บัลลังก์เสน่ห์หา หมอยาข้ามภพ

ตอนที่ 20 ด้วยความสัมพันธ์อันดีงามได้หรือไม่



ตอนที่ 20 ด้วยความสัมพันธ์อันดีงามได้หรือไม่

ยังไม่ทันสิ้นเสียงของเล่น โมที่พูดคำว่าระวัง ก็ราวกับได้ยินเสียง ที่ลอยมาทางกลางอากาศ

โม่เหยียนแบกเฟิงชิงเฉิงหลบด้านข้าง แต่ด้วยความเร็วที่ยัง ช้าไป เป็นเพราะเฟิงชิงเฉิงที่ยังขยับกายไม่ได้ทั้งหมด ทำให้การ ก้าวหลบเป็นไปอย่างค่อนข้างลำบาก

มีลูกธนูที่พุ่งออกมาจากท่ามกลางอากาศที่เป็นปริศนา เข้ามา อย่างต่อเนื่องหลายสิบดอก แต่ไม่เหยียนยังสามารถหลบได้ใน ทุกครั้ง แต่กลับมีเสียงดัง ฉิบ มันเป็นเสียงของลูกธนูที่เสียบ เข้าไปยังต้นขาของเฟิงชิงเฉิง

“อ๊าก ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว ผู้ใดกล้าทำข้า” ใบหน้าที่หล่อ เหลาและอ่อนหวานของเฟิงซิงเฉิงเริ่มซีดขาว ตะโกนร้องขึ้นมา อย่างเจ็บปวด ในดวงตาเริ่มมีน้ำตื้นขึ้นมาจนแทบจะร้องไห้ แต่ก็ ยังคงอดทนและกลั้นไว้อย่างสุดชีวิต

หลิงหยูนจื้อที่เงียบมาตลอดหวังจะไล่ตามออกไป แต่กลับถูก เล่น โม่ดึงตัวไว้ “อย่าเปิดเผย” หากมีผู้ใดรู้ว่าข้างกายของเขายัง มีผู้เป็นวรยุทธ์ คาดว่านั่นจะยิ่งเกิดปัญหาใหญ่

โม่เหยียนที่ใบหน้าดำมืดมองไปยังลูกธนูบนต้นขาของเฟิงชิง เฉิง จนทำให้มุมปากถึงกับกระตุก ในเวลากลางวันแสกๆ เช่นนี้ กลับมีผู้ที่กล้าลงมือลอบสังหารเฟิงชิงเฉิงได้
เขาขมวดคิ้วเข้ม ไม่พูดมากรีบจัดการแบกเฟิงซิงเฉิงแล้วหัน กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเจน ไม่ “ท่าหมอเล่น ดูแล้วองค์ชายของข้า จะเดินต่อไม่ไหวแล้ว อย่างไรท่านก็เป็นหมอ รบกวนท่านช่วย รักษาด้วย ต้องจ่ายเท่าไหร่ท่านเพียงบอกมา

ใบหน้าของเฟิงชิงเฉิงเริ่มแสดงออกถึงความเจ็บปวดที่มากขึ้น มองไปยังโม่เหยียนอย่างขมขื่น “เจ้าคนฟุ่มเฟือย เจ้าไม่รู้หรอก หรือว่า ข้าที่เลี้ยงสัตว์ไว้ทั้งหมดสิบสองตัวก็เกินกำลังมากพออยู่ แล้ว ไม่เว้นแม้แต่เรื่องวุ่นวายในเรือนยังไม่มีเงินที่จะนำไป ซ่อมแซมเสียด้วยซ้ำ” พูดพลางมองไปยังเล่นโมเพื่อขอความ เห็นใจ “คนงาม ด้วยความสัมพันธ์อันดีของเรา เจ้าพอจะช่วย ชีวิตข้าได้หรือไม่”

โม่เหยียนราวถูกสายฟ้าฟาดลงกลางหัวอีกครั้ง องค์ชาย ท่าน ยากจนมากจนถึงขั้นที่จะจ่ายเงินให้กับท่านหมอไม่ไหวเชียวหรือ หรือว่ารถม้าอันเจิดจรัสที่อยู่หน้าประตูนี้ ไม่พอที่จะตีกระทบเข้า กลางใบหน้าของท่านได้เชียวหรือ

เล่น โมราวกำลังอยู่ใต้ท้องฟ้าที่มีเมฆครึ้ม จนถึงขั้นนี้แล้ว ยัง ไม่รู้ว่าชีวิตนั้นสำคัญยิ่งกว่า

“เช่นนั้นขาไม่รักษาดีกว่า ความสัมพันธ์กับเรื่องนี้มีแต่จะ ขาดทุน” เจ่นโม่เดินไปโดยไม่คิดจะหันกลับมามอง เพิ่งชิงเฉิงผู้ นี้ช่างเป็นตัวปัญหาเสียจริง หรือว่าการเป็นตัวประกันอยู่ในหน ยาง ทำให้การใช้ชีวิตลำบากมากเกินไป แบบนี้สมองคงมีปัญหา มากกว่า
บนพื้นทางเดินที่ราบเรียบ ใต้เท้าถึงกลับยืนอยู่เบื้องหน้าด้วย อาการเหงื่อไหลเย็นท่วมหัว เล่นไม่ที่ยิ้มบางชี้แนะขึ้น “ใต้เท้าถุง การที่เขาได้รับบริการที่ดีงามเช่นนี้ เหตุใดท่านจึงไม่ลงมือ ทําการรักษาเขาด้วยตนเองเล่า”

ใต้เท้าถงดังถูกสายฟ้าฟาด ถอยร่นไปด้านหลังอย่างเข่าอ่อน

“ไม่เอานะ น้องสิบสาม หากเจ้าเห็นคนใกล้ตายแล้วยังไม่ช่วย หากเจ้าทอดทิ้งข้า งั้น…โม่เหยียนเจ้าจงคอยติดตามน้องสิบสาม อย่าให้คลาดสายตา หากเขาไม่ช่วย ข้าก็จะตายๆไปซะ ตายไป แล้วก็ให้น้องสิบสามเป็นผู้ขุดหลุมฝังข้า” เพิ่งชิงเฉิงร้องไห้พลาง ตะโกนพูดอย่างโกรธเคือง ไม่เคยมีผู้ใดที่กล้าปฏิเสธเขามาก่อน ไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็ตาม แต่สายตาของน้องสิบสามกลับไม่มี ความเปลี่ยนแปลง ยังคงนิ่งเฉยอยู่อย่างนั้น ไม่แยแสเขาสักนิด เป็นไปได้อย่างไร เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไรกัน

“ความจริงข้าสามารถขุดหลุมฝังเจ้าได้ในตอนนี้เลย” เล่นไม่ พูดเสียงเย็น ผู้ที่ทำตัวเหมือนน้ำตาลเหนียวที่สลัดไม่ออกอย่างนี้ จะด่าหรือจะไล่ให้ตายอย่างไรก็ไม่ไปอยู่ดี

“น้องสิบสามเจ้านี่ช่างจิตใจโหดเหี้ยม” เฟิงชิงเฉิงพูดอย่างไม่ พอใจออกมาทันที จ้องเล่นโม่อย่างต้องการร้องทุกข์ จากนั้นเล่น โม่กลีบพบว่าตนอยู่ในสภาพที่ถูกกอดเข้าแล้ว

“ท่านชอบอะไรในตัวข้า อย่างไรข้าก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ หรือ” ทำให้เล่นไม่ถึงกับพูดไม่ออก จึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

“แล้วเจ้าไม่ชอบอะไรในตัวข้าผู้นี้ ข้ายอมเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้เจ้า ยังไม่ได้หรือ” เฟิงซิงเฉิงที่ใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตา มองไปยังเจน ไม่ทำอะไรไม่ถูก ถามขึ้นอย่างใส่ใจ

เล่นไม่ที่ยังไม่อยากพูดอะไร ได้แต่กัดฟันพูดเสียงแข็งกับโม่ เหยียน “โยนขึ้นไปบนเตียงนั้นให้ข้า

ที่นี่เป็นแผนกที่อยู่ทางด้านหลังของร้านการแพทย์ หมิน ด้าน ในมีเพียงเตียงไม้อันหนึ่ง เพื่อใช้ในการวินิจฉัยและรักษาโรค ชั่วคราว

โม่เหยียนยังคงปล่อยเขาลงบนเตียงอย่างเบามือ

“น้องสิบสาม ข้าต้องนอนลงหรือ เจ้าจะใช้โอกาสนี้กินเต้าหู้ ของข้าอย่างละเมียดละไมหรือไม่ ” เฟิงชิงเฉิงพูดขึ้นอย่างมี ความหวัง เขาพูดเพื่อหวังว่าเล่นโม่จะได้ประโยชน์ในตัวเขา อย่างแอบมีความสุข

เจน ไม่ใบหน้ามืดครึ้มทันที เขามองไปยังเฟิงชิงเฉิงที่นอนลง อย่างเรียบร้อย ไม่พูดคำที่สองอีก แล้วหยิบกรรไกรขึ้น ตัดผ้า บริเวณรอบอาการบาดเจ็บออก สัมผัสความลึกของธนูโดยรอบ หัวเราะเบาขึ้นอย่างคลุมเครือ

เฟิงชิงเฉิงมองไม่เห็น จากที่รอคอยจึงพูดขึ้น “น้องสิบสาม หรือว่าจะให้ข้าถอดกางเกงออกดี เจ้าจะได้กินเต้าหู้ของข้าได้ อย่างสะดวกมากขึ้น”

โม่เหยียนรู้สึกถึงปลายหัวใจที่ถูกกระตุกหล่นวูบ เพราะใน ตอนนี้สีหน้าของเล่น โม่ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว “องค์ชาย..” เขา อยากที่จะพูดเตือนอะไรเล็กน้อย แต่ไม่เห็นท่าทางของเล่น ไม่ว่าจะทําเรื่องน่ากลัวอะไร เพียงแต่จับปลายของลูกธนู แล้วใช้แรง ดึงมันออกมา ทำให้มีเลือดสดๆและเศษเนื้อหลุดออกมาพร้อม กัน กลายเป็นแผลที่ดูเหวอะหวะไปในทันที

เฟิงชิงเฉิงที่ยังไม่ได้พูดอะไรกลับสลบไปแล้ว โม่เหยียนใน ตอนนี้มีเหงื่อเย็นเปียกท่วมหัว พลางคิดว่าเล่น โม่ผู้นี้โหดร้ายเกิน ไปจริงๆ

ผ่านไปแล้วครึ่งวัน ก็ยังไม่เห็นเป็นไม่ทำการเคลื่อนไหวใดๆ เห็นเพียงเล่น โม่ยังคงนั่งมองลูกธนูกับเศษเนื้อที่เอาออกมาอย่าง นิ่งสงบ องค์ชายของเขายังมีเลือดสดๆที่ยังไหลไม่หยุด จึงพูด ขึ้นด้วยความกังวล “คือว่า ท่านหมอ หากปล่อยให้เลือดไหลอยู่ เช่นนี้คงไม่ดีกระมัง” ในน้ำเสียงที่โม่เหยียนพูดยังคงมีความ ระมัดระวังอยู่เสมอ ไม่มีทางเลือกเพราะเขาเพิ่งจะรับรู้ได้ว่า เล่น โม่ผู้นี้ห้ามพูดยั่วยุด้วยเด็ดขาด อย่างน้อยๆองค์ชายของเขาก็ เผชิญหน้าได้ไม่กี่ครั้ง แต่ทุกครั้งก็ล้วนต้องพ่ายแพ้

“ลูกธนูอาบด้วยพิษ หากไม่ปล่อยให้พิษไหลออกมา เจ้าอยาก ให้องค์ชายของเจ้า กลายเป็นคนบ้าไป ภายในไม่ช้าหรือ เล่น โม่ก้มดูเลือดที่กำลังไหลออกจากบาดแผล เมื่อรู้สึกได้ว่าพอแล้ว จึงจัดเตรียมเข็มกับด้ายในการห้ามเลือดและเย็บแผล

“อาบยาพิษอย่างนั้นหรือ” โม่เหยียนพูดซ้ำ ในเมื่อเลือดที่ไหล ออกมาอยู่นี้ ดูอย่างไรก็เป็นสีเดียวกับเลือดธรรมดาทั่วไป ถ้า หากมีพิษก็จะต้องดูออกอยู่แล้วเพราะเลือดจะกลายเป็นสีดำ

“ใช่ แต่ก็ไม่นับว่าเป็นพิษหรอก เป็นเพียงแค่ยาบางอย่าง ที่เมื่อถูกใช้เข้านานๆ ก็จะทำให้สมองมีปัญหาได้ จะกลายเป็นคน ขี้เกียจและไม่มีเรี่ยวแรง บางทีอาจกลายเป็นการเสพติดอย่าง หนึ่งจนถูกควบคุมโดยผู้อื่น” เล่นไม่พูดกล่าวเบาๆอย่างเฉยชา ราวเป็นเรื่องที่ปกติ

ใบหน้าของ โม่เหยียนเย็นชาลงในทันที พวกเขาไม่เคยรับรู้มา ก่อน “ร่างกายขององค์ชายเป็นอย่างไรบ้าง

“อาจจะเป็นเพราะบาดแผลหรืออาหารที่กินเข้าไป ยังไม่ถือว่า ร้ายแรง เจ้าออกไปเถิด” เล่นโม่ไม่ชอบให้ผู้อื่นเข้ามาดูเมื่อเขา กำลังทำการรักษาผู้ป่วยอยู่ โดยเฉพาะเทคโนโลยีจากศตวรรษ ที่ยี่สิบเอ็ด อย่างเช่นการใช้เข็มในการเย็บแผลเช่นนี้ ผู้คนที่นี่ ไม่มีใครที่จะสามารถยอมรับได้แน่นอน

โม่เหยียนเกิดความลังเลอยู่สักพักจึงค่อยเดินออกไป มีร่าง หนึ่งที่อยู่ทางด้านหลังของลานที่อยู่ๆก็หายวับไปในพริบตา

หลิงหยูนจื่อมองจากช่องหน้าต่าง เพียงแค่มองไปอย่าง เฉยเมย และไม่พูดอะไร โม่เหยียนที่เพิ่งเดินออกมา กลับเห็นใต้ เท้าถุงที่กำลังวิ่งตรงมา “เล่นโม่ ด้านนอกมีรถมาคันหนึ่ง เด็กที่ ขับรถม้าบอกว่ามาพบเจ้า” รู้ว่าเล่นไม่กำลังทำการรักษา จึงไม่ ได้เข้าไปในห้อง และยิ่งไม่อยากเข้าไปรบกวน เพราะเมื่อเวลา เล่น โม่ที่ถูกรบกวนในเวลาที่กำลังรักษาผู้ป่วยอยู่นั้น น่ากลัวยิ่ง นัก เขาไม่อยากจะเจอแบบนั้นอีก

มือของเล่น โม่เต็มไปด้วยเลือด เริ่มคิ้วขมวด ทันใดนั้นก็นึกขึ้น ได้ว่าเป็นใคร จึงได้เพียงแต่ยิ้มอย่างเย็นชา “บอกไปว่าข้าไม่ว่าง” ไม่มีทางเลือก ในเมื่อจิตใจของผู้หญิงนั้นไม่ได้กว้างใหญ่ ไม่มีทางที่จะลืมความแค้นได้ และยังเป็นเพราะการถูกผลักตกลง มาจากรถม้าด้วย

“ใต้เท้าถุง ใต้เท้าถุง…” เด็กรับใช้ที่ราวกับคนบ้า วิ่งร้องไห้ เข้ามาอย่างโหยหวนราวกับหมาป่า และยังวิ่งมาอย่างทุลักทุเล

“เกิดอะไรขึ้น” ใต้เท้าถุงตะโกนถามขึ้น เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ ไม่ดี ก็เพราะปัญหาและเรื่องต่างๆ นานาที่เข้ามาอย่างไม่จบไม่

“ตอนนี้ร้านการแพทย์ หมินถูกเหล่าทหารปิดล้อมไว้หมดแล้ว ขอรับ” เด็กรับใช้นั่งลงบนพื้นแล้วพูดอย่างตื่นตระหนก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ