ตอนที่ 6 นักมวยซูเปอร์
ตอนที่ 6 นักมวยซูเปอร์
หยางเฟิงมีชื่อเสียงโด่งดังในวงการนี้ นอกจากฐานะของ เขาแล้ว ยังมีมืออันธพาลหกคนนี้ที่เพิ่มความโด่งดังให้ไม่ น้อย ก่อนหน้านี้ไม่รู้มีคนเท่าไหร่ที่ไม่กลัวตาย กล้าที่จะ หาเรื่องหยางเฟิง แต่สุดท้ายก็โดนซ้อมจนลุกขึ้นไม่ไหว้ หายไปจากวงการนี้ไปเลย
“ต่อยเลย….ต่อยให้ตายไปเลย”
“กล้าที่จะมาต่อต้านคุณชายหยาง หลงระเริงตัวเองจน ไม่มีสติจริงๆ!”
“เด็กเปรตนี่มาจากไหน ไม่รู้ที่ตายรนหาที่ตายจริงๆเลย”
ทันใดนั้น มีเสียงหัวเราะเยาะและเสียงด่าว่า ดังขึ้น ภายในห้องโถง ในตรงนั้น โดยเฉพาะคนอ้วนคนนั้นที่ โดนถีบจนบินออกไปก่อนหน้านี้ร้องเสียงดังที่สุด
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงก็ได้เห็นเดวิดที่กำลังหลบหลีกอยู่ ในฝูงชน อาจจะเป็นเพราะมีป่ายฉินอยู่ตรงนี้ เดวิดไม่ได้ ทำอะไรเกินเหตุ แต่ฉินเฟิงยังคงได้เห็นสีหน้าเขาที่แอบ อดยิ้มไม่ไหว
ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว เขาก็ได้รู้สึกว่าเดวิดคนนี้เหมือน มีอะไรผิดปกติ ไม่คิดว่าจะพิสูจน์ออกมาได้เร็วขนาดนี้
“ย่ะ ไม่ใช่ว่าเขาโดนต่อยจนตายไปแล้ว” แม้ว่าปากของ ฟางหยูนพูดกับพี่ชายของตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าช่วยสั่ง สอนฉินเฟินให้ตัวเอง แต่เมื่อเห็นฉินเฟิงโดนมืออันธพาล หกคนของหยางเฟิงรุมล้อม ก็ยังตกใจจนอดที่จะร้องกรี๊ด ไม่ได้
“อาจจะ…. ไม่ใช่นะ” ขนาดคนที่อยากจะเห็นฉินเฟิงขาย หน้าเป็นตัวตลกอย่างป่ายฉิน ก็ยังรู้สึกลังเลเล็กน้อย
ความโหดร้ายของฝหยางเฟิง ป่ายฉินเคยได้ฟังมาบ้าง แล้ว ตอนนี้พอคิดขึ้นมารู้สึกใจกระสับกระส่าย สำหรับ เหตุการณ์การกลั่นแกล้งครั้งนี้ก็เริ่มรู้สึกเสียใจที่ทำลงไป ถ้ารู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ก็จะหาวิธีอื่นแกล้งฉินเฟิงยังจะดีกว่า เธอแอบคิดไว้
ในขณะนี้เธอมีความรู้สึกมีศัตรูคู่แค้นร่วมกันกับฉินเฟิง ขึ้นมา
“ไม่ได้ ฉันจะต้องออกไปห้ามพวกเขา” พูดจบ ป่ายฉิน ลุกขึ้นมาทันที
“เรียกพี่ชายฉันมาช่วยจะดีกว่าไหม” ฝางหยูนออก ความคิดเห็น ป้ายฉันไม่ออกตัวยังจะดีกว่า ไม่แน่หยาง เฟิงก็แค่อยากจะสั่งสอนฉินเฟิงแต่ถ้าเธอวิ่งออกไปจริงๆ กลัวว่าจะทําให้หยางเฟิงโมโหมากว่าเติม ถึงเวลานั้น สถานการณ์ของฉันเพิ่งจะอันตรายกว่าเดิม
แต่ถ้าฟางเสี่ยงออกหน้าก็จะได้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน
แม้ว่าในเมืองซึจิงหยางเฟิงมีเบื้องหลังที่หนาแน่นก็ยัง ต้องให้เกียรติ ก็เหมือนเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ถ้าไม่ใช้ ฝ่ายตรงข้ามเอ่อปาก แม้ว่าหยางเฟิงจะมีความกล้าถึง ขนาดไหนก็ไม่กล้ามายุ่งกับแถวนี้
คนบางคนไม่ใช่คนที่เขาจะผิดใจได้แม้ว่าเบื้องหลังของ เขามี”สำนักเฟิงโข่”ก็มีค่าเท่ากัน
แต่สิ่งที่เขาไม่รู้คือ คนที่อยู่หน้าเขาที่ทำให้เขาโมโหตอน นี้ก็เป็นคนที่เขาล่วงเกินไม่ได้อีกหนึ่งคน
“ลงมือต่อยได้เลยไม่ต้องเกรงใจ”
“หยุดมือ!
“ปัง!
กํามือค่อยไปที่ค้างตรงๆแล้วบินขึ้นฟ้าไปทั้งตัวเลย แต่ ว่าคนที่บินขึ้นไปไม่ใช่ฉันเฟิงแต่เป็นชายที่ร่างใหญ่ใส่ เสื้อสูทเพราะความโกรธ มองด้วยสายตาที่ดูถูกเล็กน้อย
“เอียด!
ตอนแรกทุกคนกำลังถกเถียงกันทันใดนั้นเหมือนห่าน ที่โดนบีบคอไว้เสียงเงียบไปทันที ยังมีคนยื่นมือออกมา ขยี้ตาคิดว่าตัวเองตาลายไปแล้ว ชายคนนั้นร่างสูงใหญ่ แข็งแรง สูงประมาณ 1.8 เมตรดูเหมือนคล้ายหมีหนึ่งตัว แม้ว่าอย่างนี้ยังโดนต่อยจนออกจากพื้นรู้สึกสั่นสะเทือน ใจเล็กน้อย
ทั้งห้องโถงตกอยู่ในความเงียบสงบ
ขนาดป่ายฉินเป็นคนที่ตะโกนเรียกหยุดยังอึ้งไปทันที
“ฉินฉิน คนนี้ตกลงออกมาจากไหน ทำไมเก่งขนาดนี้?” ฟางหยูนอดที่จะถามไม่ได้พูดเสียงเบาๆ
ป่ายฉินก็ทำหน้างงบอกว่าเขา… เขาเหมือนเพิ่งปลด ออกจากทหารกลับมา”
“หยุด ไม่ต้องตีกันแล้ว” เห็นฉินเฟิงต่อยจนชายคนหนึ่ง ถอยหลัง ป่ายฉินรีบตะโกนเรียกอีกครั้ง
“ฉินฉิน เธอไม่ต้องยุ่ง วันนี้ฉันจะต้องสั่งสอนไอ้เด็กคนนี้ สักหน่อยละ”หยางเพิ่งเห็นว่าป่ายฉินไปยืนอยู่ข้างฉินเฟิง รู้สึกไม่ค่อยพอใจ
แต่ป่ายฉินก็ได้ชักสีหน้าใส่เขาพูดว่า” เรียกฉันว่าป่วย ฉิน ฉันกับเธอไม่ได้สนิทกัน อีกอย่างหนึ่งให้ลูกน้องของ เธอถอยลงไปไม่ต้องมาปั่นป่วนแล้ว” อันที่จริง ป้ายฉันก็ แค่อยากจะแกล้งฉินเฟิงแต่ไม่ได้จะทำให้เขาเป็นอะไรไป จริงๆ
“คุณภรรยา เธอไม่ต้องสนใจแล้ว พวกนี้ก็เหมือนหมา เหมือนแมวสู้ฉันไม่ได้หรอก”ฉินเฟิงพูดด้วยทำหน้า ทะเล้นไปด้วย
คำว่าภรรยานี้ทำให้หน้าของป่ายฉินแดงขึ้นมา แต่แปลก ที่ไม่ได้ห้าม อย่างนี้ทำให้หยางเฟิงเกือบจะอ้วกเป็นเลือด ออกมา
“ขึ้นไปต่อยให้เขาตายไปให้ฉันเลย” หยางเฟิงตะโกน พูดกับห้าคนที่เหลือที่มียอดฝีมือ
ฉินเฟิงก็ถือโอกาสลากป่ายฉินมาอยู่อีกข้างพูดด้วยน้ำ เสียงต่ำ พูดว่า”เมื่อถึงเวลานี้แล้ว ฉันก็ไม่อยากจะปิดปัง แล้ว อันที่จริงตัวตนที่แท้จริงของฉันคือ….”
ป่ายฉินรู้สึกในหัวสับสนไปหมดไม่รู้ว่าฉินเฟิงอยากจะพูดอะไร
คนที่อยู่ในห้องโถงทั้งหมด รวมถึงฟางเสียงและหยาง เฟิง ทั้งหมดตั้งหูขึ้นมาอยากจะฟังว่าฉันเพิ่งมาจากที่ไหน มีเบื้องหลังที่น่ากลัวขนาดไหน
การโจมตีของฉินเฟิงครั้งนี้แม้ว่าไม่ค่อยทำให้สะดุดตา แต่สามารถกำจัดศัตรูในคราวเดียว ทำให้คนสะเทือนใจ ไม่น้อยเลยจริงๆ
เมื่อชายคนที่ใส่เสื้อสูทรวบรวมกำลังถึงขั้นสูงสุดแล้ว ทันใดนั้นโดนโจมตีแค่ท่าเดียวก็ล้ม ไม่ใช่แค่ค่อยจนชาย ร่างใหญ่บินออกไปอย่างเดียว ยังทำให้ความมั่นใจของ เขาล่มสลายไปหมดเลย แม้ว่าเขาบาดแผลหายดีแล้ว อยากจะกลับมาทำงานด้านนี้ ก็คงทำไม่ได้อีกแล้ว
“ตัวตนของฉันที่แท้จริงคือ…….. เมื่อเห็นว่าความสนใจ ของทุกคนมองมาทางนี้ ทันใดนั้นฉินเฟิงรู้สึกภาคภูมิใจ เล็กน้อย พูดเสียงดังออกมาว่า
“นักมวยซูเปอร์!”
“อา!” ป่ายฉินตกใจจนร้องออกมา
“ฟู่! “ในที่สุด มีคนอดหัวเราะออกมาไม่ไหว แบบนี้ไม่ค่อยจะมีความน่าเชื่อถือเลย ยังจะบอกว่าเป็นนักมวย
เปอร์
มีคนออกหน้าก่อน คนที่เหลือก็ได้หัวเราะเสียงดังพร้อม เพรียงกัน หัวเราะอย่างสะใจเลย มีคนมากมายที่หัวเราะ จนน้ำตาไหลออกมา
อย่างไรก็ตาม ในตรงนั้นไม่รวมถึงหยางเฟิง
เห็นได้ชัดเจนว่า ทุกคนโดนฉินเฟิงแกล้งแล้ว สำหรับ เขาเป็นเรื่องที่น่าอายมากเลย
“ทั้งหมดหุบปากให้ฉันเลย” หยางเฟิงตะคอกเสียงดัง ออกมา ทันใดนั้นเสียงหัวเราะในห้องโถงหยุดลงทันที แบบนี้ทำให้รู้สึกหยางเฟิงภาพภูมิใจเล็กน้อย รู้เลยว่าตัว เอง ยังมีความสามารถที่จะทำให้พวกเขาหยุดได้
“ฮาๆ นักมวยซุปเปอร์ ตลกจะตายอยู่แล้ว” หยางเฟิงไม่ ได้อยู่ในสายตาของฟางหยูน ตัวเองหัวเราะอยู่คนเดียว ไม่หยุดเลย
แต่ว่าเสียงหัวเราะนี้ เหมือนเป็นไฟแช็กที่จุดไฟ ขณะ นี้ทําให้บรรยากาศเดือดอีกครั้ง มีอยู่หลายคนอดที่จะ หัวเราะต่อไปไม่ไหว เหมือนตบหน้าของหยางเฟิงแรงๆอีก ครั้ง
กลับกันว่าคนที่เป็นตัวละครหลักอย่างฉินเฟิงรู้สึก ประหลาดใจไม่เข้าใจเลย พูดว่า” ฉันพูดจริงจังนะ พ่อเธอ หัวเราะอะไรกัน ถ้าเป็นอย่างนี้อีกฉันก็จะไม่ไว้หน้าแล้ว นะ”
พอประโยคนี้พูดออกมา เสียงหัวเราะในห้องโถงไม่ได้ หยุดทันที แต่กลายเป็นว่าเสียงหัวเราะดังมากกว่าเดิม
“หน้าตาที่เขาพูดเรื่องไร้สาระอย่างจริงจังแบบนี้ น่ารัก จริงๆเลย” ฟางหยูนหัวเราะถึงขนาดน้ำตาไหลออกมา
ขนาดเป็นเย็นชาเหมือนน้ำแข็งอย่างป่ายฉิน มุมปาก ของเธอยังยกขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ขัดขวางอีกครั้ง
เธอได้เห็นในสายตาของฉินเฟิงมีความดุร้ายและเต็มไป ด้วยความมั่นใจ
ชายคนที่ใส่สูทที่เหลืออีกห้าคนยังไม่ได้ลืมหน้าที่ของ ตัวเอง เดินไปทางฉินเฟิงรอบล้อมเขาไว้ เมื่อได้เห็นฉาก นี้ทําให้หยางเฟิงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
เมื่อมีที่เกิดขึ้นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้มืออันธพาลห้าคน นี้จะระมัดระวังมากขึ้น ก้าวเท้าออกน้อยมากและช้ามาก แสดงให้เห็นว่าจะใช้กลยุทธ์การโจมตีค่อยเป็นค่อยไปที่ ทําให้มั่นใจ
มาถึงเวลานี้ ความสามารถของพวกเขาเริ่มที่จะแสดงให้ เห็นออกมา
“ท่าทางนี้ก็ดูไม่เลวนะ” ฉินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย ดู เหมือนเป็นต้นแบบในตำนาน กำลังที่จะพิจารณานักเรียน ที่อยู่ต่อหน้าตอนนี้ ชี้ไปที่ผู้ชายใส่เสื้อสีดำหนึ่งในนั้นพูด ว่า”เธอ พูดถึงเธอนั้นละ ระหว่างเดินการหายใจนิ่งไม่พอ เป็นโรคหอบอีกแล้วหรือ”
คนพวกนั้นไม่รู้จะพูดยังไง” ฉันไม่มี..….….…..
แต่ว่าทันใดนั้นฉินเฟิงรีบวิ่งเข้าไปต่อยมือออกมาเหมือน เติมอีกครั้ง ทำให้ผู้ชายคนนั้นที่กำลังจะพูด” โรคหอบ”ยัง พูดไม่จบก็โดนตีกลับไป มุมปากมีเลือดไหลออกมาไม่ น้อยก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกัดโดนลิ้นหรือไม่
พูดเล่นอะไรกัน ที่นี่เป็นสนามรบไม่ใช่สมาคมจิบน้ำชา ไม่คาดว่าจะโดนฉินเฟิงพูดลืมหน้าที่ถ้าไม่แพ้ก็ไม่ใช่เรื่อง จริงแล้ว
อย่างไรก็ตามชายคนนี้ยังเป็นคนที่เก่งที่สุดในหกคนนี้ขนาดโอกาสที่จะสู้ยังไม่มีเลยก็โดนต่อยบินออกไปแล้ว ทำให้ทุกคนเริ่มที่จะลังเลคิดว่าฉันเพิ่งเห็นนักมวยซูเปอร์ จริงหรือไม่
สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันอย่างนี้ ทำให้คนที่ เหลืออีกสี่คนในใจเริ่มที่จะหวาดกลัว มีอยู่สองคนในนั้น เลือกที่จะเข้าไปโจมตี อีกหนึ่งคนเลือกที่จะป้องกัน ส่วน คนที่เหลืออีกหนึ่งคนได้หยุดเดินและถอยหลัง
“ปัง!”
“Üs!”
ซ้ายมือต่อยหนึ่งครั้ง ขวามือต่อยหนึ่งครั้ง สองชายที่ร่าง ใหญ่วิ่งเข้ามาหาฉินเฟิงได้โดนวิธีเดียวกันต่อยจนบินออก
ไป
ขนาดอีกสองคนที่ป้องกันหรือถอยหลัง ก็ยังหนีไม่พ้น ฝ่ามือสยบมารของฉินเฟิง ต่อยแต่ครั้งเดียวก็ล้ม ทำให้ แสดงถึงตัวตน “นักมวยซุปเปอร์” ของฉินเฟิงอีกครั้ง
“ตอนนี้เธอยังมีวิชาอะไรก็รีบแสดงออกมาเลย”ฉินเฟิงม องไปทางหยางเฟิงด้วยสายตาที่อยากรู้อยากเห็น
หยางเฟิงรู้สึกแอบเจ็บในใจ ขนาดนักมืออันธพาลหกคน ที่เก่งที่สุดยังโดนฉินเฟิงจัดการเรียบร้อยแล้ว เขาจะมีวิธีที่ไหนมาจัดการอีก เมื่อเห็นฉินเฟิงเดินมาทางตัวเอง รีบพูดว่า”เธอจะทําอะไร เธออย่ามาเล่นมั่วนะ”
ฉินเฟิงใส่หัว พูดว่า”ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย เธอทำไม ทําสีหน้าเหมือนหวาดกลัวจะโดนผู้ชายกระทำ หรือไม่ว่า เธอมีปัญหาเรื่องตรงนั้น?”
“ฟู่!” ครั้งนี้ฟางหยูนเริ่มหัวเราะคนแรก เสียงหัวเราะไม่ สามารถหยุดได้ ก็เป็นเพราะว่าหยางเฟิงทำสีหน้าหวาด กลัวเหมือนที่พูดเลย จะบอกว่าไม่ได้โดนผู้ชายกระทำคง ไม่ค่อยมีใครเชื่อ
“คิๆ….. คาดไม่ถึงว่าหยางเฟิงเป็นคนแบบนี้ ครั้งหน้า ต้องเดินห่างกับเขาหน่อย” มีคนมองไปที่หยางเฟิงด้วย สายตาที่ดูถูกและในใจเริ่มมีคำตอบ
“คุณชายจาง เธอเคยบอกว่าเธอกับหยางเฟิงเคย นอนอยู่ในเตียงเดียวกัน ไม่ใช่ว่า….” ทันใดนั้นเสียง เรียก”คุณชายจาง”ดังขึ้นมาในรอบข้าง
ปัง!
ทันใดนั้น รอบข้างคุณชายจางเหมือนศูนย์อากาศ
“ดูท่าทางของคุณชายจาง ตัวใหญ่แข็งแรงน่าจะเป็นคน กระทำ….”ฉินเฟิงพูดอย่างซ้ำเติมอย่างแน่นอน พูดตั้งแต่หัวกระจกเท่า
สีหน้าของคุณชายจางเดี๋ยวก็เขียวเดี๋ยวก็แดงข้าง อันที่ จริงเขาเคยนอนบนเตียงเดียวกับหยางเฟิง แต่นั่นคือหลัง จากทั้งสองคนดื่มเหล้าจนเมา แต่สำหรับมีเกิดขึ้นสิ่งที่มา กกว่าคำว่าเพื่อนหรือไม่ เขาจำไม่ได้แล้วจริงๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ฟังคำพูดของฉินเฟิงแล้ว เขาก็รู้สึก ถอนหายใจ ยังไงกระทำก็ดีกว่าโดนกระทำ แต่เมื่อคิดว่า ตัวเองจะมีความสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับหยางเฟิง เขารู้สึก พะอืดพะอม
“อ้วก!” ไม่คิดว่าคุณชายจางจะอ้วกออกมาในห้องโถง
“ว้าว!”
ทำแบบนี้ทำให้บรรยากาศ ณ ตอนนั้นระเบิดเลยทีเดียว
“ที่ไหนได้นี่เป็นเรื่องจริงด้วย ฉันว่าทำไมเห็นหยางเฟิง ทำตัวเหมือนมีความรู้สึกเป็นผู้หญิง ดีที่ฉันมีความรู้สึก ก่อนหน้านี้” ทันใดนั้น ก็มีคนออกมาพูดตามด้วย ให้ แสดงเห็นว่าตัวเองฉลาดแค่ไหน แต่อันที่จริงแล้วคือ หยางเฟิงดูถูกพวกเขา และไม่ยอมที่จะเล่นกับพวกเขา
คนที่อยู่ในนี้มีแต่คนมีฐานะ โดนหยางเฟิงพูดว่าต่อหน้า แม้ว่าไม่ได้เอาคืนทันทีแต่ในใจมีความโกรธแค้นรวม
อยู่ไม่น้อย ตอนนี้เป็นเวลาที่เอาคืนที่ดี
“ใคร ใครมาพูดมั่ว ระวังฉันจะดึงลิ้นพวกเธอออกมา หยางเพิ่งรู้สึกจะเป็นบ้าแล้ว ตะคอกเสียงดังออกมา
ฉินเฟิงไม่ได้เดินหน้าต่อไป ต่อยลูกน้องหยางเฟิงยังไม่ เป็นปัญหาใหญ่ แต่จะทำอะไรหยางเฟิงอย่างจริงจังไม่แน่ จะมีปัญหาที่ไม่จำเป็นมาหา แบบนี้ไม่เหมาะกับบุคลิกที่ ไม่อยากเป็นจุดเด่น
“พอละ เธอไปเถอะ” ฉินเฟิงเดินถอยไปหลายก้าว พูด ว่า” ฉันไม่เคยต่อยตีผู้หญิง”
ครั้งนี้ตัวตนที่แท้จริงของหยางเฟิงเป็นคนโดนกระทำ ก็ได้เป็นที่รู้จักกันแล้ว
“ฉินเฟิง เธอรอฉันนะ พวกเราไม่จบกันง่ายๆหรอก” หยางเฟิงก็รู้สถานการณ์ตอนนี้ไม่ดีกับเขา รีบลุกขึ้นมาวิ่ง ออกไปทางข้างนอกโดยมีลูกน้องหกคนปกป้องไว้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ