แสงใต้เงา

ตอนที่ 2…หาความจริง จากเธอคนนั้น [4/6]



ตอนที่ 2…หาความจริง จากเธอคนนั้น [4/6]

“เสร็จแล้วค่ะ” น้ำแข็งยื่นบัตรประชาชนใบใหม่ให้ไมล์

“ไปช่วยถือของต่อด้วย” ไมล์พูดสั้นๆ ขณะรับบัตรมา เก็บใส่กระเป๋า และเขายื่นบัตรใบเก่าให้น้ำแข็ง

“อะไรคะ” น้ำแข็งรับมาพร้อมถามกลับ

“ฉันไม่อยากพกบัตรประชาชนสองใบ ฝากเธอไป ทําลายและทิ้งให้ด้วย” น้ำแข็งพยักหน้าเข้าใจ และเก็บ บัตรของไมล์ไว้ในกระเป๋าสะพายของตน ทั้งสองเดิน กลับไปที่รถ จุดหมายต่อไปคือห้างสรรพสินค้าดังสักที่ หนึ่งในกรุงเทพมหานคร

ก่อนออกรถไมล์ถามความเห็นจากนาแข็งว่าเขาควรไป ที่ไหนดี

“คุณไมล์ไม่รังเกียจแบบคนเยอะๆใช่มั้ยคะ”

“เยอะมากก็ไม่เอา” น้ำแข็งพยักหน้า เธอจึงแนะนำห้าง ดังแถวถนนเพลินจิต ที่เดียวกับที่เธอไปกับศศิกานต์ ไมล์ เขาค่อนข้างพิถีพิถันกับของใช้ทุกอย่าง ส่วนใหญ่เขามัก จะเลือกเองทุกอย่าง เราไม่ต้องซื้อไปเยอะหรอก ถ้าไม่ ถูกใจรันแต่จะสิ้นเปลือง คำพูดที่ออกมาจากศศิกานต์ น้ำ แข็งจำได้ดี ก็ต้องจำได้อยู่แล้วก็คุณป้าหวังผลกับสิ่งที่ พูดมาก ซึ่งตอนนั้นเธอยังไม่เจอตัวจริงของเขาเลยด้วยซ้ำ

“สวัสดีค่ะ” พนักงานต้อนรับกล่าวทักทายไมล์และน้ำ แข็งที่เดินเข้าไปเป็นร้านแรก ร้านนาฬิกา

“ผมอยากดูนาฬิกาคู่” ไมล์เลือกแบรด์ TAG HEUE กับ ROLEX พร้อมแบบ นาฬิกาสี่เรือนมาวางเรียงกัน “ตัดสิน ใจมา” ไมล์ดึงแขนน้ำแข็งเข้ามาใกล้ๆ

“!”

“เธอเป็นคนเลือกว่าจะเอาคู่ไหนระหว่างสองแบรนด์นี้

“ทำไมฉันต้องเป็นคนตัดสินใจด้วยละคะ” น้ำแข็งไม่

เข้าใจ

“นี่ใจคอเธอจะไม่ช่วยอะไรเลยเหรอไง บทบาทที่เรา

ต้องเล่นมันก็ต้องมีของประกอบฉากด้วยสิ”

“หมายความว่าคุณจะให้ฉันใส่นาฬิกาแพงๆแบบนี้เหรอ

คะ”

“คนทั้งบ้านกำลังจะรู้ว่าเธอเป็นแฟนของฉัน ฉันคง ปล่อยให้เธอซอมซ่อไม่ได้หรอกนะ เร็วๆเข้าเสียเวลา!!!” น้ำแข็งก้มหน้ามองนาฬิกาสองคู่ตรงหน้า แบบทั้งสองคล้ายๆกัน ไมล์คงชอบสายหนัง เพราะที่เขาเลือกไว้ก็ เป็นสายหนังรวมถึงที่เขาใส่อยู่ด้วยตอนนี้

“มันแพงมากๆเลยนะคะ

“เธอเป็นคนจ่ายเหรอไง หน้าที่เธอแค่เลือกว่าคู่ซ้ายหรือ ขวา มันยากมากมั้ย” พนักงานขายมองไมล์กับน้ำแข็ง สลับไปมา เธอได้ยินแค่บทสนทนาบางช่วงเท่านั้น เพราะ บางคำพูดฝ่ายชายจะพูดเสียงเบามากเพื่อให้ได้ยินแค่ผู้ หญิงที่เขาพามาด้วยเท่านั้น

“ชาย” นํ้าแข็งตอบกลับโดยที่ไม่หันกลับไปมองนาฬิกา อีกเลย

“เลือกได้ดี งั้นผมเอาคู่นี้” ไมล์ยื่นมือไปหาพนักงาน ขาย ซึ่งพนักงานก็หยิบนาฬิกาออกจากกล่องส่งให้ไมล์ ไมล์จับมือน้ำแข็งขึ้นมา เขาจัดการสวมนาฬิกาให้น้ำแข็ง ทันที “โอเคครับ เดี๋ยวคุณตัดสายออกอีกสักแค่นี้นะครับ” ไมล์ยื่นแขนข้างที่สวมให้กับน้ำแข็งให้พนักงานหญิงได้ ดู ส่วนอีกเรือนของเขาไม่ต้องทำอะไร ไมล์ยื่นบัตรสีเงิน ให้กับพนักงาน พวกเขารอไม่นานมากทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งสองออกมาจากร้านแรกโดยที่ข้อมือน้ำแข็งมีนาฬิกา ราคาแพงลิบลิ่วเกินกว่าที่ชีวิตนี้เธอจะตัดสินใจซื้อมัน ได้ และร้านที่สองที่ไมล์พาน้ำแข็งเข้าไปคือร้านรองเท้า แน่นอนว่ามีทั้งของเขาและเธอที่ไมล์ยังให้เหตุผลเดิมคือ ‘ซอมซ่อ’ ของที่เธอใช้อยู่มันเก่ามากแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ ว่าศศิกานต์จะไม่อยากซื้อให้เธอแต่น้ำแข็งขอไม่รับ เพราะแค่ค่าเทอมและเงินเดือนที่ได้ มาก็มากพอแล้ว

ไมล์หันหลังกลับมามองคนถือของ แค่ร้านรองเท้าก็สี่ถุง เต็มมือยายเด็กขายขนมหวานแล้ว ไมล์จึงเดินกลับมาหา น้ำแข็งที่เดินช้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้เธอก็ยิ่งช้าไป อีกเมื่อสองมือเธอเต็มไปด้วยถุงใบใหญ่อีกสี่ถุง

“เอาไปกุญแจ เอาไปเก็บไว้ที่รถก่อน เดี๋ยวฉันดูเข็มขัด อยู่ร้านตรงนั้น รีบไปรับมาละ” ไมล์พูดพร้อมกับยัด กุญแจใส่ในกระเป๋าสะพายของน้ำแข็งให้อย่างคนมีน้ำใจ

“น้ำแข็ง น้ำแข็งจริงๆด้วย” เสียงเรียกที่ไม่คุ้นสำหรับ ไมล์ แต่คนที่ถูกเรียกกลับไม่แปลกใจ เธอหันกลับไป ทิศทางของเสียงเรียกนั้น

“สวัสดีจ๊ะพิม พี่พล” น้ำแข็งกล่าวทักทายอย่างคุ้นเคย

“น้ำแข็งมากับใครนะ” พิมพิลามองคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง น้ำแข็งอย่างสนใจ ก็เขาคนนั้นดึงดูดสายตามาก

“เอ่อ กับคุณศตวรรษ ลูกชายของคุณหญิงป้านะ”

“ให้พี่ช่วยดีกว่านะ ถุงเยอะแยะเลยคงหนักน่าดู” พลพัก ษ์ หรือ พล เข้าไปหาน้ำแข็งทันที แสดงความเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ได้สนใจไมล์เหมือนอย่างที่พิมพิลา สนใจ

“อุ้ย! ไม่ต้องค่ะพี่พล น้ำแข็งกำลังเอาไปเก็บที่รถค่ะ”

“ไม่เป็นไร รถจอดอยู่ที่ไหนเดี๋ยวพี่เดินไปเป็นเพื่อน” ภาพการยื้อแย่งสร้างความไม่พอใจให้กับไมล์พอดู แต่ เขาเลือกที่จะเดินจากไป

“เชิญตามสบายนะ ฉันรออยู่” ไมล์พูดแค่นั้นเดินไปยัง ร้านที่เขาบอกไว้ก่อนหน้านี้ พิมพิลามองตามไมล์ไปอย่าง สนใจและประทับใจอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆที่สายตาของ ไมล์ไม่ได้หันมามองเธอนานด้วยช้า

“งั้นพี่พลช่วยน้ำแข็งถือของไปที่รถนะคะ” พิมพิลาพูด จบ เดินตามไมล์ไปทันที น้ำแข็งไม่มีเวลาได้เห็นสายตา ของเพื่อน เพราะต้องปล่อยมือจากถุงทั้งหมดให้กับพล พักษ์ และเดินไปยังรถที่จอดอยู่

“สวัสดีค่ะ” พิมพิลา กล่าวทักทายไมล์

“สวัสดีครับ” ไมล์มีมารยาทตอบกลับไป เขายังไม่ได้ลืม เธอคนนี้ เพื่อนของน้ำแข็ง

“พิมพิลา หรือ พิมเป็นเพื่อนกับน้ำแข็งค่ะ เราเรียนอยู่ คณะเดียวกัน” ไมล์พยักหน้ารับรู้ และทำเป็นไม่สนใจ สายตาวิ้งๆของเธอคนนี้
“ผมศตวรรษครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

“พิมเรียกว่าคุณไมล์หรือพี่ไมล์ได้มั้ยคะ เออ! พอดีพิม พอจะทราบมาบ้างค่ะว่าพี่ไมล์เป็นใคร” ไมล์พยักหน้าเล็ก น้อย ไม่ให้ก็คงต้องให้แล้วก็เธอเล่นเอ่ยเรียกพี่ไมล์มาตั้ง สองครั้งแล้วนิ!

“นําแข็งเรียนเป็นไงบ้าง” ไมล์เอ่ยถาม จะว่าไปเขายัง ไม่รู้ระดับภูมิความรู้ความสามารถของผู้ช่วยในอนาคต เลย

“น้าแข็งขยันค่ะ เธอแค่ไม่ค่อยถนัดเป็นบางวิชา” ไมล์ เลิกคิ้วมองอย่างสนใจรอคำขยายต่อจากพิมพิลา “พวก กลุ่มคณิตศาตร์ วิทยาศาสตร์ ประมาณนั้นค่ะ” ไมล์แค่ ยิ้มมุมปากเล็กน้อย และหันกลับไปดูสินค้าของร้านต่อ พิมพิลาจึงขออนุญาตช่วยเลือก แต่ทั้งสองคนอยู่กันเพียง ลําพังไม่นาน นําแข็งกับพลพักษ์ก็เดินมาถึง

“คิดว่าจะไม่กลับมาแล้ว” ไมล์พูดเบาๆให้น้ำแข็งได้ยิน เพียงคนเดียว

“ฉันแวะเข้าห้องน้ำแป๊บเดียวเองนะคะ ไม่ได้นานเวอร์ จนคุณต้องเอาพูดเลยด้วยซ้ำและอีกอย่างคุณก็มีเพื่อน อยู่ด้วยทั้งคน”

“เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้า ถ้าไม่รู้และจำไม่ได้ก็จำไว้เสียด้วย และคราวหน้าอย่าให้เกิด เหตุการณ์แบบนี้อีก” น้ำแข็งทำหน้าเซ็งใส่ไมล์ทันที อะไร ของเขาก็ไม่รู้ เมื่อกี้ก็ไม่เห็นจะอาการหนักแบบนี้ ทำไม ต้องแควะต้องว่าเธอนักหนา ก็แค่มาช้าไปสักสองสาม นาทีเอง

น้ำแข็งจึงหันไปคุยกับพิมพิลาและพลพักษ์ “พิม น้ำแข็ง ต้องขอตัวก่อนนะ คุณไมล์ยังต้องซื้อของอีกหลายอย่าง”

ให้พิมไปช่วยเลือกมั้ย”

“ขอบใจมากแต่ไม่เป็นไรจ๊ะ ปกติคุณไมล์เขาชอบเลือก ของใช้เองอยู่แล้ว” พิมพิลาพยักหน้าเข้าใจและสายตาที่ มองไปยังไมล์ที่เขาให้ความสนใจกับเข็มขัดอยู่ พลพักษ์ จึงกล่าวลาน้ำแข็งและดึงแขนน้องสาวออกจากร้าน

“พิม พี่ไม่ชอบให้เราไปแสดงท่าทางแบบนั้นเลยนะ เรา นะเป็นผู้หญิงนะ พี่เป็นผู้ชายยังมองสายตาเราออก แล้วมี เหรอเจ้านายของน้ำแข็งเขาจะมองไม่ออก มันน่าเกลียด

“พี่พล! ก็พิมรู้สึกชอบประทับใจพี่ไมล์เขานะคะ”

“ก็เก็บไว้ข้างใน สงวนท่าทีไว้บ้างก็ดี ผู้หญิงที่ดูง่ายไม่มีผู้ชายดีๆที่ไหนเขาชอบหรอกนะ”

“ใครเขาจะเหมือนพี่ละ แอบชอบน้ำแข็งมาตั้งนานนมก็ ไม่กล้าบอกเขาไปตรงๆ อ๊ะๆๆๆ พี่ไม่ต้องมาปฎิเสธเลย น้องรู้มาตั้งนานแล้ว แต่แค่ไม่อยากก้าวก่ายก็เท่านั้น น้ำ แข็งน่ารักก็จริงแต่พ่อจะยอมรับง่ายๆเหรอค่ะ น้ำแข็งจน มากๆ ฐานะทางสังคมก็ไม่มี น้องว่าพี่ก็คงได้แอบชอบไป แบบนี้ก็ดีแล้ว เพราะไม่มีทางสมหวังแน่ๆ” พลพักษ์มอง หน้าน้องสาวเงียบๆ เพราะทุกอย่างที่พิมพิลาพูดมาเป็น เรื่องจริงทั้งหมด เพราะเหตุผลบ้าบอพวกนี้แหละที่ทำให้ เขาไม่กล้าเปิดใจกับน้ำแข็ง เพราะถ้าเรื่องของเขาเกิด ขึ้นจริงๆ น้ำแข็งจะต้องเจอกับเรื่องยุ่งยากมากมาย และ เขาไม่ เหมือนกับพิมพิลาที่ดูภายนอกจะเรียบร้อยแต่ ใครก็ตามที่ได้รู้จักน้องสาวเขาคนนี้ จะรู้ว่าเป็นคนหัวแข็ง ประเภทอ่อนนอกแข็งใน ต่างกับเขาที่เป็นพี่ชายแท้ๆ บาง อย่างเขากลับไม่กล้าเหมือนน้องสาว อย่างเรื่องน้ำแข็งที่ พ่อบอกให้พิมพิลาเลิกคบไปตั้งนาน แต่พิมพิลาก็ปฎิเสธ พ่อหัวชนฝา “ถ้าหนูไม่เลือกเก็บคนดีๆไว้ข้างกาย พ่อว่า หนูโง่หรือฉลาดค่ะ น้ำแข็งเป็นเด็กดีเป็นคนดีตั้งแต่หนูได้ รู้จักกับน้ำแข็งน้ำแข็งไม่เคยเลยสักครั้งที่จะเอาเปรียบหนู และทำตัวเหมือนเพื่อนเบ๊ของลูกเศรษฐี หนูอยากมีเพื่อน ที่เรียกว่าเพื่อนค่ะ ไม่ต้องมากมาย แค่คนเดียวที่จริงใจก็ พอค่ะ”

“เข้ามาใกล้ๆหน่อย” ไมล์ย้ำเรียกน้ำแข็งที่ยืนอยู่ห่างดั่ง กับกลัวเขาจะกัดเสียอย่างงั้น
“อุ้ย! จะทำอะไร”

“จะวัดรอบเอวเธอ เธอก็น่าควรต้องมีเข็มขัดไว้ใช้ด้วย ไมล์โอบรอบเอว น้ำแข็งโดยในมือมีเข็มขัดที่เขาเลือก ไว้แล้ว น้ำแข็งยืนตัวแข็ง ไออุ่น กลิ่นหอม ลมหายใจ ทุก อย่างที่เป็นของเขาทำให้เธอหายใจไม่ออก ใกล้ไปแล้ว ค่ะคุณไมล์ขาน้ำแข็งไม่กล้าหายใจ “หยุดหายใจแบบนี้ ไม่กลัวตายเหรอ” ไมล์ก้มลงแซวอย่างข่าๆ มีหรือที่เขาจะ ไม่รู้สึกว่ายายเด็กขายขนมหวานประหม่าอยู่ไม่น้อยเลย ตอนนี้

“เสร็จเหรอยัง คุณรีบๆถอยๆไปเลย” น้ำแข็งพูดพร้อม ขยับตัวเอามือดันแขนของไมล์ให้เขาถอยห่างออก ไป ไมล์ยินยอมง่ายดายเขายิ้มเล็กๆก่อนที่จะหันไปคุย กับพนักงานขาย และหยิบเข็มขัดอีกสองสามเส้นส่ง ให้พนักงานเอาไปตัดตามขนาดเดียวกัน เวลากว่าครึ่ง ชั่วโมงในมือของน้ำแข็งก็มีหนึ่งถุงที่บรรจุเข็มขัดของเธอ และของไมล์

“ไปหาอะไรกินกัน เที่ยงพอดี อยากกินอะไร”

“อะไรก็ได้ค่ะ”

“กินชาบูกันมั้ย” ไมล์ชวนน้ำแข็งพยักหน้ารับ บรรยากาศการร่วมรับประทานอาหารกันตามลำพังสอง คนเป็นครั้งแรก ในขณะที่น้ำแข็งกับไมล์กำลังทานไปได้สักพัก พิมพิลาและพลพักษ์ ก็เลือกร้านนี้เช่นกันกำลัง เดินเข้ามา เมื่อเห็นสองคนที่รู้จัก พิมพิลาจึงเดินไปหา

“เจอกันอีกแล้ว ขอนั่งด้วยคนได้มั้ย”

“…/ไม่สะดวกครับ เราสองคนกำลังอิ่มแล้ว” น้ำแข็งอ้า ปากค้างที่กำลังจะเอ่ยว่า เอาสิ! แต่เสียงของไมล์ปฎิเสธ ตัดหน้าเธอไปอย่างสุภาพแต่ไร้มารยาททางสังคมสิ้นดี ทำให้สามคนต่างมองตากันและเงียบงันกันไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ