองรักเอาไว้ในอ้อมกอดตลอดทั้งคืน

(“ฮัลโล… ยายจิลได้ของฝากจากฝรั่งเศสแล้วนะ ขอบคุณ

มากๆ แล้วไม่เห็นลงรูปในเฟซหรือไอจีละคะ”) สุจิราเอ่ยแซว

“บ้าลงได้ไง เก็บไว้ดูเอง” เธอบอกเพื่อนรัก

(“นี่จิล จิราถามจริง ๆ เหอะ จิลรักคุณฟาเบียน แล้วคุณฟา เบียนก็รักจิลใช่ไหม) คำถามของเพื่อนทำให้ปองรักถึงกับพูด ไม่ออก เธอตอบได้ตอนนี้เลยว่าเธอรักเขา แต่สำหรับคุณฟาเธอ ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าเขาคิดยังไง

“จิรา จิลรู้ว่าจิราเป็นห่วงจิลนะ แต่ตอนนี้จิลไม่รู้อนาคตจริง ๆ จิลสารภาพนะว่า จิลรักเขา แต่…” ปองรักอึกอัก

(“จิล ด้วยความหวังดีนะเพื่อน จิลก็รู้ประวัติของคุณฟาเบียน ใช่ไหม เขาเป็นคาสโนว่า เขาไม่เคยมีความจริงใจให้กับใคร หรอก”) สุจิราเอ่ยขึ้นด้วยความหวังดี

“อือ… เรารู้ แต่ทำไงได้อะ จิรา จิลรักเขาไปแล้ว รักจนถอนตัว ไม่ขึ้น ขอบคุณนะที่จิราเป็นเพื่อนจิล แล้วคอยอยู่เคียงข้างเสมอ ปองรักพูดออกมาจากใจจริง

(“เฮ้อ… จิราเป็นห่วงจิลจริง ๆ นะ แต่อย่าคิดมากทำวันนี้ให้ดี ที่สุด โอเค”) สุจิราถอนหายใจ แต่เธอก็พูดให้กำลังใจเพื่อน
“ใช่ ๆ จิลจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับคุณฟาให้มีความสุขที่สุด

หญิงสาวดูปฏิทินที่อยู่ในมือ ในอาทิตย์หน้าเธอก็จะฝึกงาน เสร็จแล้ว ก็ต้องเป็นเวลาที่ทั้งสองคนต้องเอ่ยลาจากกันใช่ไหม

ปองรักนั่งเศร้าอยู่ตรงนั้น วันนี้ฟาเบียนออกไปหาลูกค้า เขาจึง ให้ปองรักช่วยคีย์งานของมุกดาที่ออฟฟิศ เพราะปองรักบ่นว่า ปวดหัวตั้งแต่เช้า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ