ตอนที่ 9 สี่สาวสวยแห่งเมืองตงไห่
ขณะที่ เสิ่นหวน กำลังเพ่งดูหญิงสาวที่มีเสน่ห์คนนั้นเดิน เข้ามา ไม่รู้สิ ดูเหมือนว่า ยี่เสี่ยวถงก็กำลังเพ่งดูเสิ่นหวน เหมือนกัน
สำหรับประวัติของหนันกงเจว์ มีแต่ยี่เสี่ยงถงที่รู้ดี เขา สามารถนํายอดฝีมือของสํานักหนานกงต้าเส้ามาด้วยได้ มิหนำซ้ำโรมานี กองติ ยังเอาของที่ตัวเองหวงแหนมาให้ ชิม แน่นอนว่าเขาไม่ธรรมดา
ฉะนั้น จากที่เธอได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้ ยี่เสี่ยวถงก็ไม่ ลังเลที่จะยื่นเหล้าให้เขา
“ฮีๆ พี่ยี่ พี่มาเองแบบนี้ นี้คงเป็นโอกาสที่หลายๆคน ใฝ่ฝันถึง ผมจะปฏิเสธได้ไง พอดีเลย มานั่งดื่มด้วยกัน เลยมั้ย มาลองไวน์แดงขวดนี้หน่อยเป็นยังไง “หนันกงเจว่ พูดและยิ้มเล็กน้อย
“โอเค ในเมื่อคุณชายเจเอ่ยปากออกมาเองแบบนี้ งั้น พี่จะไม่เกรงใจละนะ! “ยี่เสี่ยงถงไม่ได้รู้สึกประหม่าเลย ยิ้มและตอบกลับไป จากนั้นเขาก็หยิบที่เปิดขวดไวน์ขึ้น มาจากชั้นวางด้านล่าง แล้วเปิดไวน์โรมาเนกองติอย่าง ชานาญ
และเทลงในแก้วไวน์ทรงสูงใสสามใบ
แต่ทั้งสามคนก็ไม่ได้รีบดื่ม เพราะไวน์ที่เพิ่งเปิดขวด หลังจากเทออกมา ต้องวางให้ตกตะกอนก่อน แล้วถึงจะ ค่อยๆ มถึงจะมีรสชาติดีที่สุด
“ใช่แล้ว คุณชายเจว๋ พ่อหนุ่มคนที่นั่งข้างๆคุณ ไม่ แนะนำให้รู้จักหน่อยเหรอ”
หลังจากที่หนันกงเจว่ได้ยินกำลังจะเอ่ยปากพูด แต่เงิน หวนก็รีบพูดขึ้นมาก่อนว่า “ไม่มีอะไรน่าฟังหรอกครับ ผม แค่เพื่อนธรรมดาคนหนึ่ง เพียงแค่กลิ่นเน่าคล้ายๆกัน เลย ตามมาอยากรู้จัก”
หนันกงเจว่หัวเราะร่า เพราะรู้ว่าเสิ่นหวนไม่อยากเปิด เผยตัว เลยไม่ได้พูดอะไรต่อ
และยี่เสี่ยวถงตอนนั้นก็หัวเราะชอบใจออกมา ทำให้
หน้าอกเธอถึงกับสั่นไหว
“คุณชายเจว่ เพื่อนคุณชายคนนี้น่าสนใจนะ แต่ก็เชื่อว่า ถ้ามีกลิ่นเน่าคล้ายๆกัน ก็แสดงว่าเป็นคนประเภทเดียวกัน อย่างน้อยสองปีแล้ว ที่ไม่เห็นว่าคุณชายเจจะมีเพื่อนที่ มีกลิ่นคล้ายๆกัน ! “ในขณะที่พูด ยี่เสี่ยวถง ยกแก้วไวน์ ขึ้นมาวนเบาๆ พร้อมทั้งสูดกลิ่นไวน์ที่หอมหวน
“ฮีๆ พี่ยี่ พี่คิดมากเกินไปแล้ว จริงๆผมคิดว่า พวกเราก็กลิ่นเหม็นเหมือนกันทั้งคู่แหละครับ! “หนันกงเจว่ ก็ เปลี่ยนหัวข้อสนทนา ยิ้มและหัวเราะออกไปด้วย
ยี่เสี่ยวถงได้ยินดังนั้น แววตาดูเข้าใจดี รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ อยากให้พูดถึงตัวตนมากนัก ดังนั้น ยี่เสี่ยวถงก็เลยหยุด พูดเรื่องนั้นไป แล้วเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นแทน
หลังจากที่คุยกันได้ไม่กี่คำ ยี่เสี่ยวถงก็ขอตัวออกไป ก่อน แต่ก่อนที่จะขอตัวออกไป ยี่เสี่ยวถงหยิบการ์ดสีทอง ขึ้นมาใบหนึ่ง แล้วยื่นให้เสิ่นหวน
“คุณเสิ่น นี้เป็นบัตรสมาชิกของผับบลูดรีมของพวกเรา บัตรนี้คุณเลือกที่นั่งบนชั้นสองได้ เป็นที่นั่งพิเศษของคุณ ค่ำคืนนี้พี่ถูกชะตากับคุณเสิ่นเป็นพิเศษ เลยจะมอบบัตร สมาชิกให้ แน่นอนว่า ค่าสมาชิกยังต้องชำระอยู่นะ! “ยี่ เสี่ยวถงพูดและหัวเราะไปด้วย แล้วก็หันหลังเดินกลับ ออกไป
ตอนนั้นหนันกงเจว๋หยิบบัตรขึ้นมา มองอยู่ครู่หนึ่ง และ พูดติดตลกว่า “พี่ พี่ก็ยังเสน่ห์แรงอยู่น่ะ ผู้หญิงคนนั้นถึง กับส่งบัตรสมาชิกให้เลย !
“เป็นอะไร บัตรสมาชิกนี้หายากเหรอไง” เสิ่นหวนพูด ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
หนันกงเจว๋หัวเราะและพยักหน้า จากนั้นก็ชี้ไปที่ตัวเลขบนบัตรแล้วพูดว่า”พี่อย่ามองว่าผับที่นี่เล็กนะ บัตรสมาชิก ที่นี่ ปกติคนทั่วไปไม่มีทางได้หรอก ยี่เสี่ยวถงคนนี้ ที่มา ไม่ธรรมดา! ”
“เมื่อก่อนว่ากันว่า รองอาจารย์ใหญ่ของมหาวิทยาลัย ตงไห่ คิดจะใช้ประโยชน์จากตำแหน่งลงมือกับยี่เสี่ยวถง สุดท้ายไม่ถึงสองวันโดนพวกคณะกรรมการวินัยพาตัว ไป ! ”
“แล้วยังมี เจ้ากัวยี่ อยากจะได้บัตรสมาชิกที่นี่ จ่ายไป สองล้าน แต่ยี่เสี่ยวถงก็ไม่ขายให้! ”
“พี่ดูนี้ เลขบัตรใบนี้ คือ 003 หมายความว่า นี้เป็นบัตร สมาชิกใบที่สามไงล่ะ แล้ว002 อยู่ในมือผม 001 ยี่เสี่ยง ถงอาจจะเก็บไว้เอง หรืออาจจะส่งให้คนอื่นไป แต่ยังไง ก็ตามผมยังไม่เคยเห็นแขกคนไหนขึ้นมาชั้นสองเลย!”
ได้ยินหนันกงเจว๋อธิบายแบบนั้น เงินหวนก็หัวเราะอย่าง ไม่สนใจ แล้วหยิบบัตรทองใบนั้นขึ้นมา พูดอย่างแปลกใจ ว่า “บัตรใบนี้ มีอะไรพิเศษกัน”
“ไม่ใช่บัตรพิเศษอะไรหรอก ที่พิเศษคือคนในนี้ พี่ นี่ ด้านล่างพวกพนักงานที่สวย หุ่นดีนั้น ล้วนแต่เป็น ดู นักศึกษาของมหาวิทยาลัยตงไห่ แล้วยังเข้ามาทํางาน ตอนไหนก็ได้ ว่าก็ว่าเถอะ นักศึกษาสาวๆสวยๆของ มหาวิทยาลัยตงไห่70เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่นี่หมดแล้ว”
“พวกเธอจะมาเป็นแขกก็ได้ หรือจะเป็นพนักงานก็ได้ ฉะนั้น พี่ก็น่าจะรู้แล้วว่าที่นี่มีดีอะไร!”
“แต่พวกนี้เป็นเรื่องรอง ที่สำคัญจริงๆคือ ที่นี่ มีหญิงสาว สามคนที่สวยที่สุดอยู่นะ! ”
“ก่อนหน้านี้ผมเคยบอกพี่แล้ว มหาวิทยาลัยตงไห่ที่นี่ มีสาวงามสี่คน หนึ่งในนั้นได้แก่ คุณหนูซูไต้ อีกคนคือ เทพธิดาบุคลิกเรียบร้อย แล้วอีกคนก็คือคนที่พวกเรา เจอเมื่อกี้ เจ้าของผับบลูดรีมยี่เสี่ยวถง คนสุดท้ายคือสาว เสน่ห์แห่งกุหลาบแดง! ”
“และอีกเดี๋ยวคนที่สามคนที่สี่ที่พูดถึง จะมาปรากฏตัว ที่ผับบลูดรีมที่นี่! พี่คิดดู ผับนี้สามารถดึงเอาสาวงาม เยอะแยะมากมายขนาดนี้มาได้ ยิ่งไปกว่านั้นคือมีสาว งามสามคนจากสี่คน ที่จะไม่เป็นที่ในฝันของผู้ชายใน มหาวิทยาลัยตงไห่ได้ยังไง ไม่ต้องพูดถึงนักศึกษาหรอก อาจารย์หลายคน นักธุรกิจคนสังคม ก็เสียเวลามานั่งที่นี่ ทั้งนั้น”
“เมื่อพี่รู้ สัญลักษณ์ของบัตรแล้ว พวกลูกคนมีเงิน คนรวยอยากจะได้บัตรสมาชิกนี้จะตาย แต่กลับไม่ได้!
เสิ่นหวนได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้า แล้วหัวเราะพูดว่า “ถ้า ตามที่นายพูด ยี่เสี่ยวถงคนนี้ เป็นคนที่ยอดเยี่ยมไปเลย! ”
“ใช่ ไม่ใช่แค่ยอดเยี่ยมนะ ประวัติของเธอยังเป็นความ ลับ จริงๆผมหาข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของเธอโดยตลอด แต่ ถึงตอนนี้ยังไม่ได้อะไรเลย ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ” หนันกงเจว๋พูดพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ
เสิ่นหวนพยักหน้า แต่ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมาก บนโลก ใบนี้ คนแปลกประหลาดเยอะมากพอแล้ว เขาก็เลยไม่ได้ แปลกใจอะไร
“เอ๋ พวกเธอมาแล้ว” ในตอนนั้นเอง หนันกงเจว๋พูดขึ้นมา ทันทีด้วยเสียงเบา
เสิ่นหวนก็ได้มองไปตามเสียง เห็นเพียงบนเวทีด้านล่าง ทันใดนั้นมีหญิงสาว หุ่นเร่าร้อน คนหนึ่งยืนอยู่
เธอสวมชุดเต้นรำแนบเนื้อสีแดง ยืนอยู่กลางเวที ณ จุด นี้ไฟทุกดวงก็ส่องไปบนเรือนร่างของเธอ
ขณะนั้นเอง เสียงเปียโนก็ดังขึ้น และเมื่อเสียงดังขึ้น หญิงสาวที่อยู่กลางเวที ก็เริ่มเต้นตามเสียงเพลง
ร่างกายที่เรียวบาง ท่าเต้นที่เย้ายวนใจ ผมยาวไสวไปมา บทเพลงบรรเลงที่ไพเราะ ทุกสิ่งรวมกันปรากฏเป็นภาพที่ งดงามที่สุดในโลก
ในขณะที่ หญิงสาวบนเวทีเต้นรำอยู่ ดูเหมือนเธอจะไม่ เพียงแค่เต้นรําธรรมดาทั่วไป แต่ดูเหมือนว่าเธอจะแสดง ให้เห็นชีวิตของเธอที่สวยงาม เหมือนนกฟินิกส์ที่กำลัง โบยบิน แสดงถึงความอบอุ่นของตัวเธอ
“เธอคือหนึ่งในสี่สาวงามของเมือง มีชื่อว่าเพิ่งจื่อยี หรือ เรียกอีกชื่อว่า ธิดาแห่งเปลวไฟ เป็นนักเรียนสาขาการ เต้นรําของมหาวิทยาลัยตงไห่ ”
“ใกล้ๆกันนั้น พี่เห็นเปียโนตัวนั้นไหม ผู้หญิงที่เล่นเปียโน นั้น เป็นนักศึกษาปีสี่ที่กำลังจะจบสาขาดนตรี แต่ตอนนี้ มาทำงานเป็นผู้ช่วยสอนชั่วคราว เธอก็คือคนสุดท้ายของ สี่สาวงาม สาวงามแห่งปฐพีผู้นี้ชื่อว่าซือเวย!
ได้ยินหนันกงเจว๋พูดแบบนั้น เสิ่นหวนก็หันมองไปทาง สาวคนนั้นที่เล่นเปียโน แต่ปรากฏว่า ผู้หญิงคนนี้สวยไม่ แพ้เพิ่งจื่อยี่ คนที่เต้นอยู่บนเวทีเลย
แต่ความเป็นกันเองแตกต่างกับเพิ่งจือยี ณ ตอนนี้ซือเวย เล่นเปียโนเงียบๆอยู่ตรงนั้น ถึงแม้ว่าจะอยู่ในผับที่เสียง ดัง แต่เธอกลับให้ความรู้สึกเหมือนดอกกล้วยไม้กลาง หุบเขาที่นิ่งสงัด
สาวสวยทางเหนือ โดนเด่นอย่างไม่มีใครเหมือน!
เห็นซือเวยแสดงออกมาแบบนั้น ทันใดนั้นในใจของเสิ่น หวน ก็นึกถึงกลอนบทหนึ่งออกมา กล้วยไม้ในหุบเขา อาจจะเป็นเพราะเอาไว้พรรณนาความสวยของเธอแบบ นั้นก็ได้
“แขกโต๊ะ38 ส่งดอกกุหลาบให้คุณหนูเพิ่ง 1 ดอก! ”
“แขกโต๊ะ52 ส่งดอกกุหลาบให้คุณหนูซือ 1 ดอก! ”
“แขกโต๊ะ85 ส่งดอกกุหลาบให้คุณหนูเพิ่ง 3 ดอก!
ในขณะนั้นเอง เสิ่นหวนเห็นว่า ห้องโถงด้านล่าง มี พนักงานสาวสวยตะโกนบอกและนำดอกไม้ที่แขกให้ ไป วางไว้ด้านหน้าของสาวงามทั้งคู่
ตอนนั้นเสิ่นหวนเพิ่งสังเกตเห็นว่า ด้านหน้าของสาวงาม ทั้งคู่ มีตะกร้าเอาไว้วางดอกไม้ และดอกไม้เหล่านั้นก็ถูก อัดลงไปเต็มตะกร้า
“คนพวกนี้น่าสนใจนะ ส่งดอกไม้แค่คนละหนึ่งดอก!” เสิ่นหวนพูดขึ้นมาแล้วหัวเราะเบาๆ
หนันกงเจว๋ส่ายหัวและพูดว่า “พี่ พี่คิดผิดแล้วล่ะ นี้เป็นระดับรางวัลภายในผับ ในผับมีระดับแตกต่างกันออกไป ราคาก็ต่างกัน แล้วดอกกุหลาบแดงคือระดับสูงสุด ดอก หนึ่งราคา1000หยวน !
“เงินตรงนี้ พวกผับแบ่ง70/30 พี่ดูนั่น ตอนนี้เพิ่งจื่อยื ตอนนี้ได้ดอกกุหลาบมา10ดอกแล้ว นั้นหมายความว่า เธอก็ได้เงินรางวัล ประมาณ7000หยวน ! “หนันกงเจว่ อธิบายให้เสินหวนฟัง
เมื่อเสิ่นหวนได้ยินดังนั้น ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ พูดขึ้น มาว่า “งั้นพวกเธอออกมาแสดงคืนหนึ่ง ก็หาเงินได้หลาย หมื่นหยวนเลยนะ!
“ก็ประมาณนั้น บางที ก็พวกลูกคนรวยตกรางวัลก้อน ใหญ่ให้ แต่พวกเธอก็ไม่ได้มาแสดงบ่อยๆหรอกนะ สาว สวยพวกนี้ ค่าจ้างถูกเกินไป ก็ไม่คุ้ม ! จริงๆมีบางคนรู้ว่า ของถูก แล้วหายาก ยิ่งไล่ตาม!”
“พี่ดูพวกพนักงานเหล่านั้นสิ จริงๆที่มาทำงานที่นี่ เพียง เพราะอ่อยเหยื่อ พวกเธอก็ได้รางวัลไม่น้อยแล้ว คืนหนึ่ง พวกเธอก็มีรายรับไม่น้อยเลยนะ!
“แต่กฎของยี่เสี่ยวถงเข้มงวดมาก สามารถรับเงินได้ หรือแม้แต่ไปกับแขกเปิดห้องก็ได้ นี่เป็นอิสรภาพของ พวกเธอ แต่ห้ามสร้างปัญหา ที่ทำให้เสียชื่อเสียง ไม่งั้น ผับบลูดรีมจะไล่ออกแล้วจะไม่ได้เข้ามาอีกเลย! ”
“แน่นอนว่า ผู้ชายที่เข้ามาในนี้ ถ้าหากก่อเรื่องละก็ จะถูกขึ้นบัญชีดำ แล้วจะไม่ได้เข้ามาที่ผับบลูดรีมอีก เลย !
“งั้นที่นี่ก็เป็นคลับเฮาท์ระดับไฮเอนด์เลยสิ”เสิ่นหวนพูด อย่างรังเกียจ
พูดตรงๆ คือเป็นสถานบริการนั้นเอง
“ไม่ใช่พี่ พี่พูดผิดแล้ว จริงๆที่นี่ไม่ได้แย่อย่างที่คิดหรอก นะ”หนันกงเจว๋ได้พูดอธิบายกลับไป
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ