แสงใต้เงา

ตอนที่ 1..สาเหตุของที่ ‘แสง’ ต้องอยู่ใต้เงา[1/6]



ตอนที่ 1..สาเหตุของที่ ‘แสง’ ต้องอยู่ใต้เงา[1/6]

เสียงฝีเท่ากระทบพื้นกระเบื้องในโรงพยาบาล

ไมล์ เร่งฝีเท้าการก้าวขยับ ปลายทางหน้าห้องไอซียู …

น้ำแข็ง…” เสียงเรียกสั่นเครือของไมล์ เขารีบเร่งเดิน ทางมาทันทีที่ได้รับแจ้งข่าว ข่าวที่ทำให้ ไมล์แทบเสียสติ กับสิ่งที่น้ำแข็งต้องประสบ หน้าห้องไอซียู มีชายวัยกลาง คนนั่งอยู่ ไมล์หันกลับและยกมือทำความเคารพ “สวัสดี ครับคุณพ่อ” ประกอบ พ่อบังเกิดเกล้าของ น้ำแข็ง ปฏิมา สินทรัพย์นคร พ่อลูกที่มีกันแค่สองคน ไมล์มองประกอบ ที่สีหน้าไม่สู้ดีนัก เขาไม่รู้จะเริ่มต้นด้วยอะไร น้ำแข็งถูก ทำร้าย มันจะไม่เกิดขึ้น ถ้าเขาไปกับเธอด้วย

ไมล์ทรุดนั่งลงที่เก้าอี้ถัดจากประกอบไปสองตัว ศีรษะ แหงนพิงกำแพงด้านหลัง หลับตา เขาไม่ได้ภาวนาขอต่อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ แต่เขากำลังระงับความเจ็บปวดในใจ…

*ไมล์ รีบมาก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ลา” คำพูดที่ประกอบ บอกเขาทางโทรศัพท์ หมอออกมาแล้วครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้ ตอนนั้นไมล์ยังมาไม่ถึง
“ผม อยากให้ญาติ ทำใจครับ ผู้ป่วยอดทนมาก แต่

ร่างกายของเธออดทนรับต่ออาการบาดเจ็บสาหัสแบบนี้ ไม่ได้นานครับ ร่างกายเธอเสียหายทั้งจากการถูกทําร้าย และถูกรถชน”

ผลั๊ก เสียงประตูถูกเปิดอีกครั้ง สองคนลุกขึ้นทันที สีหน้าและแววตาของหมอไม่ค่อยสู้ดีนัก

“หมอ เสียใจครับ…” ประกอบหลับตาแน่น ไมล์แทบยืน ด้วยขาไม่อยู่ เขาถลาเซถอยหลังอย่างคนสิ้นหวัง

“เชิญญาติค่ะ…” เสียงพยาบาลเรียกสติของทั้งสอง

“คุณน้ำแข็ง ผมขออนุญาตเรียกชื่อเล่นเธอนะครับ คุณ น้ำแข็งอยากกล่าวลาคุณทั้งสอง เธออดทนมาก ใจสู้มาก ครับ ” ไมล์และประกอบเดินตามพยาบาลเข้าไปอย่างคน สิ้นหวัง

…สามเดือนต่อมา

ไมล์ยืนมองภาพหญิงสาวที่ยังอยู่ในหัวใจเขาไม่เคย จืดจาง สามเดือนแล้วที่น้ำแข็งจากไป เธอไม่ได้เรียนจบ พร้อมเขา วันนี้ไมล์กำลังจะเดินทางไปอังกฤษ ไปเรียน ต่อ ตามความต้องการของแม่ ที่ต้องการให้เขาไปปรับตัว ปรับใจที่นั่น
“จะเดินทางวันนี้เหรอ โยมไมล์” ไมล์หันไปและคุกเข่า ลงกับพื้น ก้มกราบพระสงฆ์ คุณพ่อประกอบท่านบวชมา ได้เกือบสองเดือนแล้ว หลังจากจัดการเคลียเรื่องทางโลก ทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อย

“ครับ หลวงพ่อ”

“ดีแล้ว เริ่มต้นชีวิตใหม่นะ คิดเสียว่าน้ำแข็งเขาพ้นทุกข์ ไปแล้ว เราต่างหากที่ยังมีสิ่งที่ต้องท่า” ไมล์แค่ฟัง ผ่าน มาสามเดือนแล้ว เขายังทำอย่างที่หลวงพ่อว่าไม่ได้เลย โดยที่เขาไม่แน่ใจว่า เขาอยากทำจริงๆเหรอเปล่า เริ่มต้น ชีวิตใหม่โดยไม่มี น้ำแข็ง

“ผมจะพยายามครับ” ประกอบในชุดผ้าเหลือง มองชาย หนุ่มตรงหน้า พร้อมรอยยิ้มและดวงตาแห่งความเมตตา ไมล์ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่ ตั้งแต่ที่ น้ำแข็งจากไป วัด แห่งนี้ ซึ่งเวลาส่วนใหญ่ของไมล์ คือ บริเวณโกศของน้ำ แข็งที่เขาคอยดูแลทำความสะอาดตลอดเวลาสามเดือน ที่ผ่านมา

“โยมไมล์ น้ำแข็งจากไปแล้ว ไม่รับรู้เรื่องทางโลกอีกแล้ว เริ่มต้นใหม่กับชีวิต โยมยังมีหน้าที่ที่ต้องทำหน้าที่ของลูก หน้าที่ที่มีต่อคนที่รักและเป็นห่วงโยม” ไมล์ก้มลงกราบ ลาหลวงพ่ออีกครั้ง กล่าวขอบคุณ ท่านที่ตลอดสองสาม เดือนมานี้ ให้ความเมตตาเขามาก
ไมล์เดินจากไป จนลับสายตา หลวงพ่อที่ได้แต่ส่งคำ อวยพรทางธรรมติดตามเขาไป หวังให้เขาปล่อยวาง ปล่อยน้ำแข็งไป และเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ได้ในเร็ววัน

สี่ปีต่อมา….

“มันจะไม่กลับใช่มั้ย?” คุณตาเอกพจน์ เสียงกังวาล ตาม อารมณ์ เมื่อคิดถึงหลานชายที่จากไปนานสี่ปีแล้ว

ศศิกานต์ต้องขยับเข้าไปหา กลัวว่าความดันของคุณพ่อ จะขึ้นมากไปจนเป็นอันตราย

“ขอ ศศิ คุยกับตาไมล์ก่อนนะคะคุณพ่อ…คุณพ่ออย่า โกรธเลยนะคะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้นะคะ”

“ความเสียใจ ฉันก็เข้าใจ แต่ช่วยบอกมันทีว่า ไม่ใช่มีแต่ มัน ที่ต้องเจอความสูญเสีย…ถ้ามันไม่กลับมาดูแลมรดก ของมันเอง ฉันจะยกให้นับแสนกับน้ำแข็งให้หมดสิ้น เรื่องสิ้นราวไป” ศศิกานต์ยิ้มให้กับคำประชดประชันของ เอกพจน์ ท่านก็พูดแบบนี้มาตลอดสองปีแล้ว ทางโน้นก็ ไม่สนใจ ไมล์ไม่สนใจเรื่องมรดกของเธอและของคุณตา ถ้าต้องการให้ไมล์กลับเมืองไทย คงต้องหาเหตุผลอื่น

“คุณพ่อก็รู้ เอาเรื่องมรดกไปขู่ไม่ได้ผลกับไมล์หรอกค่ะ รายนั้นจะได้หาข้ออ้างไม่กลับมาเลยสิค่ะ”
“…เออ ฉันรู้ว่ามันเก่ง สมบัติของฉันมันไม่อยาก ได้ ไหนจะธุรกิจของมันและสมบัติของพ่อมันอีก ชาตินี้ทั้งชาติมันก็กินไม่หมด แต่ฉันอยากจะยก ให้มัน ใครจะทำไม ฉันขอสั่งเลยนะ ว่าหาวิธีให้ มันกลับเมืองไทยเสียที…” เอกพจน์โมโหแบบไม่ จริงจัง ศศิกานต์อดยิ้มออกมาไม่ได้อีกครั้ง เพราะ ลึกๆแล้วเธอรู้ว่าพ่อของเธอกลัวว่าไมล์จะไม่ยอม กลับมาเมืองไทยเสียมากกว่า “แล้วน้ำแข็ง มาเห รอยัง ฉันอยากรู้เรื่อง เพชรพระอุมาต่อแล้ว กำลัง สนุกเลย” บุตรสาวที่นั่งข้างๆ ต้องยิ้มออกมา น้ำ แข็ง หรือ นางสาวกรกต ทีภาคสุวรรณ เมื่อคิด และนึกถึงใบหน้านั้น ทำให้คนแก่มีความสุขมาก ขึ้นโดยทันที เธอได้เจอกับน้ำแข็งเมื่อสองสามปี ก่อน หญิงสาวที่ทั้งน่ารักงดงามทั้งภายนอกภายใน ความกตัญญูที่มีในตัวหญิงสาว ทำให้เธอและพ่อ ของเธอ คลายความคิดถึงไมล์ไปได้บ้าง

ศศิกานต์ อายุยังน้อยมากถ้าเทียบกับวัยของบุตร ชาย ไมล์อายุยี่สิบหก ในขณะที่เธออายุเพียงสี่สิบ เจ็ด ศศิกานต์ตั้งท้องไมล์ ตอนนั้นเธออายุได้เพียง ยี่สิบปีเท่านั้น เธอได้รู้จักกับพ่อของไมล์ตอนเธอ อายุเท่านั้น แจ็คกี้เป็นคนอังกฤษโดยกำเนิด ตอน นั้นเขามาเมืองไทยแค่ช่วงสั้นๆ เพื่อมาทำธุรกิจ ช่วงเวลาเพียงสองสัปดาห์ที่ได้รู้จักกับแจ็คกี้ เป็น ช่วงเวลาที่ดี ไมล์เกิดจากความรัก แม้จะเป็นรักไม่ สมหวังก็ตาม เพียงเพราะศศิกานต์ไม่ต้องการย้าย ไปอังกฤษ และแจ็คกี้ก็ไม่สามารถย้ายมาเมืองเพียงแม่ของไมล์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแจ็คกี้ใน สถานะอื่นทางกฎหมายทั้งสิ้น แต่ศศิกานต์กลับ ครองตัวเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมาตลอดยี่สิบกว่าปี นี้

“สวัสดีค่ะคุณนับแสน” น้ำแข็งกล่าวทักทาย หลานชายอีกคนของบ้านอัครก่าธร นับแสนเป็น หลานชายบุญธรรมของเอกพจน์ที่เอกพจน์เองก็ รักนับแสนไปไม่น้อยกว่าไมล์ที่เป็นหลานชายแท้ๆ

“สวัสดีจ๊ะคนสวย บอกหลายครั้งแล้วว่าให้เรียก พี่นับแสน” น้ำแข็งยิ้มเล็กน้อย ทุกคนที่นี่ดีกับเธอ มาก สามปีแล้วที่เธอเปรียบเสมือนสมาชิกของที่นี่

“ไม่เอาหรอกค่ะ เรียกคุณนับแสนดีแล้ว น้ำแข็ง ไม่อยากจะให้สาวๆในสังกัดของคุณนับแสนเข้าใจ ผิด…” นับแสนยิ้มกว้างมากขึ้น สำหรับเขาตอนนี้ บอกไม่ถูกเลยกับความรู้สึกที่มีให้กับน้ำแข็ง ทำไม นะ! มันไม่เหมือนเมื่อสามปีก่อนที่ได้เจอและรู้จัก กัน ไม่ใช่ว่าน้ำแข็งจะไม่สวยไม่น่ารัก ในทางตรง กันข้ามนับวันความสวยน่ารักของเธอเพิ่มทวีขึ้น เรื่อยๆต่างหาก ยิ่งได้รู้จักนิสัยใจคอแล้ว ยิ่งรู้สึกดี มีให้มากขึ้นเรื่อยๆ

“ใครอยากเข้าใจแบบไหนก็ปล่อยไปสิ คุณนับ แสนไม่ถือ” น้ำแข็งหัวเราะออกมา คุณนับแสนเป็น ชายหนุ่มที่หน้าตาหลอกลวงอายุอย่างมาก ทั้งๆที่กับคนได้ง่าย โดยเฉพาะสาวๆที่มากมายก่ายกอง เลยทีเดียว

“ไม่เอาละคะ น้ำแข็งไปดีกว่า คุณท่านคงรอแล้ว” น้ำแข็งพูดจบก็กล่าวลาและขอตัว เร่งฝีเท้าเข้าไป ในตึกใหญ่ทันที นับแสนได้แต่มองตาม ถ้าเขาไม่ ถูกห้ามไว้เรื่องของน้ำแข็ง เขาคงจีบเธอมาเป็นคน รักแบบอนาคตแม่ของลูกแน่นอน เมื่อช่วงหลังๆ หัวใจเขามันเปลี่ยนจังหวะการเต้นทุกครั้งที่ได้เจอ และคุยกับเธอ

“สวัสดีค่ะคุณท่าน คุณป้า” น้ำแข็งที่เดินมาตรง ระเบียงที่ด้านหน้าเป็นสวนดอกไม้มากมาย

“มีคนแถวนี้บ่นหาอยู่พอดีเลยจ๊ะน้ำแข็ง” ศศิ กานต์ เอ่ยกับน้ำแข็งที่เดินเข้ามาและค่อยๆทรุงด นั่งลงอย่างสุภาพ

“น้ำแข็งมาสายเองค่ะ ว่าแต่คุณท่านเดินออก กำลังกายไปกี่รอบคะ”

“นั่นไงละ ทำไมถึงไม่ไปเรียนพยาบาลไปเลยนะ”

“คุณท่านอย่าเอ็ดน้ำแข็งสิค่ะ คุณหมอนนท์ กำชับมากๆเลยนะคะ ว่าคุณท่านต้องออกกำลัง กายทุกวันเป็นดีที่สุด แค่เดินในตอนเช้าเยอะๆ หน่อย ไทเก็กก็ดีนะคะ คุณท่านน่าจะทำบ้าง”
“เช้านี้ กระผมเดินรอบสวนไปสามรอบครับ โดยมี นายใบเดินเป็นเพื่อนตลอดการออกกําลังกาย ตาม คําสั่งพยาบาลน้ำแข็งเลยครับ…” ศศิกานต์แอบยิ้ม ขบขัน และทําให้ศศิกานต์อดไม่ได้ที่จะคิดถึงบุตร ชาย อยากให้กลับมาเสียทีจริงๆอย่างที่คุณพ่อว่า เพราะน้ำแข็งโตขึ้นมาก และสวยมากมีเหรอว่าเธอ จะไม่รู้ว่า มีไม่น้อยเลยคนที่มาตามจีบน้ำแข็ง แต่ดี หน่อยที่ตอนนี้น้ำแข็งไม่สนใจเรื่องนี้ในตอนนี้ แต่ ถ้าเจอใครที่ดีขึ้นมา ลูกชายของเธอก็พลาด ‘สิ่ง ดีๆ’ ในชีวิตไปอีกครั้งนะสิ คิดได้ตามนั้น ศศิกานต์ จึงกล่าวขอตัว และบอกให้น้ำแข็งจัดการคนแก่ จอมดื้อรั้นได้อย่างเต็มที่เลย

“คุณท่าน งั้นเรามาต่อจากเมื่อวานเลยนะคะ เพราะวันนี้น้ำแข็งมีเรียนบ่ายค่ะ” เอกพจน์พยัก หน้าพร้อมรอยยิ้ม และฟังเพชรพระอุมา บทต่อไป จากนักอ่านที่อ่านหนังสือให้เขาฟัง แบบที่เขาคิด ว่ากำลังฟังเสียงพากย์จากนักพากย์กันเลย เพราะ อารมณ์และน้ำเสียงบิ้วไปกับเนื้อเรื่องได้อย่างน่า ฟังและเพลิดเพลิน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ