เทพบุตรตัวเต็งในใจของฉัน

บทที่ 14 โป๊เปลือย



บทที่ 14 โป๊เปลือย

“เฮ้อ ส่วนความสามารถในการควบคุมตนเองนั้น ในยิ่ง ย่ำแย่เข้าไปใหญ่แล้ว ขนาดแค่หวูเหยาฮุยทำเรื่องแค่นิด เดียว ก็ถึงขั้นอารมณ์เดือดพล่าน ดูท่าแล้วต้องรีบแล้ว!” เสิ่นหวนรีบเดินไป ในใจก็คิดอยู่เงียบๆ

แต่ว่าเรื่องที่ทำร้ายหวูเหยาฮุยเรื่องนี้ เสิ่นหวนไม่ได้ คิดมากมาย ทำร้ายแล้วก็คือการทำร้ายไปแล้ว ส่วน เรื่องไอ้คนไม่ได้เรื่องอย่างนั้น เสิ่นหวนยังรู้สึกว่าตนเอง ทําร้ายน้อยไปเสียด้วยซ้ำ

และในเวลาเดียวกันหลังจากที่บอกกับจอมทัพหวูคน ข้างหลังหวูเหยาฮุ่ยไปแล้ว เสิ่นหวนก็ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่อง ใหญ่เรื่องโตอะไร!

การใช้อำนาจรัฐมาใช้ในเรื่องส่วนตัว จะพูดว่าหนักก็ไม่ จะพูดว่าเล็กก็ไม่เล็กน้อยอะไร ด้วยฐานะของจอมทัพหวู ยังไงเสียไม่มากไม่น้อย ก็ต้องสามารถตรวจสอบเบื้อง หลังของเสิ่นหวนได้ เจ้าเล่ห์เฒ่าแบบเขา คงไม่ใช่คนรุ่น สองอย่างหวูเหยาฮุยทำตัวเหมือนประมาทแบบนั้นแน่ ถึง แม้ว่าต้องการที่จะต่อกรกับเสิ่นหวนก็ตาม เขาก็ต้องคิด ให้รอบคอบอยู่แล้ว

ฉะนั้น ในระยะอันใกล้นี้ เสิ่นหวนยังไม่ต้องสนใจเขา และต้องให้เสิ่นหวนไปหาวิธีมาเพื่อจัดการปัญหาร่างกาย ของตนเอง ถึงตอนนั้นจอมทัพหวู ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรแล้ว

ส่วนเรื่องการจัดการภายในผับนั้น เสินหวนเชื่อว่า หนัน กงเจาจะจัดการได้เป็นอย่างดี!

เมื่อคิดถึงบาดแผลที่อยู่บนตัวของตนเองแล้ว เสิ่นหวน รู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมาทันที แม่งเอ๊ย ตาแก่หง่าเหงือกทาง ยุโรปผู้เป็นอมตะ ที่ยังคงวนอยู่กับเขามานานขนาดนี้ไม่ จบไม่สิ้น จนสุดท้ายยังฝืนทนจนทำให้เขายอมแพ้ไป แล้ว!

แต่ว่าคุณชายน้อยก็ไม่ได้ขาดทุนอะไร แกก็ไม่ได้ดีขึ้น ครั้งนี้ถ้าไม่ตายก็ให้แกเลี้ยงไม่โตเลย!

คิดไปเดินไปด้วย จนเสิ่นหวนเริ่มหลุดอยู่ในภวังค์ ผ่าน ไปชั่วครู่ เขาก็ยืนอยู่ด้านข้างทะเลสาบสวนดอกไม้

“หึ หลงทางซะแล้ว!” เสิ่นหวนรู้ตัวว่าภาพรอบตัวดูแปลก ตาไป ตรงกลางทะเลสาบมีสะพานหินคดเคี้ยวอยู่ ด้าน ข้างทะเลสาบ มีก้อนหินก้อนมหึมาเอามากองเป็นภูเขา จําลองและโต๊ะหินสีเข้ม

เมื่อครู่เพิ่งได้ลงมือ จนทำให้เสิ่นหวนสงบใจลงไปได้ แล้ว จากนั้นก็เดินเล่นเลียบทะเลสาบ ด้านหน้ามีก้อนหิน ขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านราวกับโบยบินขึ้นมาอยู่หลาย ก้อน
ท้องฟ้ามืดครึ้มแล้ว บริเวณทะเลสาบคนก็มีไม่กี่คน เสิ่น หวนอยากจะถามทางแต่ก็หาคนไม่เจอ

หลังจากที่เดินอ้อมหินยักษ์นั่นแล้ว เสิ่นหวนก็เห็นคน สองคนที่ยืนอยู่บนยอดหินยักษ์ ภาพที่อยู่ด้านหน้ามองไม่ ชัดถนัดตานัก แต่ก็มองออกว่าชายหนึ่งคนหญิงหนึ่งคน พวกเขากำลังดึงกันไปมา เสียงนั้นเบามาก แถมพูดเร็ว จนไม่ได้ยินถึงรายละเอียดที่เขาพูดกัน

เสิ่นหวนได้แต่ส่ายหน้าไป พร้อมทั้งเตรียมจะเดินอ้อม ตรงกลางทะเลสาบไป

เขาเพิ่งก้าวเท้าออกไปเพียงไม่กี่ก้าว ด้านหลังก็ได้ยิน เสียงสิ่งของกระทบกับน้ำจนดังลั่น เสิ่นหวนหันศีรษะกลับ ไปทันที บนก้อนหินยักษ์ก็เหลือแค่ผู้ชาย เหนือผิวน้ำ ก็มี มืออยู่ข้างหนึ่งที่กำลังโบกสะพัดอย่างเอาเป็นเอาตาย

ส่วนผู้ชายที่เห็นภาพภาพนั้น ได้แต่ยืนตะลึงอยู่กับที่ หลังจากนั้นไม่ได้กระโดดลงไปช่วยคน แต่กลับหันศีรษะ กลับมาแล้วกระโดดลงมาจากก้อนหินยักษ์พร้อมทั้งวิ่งหนี ไปทันที!

ทิศทางที่เขาวิ่งมานั้น มุ่งหน้ามาทางเสิ่นหวนพอดี

“ไอ้คนสารเลวเห็นคนจะตายไม่ยอมช่วยเห็นเป็นเรื่องตลกไปได้” เสิ่นหวนตีหน้าขรึม เมื่อผู้ชายผ่านร่างกาย ของตนเองนั้น เขาก็คว้าที่คอเสื้อของผู้ชายคนนั้นทันที พร้อมทั้งบีบเอาไว้อย่างแรง

“แก….”

ผู้ชายเตรียมตัวพูด แต่ว่าดันโดนมือข้างหนึ่งของเสิ่น หวนดึงคอเสื้อเอาไว้พร้อมทั้งสะบัดไปยังทางเดินก้อนหิน ยักษ์นั่น!

“ปล่อยฉัน!” ผู้ชายพยายามต่อต้านอย่างเอาเอาตาย แต่ ว่าจะไปต่อกรกับเสิ่นหวนได้อย่างไรกัน

เมื่อเดินมาถึงก้อนหินยักษ์แล้ว เสิ่นหวนถึงได้รู้ว่า ใน เวลานี้ผู้หญิงคนนั้นกำลังว่ายน้ำเข้ามาจนถึงริมตลิ่งแล้ว สองมือก็คอยประคองก้อนหินก้อนนั้นเอาไว้ และเตรียม จะปีนขึ้นมา

สายตาของเสิ่นหวนถือว่าไม่เลวเลย แถมตอนนี้ยังยืน อยู่ใกล้กับผู้หญิงมาก จนมากเห็นได้อย่างชัดเจน

เสื้อผ้าของหญิงสาวหลินหลงเปียกปอนไปด้วยน้ำใน ทะเลสาบ เสื้อแขนสั้นเข้ารูปหน้าร้อนมันแนบชิดกับลำ ตัว จนทำให้เผลอแวบเดียวส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอพลัน ปรากฏให้เห็นทันที
หญิงสาวเอาแต่เกาะอยู่ก้อนหินริมตลิ่งและอยากจะปืน ขึ้นมา เสินหวนยืนก้มหน้ามอง

เวลานั้น เส้นผมที่เปียกชุ่มของหญิงสาวมาประอยู่ บริเวณไหล่ แววตาโกรธเคืองที่ทอประกายออกมาจาก ดวงตาอันงดงาม จนเสิ่นหวนรีบเก็บซ่อนอาการไว้ให้ลึก ที่สุด

เสิ่นหวนไม่ได้คำนึงถึงความงดงามของผู้หญิงสักเท่า ไหร่ พลางยื่นมืออีกข้างออกไป เพื่อพุ่งเป้าไปที่ผู้หญิงที่ อยู่ในน้ำ

จู่ๆ ก็เห็นมือหนึ่งยื่นมาหา หญิงสาวเงยหน้าอย่างตกใจ ขึ้นมามอง ก็เห็นว่ามือข้างนั้นของเสิ่นหวนยังคงคว้าเห อต้าชังคนที่ทะเลาะกับเธอ เพื่อให้เห็นได้ว่าเขาไม่ได้เป็น คนพวกเดียวกับเหอต้าชัง!

เมื่อคิดแล้วคิดอีก เธอเลยยื่นมือขาวนุ่มออกไป เพื่อจับ มือเสิ่นหวนเอาไว้

จากนั้น เสิ่นหวนก็ค่อยๆ ลากมือกลับ เพื่อเอาตัวผู้หญิงที่ อยู่ในน้ำขึ้นมา

“แกเป็นใคร รีบปล่อยฉัน!” เวลานั้นเอง ผู้ชายที่โดนเสิ่น หวนคว้ากลับมานั้นก็ตะโกนใส่เสิ่นหวนอย่างจองหอง
เวลานี้เองเสิ่นหวนหันกลับไปมองเขา และพูดตอกกลับ ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หุบปาก!”

“ดูจากสภาพแล้ว แกเป็นนักศึกษาใช่ไหม? แกกล้าทำ แบบนี้กับฉัน? แกรู้ไหมว่าฉันคือใคร?” ผู้ชายที่วิ่งหนีเมื่อ ครูพลันตะโกนต่อว่าใส่หน้าเสิ่นหวน

เสิ่นหวนไร้ซึ่งความรู้สึก พลันมือคว้าลำคอของเขา และ พูดเสียงเข้ม “ถ้ายังพูดพร่ำไม่หยุดฉันจะจับแกโยนลง ทะเลสาบ

ชายหนุ่มตัวสั่น ไม่กล้าส่งเสียงร้อง

เขาเหลือบมองร่างกายที่สั่นเทาของหญิงสาว จ้องมอง ร่างกายหลินหลงมีส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างตะกละตะกลาม อยู่หลายครั้ง พลางกระซิบพูดเสียงต่ำ “เมื่อครู่ฉันก็อยาก จะตะโกนหาคน คุณก็รู้ว่าผมว่ายน้ำไม่เป็น…

“พอได้แล้ว นายไม่ต้องพูดแบบนี้อีกแล้ว!” หญิงสาวใน เวลานี้หน้านิ่วคิ้วขมวด แถมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ฮัดชิ่ว!”

หลังจากที่พูดจบแล้ว หญิงสาวก็จามออกมาทันที!
ในเวลานี้ เสิ่นหวนเหลือบตามองหญิงสาวอีกครั้ง จาก นั้นก็เขย่าผู้ชายที่อยู่ในมือของเขา พร้อมทั้งพูดออกมา อย่างราบเรียบ “ถอดเสื้อออก!”

“อะไรนะ?” ชายหนุ่มเหมือนไม่ค่อยเข้าใจความหมาย

“ถอด!”

เสิ่นหวนเริ่มใช้มือลงน้ำหนักเล็กน้อย บีบกระชับเสื้อของ ผู้ชายทันที บีบซะจนลําคอของเขาเริ่มเจ็บปวดขึ้นมา!

“เจ็บ!เจ็บ!ปล่อย ปล่อย!” เวลานี้เองผู้ชายเริ่มแสดง อาการรีบพูดอย่างกระตือรือร้นออกมา

“ฉันถอด!ฉันถอด!” เมื่อสัมผัสได้ว่าพละกำลังที่อยู่ด้าน หน้าของตนเองนั้นยิ่งหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มเริ่มพูด กับเสิ่นหวนอย่างรีบร้อน

ชายหนุ่มทั้งมองเสิ่นหวนอย่างโกรธแค้น ทั้งรีบถอด เสื้อผ้าออกอย่างยืดยาด ปากก็เอาแต่พร่ำไม่หยุด “ฉันชื่อ เหอต้าชัง แกจําชื่อฉันไว้ให้ดี!”

ไม่นานนัก เขาก็ถอดเสื้อสเวตเตอร์ท่อนบนออก!
“เหอต้าชิงใช่ไหม?กางเกงก็ถอด!” เสิ่นหวนน้ำเสียง แข็งกร้าวตอนพูดออกมา

“แก!” เหอต้าขึงแม้ว่ายังอยากจะต่อต้านก็ตามที แต่ว่า ตอนที่เขากำลังมองเห็นสายตาอันหนาวเหน็บของเสิ่น หวนแล้ว เขาก็รู้สึกน้อยใจทันที!

ลูกผู้ชายฉลาดพอที่จะไม่เอาทองไปรู่กระเบื้อง พอกลับ ไปแล้วไปตรวจสอบไอ้เด็กเวรนี่ ค่อยกลับมาสะสางกลับ มัน!

เหอต้าชังคิดอยู่ในใจอย่างเงียบๆ พร้อมทั้งเริ่มถอด กางเกงลง ในเวลานั้นเอง บนตัวของเหอต้าชัง หลงเหลือ เพียงแค่บ็อกเซอร์

เสิ่นหวนหยิบเอาเสื้อผ้าเหล่านั้นมา พลางยื่นให้กับผู้ หญิงคนนั้น พร้อมทั้งพูดอย่างเรียบเฉย “ไม่ว่าคุณจะ ยอมหรือเปล่า แต่ว่าตอนนี้ต้องเอาเสื้อผ้าพวกนี้ใส่ เพื่อ ร่างกายของตนเอง และก็เพื่อภาพลักษณ์ด้วย”

คำพูดของเสิ่นหวนนั้นหญิงสาวลังเลอยู่สักพัก จากนั้น ก็รับเอาเสื้อผ้าของเหอต้าชังไป จากนั้นก็ไม่ได้สนใจน้ำ ที่หยดอยู่บนเสื้อผ้าสักนิด รีบเอาเสื้อผ้าสวมทับไปบน ร่างกายทันที

“ขอบใจนายมาก!” เวลานี้เองหญิงสาวพูดกับเสิ่นหวนเสียงต่ำ

“ไม่ต้องเกรงใจ ฉันก็แค่อยากให้คุณช่วยผมด้วย!” เสน หวนพูดออกมาโดยไม่ลังเลสักนิด

แต่คำพูดของเขานั้น มันทำให้หญิงสาวกับเหอต้าชัง ตะลึงทันที!

“ผมหลงทาง คุณช่วยพาผมกลับไปที่….” เมื่อพูดถึงตรง นี้ เสิ่นหวนตะลึงอีกครั้ง เพราะว่าเขาเพิ่งพบว่า ตนเองจํา ชื่อตึกที่เขาจะกลับไปนั้นไม่ได้ซะแล้ว!

“อืม งั้นก็ไปที่ห้องของซูไต้ รู้จักซูได้ใช่ไหม หนึ่งในสี่ สาวงามที่สวยที่สุดในมหาวิทยาลัยไง?” ไม่นานนัก เสิ่น หวนก็หาวิธีในการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งถามผู้หญิงกลับ

เวลานั้นเองหญิงสาวมองเสิ่นหวนอย่างแปลกประหลาด อยู่แวบหนึ่ง แต่ว่าก็ยังคงพยักหน้าให้ “แม้ว่าฉันไม่รู้ราย ละเอียดมากนักว่าตอนนี้เธออยู่ห้องไหน แต่ว่าตึกใหญ่ที่ เธออยู่นั้นฉันชัดเจนอยู่ ฉันพานายไปได้”

“แต่ว่าฉันต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน!” หญิงสาวตอบ เสินหวนทันที

เสิ่นหวนพยักหน้า พร้อมทั้งตอบแบบขอไปที “พาฉันไปได้ก็ดีมากแล้ว เอาที่คุณสะดวกได้เลย!”

หญิงสาวพยักหน้าในทันที จากนั้นก็เดินใต้ละง่อนหิน เสิ่นหวนเองก็เดินตามหลังไปทันที!

“หลินหลง แล้วฉันจะทำยังไงล่ะ?” เวลานี้เอง เหอต่าชัง อดปากไว้ได้แล้ว รีบพูดกับหวาหลินหลงและเสิ่นหวน ทันที

เห็นแค่ว่าตอนนี้เขากำลังเอามือทั้งสองข้างปิดหน้า งด ตัวงอ ใส่รองเท้าและยืนอยู่ตรงนั้น!

“แกอ่ะเหรอ ก็โป๊ล่อนจ้อนไปแบบนั้นแหละ!”

เสิ่นหวนค่อยๆ พูดกับเขาออกมาหนึ่งประโยค จากนั้นก็ เดินไปทางด้านหน้าอย่างไม่สนใจไยดี ส่วนหวาหลินหลง เหลือบตามองเหอต้าชังที่ยืนตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าอยู่ตรงนั้น เวลานั้นมุมปากก็กระตุกขึ้นด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย พลาง หันหลังแล้วเดินจากไป

ระหว่างทางเดิน เมื่อเห็นชายหนุ่มที่เอามือใส่กระเป๋า กางเกงทำตัวสบายๆ ทางด้านหน้า หวาหลินหลงอดใจไม่ ไหวถึงต้องถามกลับทันที “นี่นาย ถามได้ไหม นายเป็น นักศึกษาอยู่คณะไหนเหรอ?”

“ฉันเหรอ คณะไหนฉันยังไม่รู้เลย เพิ่งเข้ามาลงทะเบียนเรียนวันนี้เอง ใช่สิ ฉันอยู่คณะเดียวกับซูไต้!” เสิ่นหวนคิดๆ อยู่ จากนั้นก็พูดออกมาอย่างปกติ

“นายเพิ่งมาใหม่เหรอ?” เมื่อได้ยินคําตอบของเสินหวน แล้ว หวาหลินหลงขมวดคิ้วถามตามสัญชาตญาณ

“งั้นนายทำคู่มือลงทะเบียนหรือยังล่ะ?” หวาหลินหลง ถอนหายใจและถามซ้ำอีกครั้ง

“คู่มือลงทะเบียนอะไรยังไง?” เสิ่นหวนถามกลับอย่าง สงสัย

หวาหลินหลงเหลือบมองเสิ่นหวนครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ได้ แค่ส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย “นี่นาย นายรู้ไหมผู้ชายคน เมื่อกี้นั้นคือใคร?”

“ไม่รู้!” เสิ่นหวนตอบแบบไม่สนใจ

“เขาชื่อว่าเหอต้าชัง เป็นหลานชายของรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยตงไห่เหอหย่งหลิว ตอนนี้เขาทำงานอยู่ที่ สำนักงานวิชาการ วันนี้นายยังไม่ได้เข้าไปลงทะเบียน เรียน เมื่อไปที่สำนักงานวิชาการแล้ว ระวังว่าเขาจะขวาง นายเอาไว้ด้วย!” หวาหลินหลงรีบพูดเตือนอย่างอดไม่ได้ เวลาเดียวกันก็พยายามหาวิธีครุ่นคิด ไม่มีวิธีไหน ที่สามารถจะเสิ่นหวนได้เลย

ถึงอย่างไรจะพูดว่าอะไรก็ตาม เสิ่นหวนก็ควรช่วยเธอ ออกนอกหน้ามาแล้ว แถมยังไปทำผิดกับเหอต้าชังอีก!

“ต้องไปที่สำนักวิชาการเพื่อทำคู่มือลงทะเบียนใช่ไหม?” เสนหวนขมวดคิ้วทันที พร้อมทั้งถามกลับมาอย่างสงสัย จากนั้นก็พูดอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่เป็นไร เขากล้าคิดบัญชีกับ เรื่องขี้ปะติ๋ว ก็จัดเขาชะ!”

แม้ว่าเสื้อผ้าของเหอต้าชังจะพาดอยู่บนตัวก็ตามที หวา หลินหลงยังรู้สึกหนาวเล็กน้อย ตอนที่เดินบนถนนนั้นยัง ตัวสั่นบ้าง เจิ่นหวนขมวดคิ้วเอาไว้ พร้อมทั้งเดินมายืนดัก หน้าของหวาหลินหลง จากนั้นก็โค้งตัวลง “ขึ้นมา!”

“ต๊ะ?”

“อย่าพูดมาก ขึ้นมา!” คำพูดของเสิ่นหวนหนักแน่นมาก ไม่มีท่าทีสงสัยอะไรเลย

ส่วนอีกฝั่งนั้น ท่ามกลางความเงียบสงบเหลือเกินของ มหาวิทยาลัยตงไห่ พลันมีเรื่องครึกครื้นเกิดขึ้น เพราะว่า ท่ามกลางฝูงชน มีคนที่กำลังใส่กางเกงในตัวเดียววิ่งอยู่ ในมหาวิทยาลัย มีนักศึกษามากมายที่หยิบเอาโทรศัพท์ ขึ้นมาแล้วถ่ายรูปกันยกใหญ่
แต่ช่างน่าเสียดายมาก คนที่กำลังวิ่งแก้ผ้าอยู่นั้นเป็น คนที่ฉลาดมาก เพราะเอามือทั้งสองข้างมาปิดหน้าเอาไว้ แล้ววิ่งจี่เข้าไปในตึกหอพักอาจารย์ทันที

ด้วยฐานะของเขานั้น ก็โดนเหล่านักศึกษาที่ฉลาดหลัก แหลมขุดเรื่องนี้ขึ้นมา ฉับพลันเหอต้าชังก็กลายเป็น บุคคลอันมีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยทันที!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ