บัลลังก์เสน่ห์หา หมอยาข้ามภพ

ตอนที่ 6 ตัดใจจากข้าไม่ได้



ตอนที่ 6 ตัดใจจากข้าไม่ได้

สายตาคนนับหมื่น คนที่ขัดใจที่สุดก็คือฮ่องเต้ ชายชุดแดงคน นั้นน่าจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว

แฉบ! ดาบขององครักษ์ถูกห่อหุ้มไว้อย่างเรียบร้อย ลมหนาวที่ เปล่งประกายในสายลมต้นฤดูใบไม้ผลิ ดูเหมือนว่าชายชุดแดง จะเลือดสาดในวินาทีถัดไปต่อหน้าผู้คน ส่งไปสู่สุคติ คนที่ขี้กลัว บางคนรอบๆ นั้นใบหน้าถึงกับถอดสีเลย แขนขาอ่อนแรง

ดูเหมือนว่าชายในชุดแดงจะไม่รู้สึกผิดอะไร หลังจากเสียง หัวเราะนั้น ดวงตาลูกท้อของเขามองมาที่คนทั้งคู่อย่างยิ้มเชียว เซียว มองดูคนคู่นั้นที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดในวันนี้ ไม่มีความเกรง กลัวใดๆ

หลังร่างของชายชุดแดงไม่ไกลนัก เล่น โม่พยายามก้มหัว อย่างสุดชีวิต พยายามทำตัวให้เล็กที่สุด ณ ที่ตรงนั้น เพราะว่า ตรงมุมของชายชุดแดงนั้นสามารถมองเห็นเขาได้

แต่สภาพเหตุการณ์ตอนนี้ เขากลัวที่จะโดนร่างแหไปด้วย

“ช่างกล้านัก ใครกันกล้าทำให้ตัวแทนของสวรรค์ไม่พอใจ” หัวหน้าองครักษ์ที่อยู่ข้างกายฮ่องเต้พูดออกมาด้วยความโมโห มองไปที่แววตาของชายชุดแดงอย่างหนาวเย็นจนถึงกระดูก เขา ยืนอยู่ด้านหน้าเฟิงเจ๋วในฐานะผู้รักษาขบวนเสด็จ

ชายชุดแดงยิ้มอย่างเสียงต่ำ ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องที่น่าตลกพิเศษอะไรจริงๆ เขาเลิกคิ้วขึ้น ต้องหัวหน้าองครักษ์ด้วยรอยยิ้ม “หัวหน้าวาง ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ”

พอคำพูดนั้นออกไป ไม่เพียงแค่หัวหน้าวางเท่านั้นที่อึ้งไป คน อื่นก็อึ้งไปเหมือนกัน หรือว่าจะเป็นคนที่คุ้นเคยกัน แต่ในความ รู้สึกของทุกคน ดูเหมือนว่าจะไม่มีคนคนนี้ดำรงอยู่เลย อีกทั้งยัง เป็นพวกที่ไม่รู้ความเป็นความตาย คนที่แม้แต่การ์ดเชิญก็ไม่มี ที่ เสื้อผ้ายังหลุดลุ่ยอีก

อะไรคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันแน่ สายตาของทุกคนเต็มไปด้วย คําถาม

เฟิงเจ๋วดูเค้าโครงคิ้วที่คุ้นเคยใบหน้านั้น บนใบหน้ามีรอยยิ้ม ที่เหมือนกับพระสังกัจจายน์ก็ไม่ปาน ผลักหัวหน้าวางออกไปข้าง ด้าน เดินขึ้นหน้าไปอย่างรีบร้อน สายตาจ้องมองไปที่ชายชุด แดงอย่างเพ่งเล็ง มีความตื่นเต้นแฝงอยู่ “เจ้า ในที่สุดก็กลับมา แล้ว”

คำพูดนี้ฟังดูเหมือนรอคอยมานานมากแล้ว ดวงตาของป้าย โกจ้างเพ่งไปเพ่งมา ความสงสัยเมื่อครู่ได้ถูกยืนยันให้แน่ใจแล้ว ที่แท้เป็นเขา คิดไม่ถึงว่าเป็นเขาที่กลับมาแล้ว

“เฉิงเอ๋อร์ทำไมเป็นเช่นนี้ไปได้เล่า รีบเข้าไปเปลี่ยนผ้าผ่อน แล้วค่อยมาเล่าขาน ฮ่องเต้ เฉิงเอ๋อร์เป็นเช่นนี้ไม่เหมาะสมที่จะ มาเล่าขานพูดคุยกับครอบครัวกระมัง” ป้ายหย่าพูดด้วยความ รักใคร่เมตตา ในคำพูดนั้นกลับมีนัยตำหนิชายชุดแดงว่าเสีย มารยาทแฝงอยู่ด้วย
“ยินดีด้วยฮ่องเต้” ป่ายโก๋จ้างพูดอย่างสบโอกาส และถอย ออกไปด้านข้าง ถอยให้ทางออกไป แขกเหรื่อที่อยู่ด้านหลัง ค่อยๆ คุกเข่าเคลื่อนตัวไปด้านข้าง คนมากมายขนาดนี้ คิดไม่ ถึงว่าจะมีขั้นตอนพิธีการ ไม่มีความวุ่นวายเลยแม้แต่น้อย

เฟิงเจ๋วพยักหน้า จูงมือของชายชุดแดงแล้วเดินไปด้านหน้า ด้วยกัน “ทุกท่านลุกขึ้นมาเถอะ วันดีๆ แบบนี้ ต้องฉลอง สนุกกัน ให้เต็มที่”

ป้ายหย่าประคองสาวใช้เดินอยู่ข้างกายเฟิงเจ๋า ดูสง่างาม หรูหรา ภายใต้ดวงตานั้นกวาดมองไปรอบๆ คิดไม่ถึงว่าจะมอง ไม่เห็นเงาของผู้ที่เฝ้ารอ ก้มหน้าส่งสายตาไปที่สาวใช้ ทันใดนั้น ก็มีโมโม่ขึ้นมาประคองฮองเฮา สาวใช้ถอยออกไปอย่างเงียบๆ

“ทำไมเจ้าถึงแต่งตัวเช่นนี้ คงไม่ใช่เพราะเสื้อผ้าที่ดูดีหน่อย ไม่มีหรอกนะ” เฟิงเจ๋าพลางเดินไปด้านหน้าพลางพูดเสียงเบา

“วันนี้ข้าเจอคนงามที่ถูกใจ เสียดายที่คนงามนั้นช่างมีคมนัก ข้าก็เลยถูกรังแก” ชายชุดแดงพูดด้วยรอยยิ้มเบาๆ ไม่มีความ รู้สึกว่าไม่มีอะไรที่ไม่ถูกต้องแม้แต่นิดเลย

เฟิงเจ๋วกะพริบตา ราวกับว่าจะโมโห แต่ก็รู้สึกว่าไม่ควรโมโห จู่ๆ จึงนิ่งเงียบไปชั่วครู่

“คนที่เฉิงเอ๋อร์ชอบพอ พากลับมาก็ได้แล้ว” ป้ายหย่ากลับยิ้ม ขึ้นมา ดวงตาดอกท้อหนึ่งคู่ พัดพับหนึ่งอัน ชุดแดงทั้งตัวในใต้ หล้า เฉิงเอ๋อร์งามก็งาม แต่สิ่งที่ชอบพอคือความเป็นชาย นางรู้ มาตั้งนานแล้ว องค์ชายที่ใต้หล้ารู้ว่าชอบพอความเป็นชาย ได้ตัดออกจากการเป็นตัวเลือกในการขึ้นครองราชย์นานแล้ว นาง จะมีอะไรไม่สบายใจอีก

“เจ้า……” เฟิงเจ๋วดูเหมือนว่าอยากจะพูดอะไร แต่ยังไม่ทันที จะได้พูดออกจากปาก ได้ยินเสียงที่ดังมาจากด้านหลังเท่านั้น

“องค์ชายโง่ “มีคนร้องอย่างตกใจขึ้นมากะทันหัน ป้ายโก๋จ้าง หันหน้ากลับไปก็เห็นลูกเขยที่ภูมิใจของตัวเอง ท่านชายกวนอที่ ขึ้นชื่อในเมืองหลวงบัดนี้ล้มลงไปที่พื้นอย่างอ่อนแรง บนใบหน้า ล้วนเป็นจุดสีแดงที่ละเอียดคันๆ ชาๆ ทั้งใบหน้าดูๆ ไปแล้วน่า หวาดกลัวมาก

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” ป้ายโก๋จ้างรีบเดินเข้ามาอย่างโมโห เป็น วันที่ดีๆ แท้ๆ ทำไมเรื่องเยอะแยะมากมายขนาดนี้ มีใครที่ตั้งใจ เป็นศัตรูกับข้าหรือเปล่า

“เรียนท่านโก๋จ้าง ท่านชายวันนี้ไม่ค่อยสบายนัก” พ่อบ้าน

คุกเข่าลงบนพื้นอย่างสั่นเทา กอดโจคือโจวไว้ในอ้อมอก

โจ๋จือโจวเริ่มไอขึ้นมาอีก รู้สึกว่าการหายใจลำบาก อีกทั้งยัง รู้สึกกระอักกระอ่วนมากเป็นพิเศษ เพราะว่าอับอาย เขากลับไอ อย่างรุนแรงมากขึ้น กระตุกไปหมดทั้งร่าง หลังจากหน้าแดง กลายเปลี่ยนเป็นสีขาวปนเขียว

“หมอหลวง” ป้ายโก๋จ้างเรียกร้องอย่างโมโห มีทหารองครักษ์ รีบไปนำพาหมอหลวงวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ในจวนของป่ายโก๋ จ้างคิดไม่ถึงว่าจะมีหมอหลวง ในวังอยู่ตลอดเมื่อต้องการหรือ?

ดวงตาของเฟิงเจ๋วเป็นปรกติ แต่ในดวงตาของใครบางคนกลับมีความกังวลอยู่เล็กน้อย

ป้ายหย่ามองดูอย่างร้อนใจ คิ้วขมวดเข้าหากันอย่างแน่นหนา ทำไมนางถึงไม่รู้ว่าโจ๋จือโจวมีโรคประจำตัวนี้

หมอหลวงเริ่มจับชีพจร ท่าทางที่ดูเชื่องช้ามองดูหน้าผากของ พ่อบ้านที่มีเหงื่อเต็มไปหมด แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร

เล่น โม่กลับรู้สึกถึงอันตรายที่ชัดแจ้งในบัดนี้ เขาคุกเข่าค่อยๆ ถอยไปด้านหลังอย่างระมัดระวังช้าๆ หวังว่าจะไม่มีใครสังเกต เห็นเขา หวังว่าเขาจะสามารถหายไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

ต้องรู้ว่า วันนี้ถ้าแสดงฝีมือสูงมากก็จะยิ่งดึงดูดอันตรายมาสู่ ตัวเอง

“เป็นอะไรไป” เพิ่งเจ๋วถามด้วยใบหน้าที่ขมวดคิ้ว ลูกคนเดียว

ของโจ๋ซ่างซู เขาไม่อยากให้เป็นอะไรไปแม้แต่นิดเดียวอยู่แล้ว

“เรียนฝ่าบาท ท่านชายโจ่มีอาการหายใจติดขัด และจุดแดง พวกนี้ อาจจะเป็นโรคทางผิวหนัง” คำพูดของหมอหลวงก็มีความ ลังเลอยู่ไม่น้อยเช่นกัน

“เจ้าพูดมาเลยตรงๆ ว่าจะต้องทำอย่างไร” ป้ายโก๋จ้างก็ร้อน ใจแล้ว วันอย่างนี้ทำให้เขาขายหน้าต่อผู้คนมากมาย อีกทั้งพิธี อภิเษกก็เลื่อนออกไปไม่ได้ อารมณ์คำพูดยิ่งพูดยิ่งไม่อยากจะทน

“กระหม่อมออกใบสั่งยาไปแล้ว ต้มยามา อุ่นมาดื่มสักพักก็ดี ขึ้นแล้ว” หมอหลวงเช็ดเหงื่อบนหน้าผากแล้วรีบออกไปเตรียม การอย่างรีบร้อน
สภาพของ โจ๋จือโจวดูเหมือนว่าจะไม่ดีขึ้นเลย ริมฝีปากเริ่ม เขียวม่วงขึ้นแล้ว

พ่อบ้านจะรอไหวได้อย่างไรกัน เงยหน้าไปมองเห็นเงาสี เขียวๆ ของเล่น โม่ที่กำลังจะถอยหลังหายไป จึงร้องเรียกอย่าง สุดเสียง “หมอเล่น ท่านช่วยท่านชายของช้าก่อนเถอะ”

สายตาของผู้คนตวัดข้ามไปทันที เช่นโม่ที่คุกเข่าอยู่ไม่กล้า ขยับเขยื้อนในบัดดล ในยุคสมัยที่จะทำอะไรหรือไม่ทำอะไรผิด ไม่ผิด ก็จะเอาแต่ตัดหัวเก้าชั่วโคตร เขาไม่มีความสามารถที่จะ ต้านทานได้เลย

“เขาเป็นใคร” ป้ายโก๋จ้างกะพริบตาถามขึ้น มองดูแววตาที่ ซึมลึกเข้าไปของเล่นไม่

* ใต้เท้าโก๋จ้าง เขาคือหมอเทพเซียนจากเมืองเขตใต้ ระหว่าง ทางหมอเจนช่วยชีวิตท่านชายไว้ครั้งหนึ่งแล้ว ใต้เท้าโก๋จ้างได้ โปรดอนุญาตให้เขามาลองดูหน่อยเถิด” หน้าผากของพ่อบ้าน โขลกอยู่บนพื้นอย่างหนัก

“นำเข้ามา” บ่ายโก๋จ้างพูด ในขณะเดียวกันก็อารักขาฝ่าบาท ให้ถอยหลังออกไปหนึ่งก้าว ระมัดระวังเป็นพิเศษ มองดูสายตาที่ ลึกๆ เต็มไปด้วยความสงสัยของเล่นไม่

ความรู้สึกที่จ้องมองของผู้คนทำให้เล่น โม่ชาไปทั้งตัวใน บัดดล รู้ดีว่าคนที่อยู่ตรงนี้ เขายั่วโมโหไม่ได้เลยแต่ละคน

“คนงาม พวกเราพบหน้ากันอีกแล้ว” ชายชุดแดงเดินไปอยู่ ด้านหน้าองครักษ์ มือทั้งคู่จับไหล่ของเล่น โม่ไว้แน่น ยกเล่น โม่ที่คุกเข่าอยู่ให้ขึ้นมา หลังจากนั้นเหยียดแขนของเขาไปโอบรอบ คอของเล่น โม่ คนทั้งคนไปแขวนอยู่บนบ่าของเล่น โม คางก็พาด ไว้บนไหล่ของเล่น โม่ ลมหายใจที่อบอุ่นรุ่มร้อนหายใจรดลงมา “คนงาม ตัดใจจากข้าไม่ได้ล่ะสิ ดังนั้นเลยตามข้ามา? เจ้ารู้ดีว่า นางบ้าเรอคนที่สิบสามของขาต้องเป็นคนที่ไม่เหมือนใคร แน่นอนล่ะสิ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ