บัลลังก์เสน่ห์หา หมอยาข้ามภพ

ตอนที่ 5 เสียงหัวเราะที่ไม่คาดคิด



ตอนที่ 5 เสียงหัวเราะที่ไม่คาดคิด

โจ๋จือโจวถูกประคองขึ้นมา เกี้ยวสีแดงใหญ่ แถวด้านหลังที่ยาว เหยียด สีแดงที่ท่วมท้นนั้นแทงถูกตาของคนเจ็บได้

ดังนั้นเล่น โมจึงขมวดคิ้วขึ้นชนกัน ตอนนั้นมือของเขากำลังถูก

พ่อบ้านจับไว้อย่างแน่นหนา เหมือนกับว่าจะกลัวเขาวิ่งหนีไป

เขาหันกลับไปดูแถวในพิธีที่ทอดยาวติดต่อกัน แต่ก็มองไม่ เห็นหัวแถวเลย ชุดแดงสิบลี้ ร่วมยินดีกันทั่วหล้า นี่คือสิ่งที่โจซื้อ โจวให้กับป่ายเนี่ยนจูน

“หมอเจน เชิญท่านรออยู่ตรงนี้” พ่อบ้านสั่งเสียอย่างเร่งรีบ ก็ รีบไปจัดการเรื่องอื่น

เล่นไม่ยืนอยู่ที่ข้างรถม้าคันหนึ่งที่อยู่ด้านข้างประตู ก้มหน้า เล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร รถม้าที่มากมายเต็มไปหมดก็คือเพื่อ เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้หรือ

“ท่าชาย ท่าแน่ใจว่าจะเข้าไปแบบนี้” โม่เขียนถามเจ้านาย ของตนเองอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก เสื้อผ้าที่ถูกตัดขาดเมื่อครูที่บน ถนนยังใส่อยู่บนตัว เต็มไปด้วยรูปแบบที่ทั้งเปิดเผยทั้งซ่อนเร้น อีกทั้งผิวตรงที่เสื้อฉีกขาดของชายชุดแดงราวกับหยก ดวงตา งดงามราวกับภาพวาด เพียงแค่ในสายตาคนอื่นมันช่างไม่น่าดู และเป็นการทำลายภาพพจน์ของตนเอง อีกทั้งวันนี้ยังเป็นวันของ คนใหญ่คนโตอีกด้วย
“เหอะๆ ……” ชายชุดแดงหัวเราะเสียงต่ำ เปิดม่านประตู

กระโดดลงจากรถม้า พัดที่พับอยู่ในมือราวหยกนั้นตบไปที่มืออีก

ข้างหนึ่งอย่างเบาๆ ท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยาม มุมปากดูเหมือน

ว่าจะไร้รอยยิ้ม คิดไม่ถึงว่าจะไม่มีอะไรอึดอัดต่อหน้าขุนนาง

ระดับสูงทั้งหลาย “ท่านชายผู้นี้?” พ่อบ้านของจวนป้ายโก๋กงยื่นมือออกมากัน ชายชุดแดงเอาไว้ ขมวดคิ้วมองดูหัวจรดเท้าของเขา “บัตรเชิญ

ดูไปแล้วคงจะมีแต่ผู้ที่ได้รับบัตรเชิญที่มีสิทธิ์เข้าไปได้ ชายชุด แดงพอดีไม่มีสิ่งนั้น เขาเหลือบมองกลับไปถึงขุนนางที่เดินไป เดินมาอยู่ชั่วครู่ ในดวงตาดอกท้อเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “พ่อบ้าน อนุโลมหน่อยเถอะ?”

พ่อบ้านคนนั้นมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ท่านชายกลับไปจะดีกว่า” จวนป่าย โก๋กงไม่ใช่ว่าใครก็ได้ที่จะ เข้าไปได้ โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่ไม่เป็นระเบียบเช่นนี้ ช่างไม่น่าดู เลย

ชายชุดแดงจับจมูกเล็กน้อย หันกลับไปส่งสายตาให้โม่เขียน แต่ยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับไปไหน

“ท่านชาย” คำพูดของพ่อบ้านยังพูดไม่ทันจบ ได้ยินเพียง เสียงฝีเท้าที่ดังมาจากด้านใน หันกลับไปดู คิดไม่ถึงว่าจะเป็น ป้ายโก๋กงที่ผมเผ้าหนวดเคราขาวเพิ่ม แต่อำนาจเต็มทั้งใบหน้า พาพวกแขกเหรื่อและคนในครอบครัวเดินออกมาอย่างโอ่อ่า

ป้ายโก๋กงมองเห็นพ่อบ้านของตนยืนอยู่ตรงกลางประตูใหญ่กับคนผู้หนึ่ง ตอนนั้นเดินเข้าไปสารรูปของชายชุดแดงให้ชัดเจน คิ้วเลิกขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่ก็กลับเป็นปรกติในทันใด

“ไอ้หยาง ทําอะไรให้มันเรียบร้อยหน่อย” ป้ายโก๋กงตำหนิ อย่างเย็นชาครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าจะไม่พอใจกับการจัดการของพ่อ บ้าน และไม่มองชายชุดแดงอีกครั้งหนึ่งเลย

สีหน้าของพ่อบ้านเย็นยวบขึ้นมา เดินขึ้นหน้าไปโดยไม่พูด อะไร ผลักชายชุดแดงเข้าไปข้างๆ ด้านหนึ่ง

ชายชุดแดงยืนอยู่อย่างจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม ตรงหว่างคิ้วมีความ เรียบเฉย หากมีคนสังเกตเห็น จะพบว่ามุมปากของเขายกขึ้นใน องศาที่เยาะเย้ยอยู่

โจ๋จือโจวที่ยืนอยู่ด้านหลังป้ายโก๋กงก็มองชายชุดแดงอยู่ครู่ หนึ่ง ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ สีหน้าของเขายังคงซีดอยู่ บิดร่างกาย เป็นครั้งคราวอย่างอึดอัด ไม่รู้เพราะเหตุใด หลังจากไม่ไอแล้ว หายใจได้สะดวก ร่างกายรู้สึกเริ่มต้นขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ

ในมุมที่มีรถม้าหลายๆ คันบังอยู่นั้น เช่น โม่ยืนอยู่ตรงนั้น อย่างเงียบๆ เหมือนกับสาวรับใช้ที่อยู่ข้างรถม้าคันอื่นๆ สงบ เงียบและเชื่อฟัง แต่มุมปากของเขาก็ยกขึ้นอย่างเบาๆ แฝงไว้ ด้วยความลึกลับที่อธิบายไม่ได้

“หลีกไป หลีกไป” องครักษ์แต่ละนายวิ่งออกมาอย่างรีบร้อน ยืนอยู่สองข้างทางที่ปูด้วยพรมแดง เหลือเพียงทางที่ราบรื่นและ สงบ

องครักษ์ชั้นในแต่ละคนถือสิ่งของเดินมา หลังจากนั้นจึงเห็นเกี่ยวสีทองอยู่ไกลๆ ม้าอาชาสีดำล่ำสันแปดตัวลากรถม้าอยู่ รถม้าสีแดงม่วงถูกแกะสลักด้วยลายมังกรสีทอง ดูไปแล้วหรูหรา จนหาที่เปรียบมิได้

ในที่สุดรถมาก็หยุดลง ไม่มีการเคลื่อนไหวสักพัก แม้แต่มา หลายตัวนั้นก็นิ่งสงบราวกับเป็นรูปที่แกะสลักไว้เหมือนกับว่า อากาศทั้งเมืองหลวงหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วครู่ แฝงไว้ด้วยความ รู้สึกที่ทำให้หายใจไม่ออก

ปลายนิ้วของป่ายโก๋กงเลิ่กลั่กไปมา มือทั้งคู่ประสานกันไว้ แน่น “ข้าน้อยน้อมรับเสด็จ พวกที่อยู่ด้านหลังของเขาต่างพากัน คุกเข่าตามกันเป็นทิวแถว เล่น โม่เห็นเด็กรับใช้ คนจูงม้าต่างพา กันคุกเข่าลงก็เลยต้องคุกเข่าตามอย่างเสียมิได้ ตอนนั้นหาก ดำรงอยู่ได้อย่างตัวเล็กที่สุด เขายินดีเป็นอย่างยิ่ง

บัดนี้จึงเห็นองครักษ์ฝ่ายในโค้งตัวยืนอยู่ที่ข้างรถม้าอย่าง เรียบร้อย องครักษ์อีกคนหนึ่งค่อยๆ ขึ้นไปเปิดผ้าม่านออก มือที่ ผอมข้างหนึ่งยื่นออกมา องครักษ์ส่งแขนของตนขึ้นไปอย่างเร่ง รีบ ใหมือนั้นได้แตะบนแขนของตนเอง

หลังจากนั้นชายที่ใส่ชุดสีทองอร่าม บนชุดนั้นยังปักด้วยด้ายสี ทองลายมังกรขดเดินออกมา ดูท้ามเล็กน้อย หน้ากลมเล็กน้อย ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม พอเห็นก็รู้สึกเป็นมิตร เพราะว่ารอยยิ้มนั้นช่าง เหมือนพระสังกัจจายน์จริงๆ เลยเชียว

รองเท้าที่ปักด้วยลายมังกรขดเหยียบลงบนหลังขององครักษ์ หลังจากนั้นเหยียบลงบนพื้น ได้แต่ยืนยิ้มและยื่นมือออกไปข้างในม้า มือขาวหยกที่เกาะนิลหนึ่งยื่นออกมา หลังจากนั้น หญิงที่สวมชุดแดง ศีรษะสวมมงกุฎหงส์คนหนึ่งเดินออกมา บนชุดสีแดงปักอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นหญิงงามพบยาก เพียงแค่ตานั้นดุร้ายเกินไป ทำให้ทำลายถูกความงามอย่างสิ้นเชิง

ขอฮ่องเต้พระเจริญหมื่นหมื่นๆ ขอฮองเฮาทรงพระ เจริญพันพันเสียงไม่รู้ตัว คนตั้งเยอะแยะมากมายคิดไม่ถึงว่าไม่ใครไม่ เหมือนกันเลย

สองท่านนั้นคือฮ่องเต้เฟิงเจ๋วกับฮองเฮาหย่า ฮ่องเต้ยัง ไม่บอกให้ยืนดังนั้นลานตรงจึงเข้าความ เงียบเชียบอีกหนึ่ง

ทุกท่านที่ล้วนแขก ลุกเถอะ ไม่ต้องมากพิธีขนาด

ฮองกลับอดใจไม่ไหวจะพูด อีกทั้งยังดูหน้าของ

ฮ่องเต้ด้วย

เหมือนว่าเฟิงเจ๋าจะไม่ความรู้สึกอย่างนั้น ของป่ายโก๋จ้างขมวดขึ้นมา ในสาธารณะแบบ จะให้ฮ่องเต้เสียหน้าคงไม่ดีนัก ว่าตระกูลบ่ายบังคับ ควบคุมฮ่องเต้ในลับ แต่ไม่กล้าทำให้ฮ่องเต้เสียหน้า ในเช่นพูดของฮองเฮาเมื่อ

ฮ่องเต้ หม่อมชั้นพูดมากเกินแล้ว เห็นแก่วันนี้หม่อมได้หวนกลับมาบ้าน ฮ่องเต้ได้โปรดไว้ชีวิตหม่อมชั้นสักครั้งหนึ่งเถิด” ป้ายหย่าก็เป็นคนที่รอบคอบ พอพูดออกไปปากก็รู้สึกว่า มันไม่เหมาะสมกลับทำตัวอ่อนต่อฮ่องเต้ ค่าพูดอ่อนโยน

“ฮองเฮากับข้าเป็นสามีภรรยากัน สิ่งที่ฮองเฮาพูดก็คือสิ่งที่ข้า อยากพูด งานเลี้ยงครอบครัวแค่นั้นเอง จะมากพิธีกันไปทำไม เล่า รีบลุกขึ้นเร็วเข้า” เฟิงเจ๋าพลางพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พลาง ยื่นมือไปประคองฮองเฮาบ่ายหย่า

ช่างเป็นฉากที่น่าดูจริงๆ ความจริงยังตกตะลึง แต่ต่อหน้าผู้คน กลับแสร้งทําเป็นรักใคร่กลมเกลียวกัน

พอคิดขึ้นมา ชายชุดแดงก็หัวเราะขึ้นมา

ท่ามกลางผู้คนที่กลั้นหายใจอยู่ เสียงหัวเราะดังขึ้นราวกับว่า ไม่คาดคิดอย่างมาก สายตาของผู้คนจ้องไปทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ