Maple Rhapsody เพลงรักใบเมเปิ้ล

9 Salad Lovers



9 Salad Lovers

วันรุ่งขึ้นที่วิทยาลัยอาร์เธอร์ เวลาพักเที่ยง

“แซค นายไม่กินผักเหรอ? ” ฉันถามเสียงสูงเมื่อเห็นแซ คเขี่ยหัวหอมออกจากสปาเก็ตตี้ “หอมนี่ถูกหั่นเป็นร้อยๆ ชิ้นแล้วนายก็ยังจะเขี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลย”

“ฉันไม่ชอบกินผัก” แซคพูดด้วยน้ำเสียงราวกับเด็ก เอาแต่ใจ จมูกโด่งที่หล่อเหลาเชิดใส่ผักในจานอย่างไม่

“เชิดใส่ผักที่มีประโยชน์แบบนี้ไม่ได้นะ” ฉันตำหนิ “ดู เพื่อนคนอื่นสิเซ็ธ เคนท์ แคมม์ และนิคออกจะกินผักกัน อย่างเอร็ดอร่อย

“แล้วไง”

“ฉันก็เลยทนไม่ได้ไง ขนาดเซธสูบบุหรี่ฉันยังไม่ยอม เรื่องนายไม่กินผักนี่ฉันก็ต้องจัดการให้ได้เหมือนกัน!” แล้วฉันคะยั้นคะยอแซคสุดความสามารถ “กินหน่อยน่า นะ แซคคนเก่ง”

“ไม่มีทาง แหวะ” แซคทำท่าคลื่นไส้ ฉันขมวดคิ้วและเริ่ม สั่งสอนเขาราวกับครูสอนนักเรียน “ผักมีประโยชน์มากนะ นายเคยเรียนใช่ไหม ผักช่วยล้างพิษ แก้ริดสีดวง ป้องกัน มะเร็ง ทำให้ผิวสวย กินแล้วทั้งหล่อทั้งฉลาดนะ” ฉันสาธยายอีกยาว

“ไม่มีวัน ยังไงฉันก็ไม่ยอม” แซคกอดอกและสะบัดหน้า

ฉันลุกขึ้นยืนชี้หน้าเขา “ถ้านายไม่เริ่มกินเสียตั้งแต่ตอน นี้เชื่อเถอะว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าหนุ่มหล่ออย่างนายจะต้อง กลายเป็นตาอ้วนพุงโตหัวล้านแน่”

“ความหล่อของฉันไปเกี่ยวอะไร”

“ก็นายกินแต่เฟรนช์ไฟรส์กับเบอร์เกอร์ เพราะฉะนั้น นายจะดูหล่อไปได้อีกไม่กี่ปีหรอก” ฉันพูดเหมือนผู้ชนะ แซคขมวดคิ้วคิดอย่างหนัก ทว่าครู่เดียวก็กลับมาอิดออด เหมือนเดิม

“ยังไงก็ไม่! ”

“ไม่ยอมใช่ไหม อืม… ฉันคิดไม่นานก็ดีดนิ้วเปาะ “นึกออกแล้ว!

เสียงของฉันที่โพล่งดังทำให้แซคผงะ “ทำไมต้องเสียง ดังขนาดนั้นด้วย? ”
“อะไรของเธอ คิดจะอะไร? ” แซคระแวงกว่าเก่า และฉัน ก็ได้แต่ยิ้มร้าย

ฉันไม่นึกเลยว่าตัวเองจะคิดเรื่องที่ปราดเปรื่องขนาดนี้ ออกมาได้ ฉันรู้สึกว่าตัวเองช่างเป็นผู้หญิงที่ฉลาดเสีย จริงๆ !

หลังจากรู้ว่าจะทำให้แซคกินผักได้อย่างไรฉันก็พาเขา มาที่ร้านสลัดบาร์อาร์เธอร์ ร้านสลัดแห่งนี้เป็นร้านอาหาร สุขภาพที่ขึ้นชื่อที่สุดของเมือง สลัดทั้งหมดในร้านเป็น สลัดออร์แกนิคจากผักที่ปลูกขึ้นเอง และน้ำสลัดที่มีกว่า ร้อยชนิดก็ปรุงขึ้นสุดฝีมือด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่จะ หากินตามร้านอื่นไม่ได้ นอกจากนี้ฉันยังชอบที่ร้านนี้มีผัก หลายชนิดที่หายากถึงแม้จะเลื่องชื่อในราคาที่แสนแพง ก็ตาม

“หลักการหัดกินผักข้อที่หนึ่ง” หลังจากสลัดที่สั่งถูกเสริ์ฟ ลงบนโต๊ะแซคก็ทําหน้ามุ่ยจ้องมองผักราวกับเด็กเอาแต่ ใจ ฉันยกนิ้วเหมือนครูเจ้าระเบียบและเริ่มสาธยาย “นาย ต้องเลือกกินผักที่มีสีอ่อน เพราะรสชาติและกลิ่นของมัน ก็จะอ่อนไปด้วย

“เธอรู้ได้อย่างไร” เขาหรี่ตาอย่างระแวง

“อ่านหนังสืออย่างไรล่ะ ฉันอ่านเจอในคอลัมน์แนะนำ ร้านอาหารสุขภาพ”
“ฉันว่ามันน่าอ้วกอยู่ดีนั่นแหละ”

“นั่นก็เลยทำให้เราต้องมีข้อสอง” ฉันชูสองนิ้วอย่าง มั่นใจ จากนั้นก็ตัก สลัดหนึ่งในเจ็ดรสที่ส่งมาให้แซค เลือกลงบนสลัดของเขา “ใส่น้ำสลัดเข้าไปมากๆ”

“ฉันเคยลองแล้ว ไม่เห็นจะเวิร์คเลย

“งั้นข้อสาม กินกับของที่นายชอบ เช่น…” ฉันลากเสียง อย่างครุ่นคิด “พิซซ่า! ”

คราวนี้แซคเลิกคิ้วข้างหนึ่งเหมือนจะสนใจขึ้นมา และ เมื่อพิซซ่ามาวางต่อหน้าเราก็ถึงเวลาที่เราจะจัดการ กับสลัดกัน ฉันเริ่มกินผักสารพัดชนิดให้เขาดูอย่าง เอร็ดอร่อย ไม่ลืมที่จะจิ้มผักสีอ่อนที่สุดให้เขาลองด้วย แต่ฉันเตรียมใจไว้แล้วว่าวันแรกของการฝึกเขาน่าจะกิน ผักได้น้อยมากหรือไม่ก็กินไม่ได้เลย

“กินใบเดียวก่อนก็ได้ ผักหนึ่งใบต่อพิซซ่าหนึ่งชิ้น กินนะ คนเก่ง” ฉันปรบมือเหมือนเชียร์เด็กกินข้าว

หลังจากอิดออดอยู่นานแซคก็ทำสิ่งที่เหลือเชื่อ

“งั่ม! ”
เขากินผักเข้าไปแล้ว! แต่ไม่ทันไรเขาก็แหวะอ้วกอย่าง

น่าสงสาร

“นี่น้ำๆ” ฉันรีบยื่นแก้วให้ “ระวังผักติดคอตาย ไม่ต้อง เคี้ยวแล้ว!! กลืนลงไปเลย!! ”

อีกๆๆ

หลังจากดื่มน้ำหมดขวดใหญ่เขาก็หายใจโล่งออกมา

“น้ำหนึ่งขวดลิตร ผักหนึ่งใบ พิซซ่าหมดไปหนึ่งถาด ใช่ ได้แล้วล่ะ” ฉันปรบมือ

“จริงเหรอ”

“จริงสิ นายเก่งมากแซค ไม่เลวเลยสำหรับวันแรก นาย ว่าจริงไหมล่ะ? ”

“ก็จริง แต่ทำไมต้องพยายามกับฉันขนาดนี้ด้วย”

“ก็เพราะฉันหวังดีกับนายไง”

แซคจ้องมองฉัน “เธอเป็นห่วงฉันเหรอ? ”
“ใช่”

คราวนี้แซคนิ่งไป ก่อนที่ดวงตางดงามสีคาราเมลจะจับ จ้องฉันนานและจริงจังกว่าเดิม “ห่วง…จริงๆ นะ? ”

แววตาและน้ำเสียงของแซคทำให้ฉันรู้สึกเกร็ง “เอ่อ…ก็…”

ฉันไม่เข้าใจเลยว่าแซคจ้องมองฉันอย่างตั้งใจขนาด นี้เพื่ออะไร ในที่สุดฉันก็รีบบอก “ก็นายเป็นเพื่อนฉันนี่ เพื่อนกันก็ต้องเป็นห่วงกันสิ ฉันอยากให้นายแข็งแรงนะ”

“เหรอ” ดวงตาของเขาราวกับตรึงฉัน

“ก็ใช่นะสิ…

เขาปล่อยให้ฉันเกร็งอยู่ต่อหน้าดวงตางดงาม ก่อนจะ ถามออกมา “รู้อะไรไหมวิคกี้”

“อะไร? ”

แล้วเขาเงียบไปครู่หนึ่งเพื่อจะกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้าไม่ใช่เป็นเธอที่บอกฉัน ฉันอาจจะไม่ทำก็ได้ แต่เพราะ เป็นเธอ…ฉันจะทำก็แล้วกัน”
ค่าพูดของแซคทําให้ฉันได้แต่นิ่งอึ้งและกระพริบตา ปริบๆ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทําไมเขากำลังคิดอะไร โดย เฉพาะเมื่อเขาท้วงถามความห่วงใยจากฉัน และดวงตาสี คาราเมลก็ตรึงฉันไว้นิ่งนานขนาดนั้น…

แล้วฉันสัมผัสถึง ราวกับเม็ดเลือดที่วิ่งขึ้นมาเต้นพล่าน จนใบหน้าของตัวเองอุ่นร้อนขึ้นมา

ฉันไม่เข้าใจแซคเลย

หลังจากที่ฉันสอนแซคกินผักสำเร็จตั้งแต่วันแรกเราก็ นัดกันออกมากินสลัดอีกหลายครั้ง แซคเป็นผู้ชายที่สนุก และอารมณ์ดี เพราะอย่างนั้นหลายครั้งวิชาเรียนกินผัก ของเราก็เลยกลายเป็นชั่วโมงบริหารกรามของฉัน

แซคมักจะทำให้ฉันหัวเราะท้องแข็งเสมอ และเวลานี้ก็ เหมือนกัน พอฉันเห็นหน้าของเขาที่กล้ำกลืนกินผักสปิแน ชลงไปเหมือนเด็กที่ข้าวติดคอฉันก็หัวเราะลั่น

แซคไม่ใช่ผู้ชายหน้าตาดีที่คุยสนุกและเปี่ยมอารมณ์ ข้นเท่านั้น แต่อย่างที่บอกไปว่าเขาเป็นอัจฉริยะในการ ซ่อมทุกอย่างอีกด้วย เขารับงานซ่อมประปาและไฟฟ้าที่ วิทยาลัยในตอนกลางวัน บางเย็นเขาซ่อมสารพัดอย่าง ให้เพื่อนบ้าน เขาทำงานเฟอร์นิเจอร์ได้ไม่แพ้มืออาชีพ อีกด้วย ตอนเขาไปซ่อมไฟให้ฉันที่บ้านเมื่อวันก่อนฉันถามเขาว่าเขาซ่อมของต่างๆ เป็นได้อย่างไร แล้วเขาก็ ตอบง่ายๆ ว่าเขาเรียนจากยูทูบ นั่นทำให้ฉันยิ่งทึ่งเข้าไป ใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อเห็นรูปงานไม้ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ หรือ แม้แต่เคาน์เตอร์ที่เขาโชว์ให้ฉันดูจากมือถือ

อย่างไรก็ตามวันนั้นแซคไม่ยอมรับเงินค่าซ่อมไฟจาก ฉัน เขาให้เหตุผลว่าเป็นการตอบแทนที่ฉันสอนเขากินผัก อย่างทุ่มเท แต่ถ้าจะพูดให้ถูกฉันไม่ได้สอนเขาสักหน่อย ฉันบังคับเขาต่างหาก ถึงตอนนี้ฉันก็ยังแปลกใจว่าทำไม เขาถึงยอมฉัน เขาไม่รำคาญความจู้จี้และชอบออกคำสั่ง ของฉัน และจะว่าไปเขาไม่เคยโกรธอะไรฉันเลย ต่อหน้า ฉันเขามักจะอารมณ์ดีและอ่อนโยน

วันนี้หลังจากแก๊งเราคุยกันที่หลังวิทยาลัยจนพอใจแล้ว ก็ได้เวลาที่ฉันจะพาแซคมาหัดกินผักอีกครั้ง วันนี้เขากิน ผักได้หลายชนิดขึ้นแล้ว

แปะๆๆ ฉันตบมือให้เขา “เก่งจังแซค เก่งที่สุดเลย! ”

“เธอสอนเก่งต่างหากล่ะ วิคกี้ แล้วนี่ฉันสอบผ่านคอร์ส เธอแล้วใช่ไหม? ”

“ยัง นี่ยังแค่เริ่มต้น

“หา?! ทำไมล่ะ? ฉันไม่ได้จบคอร์สและได้ ประกาศนียบัตรจากเธอแล้วหรือไง? ”
“ฉันตั้งเป้าไว้ว่าภายในหนึ่งปีนายจะต้องกินมะระใน ภัตตาคารอาหารจีนกับอาหารไทยได้

“มะ…มะระ…!? ” แซคทำหน้าเหยเก “มันคืออะไร”

“ก็หนึ่งในผักที่ขมที่สุดในโลกอย่างไรล่ะ”

แล้วเขาก็ทำหน้าขยะแขยงที่ตลกที่สุดให้ฉันเห็น และ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนหล่อจะทำหน้าตาแบบนั้นได้

“วิคกี้! เธอจะให้ฉันกินมะระเนี่ยนะ! มะระ?!”

“ฮ่าๆๆๆๆ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ