ราชาหลง-จอมยุทธสมัยใหม่

บทที่ 11 ถึงตายก็จะรักษาหน้าไว้ แม้จะทนทุกข์ก็ตาม



บทที่ 11 ถึงตายก็จะรักษาหน้าไว้ แม้จะทนทุกข์ก็ตาม

บทที่ 11 ถึงตายก็จะรักษาหน้าไว้ แม้จะทนทุกข์ก็ตาม

ดวงตาของ เฉินเป่ย นิ่งชะงักเล็กน้อย มุมปากเกิดส่วนโค้งขึ้น ที่ คนอื่นยากจะสังเกต

ในบรรยากาศ เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ส่วนหลีชิงเยียน สองมือกอดอก จ้องมองไปที่เติ้งหลุนอย่างเย็นชา แล้วถามว่า “นี่ คืองานเลี้ยงของครอบครัวเรา นายมาทำไม?”

เติ้งหลุนมองไปที่ หลีหยาง แล้วพูดว่า “ ลี่หยางและพูดว่า “คุณ อาหลี เชิญฉันมาดินเนอร์ บอกว่าต่อไปเราสามารถพูดคุยกัน มากขึ้น พัฒนาความรู้สึกมากขึ้น”

เติ้งหลุนเหลือบมองเฉินเป่ย รอยยิ้มเพิ่มความเย้ยหยัน

“พ่อ?” หลีชิงเยียนมองไปที่ หลีหยาง สีหน้ามีความงงงวยเล็ก น้อย

หลหยาง หัวเราะเบาๆ เริ่มไกล่เกลี่ย “ช่วงนี้เติ้งหลุนเพิ่งได้ รับการเลื่อนตำแหน่ง ได้กลายเป็นประธานที่อายุน้อยที่สุด ของ บริษัทสตาร์ไดมอนด์กรุ๊ป เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพิ่งได้เป็น ตัวแทนของ บริษัทสตาร์ไดมอนด์กรุ๊ป มาร่วมมือกับ บริษัท ตระกูลหลีกรุ๊ปของเรา ได้ตกลงร่วมมือโครงการหนึ่งต่อไปนี้ ทุกคนสามารถ พึ่งพาสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน มุ่งมั่นสู่ ความสำเร็จในความร่วมมือ

ใบหน้างดงามของหลีชิงเยียน ยังคงเย็นชา สีหน้ายังคงดูไม่ดี เท่าไหร่

แม้ว่า เติ้งหลุน จะหล่อเหลาดูดีมีเสน่ห์ แต่ หลีชิงเยียนก็ไม่มีใจ ให้เขาเลยสักนิด เมื่อก่อนตอนที่ เติ้งหลุนตามจีบหลีชิงเยียน คือ หนึ่งในผู้ชื่นชอบที่มากมาย

แต่เมื่อเทียบกับผู้ชื่นชอบรายอื่นๆ เติ้งหลุนเป็นเพราะว่าตระกูล เติ้งกับตระกูลหลีมีความสัมพันธ์ที่ดี เนื่องจากความสัมพันธ์ทาง ธุรกิจ จึงมีโอกาสเข้าใกล้หลีชิงเยียน บ่อยครั้ง

แต่ หลีชิงเยียนก็เพราะว่า ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรสหายกัน หลายรุ่น จึงได้ยินข่าวมากมาย

เติ้งหลุนทั้งหล่อเหลาและประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อย ดัง นั้นชีวิตส่วนตัวจึงสำมะเลเทเมามาก หลอกลวงร่างกายของผู้ หญิงไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้ว ที่ทำให้ท้องก็มีมากมายนับไม่ถ้วน และยิ่งไปกว่านั้น หลังจากทำให้ท้องแล้ว เติ้งหลุนก็จะเตะออก ไปทันที ชีวิตส่วนตัววุ่นวายอลหม่านยิ่งนัก!

คนแบบนี้ หลีชิงเยียนจะมีความประทับใจได้อย่างไร แม้ว่า เติ้ง หลุนจะดูเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าเธอ แต่ หลีชิงเยียนก็ยังคงรู้ล็กน่าขยะแขยง งนัก

ไม่เพียงแค่นั้น แม้ว่าหลีชิงเยียนจะแสดงท่าทีของตัวเองกับเต็ง หลุน แต่ เติ้งหลุนก็ยังคงตามราวีรังควานไม่เลิก ยิ่งไปกว่านั้น ต่อมามีอยู่ครั้งหนึ่ง ต้องการมอมเหล้า หลีชิงเยียน แล้วพาไป โรงแรม

ถ้าไม่ใช่ว่าในครั้งนั้น หลีชิงเยียน ฟื้นขึ้นมาในขณะที่ เติ้งหลุน กําลังอาบนําเลยฉวยโอกาสในการหลบหนี ไม่แน่อาจจะให้ เติ้ง หลุน ทำสำเร็จแล้ว!

ต่อจากนั้น เติ้งหลุน ยังใช้วิธีที่สกปรกน่ารังเกียจหลายครั้ง ซึ่ง ทำให้ หลีชิงเยียน ละอายปากที่จะพูด

“ในเมื่อคนมาครบหมดแล้ว รีบทานอาหารกันเถอะ” หลีหยาง ม แย้มแจ่มใส รีบพูดดูแล

แม้ว่า หลีชิงเยียนจะใช้ตะเกียบคีบผักไว้ แต่เมื่อสายตาของเธอ เหลือบมองเห็น เฉินเป่ยที่กำลังกินกระหน่ำ ทันใดนั้นหัวใจก็สั่น ไหวเล็กน้อย คีบสเต็กขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ใส่ในชามของเฉินเป่ย

เฉินเป่ย กระตุกไปทั่วร่าง เงยหน้าขึ้นมอง หลีชิงเยียน
นี่เป็นครั้งแรกของเขา ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา! หลีชิงเยียน เป็นฝ่ายตักอาหารให้เขาเอง

เฉินเป่ย จ้องมอง หลีชิงเยียนด้วยความสับสนมึนงง หลีชิงเยียน ในตอนนี้มองเขาอย่างอ่อนโยน พูดด้วยเสียงอ่อนหวาน “คุณอยู่ ที่บ้านก็ชอบกินสเต็กไม่ใช่เหรอ รีบกิน ”

เฉินเป่ยถึงกับผงะ ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา เขาทำอาหารให้ หลีชิงเยียนทุกวัน ไม่เคยทำสเต็กเลย หลีชิงเทียน หมายความ ว่าอย่างไร?

ภรรยาของเขามี ทำไมผิดปกติมากเช่นนี้

แต่ว่า เฉินเป่ยไม่ทันมีเวลาได้คิด อาหารที่ผสมผสานระหว่าง อาหารจีนและอาหารตะวันตก ที่ปรุงโดยทีมเชฟมิชลินสามดาว ทําให้เขากลืนน้าลายอย่างกระหน่ำ

แต่ไม่รู้ว่า ฉากนี้ เติ้งหลุนมองอยู่ในสายตา ดวงตาฉายแวว ความชั่วร้าย มือที่วางไว้ใต้โต๊ะก๋แน่น เส้นเลือดปูดโปน

เขาไม่เข้าใจ ตัวเองตามจีบ หลีชิงเยียน อย่างยากลำบากมานาน ขนาดนั้น ใช้ทกวิถีทาง แต่ตอนนี้ หลีชิงเขียน กับหานายบ้านนอก แบบ
หลีชิงเยียนตาบอดชัดๆ นายบ้านนอกคนนี้ คู่ควรที่จะเป็นสามี ของเธอหรือ? แค่พ่อบ้านคนหนึ่งเท่านั้น แม้หน้าท่าทางการ ทานอาหาร ก็ไม่ต่างจากพวกนักเลงหัวไม้

“ชิงเยียน ช่วงนี้คุณกับสามีของคุณสบายดีไหม?” เติ้งหลุน ภายนอกถามด้วยความอ่อนโยน ใบหน้ายิ้มระรื่น

“ก็ต้องดีแน่นอน ภรรยาของฉันรักฉันมากจริงๆ” ” ยังมารอให้ หลีชิงเยียนพูดขึ้น เฉินเป่ยก็แย่งพูดก่อน มือใหญ่คว้าเอวบาง ของ หลีชิงเยียนไว้

ร่างกายของ หลีชิงเยี่ยม สั่นอย่างอ่อนไหวในทันที ดวงตาที สวยงามหันมองไปจ้องเขม็งที่ เฉินเป่ยอย่างดุดัน

ไอ้หมอนี่! ยังจะถือโอกาสฉวยโอกาสตัวเอง!!

ร่างกายที่อ่อนนุ่มของเธอ ยิ่งแข็งทื่ออย่างมาก ยกขายาวใต้โต๊ะ ขึ้นโดยไม่ลังเลเลย เหยียบบนเท้าของ เฉินเป่ย!

เฉินเป่ย กัดฟันไว้แน่น เขาไม่คาดคิดว่า หลีชิงเยียน จะลงมือ โหดร้ายขนาดนี้!

เฉินเป่ยขบฟันทันที กอดหลีชิงเยียนยิ่งแน่นไปอีก กลิ่นหอมที่มี เสน่ห์ดั่งดอกกล้วยไม้ก็พุ่งเข้ามาติดจมูก นั่นคือกลิ่นกายของ หลีชิงเยียน ที่มีเสน่ห์ยั่วยวนใจคน

“ชิงเขียน ฉันไม่เข้าใจ ทําไมสายตาของคุณถึงแปลกประหลาด เช่นนี้ คือว่าคุณชอบพ่อบ้าน ผู้ชายที่เกาะผู้กินเป็นพิเศษ ?” รอย มเติ้งหลุนไม่ลดละยังเพิ่มความเย็นชา

เติ้งหลุน พูดตรงๆไปแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าพุ่งเป้าไปที่เฉินเป่ย!

“ฉันแต่งงานกับใคร ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องการให้คนนอกมา วิพากษ์วิจารณ์มั้ง” หลีชิงเยียนตอบกลับอย่างเย็นชา

เติ้งหลุนยิ้มเล็กน้อย “คุณอาหลีฉันมีเพื่อนคนหนึ่ง ที่เพิ่งกลับมา จากประเทศฝรั่งเศษ ฉันฝากเขาเอา ไวน์แดงลาฟิตในปี1982

มาให้สองขวด ไม่ก็เปิดวันนี้เลย ให้ทุกคนได้ชมกัน

หล็หยางสีหน้าดูตะลึง “ไวน์แดงลาฟิต 1982 เจ้าหลุน นี่แม้ กระทั่งแม้ว่ามีเส้นสายก็หาไม่ได้ นายหาได้จากไหน?”

เติ้งหลุนเหลือบมองเฉินเป่ย พูดขึ้นเบาๆ “เมื่อก่อนตอนที่ฉันอยู่ ฝรั่งเศษ บังเอิญรู้จักกับเจ้านายของโรงกลั่นไวน์ไวน์แดงลาฟิต พอดี ดังนั้นจึงโชคดียังมีสะสมไว้ในคลัง คุณอาหลี ถ้าคุณอยากได้ ฉันสามารถหาให้คุณได้

หลีหยางดีใจล้นพ้น หัวเราะเสียงดัง “ได้ๆ เจ้าหลุน คุณอาห ประเมินค่านายต่ำไปแล้ว เหมือนว่าต่อไปจะต้องพึ่งพานายมากๆ แล้ว”

เติ้งหลุนดีดนิ้ว ในไม่ช้า ไวน์แดงลาฟิต ขวดหนึ่ง ก็ถูกบอดี้การ์ด ที่ติดตามนำขึ้นมา

หลังจากทำการดีแคนติ้งเสร็จ ไม่นาน ไวน์ที่ใสพร่างพราวดั่ง เช่นพลอยทับทิมก็ค่อยๆรินลงในแก้ว

หลังจาก หลีหยาง จิบคำหนึ่ง พยักหน้าเล็กน้อย “รสชาติเข้ม ข้นกลมกล่อมมาก มีเพียง ไวน์แดงลาฟิตในปี 1982 เท่านั้น ที่ สามารถมีรสชาติแบบนี้ได้

“ชิงเยียน พวกคุณลองชิมดู ไวน์แดงลาฟิตในปี 1982 แม้ว่า ฉันก็ไม่มีความสามารถที่จะได้มา” หลีหยางพูดขึ้น

หลีชิงเยียน สองมือกอดอก ตอบอย่างเย็นชา ในน้ำเสียงมีความ ขุ่นเคือง “ฉันไม่ชอบดื่มเหล้า

เติ้งหลุน ยิ้มและชักชวนเบาๆ “ชิงเยียน อยู่ในสังคมชั้นสูงและ วงการธุรกิจ ไวน์แดงลาฟิต และ แชมเปญก็ต้องฝึกดื่มโดยเฉพาะไวน์แดงลาฟิตในปี1982 คนทั่วไปแล้วไม่มีสิทธิ์ได้ ดื่ม เว้นแต่จะโชคดีเกาะได้ดื่มฟรี!”

เติ้งหลุน พูดในขณะที่เหลือบมอง เฉินเป่ย ไปด้วย กลับ ตาลปัตร กำลังหลอกด่ากันชัดๆ

หลีชิงเยียน เข้าใจความหมายแฝงโดยปริยาย เธอเป็นคนหน้า บาง สีหน้าที่มองไปทาง เติ้งหลุน ยิ่งดูไม่ดีมาก มาก

ทันใดนั้น เฉินเป่ยก็ยื่นมือออกมา ดื่มไวน์แดงลาฟิตเต็มๆคำลง ไปอย่างต่อเนื่อง ต่อหน้าทุกคน เป็นธรรมชาติราวกับดื่มน้ำเปล่า

“พอได้ แต่รสชาติจืดไปนิดหน่อย” เฉินเป่ยขบริมฝีปาก พูดขึ้น คำหนึ่ง

หลีชิงเยียนที่อยู่ข้างๆได้เห็นเข้า ใบหน้าที่งดงามราวกับแกะ สลักอึ้งทึ่ง และเติ้งหลุน หลังจากที่ชะงักไปชั่วครู่ ก็หัวเราะเสียง ดัง

“ไวน์แดงไม่ใช่เบียร์ขยะพวกนั้น ไวน์แดงต้องจิบเบาๆ ดื่มเหมือน นาย คือการทําลายของล้ำค่าชัดๆ”

เติ้งหลุนมองไปทาง เฉินเป่ย ด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง พูดอย่างเย้ยหยัน “เฉินเป่ย ถ้าไม่เคยดื่มไวน์แดงลาฟิต ต่อไปฉันสามารถ ค่อยๆสอนนายได้ แต่ถ้านายไม่มีความรู้เลย แม้แต่ความรู้ทั่วไป เหล่านี้ยังไม่รู้ ก็ไม่ต้องเสนอหน้าแสร้งทำเป็นรู้ทั้งๆไม่รู้

เฉินเป่ยเงยหน้าขึ้นมองเติ้งหลุน เหมือนครุ่นคิดบางอย่าง และ หลีชิงเขียน อยู่ข้างๆ จ้องเขม็งเฉินเป่ย ด้วยความโกรธ แอบพูด ในใจ ไอ้หมอนี่ ทําให้เธออับอายขายหน้าชัดๆ

“ราชาแห่งไวน์แดง ไวน์แดงลาฟิตในปี1982 ไอ้บ้านนอกจะดื่ม แล้วรู้เรื่องอะไร สิ่งที่เราดื่มไม่ใช่ไวน์ แต่ดื่มการอบรมบ่มเพาะ “เติ้งหลุนจิบไวน์เบาๆ ค่อยๆวางแก้วไวน์ลง ท่าทางสง่างามเต็ม ไปด้วยความสง่าผ่าเผยและการอบรมสั่งสอนที่สุภาพบุรุษควรมี

หลีชิงเยียน ที่อยู่ด้านข้าง จ้องไปที่ เฉินเป่ย ด้วยสายตาเย็นชา ตอนนี้เธอเสียใจแทบตาย ถ้ารู้ว่าคืนนี้จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ตัวเองจะไม่พาเขาออกจากบ้านเลย!

เติ้งหลุนมองไปที่เฉินเป่ย “อย่าคิดว่าได้ใส่ชุดสูท ตัวเองก็เป็น สุภาพบุรุษ คนชั้นต่ำยังไงก็เป็นคนชั้นต่ำ ไวน์แดง เพียงคนชั้นสูง เท่านั้น ที่สามารถลิ้มรสออกมาได้

หลังจากที่ เติ้งหลุนพูดจบ ก็มองไปที่หลีชิงเยียน พูดอย่างอ่อน โยน “ชิงเยียน ฉันคิดว่าสามีของคุณ อยู่แต่ในบ้าน
ตลอดก็ไม่ใช่เรื่อง…… ช่วงนี้บริษัทของเราขาดลูกมือพอดี กำลัง ต้องการคนมีความสามารถเช่นเขา

ยังไม่ทันให้หลีชิงเยียนได้พูดขึ้น เติ้งหลุนมองพิจารณา เฉินเป่ย ที่ท่าทางสงบ แล้วพูดว่า “ร่างกายของเขาดีขนาดนี้ แค่ดู ก็รู้ว่าสุขภาพแข็งแรงมีกําลัง

เหมาะสําหรับเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมากที่สุด

“เอาอย่างนี้ เห็นแก่หน้าของชิงเยียนฉันจะให้นาย เดือนละสอง หมิ่นหยวน เป็นยังไง?

“ไม่จําเป็น” หลีชิงเยียนปฏิเสธอย่างเย็นชา

“ชิงเยียน คุณไม่เข้าใจ คนเราต้องการเรียนรู้ ยิ่งบ้านนอกคอก นา ยิ่งต้องรู้จักสร้างภาพ เหมือนเขาตอนเมื่อกี้ เป็นการดูถูกชื่อ เสียงของ ไวน์แดงลาฟิต ในปี 1982ชัดๆ!” เติ้งหลุน ค่อยๆพูดขึ้น “ในความคิดของฉันแล้ว ด้วยมารยาทและบุคลิกภาพของเขา ไม่ คู่ควรที่จะนั่งอยู่ที่นี่เลยด้วยซ้ำ ควรยืนอยู่ในป้อมยามหน้าประตู คฤหาสน์ นั่นถึงจะเป็นทีทีเขาควรยืน

“คุณ……” หลีชิงเยียนโกรธแล้ว ใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติ เยือกเย็น ราวกับถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ในแววตาไฟโทสะเผาไหม้ลุกโชน ยอดปทุมถันของเธอ โกรธจนกระเพื่อมสั่นคลอน มือเรียวกำแน่น เติ้งหลุนไม่เพียงแต่เหยียดหยามเฉินเป่ย ยิ่งกำลังเหยียดหยามเธอด้วย!

ความหมายของเติ้งหลุน คือเยาะเย้ยสายเธอต่ำเกินไป หาคน บ้านนอกคอกนา คนชั้นต่ำ มาเป็นสามี!

และในตอนที่หลีชิงเยียนกำลังจะตอบโต้ ทันใดนั้น เฉินเป่ย ที่ ไม่ได้ส่งเสียงมานาน ก็พูดขึ้นว่า “ไวน์แดงลาฟิต ในปี 1982กับ ไวน์แดงลาฟิต ในปี 1982 คุณยังแยกแยะไม่ได้ ใครกันแน่ที่บ้าน นอกคอกนา?”

ในทันใดนั้น ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ บรรยากาศเงียบสงบ คำพูด ของ เฉินเป่ย น้ำเสียงหนักแน่น ทำให้งานเลี้ยงอาหารค่ำ ทุก ฝ่ายตกตะลึง!

เฉินเป่ยชะงัก มองไปที่ เฉินเป่ย การเยาะเย้ยบนใบหน้ายิ่ง รุนแรงมากขึ้น

“เหอะ ไม่รู้แสร้งทำเป็นรู้ก็พอแล้ว ตอนนี้ยังถึงตายก็จะรักษา หน้าไว้

เฉินเป่ยมองไปที่ เติ้งหลุน ด้วยสีหน้าสงบ “แม้แต่อายุของไวน์ ก็แยกไม่ออก ก็ไม่รู้ว่าใครกันที่เป็นคนชั้นต่ำ
“นายรู้จักไวน์? นายคิดว่าทุกคนในที่นี้ เรื่องรู้จักไวน์ ใครจะด้อย ไปกว่านาย?” เติ้งหลุนหัวเราะเหยียดหยาม

หลีหยางที่อยู่ข้างๆก็ได้พูดขึ้น “เฉินเป่ย ต่อไปสามารถให้ ชิง เยียน ค่อยๆสอนคุณเกี่ยวกับความรู้ของไวน์แดง ไวน์แดงลา ฟิต ในปี 1982 นั้นรสชาติแตกต่างจาก ไวน์แดงลาฟิตในปีอื่นๆ แม้ว่าฉันจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์โดยเฉพาะ แต่ฉันก็ยังคง แยกแยะได้

เฉินเป่ย ไม่ได้สนใจ หลีหยาง และมองไปที่ เติ้งหลุน อย่างนิ่ง สงบ “ในฐานะที่เป็นคนชั้นสูง เรื่องทุเรศที่นำด้อยเสริมดีแบบนี้ ยังทำได้ลง คุณยังคู่ควรอยู่ที่นี่อีกหรือ?”

เติ้งหลุนยิ้มเยาะ “ถึงตายก็จะรักษาหน้าไว้ แม้จะทนทุกข์ก็ตาม ได้ ฉันก็สงสัยไม่น้อย คุณเตรียมที่จะพูดสีดำให้กลายเป็นสีขาว บิดเบือนความจริง ได้อย่างไร ถ้านี่ไม่ใช่ ไวน์แดงลาฟิต ในปี 1982 นับจากวันนี้ ฉันจะไม่ก้าวเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลหลี แม้แต่ครึ่งก้าว !”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ