รักร้อนเพลิงริษยา

บทที่ 2



บทที่ 2

“ฉันมารับน้องสาวของฉันกลับบ้าน” ณิชาบอกจุด ประสงค์ในการมาครั้งนี้

“ไม่ได้นะ…นันท์แต่งงานกับฉันแล้ว” รัฐศาสตร์พูดด้วย เสียงค่อนข้างดัง เขาไม่มีวันยอมและไม่มีทางปล่อย

ผู้หญิงที่เขาหมายปองไว้ให้ไปไหนเด็ดขาด

“แต่น้องของฉันไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับคุณ

“เต็มใจหรือไม่เต็มใจก็แต่งไปแล้ว…อย่าลืม พ่อของ พวกเธอเป็นหนี้เราอยู่” รัฐศาสตร์พูดอย่างไม่ยอมแพ้ เพราะเขาคิดว่าถือไพ่เหนือกว่า

“หนี้ที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นเพราะพวกคุณสร้าง สถานการณ์ เพียงเพื่อจะสนองความต้องการของตัว เอง สนองความใคร่ที่มีต่อตัวน้องสาวฉันมากกว่า” ณิชา พูดถูกต้องทุกอย่าง การที่เรืองเดชบิดาของเธอเป็นหนี้ หลายร้อยล้านบาท เป็นเพราะพี่ชายของรัฐศาสตร์สร้าง สถานการณ์บางอย่างขึ้นมาเกี่ยวพันเชื่อมโยงจนบิดา ของเธอไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จากนั้นก็เสนอตัว เข้าไปช่วยเหลือเรื่องต่างๆ ของบริษัทจนสามารถผ่านพ้น เรื่องเลวร้ายไปได้ หลังจากนั้นก็บังคับและขู่เข็ญให้ยก ลูกสาวให้กับเขา
“จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจพ่อเธอก็เป็นหนี้พี่ชายฉันและหนี้ มันก็มากด้วย” รัฐศาสตร์พูดเสียงค่อนข้างดัง มองณิชา อย่างกินเลือดกินเนื้อ ณิชาหาได้สนใจคำพูดของเจ้าบ่าว เธอจับมือพิชานันท์ก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปยังประตู ห้องจัดเลี้ยงเพื่อพาน้องสาวออกไปจากที่นี่ แต่เสียงหนึ่ง ที่ทรงอำนาจดูน่ากลัวก็ดังขึ้นมา

“มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอที่เธอจะก้าวออกไปจากห้องนี้ ง่ายๆ” รัฐกฤตญ์เอ่ยเป็นประโยคแรกออกมาหลังจากที่ นั่งฟังคำพูดที่ถูกขับออกมาจากเรียวปากสีชมพูระเรื่อน่า สัมผัสอยู่นาน ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าแม้ว่าจะสวยและน่า สัมผัสขนาดไหน แต่คนที่เข้ามาท้าทายเขาถึงที่ ต้องได้ รับบทเรียนที่สาสมและจดจำไปชั่วชีวิต

“มันก็ไม่ยากไม่ใช่เหรอ” คำท้าทายที่ทุกคนได้ยิน ทำให้ ทุกคนคิดไปในทิศทางเดียวกันว่า ผู้หญิงคนนี้คงไม่รู้ตัว ว่ากำลังเล่นกับไฟ ไม่ใช่ไฟธรรมดาเสียด้วย หากเป็น พายุเพลิงที่พร้อมจะโหมกระหน่ำสาดซัดหญิงสาวให้มอด ไหม้ในพริบตา ดวงตาสีน้ำเงินเข้มวาววับด้วยความโกรธ ไม่เคยมีใครกล้าลองดีกับเขาเท่าผู้หญิงคนนี้เลย

“เธอกล้ามากนักที่ท้าทายฉัน ไม่เคยมีใครกล้าทำกับฉัน แบบนี้” เสียงเข้มกล่าวขึ้น นัยน์ตาประกายวับลุกโชนด้วย เพลิงโทสะ

“งั้นก็มีซะสิ” ดวงตาของเขาที่เธอมองเห็นนั้น มันเหมือนมีเปลวเพลิงร้อนแรงแฝงอยู่ในนั้น แต่ในเมื่อเธอ คิดจะมาเหยียบถ้ำเสือ มีหรือที่จะหวาดกลัว ดวงตาของ ณิชาจึงสบสายตาคู่นั้นอย่างไม่ยอมแพ้ อีกฝ่ายหนึ่ง ดวงตาร้อนแรงและดุกร้าวด้วยความโกรธ อีกฝ่ายหนึ่ง เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว คนรอบข้างต่างรู้สึก ถึงความอึดอัดและพายุเพลิงลูกใหญ่ที่กำลังพัดผ่านเข้า มา พายุลูกนี้พร้อมที่จะทำลายล้างผู้หญิงที่กล้าท้าทาย อำนาจรัฐกฤตญ์ให้ย่อยยับ

ณิชาล้วงโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กออกมาจากกระเป๋า กางเกงกดหมายเลขโทรด่วน รอปลายทางรับสายก่อนจะ พูดไม่กี่ประโยคและเก็บมันไว้ที่กระเป๋าตามเดิม เพียงแค่ ไม่ถึงหนึ่งนาทีร่างของชายหนุ่มรูปร่างสูงผิวขาวนามว่า เรียว ก็ปรากฏกายอยู่ในห้องจัดเลี้ยง

“พี่เรียวพานันท์ออกไปก่อน” เรียวมีท่าทีอึกอัก เพราะ เขามองดูจํานวนคนที่อยู่ในห้องนี้แล้วมีประมาณสามสิบ คน แต่ละคนน่าจะมีฝีมือพอตัว เขาจึงห่วงเจ้านายสาว มากกว่าใครๆ ทั้งหมด

“แต่ว่า…คุณณิชา”

“ณิชาบอกให้พานันท์ออกไป…เดี๋ยวนี้” ณิชามองหน้า เรียวอีกครั้งเหมือนจะให้ลูกน้องรับรู้ได้ว่า ‘อย่าขัดคำสั่ง’ เรียวจึงทําตามคำสั่งของณิชาจับข้อมือบางของพิชานันท์ ก่อนจะกึ่งลากกึ่งจูงไปที่ประตู
“พี่ณิชา นันท์ไม่ไป นันท์จะไปพร้อมพี่”พิชานันท์ขืนตัว เองไม่ให้ก้าวเดินตามแรงลากจูงของเรียว เพราะเธอเป็น

ห่วงพี่สาวกลัวไปต่างๆ นานา หากไม่เป็นเพราะวันนั้นวัน ที่เธอโทรศัพท์ทางไกลไปหาพี่สาว บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง รวมทั้งการที่เธอถูกคลุมถุงชนต้องแต่งงานชดใช้ หนี้สินมากมายที่บิดาไม่ได้ตั้งใจก่อไว้ และนี่เป็นสาเหตุที่ ทำให้ณิชาตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลือน้องสาวให้พ้นจาก นรกที่ต้องแต่งงานกับ คนที่ไม่ได้รัก

“พี่เรียวพานันท์ไปเร็ว” เสียงณิชาดังตามไล่หลังมา เพราะเธอเห็นคนของรัฐกฤตญ์เริ่มเคลื่อนไหว

“ไปเร็วคุณนันท์ ถ้าหากคุณไม่ต้องการให้ความหวังดี ของคุณณิชาต้องสูญเปล่า คุณนันท์ต้องไปกับผม”

พิชานันท์จำยอมต่อเหตุผลที่เรียวพูดออกมา ทำตาม ความต้องการและคำสั่งของผู้เป็นพี่ เมื่อร่างของทั้งสอง ก้าวพ้นประตูห้องจัดเลี้ยง ประตูบานใหญ่ถูกปิดลงด้วย มือของณิชาพร้อมกันนั้นเธอยังใช้เหล็กที่มีไว้สำหรับกั้น เป็นทางเดิน

ปิดล็อกที่จับประตูคนภายนอกจึงไม่สามารถเข้ามาได้ เช่นกันคนภายในก็ไม่สามารถออกไปได้ หากไม่เอาเหล็ก ที่เสียบไว้ออกเสียก่อน
ณิชาหันมาเผชิญหน้ากับคนของรัฐกฤต อีกครั้ง ใน ใจคิดเพียงว่าเธอต้องช่วยน้องสาวของเธอให้ได้ แต่ลืม คิดถึงตัวเองว่าจะมีใครมาช่วยหรือเปล่า เนื่องคนที่เธอ กำลังต่อกรด้วย ร้ายกาจและร้ายลึก แต่ไม่ว่าจะเป็น อย่างไรเธอก็ส

ไม่ถอย สู้ให้ถึงที่สุด คนของรัฐกฤตญ์เริ่มขยับตัว เคลื่อนไหวเข้ามาหาสาวร่างเล็กที่ตั้งท่าสู้ลูกน้องห้าคน ดาหน้าเดินเข้ามาเป็นหน้ากระดาน หน้าที่ของพวกเขาคือ จับกุมสาวร่างสมส่วนคนนี้ไปให้เจ้านายตามคำสั่ง

“เข้ามาเลย” ณิชาก้าวเข้ามาหาชายฉกรรจ์ที่เป็นลูกน้อง ของเจ้าของงานโดยไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย รัฐกฤตญ์ นั่งเอาขาไขว้กันอยู่ที่โซฟาบุหนังราคาแพง ด้านข้างคือ รัฐศาสตร์น้องชายคนเดียวของเขา ทอดตามองดูการ ต่อสู้ระหว่างณิชากับลูกน้องของตน

รัฐกฤตญ์ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ลูกน้องของเขาที่ผ่าน การฝึกฝนมาจะเพลี่ยงพล้ำต่อผู้หญิงเพียงคนเดียว เธอมี ไหวพริบและทักษะในการต่อสู้ดีมากคนหนึ่ง มีจังหวะการ รุกและรับอย่างชัดเจน ภาพเคลื่อนไหวที่เขากำลังดูอยู่ นั้น

คล้ายกับหนังแอ็คชั่นในหนังในละคร ณิชาใช้เวลาเพียง สิบนาทีจัดการกับลูกน้องทั้งห้าคนของรัฐกฤตญ์ หญิง สาวฝึกฝนการต่อสู้มาจากไคโตะ บิดาเลี้ยงของเธอซึ่ง เป็นอดีตมือขวาของยากูซ่าชื่อดังของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการเตะ ต่อย การใช้อาวุธดาบ มีดสั้นและอื่นๆ ที่ สามารถใช้ในการต่อสู้ รวมทั้งเทคนิคและจุดตายที่จะล้ม คู่ต่อสู้ ที่มีจำนวนคน

มากกว่าหรือที่เก่งกว่า

‘เก่งดีนี่’ รัฐกฤตญ์กล่าวชื่นชมในใจ เขามองวิธีการต่อสู้ ของณิชาแล้ววิเคราะห์ได้ว่า การล้มคนของเขาได้ทำกัน ได้ง่ายๆ แต่เทคนิคที่เธอใช้กับจุดตายอีกฝ่ายนั้น ทําให้ ล้มคู่ต่อสู้ได้ไม่ยาก รัฐกฤตญ์ลุกขึ้นเต็มความสูง 190 เซนติเมตร ถอดเสื้อสูทพร้อมกับปลดเนคไท ก่อนจะเอา มาโยนลงบนโซฟา เขานึกสนุกและอยากจะกำราบผู้หญิง คนนี้ที่มาท้าทายและลองดีกับเขา อยากรู้นักว่าจะเก่ง ขนาดไหนเมื่อต้องสู้กับเขา ดินแดนเห็นเจ้านายของตน กําลังเดินไปยังร่างของณิชา เขาจึงก้าวเท้าเดินตามเพื่อ ดูแลความปลอดภัยตามหน้าที่ รัฐกฤตญ์มองหน้าดินแดน พร้อมกับโบกมือร่างของดินแดนจึงเดินถอยหลังมายืนที่ เก่า

“เรามาตกลงอะไรกันดีกว่า” รัฐกฤตญ์พูดกับณิชา ทั้ง สองยืนห่างกันไม่มากนัก

“ตกลงอะไร”

“ก็ตกลงว่า ฉันจะเป็นคนสู้กับเธอเอง ถ้าเธอชนะหนี้สิน ของพ่อฉันยกให้ รวมทั้งไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของเธออีก แต่ถ้าเธอแพ้ เธอต้องมาทำงานกับฉันจนกว่าจะ ครบตามจำนวนหนี้สิน”

“ทำงานกับคุณ…ทำอะไร”

“ทุกอย่างที่ฉันสั่ง” รัฐกฤต พูดอย่างมั่นใจ เพราะเขา คิดว่าไม่มีทางแพ้ผู้หญิงคนนี้แน่นอน

“ตกลง” ณิชาตอบโดยไม่คิด เธอไม่นึกเอะใจเลยว่า ความหมายที่รัฐกฤตญ์พูด ‘ทุกอย่างที่ฉันสั่ง’ มันเป็น ความหมายที่กว้างมาก จะพูดอีกนับหนึ่งก็คือเขาสั่งให้ เธอทําอะไรเธอก็ต้องทํา แล้วงานอะไรที่จะทําให้จํานวน หนี้สินมาก

นั้นหมดสิ้นเร็วๆ นั่นคือสิ่งที่ณิชาไม่ทันได้คิด อาจเป็น เพราะในสมองของเธอตอนนี้ คิดเพียงว่าจะช่วยน้องสาว ได้อย่างไรเท่านั้น

“กติกาง่ายๆ ถ้าหากหลังของใครแตะที่พื้นก่อนถือว่าคน นั้นแพ้” รัฐกฤตญ์บอกกติกาที่ตั้งขึ้นให้เธอฟัง

“ตกลงตามนี้” ณิชารับคำท้าของเขา โดยไม่รู้เท่าทัน ความเจ้าเล่ห์ของรัฐกฤตญ์ รัฐศาสตร์และลูกน้องคนสนิท ของคนมากแผน ได้ฟังข้อตกลงที่รัฐกฤตญ์เสนอให้ณิชา แล้วรู้สึกพอใจกับความเด็ดเดี่ยวและกล้าหาญของผู้หญิง คนนี้ เธอจะรู้บ้างหรือไม่ว่า รัฐกฤตญ์ไม่มีวันพ่ายแพ้คู่ต่อสู้ เป็นเพราะคนที่ท้ามีความสามารถทางด้าน การต่อสู้เป็นอย่างมาก เนื่องจากถูกฝึกฝนมาตลอดหลาย สิบปี ยิ่งภาพที่ทุกคนเห็นก็ยิ่งรู้สึกสงสารณิชาไม่ได้ รูป ร่างสูงใหญ่ของรัฐกฤตญ์บดบังรูปร่างสมส่วนของณิชา เสียสนิท จนมองไม่เห็นตัวณิชาเลยเมื่อมองจากด้านหลัง ณิชารู้สึกหวั่นไหวกับท่าทางของคู่ต่อสู้ ดูเหมือนเขาจะ มั่นใจในการต่อสู้ครั้งนี้เหลือเกินว่า เขาจะต้องเป็นฝ่าย ได้รับชัยชนะ ทวาณิชาสลัดความกังวลทั้งหมดทิ้งไปก้าว เท้าเดินออกไปหารัฐกฤตญ์ที่ยืนอยู่กับที่เหมือนกำลังรอ ตั้งรับ

เมื่อณิชาเดินเข้ามาใกล้เขาก็ก้าวเท้าเดินเข้าไปหา ณิ ชาจึงปล่อยหมัดแรกเข้าไปที่บริเวณท้องน้อยของเขา แต่ เขาไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย กลับส่งยิ้มให้เธออีกต่างหากการ ต่อสู้ของทั้งสองเป็นไปอย่างตลกขบขันเนื่องจากณิชา เป็นฝ่ายรุก รัฐกฤตญ์จะหลบเลี่ยงไปมาเหมือนหลอกล่อ ไม่ยอมต่อสู้เหมือนกับที่ควรจะเป็น จนณิชาเริ่มจะโมโห

‘จะสู้ก็ไม่รู้จะถอยก็ไม่ถอยจะเอายังไงแน่เนี่ย” ณิชาคิด อย่างหัวเสียในใจ ไม่ใช่เธอคนเดียวที่คิดแบบนั้น น้อง ชายและลูกน้องของเขาก็คิดเช่นเดียวกับณิชาไม่มีผิด เพี้ยน การต่อสู้ครั้งนี้ไม่เหมือนการต่อสู้เอาเสียเลยคล้าย เด็กวิ่งเล่นไล่จับ

“พี่ใหญ่เขาทำอะไรของเขาพี่แดน จะสู้ก็ไม่สู้วิ่งเล่นเป็น เด็กไปได้” รัฐศาสตร์พูดกับดินแดนที่ยืนมองทั้งคู่ด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม ดินแดนอยู่กับรัฐกฤตญ์มานาน ย่อมรู้ดีว่าเจ้านายกำลังทำอะไรอยู่ รัฐกฤตญ์กำลังหลอก ล่อให้ณิชาหลงกลต่างหาก

“ทำไมไม่รู้ซักทีล่ะ เอาแต่วิ่งไปวิ่งมาอยู่ได้” ณิชาพูด

อย่างหัวเสีย

“ก็สู้อยู่นี่ไง” รัฐกฤตญ์ตอบหน้าตาย ก่อนจะวิ่งไปรอบๆ

ตัวของเธอ

“สูบ้าสู้บออะไรแบบนี้” ณิชาพูดพร้อมกับหมุนตัวตาม ร่างของเขา ที่วิ่งวนรอบตัวเธอ จนณิชาเริ่มรู้สึกเวียนหัว และตาลาย

“ก็สู้แบบนี้ไง” ไม่ทันที่ณิชาตั้งตัวร่างของรัฐกฤตญ์เข้า มาทางด้านหลังร่างสาว ลำแขนหนากำยำโอบรัดร่างของ ณิชาทางด้านหลัง ออกแรงรั้งร่างบางให้แนบชิดกับเขา จนแผ่นหลังของสตรีร่างสวยแนบสนิทกับอกแกร่งแข็ง แรงด้วยมัดกล้ามของฝ่ายชาย ณิชาพยายามดิ้นรนออก จากลำแขนอันทรงพลังนี้ แต่ก็ไม่สำเร็จและยิ่งสิ่งที่เขาทำ ต่อไปนี้ มันยิ่งทําให้คนในอ้อมแขนถึงกับตกใจมากขึ้นไป อีก รัฐกฤตญ์ก้มใบหน้าฝังจมูกลงที่แก้มนวลของณิชาทั้ง ซ้ายขวาข้างละสองครั้ง

“ปล่อยนะไอ้บ้า ขี้โกงนี่หว่า ปล่อยสิวะ” ณิชาร้องตะโกน ออกมาด้วยความโกรธระคนเขินอายที่โดนผู้ชายแปลกหน้าสวมกอดและหอมแก้ม

“ไม่ปล่อย มีอะไรไหม” รัฐกฤต ตอบกระซิบที่ข้างหู ของณิชา มองดูใบหน้าที่เนียนใสกลับแดงระเรื่อไม่รู้ว่า เป็นเพราะความโกรธหรือว่าความเขินอาย แต่นั่นมันยิ่ง ทำให้เขารู้สึกใจเต้น พอใจกับภาพที่เห็น

“มีแน่…นี่ไง” ณิชาเอนศีรษะไปข้างหน้าแล้วโยกกลับไป ทางด้านหลังทำให้ศีรษะทางด้านหลังของเธอกระแทก โดนกึ่งจมูกกึ่งปากของเขาเต็มแรง

“โอ๊ย!!!” เสียงร้องเจ็บของรัฐกฤตญ์ดังพอที่จะให้ทุก คนในที่นั้นได้ยินต่างจะวิ่งเข้ามาช่วยเจ้านายของตน ทว่า ดินแดนห้ามไว้เสียก่อน เพราะการต่อสู้ในครั้งนี้รัฐกฤตญ์ ไม่ประสงค์ให้ใครมาเกี่ยวข้อง รัฐกฤตญ่คลายล่าแขน ข้างหนึ่งออกจากเอวบาง แต่อีกข้างหนึ่งยังทำหน้าที่ ของมันอย่างดี ดีจนณิชาไม่สามารถขยับหนีออกจาก พันธนาการที่รัดแน่นนี้ได้ มือหนาข้างที่คลายจากเอวเล็ก ยกขึ้นสูงมาลูบคลำปลายจมูกของตน แล้วดันร่างสาวไป ที่ฝาผนังห้องจัดเลี้ยง จากนั้นก็หมุนร่างของณิชาให้หัน มาเผชิญหน้ากับเขา ด้วยความห่างที่ไม่มากนักทำให้คน ทั้งสองได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ