Maple Rhapsody เพลงรักใบเมเปิ้ล

10 Salad Lovers (2)



10 Salad Lovers (2)

แน่นอนว่าการกินผักทำให้แข็งแรง แต่จะทำให้สุขภาพ แย่ลงถ้าต้องตากฝนเม็ดใหญ่ที่เย็นเฉียบออกจากร้าน สลัด

87…!!

แซคถอดเสื้อนอกมาคลุมหัวเราสองคนแล้ววิ่งฝ่าฝนไป ส่งฉันที่บ้าน ถึงอย่างนั้นทั้งหัวทั้งตัวของเราก็เปียกโชกไป หมดอยู่ดี!

“ขอบใจนะวิคกี้”

ฉันโบกไม้โบกมือเป็นการบอกว่าไม่ต้องขอบใจ เพราะ จนป่านนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าเขาจะขอบคุณเรื่องเล็กๆ แบบนี้ทำไม มันเป็นแค่ความเอาแต่ใจของฉันที่เขาไม่ เห็นจะต้องเชื่อฟังสักหน่อย

แต่รอยยิ้มของเขาน่ารักเกินไปแล้ว มันทั้งน่ามองและ ทั้งมีเสน่ห์ อาจเพราะเขี้ยวแหลมๆ ของเขาที่ปรากฏขึ้น เวลายิ้ม และฉันก็เชื่อสุดใจว่าไม่ว่าผู้หญิงที่ไหนได้เห็น ยิ้มแบบนี้ก็คงจะห้ามเสียงกรี๊ดไว้ไม่ได้ ผิวของเขาใสมาก ด้วย มันทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าเขามีผิวที่เปล่งปลั่ง ขนาดนั้นได้อย่างไรทั้งที่ไม่กินผักเลย

“เข้ามารอฝนหยุดก่อนไหม” ฉันชวนแซคเมื่อพวกเราลุยฝนมาถึงหน้าบ้านฉัน

“ไม่เป็นไร” แซคบอกอย่างเป็นสุภาพบุรุษก่อนจะวิ่งออก ไป “รีบอาบน้ำเสียล่ะ แล้วก็อย่าเป็นไข้นะ วิคกี้”

แต่วันต่อมาฉันก็เป็นไข้จริงๆ

ปิ๊งป่อง

ฉันแทบจะคลานไปเปิดประตูบ้านตอนที่มีเสียงกริ่งและ เสียงเคาะประตูรัว ๆ จากหน้าบ้าน

“ไฮ! วิค” แซคโผล่หน้าหล่อพร้อมลักยิ้มบุ๋มงดงามเข้ามา แต่เสียดายที่ความหน้าตาดีของเขาไม่ใช่ยาที่จะทำให้ฉัน หายไข้ได้ “เป็นอะไร ทำไมไม่ไปเรียน? ”

พอเห็นหน้าเขาฉันก็วางใจล้มฟุบและกลายเป็นส่วนหนึ่ง ของพื้นในทันที ฉันพร้อมจะหมดสติได้อย่างหมดห่วงแล้ว

“วิค!! ” แซคร้องลั่นเมื่อเห็นฉันทรุดฮวบลงไปต่อหน้า

ต่อตา

“ไม่ไหวแล้ว” ฉันครวญคราง ฉันไข้ขึ้นตั้งแต่ตีสามเมื่อ คืน คงเพราะตากฝนมากับแซคนั่นเอง หัวก็ปวดไปหมดเนื้อตัวก็เจ็บหนึบหนับจนขยับไม่ได้

“วิค?! เป็นอะไร?! ทำใจดีๆ ไว้นะ! ”

“นายพูดเกินไป ฉันยังไม่ตาย” ฉันคราง “แต่เหมือนหัว จะระเบิด”

“เธอตัวร้อนนี่! ” แซคโวยวายหลังจากแตะหลังมือบน ต้นคอของฉัน แล้วเขาก็กุลีกุจอลากฉันไปนอนแผละที่ โซฟา “ทำไมไม่โทรบอกใครเลยวิค ทุกคนเป็นห่วงเธอ มากนะ”

“…โทร…ไม่…ไหว…” ฉันตอบด้วยเสียงที่แทบเปล่งออก ไปไม่ได้ ฉันมึนไปหมด ร้อนผ่าวไปทั้งตัวทั้งหน้า ลืมตาก็ ไม่ขึ้นแล้ว

“ดีนะที่วันนี้ฉันเลิกเรียนเร็วสุดเลยรีบมาดู ปรอทล่ะ มี

ไหม”

“ไม่”

“แย่ล่ะ รีบไปโรงพยาบาลดีกว่า แต่ก่อนอื่น…

ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าของแซครุดห่างออกไป แล้วอีกครู่ หนึ่งก็ได้ยินเสียงเปิดน้ำในครัว ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับอ่างใส่น้ำและผ้าขนหนูในมือ แต่เมื่อฉันดูดีๆ ก็ เห็นว่ามันไม่ใช่ผ้าขนหนูแต่เป็นผ้าเช็ดโต๊ะต่างหาก แต่ก็ ช่างเถอะ

เดี๋ยวสิ ดูเหมือนฉันจะพูดว่าช่างเถอะไม่ได้เพราะแซค กลกแขนเสื้อขึ้น

“ต้องเช็ดตัวก่อน” เขาพูดจริงจัง

“หา!” ฉันตกใจจนหายมึนไปชั่วขณะ “มะ…ไม่ต้อง! ไม่ ได้!”

“อย่าดื้อสิ ตัวร้อนแบบนี้อันตรายนะ”

“ไม่ต้อง ไม่เอา!” ฉันผลักมือเขา

“แป๊บเดียวน่า” แซคล็อคมือฉันไว้เพราะฉันปัดมือเขา ตลอด แต่ฉันก็ยังดิ้นจนเขาเริ่มขึ้นเสียง “เธอจะระเบิด แล้วนะ!”

“ระเบิด?” คำขู่ของเขาทำให้ฉันหยุดดิ้นได้ ฉันกลัวจน หัวหด ไม่เคยได้ยินว่าคนเราเป็นไข้แล้วจะระเบิดได้มา ก่อนเลย หรือนายหมายถึงชัก? ”

แซคไม่ตอบแต่ตั้งหน้าตั้งตาเช็ดแขนฉัน และฉันก็ปวดหัวเกินกว่าจะคิดอะไรออกแล้ว ฉันรู้สึกสบายเหมือนที่ ตอนเด็กๆ คุณพ่อหรือคุณแม่มาเช็ดตัวให้ และถ้าไม่คิด ว่าเขาแตะเนื้อต้องตัวฉันมากไปเขาก็เป็นเพื่อนที่ดีและ ห่วงใยฉันจริงๆ

ฟุบ! ฉันหลับตาปี่เมื่อแซคโปะผ้าเปียกๆ ลงบนหน้าของ ฉัน แล้วเขาก็ดึงมันออกเพื่อจะย้ายมันไปเช็ดที่ซอกคอ ฉันหลับตา เขากำลังเช็ดแขนและขาให้ฉันอีกรอบ

“ขอโทษนะ” อยู่ๆ แซคก็พูดขึ้นมาตอนฉันกำลังจะเคลิ้ม หลับอยู่แล้ว แต่ฉันก็ไม่ทันคิดว่าคำขอโทษของเขาหมาย ถึงอะไร

ฟี่บ! แซคเปิดเสื้อของฉัน แล้วมือกับผ้าขนหนูเปียกๆ ก็ ล้วงเข้าไปเช็ดหน้าท้องของฉัน

“อ๊าย! ” ฉันร้องลั่น ฉันไม่รู้เลยว่าที่เขาขอโทษฉันล่วง หน้าก็เพราะแบบนี้ “อย่านะ!!”

ฉันพลิกตัวค่ำเพื่อหลบมือของเขา แต่กลับกลายเป็นเปิด โอกาสให้เขาดึงเสื้อเพื่อเปิดแผ่นหลังของฉัน แล้วล้วงมือ พร้อมผ้าเย็นๆ เข้ามากลางแผ่นหลังของฉัน

วาบ!

“ขอโทษอีกที”
“อ๊ายยย พอๆๆ!” ฉันกรีดร้อง “ให้ตายสิ! พอแล้ว! หยุด เดี๋ยวนี้!! ” ฉันทุบเขาดังปึ๊กๆๆ แต่แซคไม่สะทกสะท้าน เลย เขายังเช็ดตัวฉันต่อไป ในที่สุดเขาก็ต้องล็อคมือของ ฉันไว้เหนือหัวทั้งสองข้างเพื่อไม่ให้ฉันดื้อ

“ฮือ แซค พอแล้ว หยุดสิ!”

แล้วฉันก็ถูกเช็ดตัวอย่างไม่มีทางสู้

หวือ! อยู่ๆ ฉันก็ถูกยกตัวลอย แซคแรงเยอะมากตอนที่ ยกฉันขึ้นนอนคว่ำบนบ่ากว้างของเขา

“ไปโรงพยาบาลกันเถอะ อย่าเป็นอะไรไปก่อนล่ะ บ้า เอ๊ย ฉันน่าจะมาหาเธอตั้งแต่เมื่อเช้า ถ้าเธอเป็นอะไรไป ฉันจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย” ฉันได้ยินเสียงแซคบ่นแค่ แว่วๆ เพราะฉันยังเวียนหัวมาก แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังทุบ หลังเขาตามสัญชาติญาณ…อย่างอ่อนแรง

ปี้ก…ปี้ก…ปี้ก

“วันหลังเธอต้องโทรหาฉันทันทีเป็นคนแรกนะวิคกี้

สัญญานะ”

แซคมาส่งฉันที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นฉันก็ถูกหมอสั่ง ให้นอนใส่นาเกลือสองวันเต็ม หมอบอกว่าฉันติดไวรัส บางอย่างในอากาศที่ไม่น่าเกี่ยวกับการตากฝนตอนนี้ฉันก็เลยนอนหลับๆ ตื่นๆ เพราะฤทธิ์ยาอยู่บน เตียงของโรงพยาบาล

แล้วอยู่ๆ ตอนที่กำลังหลับเพลินๆ ก็มีบางอย่างที่อุ่นและ นุ่มนวลทาบลงมาบนแก้มของฉัน สัมผัสที่ราวกับริมฝีปาก ทำให้ฉันลืมตาโพลง ภาพแรกที่ฉันเห็นเมื่อลืมตาคือ ใบหน้าของแซคที่ยืนอยู่ค้ำหัวฉัน

“น…นาย ทำอะไรน่ะ !?” ฉันผวา

“อะไรเหรอ?” เขาถามงงๆ “ฝันร้ายหรือเปล่า? ”

“ก็…” แววตาห่วงใยของเขาทำให้ฉันหยุดความคิดเอาไว้ เมื่อครู่ฉันอาจแค่ฝันไปก็ได้

“ไข้ลดลงแล้วนะ” แซคเคลื่อนหลังมือมาแตะแก้มฉัน มอบสัมผัสอบอุ่นคล้ายกับเมื่อครู่นี้ ทำให้ฉันเข้าใจว่า บางทีเมื่อครู่อาจจะเป็นแค่มือของเขาที่สัมผัสฉันเท่านั้น

“แล้วไป” แต่ฉันก็ยังไม่วางใจเสียทีเดียว แซคมักฉลาด

กว่าฉัน

“อะไรเหรอ? ”

“เปล่า”
แซลมอน ตั้งใจก่อนจะยิ้ม และทว่าถึงจะเป็นยิ้ม ที่น่าหลงใหล แต่อันนั้นก็ไม่เข้ากันกับอารมณ์ของฉัน

นายยังมีหนี้แค้นกับฉันอยู่นะ นายเปิดเสื้อฉัน! ” ฉัน ศาลโ

ฟังนะ เธอใช้สูงมาก ฉันต้องเช็ดตัวให้” เขาพูด จริงจังเพื่อให้แน่ใจว่าฉันเป็นฝ่ายผิด “แล้วนี่อะไร เธอไม่ ขอบคุณฉันด้วยซ้ำ”

ฉันผลักร่างสูงของแขกจนเซด้วยความหมั่นไส้ “วันหลัง ไม่ต้องเปิดแล้วนะ ห้ามเด็ดขาด! ถ้านายเจอฉันเป็นไข้อีก ปล่อยฉันตายไปเลยก็ได้

“ไม่ได้หรอก” แซลตอบด้วยรอยยิ้ม

“นายยิ้มอะไร? ”

“เพราะว่าถ้าเธอตาย เธอก็จะไม่ได้เจอแคมม์อีกแล้วนะ”

ฉันสะดุ้งเหมือนโดนจี้ “แคมม์…เกี่ยวอะไร…?” แล้วฉันก็ รู้ว่าเสียงตัวเองที่ถามออกไปนั้นราวกับถูกดูดไว้
แล้วยิ้มที่มีลักยิ้มบุ๋มของแซคก็ทำให้ฉันมั่นใจ เขากำลัง ย้อนมาแกล้งฉันเรื่องความลับที่ฉันไม่อยากให้เพื่อนๆ รู้ ความลับเรื่องเดียวของฉัน! และฉันเกลียดเพื่อนที่แสนรู้ ราวกับสัตว์สี่ขาหน้าขนที่สุด!

“วิคกี้ ฉันรู้นะว่าเธอชอบแคมม์…

“อย่าแม้แต่จะพูดนะ ไม่!!!”

แซคยิ้มอีก ฉันไม่เข้าใจเลยว่าแซครู้เรื่องของฉันได้ อย่างไร ฉันไม่ได้แอบมองแคมม์ให้ใครเห็น ฉันปกปิด ความรู้สึกของตัวเองได้แนบเนียนเกินกว่าที่ใครจะสังเกต ได้ บางทีเขาอาจจะเห็นรูปแคมม์ที่ฉันวาดติดไว้ในห้อง นอนตอนที่ไปซ่อมไฟที่บ้านฉัน หรือเห็นตอนที่ไปเปลี่ยน ก๊อกน้ำแตกก่อนหน้านั้น ฉันได้แต่คิดพลุ่งพล่าน

ฉันตีแซคที่เอาแต่หัวเราะ “ไม่! ไม่ๆๆ!! ฉันเกลียดนาย! เกลียดที่สุด!! “

แกร๊ก

อยู่ๆ ประตูห้องคนไข้ก็เปิดออก พร้อมกับเพื่อนๆ ในแก๊ง ที่มาเยี่ยมฉัน เซธ เคนท์ นิค และ…แคมป์

พอฉันรู้ว่าแซครู้ความลับของฉัน ฉันก็แทบไม่กล้ามองหน้า ใบหน้าคมคายของแคมมเลย ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังเห็น ว่าเขาดูหน้าตาสดใสเป็นพิเศษ

“ช่วงนี้นายดูดีนะแคมม์ มีข่าวใหม่เหรอ ?” แซคที่สังเกต เหมือนกันถามแคมม์แทนฉัน เป็นอีกครั้งที่แซครู้ว่าฉันคิด อะไรอยู่ และนั่นก็ทำให้ฉันชักสีหน้าใส่เขาอีกครั้ง

“อืม”

“ทำไม คามิลล์เลิกกับลีโอเนลแล้วเหรอ? ”

“เลิก!? ” เพื่อนๆ สะดุ้งแทบจะพร้อมๆ กัน

“จริงเหรอ ว้าว! ข่าวดีสุดๆ เลยนะ!” แต่ฉันร้องดังที่สุด และกระเด้งขึ้นจากเตียงอย่างตื่นเต้นทั้งที่ยังใส่สายน้ำ เกลือไว้ ฉันกรีดร้องและกระโดดลงจากเตียงด้วยความ ดีใจ และไข้ก็ราวกับหายเป็นปลิดทิ้ง “สุดยอดเลยแคม ม์! ทุกวันฉันภาวนาให้คามิลล์รักนายตลอดไป ในที่สุดคำ ภาวนาของฉันก็เป็นจริงจนได้!”

เพื่อนๆ ก็ร้องด้วยความดีใจเช่นกัน
“เยส! ”

“โอ ดีใจจัง”

“ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกเลย !!

ฉันได้แต่ยิ้มกว้างเมื่อมองภาพเพื่อนๆ แสดงความยินดี กับแคมม์ราวกับเขาประกาศแต่งงาน ฉันชอบรอยยิ้มของ แคมม์เวลานี้ที่สดใสราวกับแดดสว่าง

“ดีใจด้วยนะแคมป์” ฉันแสดงความยินดีกับเขา “ฉัน อยากจัดปาร์ตี้ฉลองการคืนดีให้พวกนายจัง เสาร์นี้เลย นะ เจอกันบ้านฉันนะทุกคน”

“จริงเหรอ ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้” แคมม์กล่าวอย่าง เกรงใจ

“เพื่อนายฉันทุ่มน้อยกว่านี้ไม่ได้หรอกขอให้นายกับคามิ ลล์รักกันมากๆ นะ ขอให้รักกันตลอดไป วิคกี้เอาใจช่วย จ้ะ”

แล้วแคมม์ก็ยิ้มงดงามสว่างไสวอีกครั้ง “ขอบใจนะ วิคกี้”

ในใจของฉันรู้สึกอบอุ่นเหมือนมีฮีตเตอร์เปิดขึ้น ฉันดีใจกับแคม อย่างสุดหัวใจ และที่จริงไม่มีอะไรที่ฉันจะ ดีใจไปกว่าการเห็นรอยยิ้มของแคมป์แบบนี้

แต่แล้วหางตาฉันก็สะดุดเข้ากับกับสายตาระแวงแกม จับผิดของแซค ฉันตอบกลับด้วยแววตาสังหารพร้อม ยกนิ้วปรามอย่างน่าหวาดผวา

“มีอะไรเหรอวิคกี้” แคมม์ที่ใสซื่อและบริสุทธิ์ถามฉัน

“ไม่มีอะไรหรอกแคมป์” แซคตอบแทนฉันและยิ้มอย่าง ไม่กลัวเกรง

“จริงเหรอ” แคมม์หันมาถามฉัน

“จริง” ฉันตอบหนักแน่น ฉันไม่ได้โกหกเลย มันเป็นความ จริงที่ว่าฉันแอบชอบแคมม์ ทว่าก็เป็นความจริงยิ่งกว่าที่ว่า มันถึงเวลาที่ฉันจะเลิกชอบเขาแล้ว ฉันถึงได้จัดปาร์ตี้ให้ เขาและคามิลล์เพื่อพิสูจน์หัวใจ

แล้วฉันก็ไม่ลืมที่จะตวัดสายตากลับไปฆ่าฟันแซคอีก ครั้ง เพราะฉันยังมีหนี้แค้นกับเพื่อนที่แสนรู้อย่างเขา และ ฉันจะต้องจัดการให้เขาหุบปากเรื่องความลับของฉันให้ ได้!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ