รักร้อนเพลิงริษยา

บทที่ 4



บทที่ 4

“เธอกลำว่าฉันขนาดนี้เลยเหรอ” ดวงตาสีน้ำเงินเข้าก โขนเรืองแสงด้วยความโกรธ ใบหน้าแดงเราเห็นแล้ว รู้สึกหวั่นใจขึ้นมาทันทีทันใด และยิ่งอ้อมแขนที่รัดร่าง ของเธอเอาไว้บัดนี้แรงรัดที่แน่นเสมือนงูเหลือมรัดเหยื่อ กำลังทำให้เธอขาดอากาศหายใจ แรงรัดทวีความรุนแรง มากขึ้นไปอีกตามอารมณ์ที่กำลังถึงจุดเดือดของรัฐก

“ทำไมจะไม่กล้า ถ้าไม่กล้าคงไม่มาถึงที่นี่หรอก อย น้ำเหนียวๆ ที่พ่นออกจากปากของณิชาหลังจากที่ถ้อยคำ ไม่เกรงกลัวเอ่ยออกไป น้ำที่พ่นออกมานั้นกระเด็นไปอยู่ บนใบหน้าอันแสนหล่อเหลาของรัฐกฤตญ์ กระเซ็นไป โดนบริเวณจมูกและโหนกแก้ม แรงโทสะที่มีมากเป็นทุน เดิมอยู่แล้วทวีขึ้นเป็นหลายเท่าตัว ไม่มีใครกล้าทำกับเขา แบบนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกและอาจจะครั้งเดียวในชีวิต ที่ถูกผู้หญิงถ่มน้ำลายใส่หน้า รัฐกฤตญ์อยากจะฆ่าคนใน อ้อมกอดให้ตายคามือแล้วเอาศพไปโยนให้เสือให้จระเข้ กิน ดีนะว่าไม่มีใครเห็นการกระทำของณิชา ไม่เช่นนั้น ความรู้สึกเสียหน้าจะต้องเข้ามาแทรกเสริมอยู่ด้วย ต้อง ขอบใจร่างกายสูงใหญ่ของตนเองที่กำบังภาพนั้นได้เป็น อย่างดี

ฝ่ามือแกร่งลูบน้ำเหนียวๆ ที่อยู่บนใบหน้าออก ก่อนจะ ก้มลงจูบริมฝีปากของเธออย่างแรง บดขยี้เรียวปากอย่าง ไม่ปรานีเหมือนจะสั่งสอนให้รู้ว่าอย่าริอ่านมาลองค์กับ เขา ณิชาเจ็บระบมไปทั่วเรียวปาก เป็นอีกครั้งที่ไม่สามารถทักท้วงการกระทำของเขาได้ เนื่องจาก ร่างกายไม่เอื้ออ่านวยด้วยประการทั้งปวงกว่าที่เขาจะ ถอนริมฝีปากออกก็ใช้เวลานายพอสมควร

“อื้อ…” เธอร้องเจ็บในสําคอและได้รับรู้รสชาติของเลือด ที่ไหลออกมาจากกลีบปากล่างที่ถูกชายตัวโตลงโทษด้วย การขบกัดอย่างแรง

“นี่ยังน้อยสําหรับสิ่งที่เธอทำกับฉัน” รัฐกฤต มองผล งานของตัวเองด้วยรอยยิ้มมุมปาก ก่อนจะตะโกนสั่ง

ลูกน้องคนสนิทให้ทําบางอย่าง “แดนไปเอาตัวมา

รัฐกฤต สั่งลูกน้องโดยไม่หันไปมองหน้า ดินแดนรู้ คำสั่งนั้นดีว่าคืออะไร เขารีบวิ่งไปทางด้านหลังของเวที นำพาร่างอันสะบักสะบอมของเรียว ตามด้วยเรืองเดช และพิชานันท์ที่เดินตามหลังมา

“มาแล้วครับเจ้านาย” ลูกน้องคนสนิทเอ่ยบอกเจ้านาย หนุ่มรัฐกฤตญ์ลุกขึ้นยืนเมื่อได้ยินคำบอกกล่าวของดิน แดน กระชากแขนเล็กให้ณิชาลุกขึ้น ก่อนจะลากตัวเธอ ไปยังจุดที่อีกสามร่างนั่งอยู่ แล้วเหวี่ยงร่างสาวไปบนพื้น พรมเต็มแรง ไม่สนใจว่ากระดูกของเธอจะหักหรือไม่ ณิ ชามองร่างที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำของเรียวแล้วรู้สึก สงสารเป็นเพราะเธอเองเรียวถึงมีสภาพแบบนี้
“พวกเธอกล้ามากนะที่ทำกับฉันแบบนี้” รัฐกฤตญ์พูด ด้วยเสียงราบเรียบแต่หนักแน่น แฝงไปด้วยอำนาจที่แผ่

กระจายไปทั่วบริเวณ ณิชากอดร่างของพิชานันท์ไว้ แน่น เพราะร่างของน้องสาวสั่นเหมือนลูกนก

“คุณจะเอายังไง”

“ก็ไม่เอายังไง…เธอแพ้เธอจะต้องทำตามที่ฉันสั่งตาม สัญญา” เขาพูดพร้อมกับมองหน้าหวานสวยของณิชา และทําสายตากรุ้มกริ่มไปที่กลีบปากสวยของเธอ ทําให้ ณิชาต้องรีบเบนหน้าหนีไปทางอื่น หลบหลีกหนีสายตาคู่ นั้น

“ก็ได้ แต่คุณต้องปล่อยพวกเขาไปก่อน” ณิชาพยายาม

ต่อรอง

“ไม่ได้นะพี่ใหญ่ นันท์เป็นเจ้าสาวของผมนะ” รัฐศาสตร์ แย้งเมื่อได้ยินคําพูดของณิชา พร้อมกับเดินตรงไปยัง ร่างของเจ้าสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของณิชา ทว่าพิชานันท์ กลับกระเถิบร่างหนีเหมือนกับว่ารัฐศาสตร์เป็นสัตว์มีชีวิต ที่เธอเกลียดและขยะแขยง เจ้าบ่าวของงานเห็นดังนั้นจึง บันดาลโทสะกับกิริยาของเจ้าสาว ก้าวถอยหลังไปสอง สามก้าวก่อนจะพูดว่า

อย่างเหลืออด
“เธอไม่ต้องการฉัน ฉันก็ไม่ต้องการเธอเหมือนกัน…..ผู้ หญิงที่ต้องการแต่งงานกับฉันมีถมไป เชิญเธอกับพ่อและ พี่สาวของเธอรับชะตากรรมครั้งนี้จากพี่ใหญ่ก็แล้วกัน ฉัน ไม่สนแล้ว” รัฐศาสตร์กล่าวจบก็เดินกลับมานั่งที่โซฟา อย่างหงุดหงิด นี่เป็นนิสัยอย่างหนึ่งของเขาที่รักง่ายเบื่อ ง่าย ครั้งแรกที่เจอพิชานันท์ เธอแสดงความรังเกียจออก มาอย่างชัดเจน ความอยากเอาชนะที่เป็นนิสัยดั้งเดิม ของเขาก็จุดประกายขึ้นมา จึงไปขอร้องพี่ชายให้ทําทุก วิธีทางทีให้ตนเองได้แต่งงานกับพิชานันท์ แลกกับคํามั่น สัญญาที่ว่าทําตัวเป็นคนใหม่ หันมาทำงานของครอบครัว อย่างจริงจัง

“ปล่อยก็ได้ แต่มีข้อแม้นะ” รัฐกฤตญ์พูดอย่างมีแผนร้าย ในใจ

“ข้อแม้อะไร” ณิชาถามสวนทันควัน

“หนึ่งคนต่อหนึ่งปี…สามคนก็สามปี”

“อะไรของคุณฉันไม่เข้าใจ” ณิชาถามอีกครั้งด้วยความ สงสัย เพราะเธอไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดเลย

“ก็ไม่มีอะไรมาก เธอต้องอยู่กับฉันสามปีทำทุกอย่างที่ ฉันสั่งตามที่เราตกลงกันไว้ในครั้งแรก” รัฐกฤตญ์พูดด้วย รอยยิ้มที่อยู่มุมปาก รู้สึกอิ่มเอมกับชัยชนะที่กำลังจะได้ มา รู้สึกสะใจที่สามารถทำให้คนที่บังอาจมาลองดีกับเขาหมดสิ้น

หนทางต่อลอง

ณิชากำลังใช้ความคิดอย่างหนัก เวลาสามปีไม่ใช่ระยะ เวลาที่น้อยๆ เลยแล้วที่สำคัญเธอกำลังจะแต่งงานในอีกสี่ เดือนข้างหน้านี้ แต่พอเงยหน้ามามองร่างของทั้งสามคน ที่ฝากชีวิตไว้กับการตัดสินใจของตนเอง อีกคนหนึ่งเป็น บิดา อีกคนหนึ่งเป็นน้องสาวเพียงคนเดียว อีกคนหนึ่งเป็น ทั้งพี่ชายและลูกน้องคนสนิท หากทั้งสามปลอดภัยเธอก็ พร้อมที่จะยินดีทำ

“ตกลง…ฉันจะทำตามที่คุณสั่ง สามปีก็สามปี” ณิชาพูด ออกมาในที่สุด

“ไม่นะ” เสียงทั้งสามคนที่ตกเป็นรองพูดออกมาพร้อม

กัน

“ไม่นะพี่ณิชา พี่อย่าทำแบบนี้ นันท์จะใช้ชีวิตแบบคู่ผัว ตัวเมียกับคุณเล็กก็ได้ พี่ณิชาอย่าทำแบบนี้เลยนะคะ” พิชานันท์พูดด้วยน้ำตานองหน้า เป็นเพราะเธอคนเดียวที่ ทำให้พี่สาวตัดสินใจอย่างนี้

“ณิชาอย่าทำอย่างนี้เลยลูก” เรืองเดชพูดพร้อมกับใช้ มือที่เหี่ยวย่นตามวัย ลูบบนศีรษะของณิชาเบาๆ
“อย่าทำอย่างนี้นะคุณณิชา อย่างมากก็แค่ตายด้วยกัน อย่าลืมสิว่าคุณณิชากำลังจะแต่งงานนะครับ” เรียวหมาย ถึงการแต่งงานที่จะถูกจัดขึ้นในอีกสี่เดือนข้างหน้า หาก ณิชารับคำรัฐกฤตญ์นั่นหมายถึง การสูญสิ้นอิสรภาพ งาน

แต่งงานจะถูกเลื่อนออกไปอีกสามปีคำว่า ณิชากำลัง จะแต่งงาน เข้ามาโสตประสาทหูของรัฐกฤตญ์อย่างจัง เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้ยินคำพูด ประโยคนี้ ณิชาจะแต่งงานอย่างนั้นหรือ แต่งกับใคร แต่ง เมื่อไหร่ แต่งที่ไหนคำถามเหล่านี้วนเวียนอยู่ในสมอง อย่างไม่ตั้งใจ

“เอ้า!! ว่าไง จะเอายังไงก็ว่ามาฉันไม่มีเวลาทั้งคืนนะ” รัฐ กฤตญ์ตะโกนพูดอย่างหงุดหงิด

“พ่อคะ นันท์ พี่เรียว ณิชาไม่เป็นอะไรหรอกอย่างมากก็ แค่ทํางานใช้หนี้แทนพ่อสามปี แค่สามปี เดี๋ยวเดียวเองค่ะ ส่วนเรื่องแต่งงานพี่พลเค้ารอณิชาได้” ณิชาพูดอย่างเชื่อ มั่นในตัวของธนาพล ผู้ชายที่เธอตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วม กัน

“จะตอบได้หรือยัง” เขาถามอีกครั้ง

“ฉันตกลงตามที่คุณต้องการ แต่มีข้อแม้นะ” ณิชาเงย หน้าขึ้นตองร่างสูง
“ข้อแม้อะไร”

“ฉันต้องเห็นว่าพ่อ นันท์และพี่เรียวปลอดภัยก่อน แล้ว ฉันจึงจะทำตามที่คุณสั่ง”

“ทําไม…กลัวฉันโกงหรือไง”

“ก็ใช่นะสิ คุณน่ะมันขี้โกง เจ้าเล่ห์ไม่งั้นฉันไม่มีทางแพ้ คุณหรอก” ณิชาพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็อดแค้นเขาไม่ได้ เป็น เพราะเธอไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของเขา ยิ่งเห็นใบหน้าที่หล่อ เหลาเต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้วก็ยิ่งเจ็บใจมากขึ้น

“แล้วเธออยากให้คนอื่นรู้หรือเปล่าล่ะว่าเธอแพ้ฉัน เพราะอะไร” รัฐกฤตญ์ไม่พูดเปล่ายังส่งสายตาเจ้าชู้ ใส่ ยืนยิ้มแล้วทอดสายตามองใบหน้าของณิชา แดงระ เรื่อด้วยความเขินอาย ทุกคนในที่นี้มองหน้าคนทั้งสอง สลับกันไปมา ไม่รู้ความหมายว่าคนทั้งสองพูดเรื่องอะไร กัน และที่สงสัยมากขึ้นไปอีก เมื่อเห็นใบหน้าของณิชา แดงก่ำ แต่ทุกคนในที่นี้ต่างไม่ได้คำตอบ มีเพียงสองคน เท่านั้นที่รู้

“ไม่ต้องเลย คุณหยุดพูดไปเลย ไม่เคยได้ยินหรือไง สุภาษิตไทยน่ะ คนล้มอย่าข้าม” ณิชาเค้นเสียงพูด นึก โกรธตัวเองที่ถูกขโมยจูบแรกไป ยิ่งเป็นคนขี้โกงคนนี้ ด้วยแล้วยิ่งแค้นเป็นสองเท่าตัว
“หยุดพูดก็ได้ เอาเป็นว่าฉันจะให้คนของฉันไปส่งพ่อ กับน้องรวมทั้งลูกน้องของเธอให้ถึงที่บ้านเลย แค่นี้พอใจ ไหม” ณิชาทําท่าคิดหนัก ความเจ้าเล่ห์เพทุบายของ เจ้าของสถานที่ที่เธอประสบ มันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับ หรือวางใจได้

“ไม่!! ฉันจะเป็นคนไปส่งพวกเค้าเอง” ณิชาลุกขึ้นยืน เผชิญหน้ากับรัฐกฤตญ์ ไม่ไว้ใจคำพูดและการกระทำ ของชายตรงหน้า ทางที่ดีที่สุดคือเธอต้องไปส่งบุคคลทั้ง สามด้วยตัวเองให้เห็นกับตาว่าทุกคนปลอดภัย

“ก็ได้ ตกลงตามนี้” รัฐกฤตญ์พูดออกมาหลังจากที่ ตัดสินใจเพียงเสี้ยววินาที แต่ในใจเขาไม่มีใครรู้ว่า เขาจะ ทำอะไรเป็นลำดับต่อไป

“งั้นคุณรอที่นี่นะแหละ ฉันไปส่งพวกเขาไม่นาน

“ไม่ได้ เกิดเธอเจ้าเล่ห์หายตัวไประหว่างที่ไปส่งทั้งสาม คนนี้ ฉันก็ขาดทุนแย่น่ะสิ” รัฐกฤตญ์โต้ทันควัน

“ฉันไม่เจ้าเล่ห์และขี้โกงเหมือนคุณหรอก” ณิชาพูด อย่างเหลืออดหลังจากที่ได้ยินคำพูดของชายร่างสูง

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ฉันจะไปส่งพวกเค้าพร้อมกับเธอ พอส่งเสร็จเธอก็ไปอยู่กับฉันที่คอนโดทันที”
“อะไรนะ!!” เสียงอุทานตกใจของณิชาดังขึ้น

“ไปกับคุณ ทําไมต้องไปอยู่กับคุณที่คอนโดด้วย ในเมื่อ แค่ทำงานใช้หนี้ไม่ใช่เหรอ” ณิชาเอ่ยถามทันทีที่หายจาก อาการตกใจ ไม่คาดคิดว่าเธอจะต้องไปอยู่กับเขา

“ที่พูดๆ มานี่ไม่เข้าใจเลยเหรอ เธอต้องทำทุกอย่างที่ฉัน สั่ง นั่นหมายถึงเธอต้องไปอยู่บ้านฉัน ทํางานบ้าน หุงข้าว ล้างจาน สารพัดอย่างที่ฉันอยากให้ทำ

รัฐกฤต เฉลยออกมายาวเหยียด งานที่เขาร่ายมา ทั้งหมดเหนือความคาดหมายของณิชาทั้งสิ้น เธอคิดว่า เขาจะให้ไปทํางานในบริษัทของเขาในระยะเวลาสามปี ตามที่ได้ตกลงกันไว้ ในเมื่อเขาสั่งมีหรือที่เธอจะไม่ตกลง เพราะตอนนี้เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบจะสั่งให้ทําอะไรก็ต้อง

“งั้นก็ได้” ณิชาพูดตัดความรำคาญ ลำพังงานแค่นั้น สบายมากไม่เหนือบ่ากว่าแรงเลยสักนิดเดียว อีกอย่าง ตอนนี้สิ่งเดียวที่เธอคิดและต้องทำให้ได้ก็คือให้บิดา น้อง สาวและเรียวปลอดภัย เรื่องอื่นเอาไว้คิดทีหลัง

“งั้นก็ไปส่งคนพวกนี้ได้แล้ว วันนี้ฉันเหนื่อยเต็มทนอยาก กลับคอนโดไปแช่น้ำอุ่นเต็มที่”
รัฐกฤตญ์พูดไปด้วยมองหน้าสวยหวานของณิชาไปด้วย คนที่ถูกมองหลบหลีกสายตาร้อนผ่าวแทบไม่ทัน ในใจ ของเขานั้นกำลังคิดและทำอะไรมากกว่าคำพูดที่ได้เอ่ย ไป เธอเปรียบเสมือนเหยื่อชิ้นใหม่ของเขา เป็นเหยื่อที่ หอมหวานแถมเผ็ดร้อน มันคงเป็นรสชาติใหม่ที่น่าลิ้มลอง และอร่อยลิ้นน่าดูในภายภาคหน้ารัฐกฤตญ์ไม่รู้หรอก ว่า เหยื่อที่เขานึกคิดขณะนี้จะทำให้หัวใจเจ็บเจียนตาย คลุ้มคลั่งดั่งพายุต้องเจอกับรักสามเส้าที่รอวันแตกหัก รัก ที่ต้องเลือกต้องเจอกับแรงริษยาที่ถาโถมเข้ามา กว่าจะ ผ่านพ้นไปได้ต่างบอบช้ำทั้งคู่ กว่าจะรู้หัวใจตัวเองก็เกือบ จะสายเสียแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ