บัลลังก์เสน่ห์หา หมอยาข้ามภพ

ตอนที่ 7 คนงามคุกเข่าจนจะแย่แล้ว



ตอนที่ 7 คนงามคุกเข่าจนจะแย่แล้ว

คิ้วของเล่น โม่บรรจบกัน ถอนหายใจอย่างไม่มีทางเลือก เห็น ปฏิกิริยาระหว่างชายชุดแดงกับฮ่องเต้เมื่อครู่ ก็เลยรู้ดีว่าคนที่อยู่ ตรงหน้านั้นเป็นตัวละครที่ยั่วโมโหไม่ได้เด็ดขาด แค่ไม่เข้าใจว่า ทำไมเขามาพัวพันกับตนเองด้วย

ราวกับว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานก็ไม่ปาน คิดอยู่เช่นนี้ เช่น โม่จึง ได้แต่นิ่งๆ อยู่อย่างนั้น จนกระทั่งรู้สึกว่าขนทั้งตัวของตนเองลุก ขึ้น ไม่มีทางเลือก เขากลัวพวกงู ไส้เดือนพวกนั้นเสมอมาอยู่แล้ว

“คนงามอย่ากลัวไปเลย ข้าอยู่นี้ ไม่มีใครทำอะไรเจ้าได้ หรอก” ชายชุดแดงพลางพูดไป มือข้างหนึ่งก็พลางเคลื่อนไปจับ แก้มของเล่น โม ผิวเนียนนุ่มราวกับทาแป้งฝุ่นไม่ปาน จับไป แล้วรู้สึกว่าดีต่อการสัมผัส

จัดการให้เขาล้มไปที่พื้นได้อีกหรือไม่ พลางตัดแก่นรากชีวิต ของเขาทิ้งซะ เล่นโม่ครุ่นคิดอยู่ในใจ

สีหน้าเฟิงเจ๋วรู้สึกหนักใจ มองดูชายชุดแดงเอาร่างไปห้อยอยู่ บนตัวชายชุดเขียว ได้ยินมาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ได้เห็นกับตาตัว เอง เขารู้สึกว่าหัวใจของตนเองเหมือนกับว่าจะระเบิดปะทุออก มา

สีหน้าของขุนนาง ญาติพี่น้องในครอบครัวกลุ่มหนึ่งก็แปลกใจ ต่างคนต่างมอง ไม่กล้าพูดอะไรมาก
เล่น โม่หลับตาชั่วครู่ พยายามกดความรู้สึกที่อยากจะเตะต่อย คนลงไป “ท่านชายกรุณาปล่อยเถิด ข้าจะช่วยชีวิตคน” ไม่ต้อง สงสัย โจจอโจวเป็นข้ออ้างที่ดีที่สุดที่เขามี ณ ตอนนี้

“ใช่ ท่านชาย ท่านชายของข้ารอการช่วยเหลืออยู่” คำพูดของ เจน ไม่ทำให้พ่อบ้านกล้าที่จะพูดขึ้นทั้งน้ำตาในทันที ในที่สุดก็มี คนนึกถึงท่านชายของเขาแล้ว

ชายชุดแดงปล่อยมือออกจากเล่นไม่อย่างไม่เต็มใจนัก ดวงตาดอกท้อแฝงไว้ด้วยความเศร้าใจเล็กน้อย

คิ้วของเล่น โม่ขมวดขึ้นมาอีกครั้ง รู้สึกว่าบนหน้าผากปรากฏ เส้นรอยดำๆ ขึ้นมา เขาหายใจเข้าอย่างลึกๆ เดินไปข้างหน้า อย่างแน่วแน่ พลางเดินไป พลางควักกระเป๋าผ้าที่อยู่ในเสื้อออก มา

เสียงแฉบดังขึ้น ดาบขององครักษ์ถูกชักออกมาอีกครั้ง ล่าแสงเย็นยวบสั่งไหวไปมา เกือบทำตาเล่น โม่บอดได้

บ้าจริงเลย นี่คือเข็มเงิน ดูให้ดีหน่อยเถอะ เล่น โมราวกับอยาก จะร้องไห้แต่ไร้น้ำตา เขาเปิดห่อผ้าออกต่อหน้าผู้คน เข็มเงินแต่ ละแถวๆ วางเรียงนอนกันอย่างนิ่งสงบ

“กดจุดเขา” เจ่นโม่ใครก็ไม่สนใจ สำหรับเขาแล้ว คนป่วย

สำคัญที่สุด

“ข้ามาช่วงเอง” ดวงตาของชายชุดแดงเป็นประกายขึ้น จะวิ่ง ไปข้างหน้า ข้อมือของเฟิงเจ๋ายื่นออกไป จับไว้ได้ทัน “เฉิงเอ๋อร์ อย่าก่อกวน” อีกทั้งยังไม่รู้ว่าเป็นโรคทางผิวหนังหรือว่าถูกพิษกันแน่ ไปแล้วไม่รู้ว่าจะเป็นอันตรายหรือไม่

สายตาของชายชุดแดงมีดดับลง ดูเหมือนว่าจะเสียดายเป็น อย่างยิ่งที่ไม่ได้ไปสัมผัสท่านชายกวนอ

ภายใต้สายตาของผู้คนมากมาย เช่น ไม่แหวกชุดมงคลของ โจ๋จือ โจวออก สภาพของโจจอโจวในตอนนี้รอไม่ไหวแล้วจริงๆ หรืออาจพูดได้ว่ารอไม่ได้ที่จะเคลื่อนย้ายไปที่อื่นแล้ว

เข็มเงินถูกปักลงไปอย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบอย่างไม่ลังเล ชั่วประเดี๋ยวเดียว อาการไอของโจจอโจวก็สงบขึ้นเล็กน้อย หลัง จากนั้นค่อยๆ ลมหายใจค่อยๆ ดีขึ้น เป็นปกติขึ้น

“หมอเจ่น ท่านชายของข้า” พ่อบ้านถามด้วยความสงสัย นิ้ว มือชี้ไปที่จุดแดงบนใบหน้าของโจซื้อโจว วันมงคลใหญ่เช่นนี้ จะ พบหน้าผู้คนได้อย่างไรกัน

“แค่บรรเทาอาการหายใจติดขัดชั่วคราวก่อน และจุดแดง นี้… เล่นไม่หันกลับไปมองดูสักครู่ ภายในกำแพงบ้านโดย รอบของจวนป่ายโก๋กงมีดอกเหมยสีแดงใหญ่ออกดอกกัน มากมาย กลิ่นหอมของดอกไม้อยู่ในอากาศ “ท่านชายของเจ้าไม่ เหมาะที่จะได้กลิ่นหอมของดอกไม้ คราวหลังออกจากบ้านต้อง พกผ้าคลุมหน้า หรือว่าหลบหลีกสถานที่ที่มีดอกไม้บานสะพรั่ง เล่น โม่พูดไปพลาง เก็บเข็มเงินไปพลาง

“คนงานยอดเยี่ยมจริงๆ” ชายชุดแดงพยายามจะโน้มตัวข้าม มาอีก เจ่นโม่แฉลบตัวหลบออก

ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ควรจะคารวะฮ่องเต้สักหน่อย ต้องเข้าใจว่าในสังคมที่อยู่ภายใต้อำนาจของกษัตริย์ แค่อาจจะขาดการ คารวะไปก็มีสิทธิ์ถึงตายได้ เขาชีวิตอยู่ดีๆ อยู่แล้ว ไม่มีเหตุผล ใดที่จะหาที่ตาย

“ข้าน้อยคารวะฝ่าบาท ฝ่าบาทมีพระชนมายุหมื่นปีหมื่นๆ ปี ฮองเฮามีพระชนมายุพันปีพันๆ ปี ใต้เท้าฮูหยินทุกท่านสุขภาพ แข็งแรงร่ำรวยเงินทอง” เล่นไม่ทำท่าทางคารวะต่อเฟิงเจ๋าอย่าง สุภาพ สีหน้าเรียบเฉย คารวะโดยรอบอย่างไม่หวาดกลัว

“ช่างเป็นเด็กที่รู้มารยาทจริงๆ” ป้ายหย่ายิ้ม ภายใต้แสง อาทิตย์ คนชนชั้นสูงที่ราวกับหยกสลักด้วยทองคำมองดูอย่าง เมตตาเป็นพิเศษ อาจเพราะเจนไม่ช่วยชีวิต โจ๋จือ โจวไว้ ดวงตา ของนางอ่อนโยนขึ้นมาเยอะเลย

“เจ้าเป็นหมอสํานักไหนกัน” เฟิงเจ๋าเปิดปากถาม ในดวงตาที่ กะพริบอยู่มีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ดวงตาหงส์คู่นั้นทำให้ใจ ของเขาเต้นไปมา

ก็น่าแปลกดี ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้กลับปรากฎหมอที่ไม่ เคยได้ยินชื่อเสียงมาก่อน เป็นใครก็ต้องแปลกใจว่าใช่คนร้าย กันแน่หรือไม่ หรือไม่ก็อาจจะเป็นการใช้วิธีสกปรกเพื่อที่จะชุบมือ เปิบ

“เรียนฝ่าบาท ข้าน้อยมาจากร้านการแพทย์จี้หมินเมืองเขตใต้ วันนี้ที่ถนนบังเอิญเจอท่านชายใจหายใจติดขัด พ่อบ้านเกรงว่า ท่านชายโจ๋จะหายใจติดขัดอีก ดังนั้นจึงให้ข้าน้อยคอยอยู่ที่ด้าน ข้างมุมประตู” เจ่นโม่คุกเข่าอยู่ ยังไม่กล้ามองหน้าคน ได้เพียงมองแล้วตอบคำถาม ความรู้สึกช่างอึดอัดเสียจริง

“ฝีมือการรักษาของเจ้า?เพิ่งเจ้าถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม ว่าราชวงศ์ให้มากมายเป็นอะไรขึ้นมานิดหน่อยก็ล้วนมาหมอกันทั้งนั้น

เรียนฮ่องเต้ ข้าน้อยได้รับการถ่ายทอดปลูกฝังมาจาก ครอบครัว ช่วงที่เกิดสงคราม คนครอบครัวกัน หลบซ่อนล้มตายหมด เหลือแค่ข้าน้อยเพียงเดียว ล่วงเกินอะไรไป ฮ่องเต้โปรดอภัยให้ด้วยเถิดเจ่นโม่นึกการพูดเหล่านั้นตามในละครโบราณสมัยเก่า ว่าในใจ จริงแล้วไว้หนึ่งประโยค บ้าหรือเปล่า เจ้าจะว่นวายว่า ข้าเรียนแพทย์มาจากไหนกัน มีอีกที่คุกเข่าเพื่อซักถาม อาจทำให้ตายนะเข้าใจ หรือเปล่า

“ฮ่องเต้ ข้าน้อยกดดันเล็กน้อย ในที่สุดก็อดได้จะเปิดปากถาม

เฟิงเจ๋วพยักด้วยยิ้ม อีกทั้งยังถอยให้หนึ่งก้าว ด้วย ถอยเห็นสายตาของทั้ง

ต้องคุกเข่าต่อไปแบบหินฉาบบนถนนช่างเย็นนัก หัวเข่าเริ่ม รู้สึกเจ็บชา

“หมอเล่น อาการป่วยจอโจวคืออะไรแน่ อันตรายถึง ชีวิตหรือไม่ รักษาให้หายหรือไม่” ป้ายโก๋จ้างเป็นห่วงความสุขทั้งชีวิตของหลานสาวตนเองอย่างมาก ถามออกไปอย่างร้อน ใจนัก

“ไอหยา คนงามคุกเข่าจนจะแย่แล้ว นางบำเรอคนที่สิบสาม ของข้า เจ้ายืนขึ้นมาพูดก็ได้ดีหรือไม่ ข้าเป็นห่วงเจ้าเหลือเกิน ชายชุดแดงจะโผเข้าไปหาอีก เช่น ไม่แฉลบไปทางด้านหลัง เขา โผเข้าหาความว่างเปล่าแทน

ก็เป็นเพียงแค่ความว่างเปล่า เล่นไม่เห็นสีหน้าของป้ายโกจ้าง สั่นอยู่พักหนึ่ง สีหน้าดำทมิน ถอยกลับไปอย่างไร้ร่องรอย เล่นไม่ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ป้ายโก๋จ้างกลั่นกรองแล้ว ชายชุดแดง คนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ใส่ใจในคนแก่หัวขาวสักเท่าไรนัก

“คนงามนี่คือกำลังรังเกียจข้าอยู่หรือ” ชายชุดแดงหันร่างไป นั่งยองๆ ตรงหน้าเล่น โม่ ขยิบตามองเจนไม่อยู่อย่างนั้น ดวงตา ดอกท้อราวกับว่าจะมีแสงของธารน้ำสาดออกมาก็ไม่ปาน

ดวงตาที่เรียบเฉยของเล่น โม่มองดูเขาแล้วพูดว่า “รักษาตัว ด้วยท่านชาย” คำพูดนี้พูดได้เสียงค่อย แต่กัดกรามแฝงไว้ด้วย ความข่มขู่แฝงอยู่ แววตานั้นกำลังเตือนชายชุดแดงอยู่ หาก อยากจะลองไม่มีลูกหลานสืบสกุลก็เข้ามา

ชายชุดแดงนั่งยองๆ อย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมอยู่ตรงนั้น นิ้วมือเรียวยาวที่ขาวเป็นธรรมชาติวางรูปวงกลมอยู่บนพื้น ดวงตาดอกท้อจ้องมองเล่น โม่อย่างรันทดไม่ได้รับความเป็น ธรรม แต่แค่ไม่กล้าที่จะโผเข้าไปอีก

“เหอะๆ ท่าทางของเฉิงเอ๋อร์เป็นเช่นนี้ข้าชอบใจจริงๆ รูปงามไม่มีใครเปรียบได้ แถมยังเห็นแล้วสงสารจับใจอีก” ในขณะที่ ผู้คนกำลังเงียบสงบกัน มีเสียงดังมาจากด้านหลังของเล่นไม่ เสียงฝีเท้าของม้ากรอบแกรบแล้วก็หยุดนิ่ง หลังจากนั้นมีคน กระโดดลงม้ามา เดินมาก้าวใหญ่ๆ

สิ่งที่ตามมานั้นเป็นลมหนาวที่รุนแรงหนึ่งห่า

เจน ไม่รู้สึกขึ้นในบัดดลว่า ดวงตาของชายชุดแดงมีความเฉย เย็นที่ไม่สามารถตรวจจับได้ ยื่นมือมาจับเจ่นโม่ไว้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ