Maple Rhapsody เพลงรักใบเมเปิ้ล

1 Shocking First Day!



1 Shocking First Day!

หลังจากมั่นใจว่าตัวเองถูกสะกดรายตามฉันมาฉันก็ เตรียมวิ่งหนี

“เฮ้!” แต่เขาเรียกฉันจนสะดุ้งตัวลอย

“ระ…เรียกฉันเหรอ” ฉันหันไปถามหวั่นๆ

“เธอนั่นล่ะ หรือตรงนี้มีคนอื่น” เขาพูดห้วน นัยน์ตาสี น้ำตาลแกมแดงเหมือนใบเมเปิ้ลในฤดูใบไม้ร่วงมองฉัน ด้วยสายตาเรียบนิ่ง “ฉันจะไปส่ง”

“หะ…หา?! ” ฉันอ้าปากค้าง จากที่กลัวอยู่ฉันกลับหรี่ตา อย่างดูแคลน เขาไม่ได้มาลักพาตัวฉัน แต่แค่มาจีบผู้หญิง สวยอย่างฉัน แต่ด้วยวิธีการเข้าหาที่ไม่มีศิลปะเอาเสีย เลยฉันก็สะบัดหน้า “ไม่ล่ะ ขอบใจ”

ฉันเดินตัวลอยออกไปและปล่อยให้เขามองตามมาข้าง หลังอย่างนั้นเอง เพราะฉัน วิคกี้ ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยอมคบ กับใครง่ายๆ!

แต่พอฉันเดินออกประตูและเลี้ยวไปสุดโค้งตึกเท่านั้น ฉันก็รู้ว่าทันทีว่าที่หมอนั่นอาสาจะไปส่งฉันไม่ใช่เพราะ เขาประสงค์ร้าย และถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะเดิน ตามเขาไปเหมือนลูกหมาเชื่องๆ แต่ถ้ามีใครสงสัยว่า เพราะอะไรก็เชิญดูข้างหน้าเอาเอง สิ่งที่เห็นไม่กี่เมตรข้างหน้าคือกลุ่มแก๊งอันธพาลสูบบุหรี่ควันขโมงอยู่กลุ่ม ใหญ่ และตอนนี้พวกมันก็หันมามองฉันเป็นตาเดียว เห็น แล้วอยากร้องไห้

“เฮ้ คนสวย พวกมันยิ้มร้าย

“นักศึกษาหญิงคนเดียวของวิทยาลัยเราเหรอ น่าสนใจ มีแฟนหรือยังจ๊ะ”

“มานี่สิที่รัก ทำตัวง่ายๆ กับพวกเราไว้เดี๋ยวก็ดีเอง”

พูดแล้วพวกมันก็เดินเข้ามาใกล้ แต่พอฉันจะถอยหลังก็ ถูกพวกมันคนหนึ่งคว้าแขนไว้

ตุ้บ!! หลอก!!

“โอ๊ย!! *

ไม่ใช่พระเอกที่ไหน แต่เป็นฉันเองที่หวดเป้ใส่หน้าพวก มันด้วยโฟร์แฮนด์แล้วตีเข่าซ้ำ

“เฮ้ย ยัยหน้าสวยมันฟาดเราว่ะ”

สาบานเลยว่าฉันไม่ใช่พวกใจกล้า แค่ไม่รู้จะทำอะไรที่ เรียกว่าฉลาดเท่านั้น
“หนอย! ” พวกมันรุมเข้ามาใหญ่แล้ว!

“อ้าย…ย…!” ฉันปิดตา!

พลั่ก!

แล้วทุกอย่างข้างหน้าฉันก็เงียบไป ฉันลืมตาขึ้นแต่ก็ ไม่เห็นนักเลงตรงหน้าสักคนเดียว “หายไปไหนแล้วล่ะ อ้าว !?”

ปรากฏว่าพวกมันนอนแผ่ราบคาบกับพื้นกันหมดแล้ว

“อะไรกันเนี่ย? อี๋ย! ” ฉันต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อเพิ่งจะเห็น ว่าข้างๆ ฉันนายผมสีกาแฟดำและตาสีสนิมกำลังยืนกำ หมัดอยู่ ดูก็รู้ว่าเป็นเขาที่เพิ่งสอยนักเลงพวกนั้นลงไปกอง เหมือนใบไม้ร่วง

“อ้าว นั่นนายโรคจิตที่สะกดรอยตามฉันเมื่อกี้นี่! ”

แต่ฉันยังดีใจตอนนี้ไม่ได้ มันเร็วเกินไป เพราะข้างหน้า นั่นนักเลงเถื่อนที่เหลืออยู่วิ่งชูกำปั้นเข้ามาเต็มอัตราแล้ว!

คนโรคจิตข้างๆ ยันตัวฉันออกห่างไปข้างหลังหลายก้าว ก่อนที่เขาจะปลดกระดุมเสื้อนอกสุดเท่ออกอย่างใจเย็นแล้วโยนมันขึ้นฟ้า เหลือไว้แต่เสื้อสีขาวสุดเนี้ยบ ตัวในที่ดูจะคล่องตัวกว่า

ฟี้ว…ฟืบ เสื้อนอกที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าแพงประมาณ บนหัวของฉัน ทำให้ฉันเข้าใจว่าเขาฝากเสื้อฉันไว้เพราะ กลัวเสื้อดีๆ จะเสียหาย ฉันก็เลยต้องยืนหอบเสื้อภูเขาสู

ตุ้บ! ตั๊บ!พลั่ก!! เขาอัดวายร้ายด้วยมาดสุดเท่

พลัวะ! โครม!!

ฉันไม่ทันจะหายใจหรือกรีดร้องแก๊งวายร้ายก็หมาย ราบคาบ

คนชนะอันธพาลยกแก๊งเดินกลับมาคว้าเสื้อนอกของเขา ไปจากมือฉันที่ยังอ้าปากค้าง ก่อนจะสวมมันทับลงไปบน เสื้อเชิ้ตที่ยับเยินพอประมาณ มันทำให้เขาดูร้อนแรงแบบ ดิบเถื่อน

“นี่! ทำไมนายไม่บอกแต่แรกว่ามีแก๊งอันธพาลขวางอยู่ นอกตึก ฉันจะได้…” ฉันพูดคับคอ

“ก็เธอเล่นเดินสะบัดออกมาแบบนั้น

“กลายเป็นความผิดฉันไป นายนี่ไม่บอกแต่ค่าได้มีปากไว้เพื่อ…?”

“พูดไม่ทัน ขี้เกียจพูด”

“ขี้เกียจพูดก็เอาประโยคที่ว่า ‘มีอันธพาลนอกวิทยาลัย’ ไว้หน้าประโยค ‘จะไปส่ง’ เซ่ ฉันจะได้ไม่เข้าใจผิดคิดว่า นาย…”

“คนหยิ่ง” คนหล่อมาดเข้มด่าอีก “บ้าดีเดือด” เขาด่าต่อ จริงอ่ะ?

“นายด่าต่อจริงอ่ะ? นะ…นาย!”

“ไม่บ้าไงกล้ามาเรียนวิทยาลัยชายล้วนแบบนี้

“วิทยาลัยสหะย่ะ”

“แล้วไหนล่ะผู้หญิง? ”

“แจ๊ อย่าพูดความจริงสิ! ”

“ไม่รอดแน่” เขาส่ายหน้าหล่อเข้มด้วย ฉันฮึดฮัดและสั่น เทิ้มที่เถียงไม่ทัน นี่ขนาดเขาบอกว่าเถียงไม่ทันแต่ฉันยัง แพ้ราบคาบ!
ขวับ! อยู่ๆ เขาก็หันหลังให้ฉันแล้วก็เดินออกไป

กึก แต่แล้วอยู่ๆ อีกวินาทีเขาก็หยุด เหลียวข้างและมอง มองฉันด้วยหางตา

“ตามมา” เขาบอก แต่เหมือนสั่ง

*ไปไหน? *

แต่เขาไม่ตอบเสียเฉยๆ นายแบบคนนี้พูดน้อยกว่าที่ฉัน คาดไว้เสียอีก บางทีฉันอาจจะไม่มีวันคุยกับเขารู้เรื่อง ก็ได้

ถึงอย่างนั้นฉันก็เดินตามเขาไปเชื่องๆ เหมือนลูกหมาใน ฐานะที่เขาช่วยฉันไว้ เพราะที่จริงที่เขาพูดถูกหมด นักศึกษาใหม่อย่างฉันควรจะทําตัวว่าง่ายๆ

“จะพาไปเจอเพื่อน” เขาบอกหลังจากเดินนำฉันไปพัก

ใหญ่

“เพื่อนไหน? ”

“เป็นนักศึกษาหญิงคนเดียวแบบนี้มาอยู่แก๊งฉันก็ได้ จะได้ปลอดภัย”
“หา?! เดี๋ยวเซ! ฉันไม่ใช่พวกอันธพาลนะ! ”

โวยวายคัดค้านได้ไม่เท่าไหร่อันธพาลหน้าตาระดับ นายแบบอาร์มานี่ก็พาฉันมาถึงลานหญ้าโล่งสว่างหลัง วิทยาลัยแล้ว ด้านข้างเป็นตัวตึกที่สง่างามตามแบบศิลปะ โกธิค จะว่าไปที่นี่เหมือนเป็นสวรรค์ที่แอบซ่อนอยู่ ไกล ออกไปมีนักศึกษาชายยืนอยู่สี่คน

“เฮ้ พวก” อันธพาลที่พาฉันมาร้องทักเพื่อนในแก๊ง “ดูสิ ฉันพาใครมาด้วย”

ผู้ชายสี่คนนั้นก็เลยหันมาแทบจะพร้อมเพรียงกัน ทันใด นั้นฉันก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออก ราวกับโลกได้หยุดหมุนไป ต่อหน้าต่อตาฉัน เพราะภาพที่เห็นข้างหน้าเป็นภาพที่ฉัน ไม่มีทางเชื่อว่าจะเป็นความจริงได้

นักศึกษาชายสี่คนยืนเรียงกันอยู่ในร่างหล่อสูงที่เท่ไร้ ที่ติ และถึงเขาจะยืนเฉยๆ ก็ยังดูเหมือนกลุ่มนายแบบ กำลังโพสต์ท่า แต่ละคนหล่อเต็มพิกัดแบบไม่ต้องคิด ด้วยความสูงเกิน 180 ซม. รูปร่างได้สัดส่วน และหน้าตา ที่หล่อเหลาอย่างร้ายกาจ พวกเขาน่าจะทำให้ผู้หญิงทุก คนที่เห็นเผลอมองค้างจนเดินชนต้นเมเปิ้ลที่ขึ้นอยู่เต็ม แคนาดาได้ และพวกเธอต้องหัวโนด้วยแน่นอน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้ชายทั้งสี่คนนี้คงดื่มนมวันละสอง ลิตรทุกวันมาตั้งแต่เกิด และดูแลร่างกายด้วยออกกำลังกับเทรนเนอร์ส่วนตัวทุกวัน มันทำให้พวกเขาดูเหมือน กำแพงนายแบบ โดยเฉพาะตอนที่นักศึกษาชายที่ช่วยฉัน ไว้เดินพาฉันเข้าไปใกล้ ส่วนตัวเขาเองก็เดินไปยืนข้างๆ พวกนั้นแล้วหันกลับมาทางฉัน กลายเป็นภาพซุปเปอร์ โมเดลชายห้าคนที่สูง หล่อ หน้าใส และร้อนแรงกระแทก ตาอย่างไม่น่าเป็นไปได้

แต่ที่น่าตกใจก็คือ หนึ่งในห้าคนนั้นก็คือชายผมสีบลอน ด์เงางามที่น้องๆ มัธยม มาแอบถ่ายรูปจนตกต้นไม้ และ เป็นคนเดียวกับที่ฉันเอาคราบลิปสติกไปประดับบนเสื้อ อย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่ความตกใจของฉันไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะเมื่อฉันเห็นชายคนที่ยืนถัดมาก็ยิ่งทำให้ฉันเชื่อว่า โลกนี้เต็มไปด้วยเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เขาคือนักศึกษาชาย ผมสีดำตาสีฟ้า เดินสวนกับฉันเมื่อเช้านั่นเอง

ฉันเลิกนิ่งอึ้งเมื่อพวกเขาแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษจาก ซ้ายไปขวาอย่างเป็นทางการ

“สวัสดี ฉันชื่อแซค” ผู้ชายคนแรกทักฉันด้วยเสียงเพราะ ใสเหมือนกีต้าร์ เขาเป็นคนร่างสูงที่หน้าตาดีอย่างเหลือ เชื่อ เส้นผมเซ็ตทรงอย่างดีสีคาราเมลสวยน่ามองอย่าง ประหลาด ดวงตาสดใสน่ารักสีเดียวกัน มีเขี้ยว มีลักยิ้ม ดูใจดีและขี้เล่นที่สุด และคำเดียวที่เหมาะกับเขาก็คือ สมบูรณ์แบบ!

“สวัสดี ฉันชื่อเคนตัน” คนต่อมาแนะนำตัว เขาดูอ่อนโยนและอารมณ์ดี แต่ก็หล่อเหลาและคมเข้มไร้ที่ติ ยิ้ม ของเขาอบอุ่นและเป็นประกายด้วยดวงตาสีฟ้าอ่อนๆ ที่ เมื่อหรี่ลงแล้วสวยมากทีเดียว ดูราวกับดวงตาของหมา ไซบีเรียนฮัสกี้หรือเสือขาวที่เด่นสว่าง ผมซอยทรงเท่ของ เขาเป็นสีช็อคโกแล็ตเบลเยี่ยมที่สะดุดตา

“เอ๊ะ? ฉันว่าฉันเห็นนายวิ่งจูงหมาผ่านหน้าฉันไปเมื่อเช้า ระหว่างทางมาที่นี่ล่ะ”

เขายิ้มออกมา

“ยินดีที่ได้รู้จัก” ฉันบอกสองคนแรกที่แนะนำตัวเสร็จ ไม่ แน่ใจว่าควรจะเช็คแฮนด์เขาด้วยไหม ฉันได้แต่หวังว่าตัว เองไม่ได้กำลังอยู่ต่อหน้านายแบบหรือดารา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ