ฉันเป็นสายลับ ทำไมต้องเกิดใหม่

ตอนที่ 14 นกกระจอกอยู่ด้านหลัง



ตอนที่ 14 นกกระจอกอยู่ด้านหลัง

ตอนที่ 14 นกกระจอกอยู่ด้านหลัง

หลังจากบ่าวไพร่ลงไปในสระเพื่อดึงพวกเขาขึ้นมา แต่ ว่ากลับดึงพวกเขาขึ้นมาไม่ได้ การพยายามดิ้นของพวก เขามันทําให้ดินโคลนร้ดแน่นขึ้น ตอนนี้มีบ่าวไพร่ลงไป เพิ่มอีกถึงจะดึงพวกเขาขึ้นมาได้

ไป๋หลี่ห้าวขึ้นมาจากสระแบบสภาพดูไม่ได้เลย เมื่อเขา ใช้แรงไปจนหมดแล้ว อีกทั้งตอนนี้บนตัวเขาเปื้อนไปด้วย ดินโคลนส่งกลิ่นเหม็นมาก ทุกคนได้กลิ่นก็ถอยหลัง

“องค์ชายนี่ทรง?” ซูหลันชิวยังไงก็เป็นถึงอ๋องซื่อเจิ้ง เขา ไม่เหมือนคนอื่น คำพูดคำเดียวตรงเข้าประเด็นเลย

ไป๋หลี่ห้าวสีหน้าแย่มาก เขามองไปรอบ ๆ เห็นซูมิ่งเย่ว

ยืนตัวสั่นหลบอยู่ด้านหลังพระชายารอง ในใจก็นึกโมโห

“เจ้ามานี่” เขาเคยเสียหน้ามากขนาดนี้เมื่อไหร่ โคลนบน ตัวเขาหล่นอยู่ที่พื้น ทุกคนถอยออกห่างกันหมด

พระชายาทนกลิ่นตัวของซูมิ่งเย่วไม่ไหว นางขยับให้จน เหล่าขุนนางเห็น
ซูมิ่งเย่วสั่นรุนแรงมาก นางรู้สึกแน่แล้วมองไปที่ไป๋หลี่ ห้าว “เมื่อกี้องค์ชายสี่เป็นคนเรียกให้หม่อมฉันมาหรือ เพคะ?”

นางคิดไม่ถึงเลยว่า เรื่องที่นางจะได้กลายเป็นหงส์จะมา ผิดแผนแบบนี้

“เหลวไหล” ไป๋หลี่ห้าวจ้องไปที่ซูมึงเย่วอย่างไม่พอใจ

“เจ้าเป็นคนให้คนส่งข้อความให้ข้าเอง”

“พอได้แล้ว” ซูหลันชิวตะคอก

ไป๋หลี่ห้าวไม่ว่าเขาจะคิดอะไร แต่ก็ต้องปิดปากลง เพราะบารมีของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า

ลมพัดโชยกลิ่นดินโคลนจากตัวของทั้งสองคน ครั้งนี้ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีกเลย

ซูหลันชิวพยายยามข่มอารมณ์เอาไว้ แล้วมองไปที่ไป หลี่ห้าว ยกมือคำนับ “องค์ชายสี่ กระหม่อมสั่งสอนลูกไม่ ดี ทำให้ทรงต้องตกพระทัย”

เขาพูดแบบนี้ออกมา ไป๋หลี่ห้าวตะลึงไป จู่ ๆ เขาก็มา ขอโทษทำให้เขาไม่รู้ต้องทำยังไง
ฝีมือวิธีการของ หลินชิวในราชสำนักเขาเองยังกลัวเลย พอเขาก้มหัวให้แบบนี้ทำให้เขารู้สึกปวดหัวเลย

หากไม่อดทนต่อเรื่องเล็กน้อยจะกระทบต่องานใหญ่ได้ ซูหลั่นชิวถึงกับกล้าอดทนมากขนาดนี้

“ไม่เป็นไร” ไป๋หลี่ห้าวยิ้มแห้งโบกมือ แล้วปกปิดสีหน้า ด้วยการมองไปทางอื่น แล้วพูดว่า “เรื่องในวันนี้ห้ามใคร พูดออกไปเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นหัวของพวกเจ้าหลุดแน่”

ทุกคนพยักหน้า ไป๋หลี่ห้าวไม่วางใจ ถึงแม้จะรับปาก แบบนี้แล้ว แต่เขารู้สึกว่ายังไงเรื่องนี้ต้องหลุดไปเขาหู ฮ่องเต้แน่นอน

ถึงเวลานั้น คงไม่แค่ถูกเยอะเย้ยแน่

ในเวลานี้ สายตาที่ดูไม่มีความตกใจใด ๆ เลยกำลังมอง มาที่กลุ่มคนจากที่ลับตาคน ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ถูกสายตา ของคนต้นเรื่องจับจ้องอย่างไม่ละสายตาเลย

นั้นก็คือซูมิ่งเย่ คน ๆ นน

นางหลบอยู่ในมุมลับตาของภูเขาปลอม น้ำตกปลอมกลงมาทําให้มีช่องทำให้นางมองเห็นทุกอย่าง

สภาพของไป๋หลี่ห้าวทำให้นางรู้สึกสะใจ ใบหน้าของ นางมีรอยยิ้ม นี่เป็นผลจากการที่มีเรื่องกับนาง

ก็ถือว่า เป็นการแก้แค้นเล็ก ๆ ให้กับเจ้าของร่างคนเดิม

ละครฉากนี้ไม่มีอะไรให้ดูแล้ว ซูมิ่งเย่เลยอยากจะไป นางออกมานานเกินไปอาจถูกจับได้

กำลังคิดจะกลับไปซูซึ่งเย่ก็รู้สึกว่าถูกสายตาคู่หนึ่งที่เย็น ชากำลังจ้องมาที่นาง สายตาดวงนี้มันเป็นสายตาพิฆาต วิญญาณที่นางรู้สึกคุ้นเคยมา

“เจ้า?”

ซูมิ่งเย่เงยหน้าไปเห็นชายคนหนึ่งสวมชุดผ่าวสีขาว สวมหน้ากากขาวปิดบังใบหน้า แต่ว่าสายตาของเขากลับ ทำให้คนจำได้ไม่ลืม

เห็นเขายิ้ม รอยยิ้มนั้นมันมีเสน่ห์มาก “ที่แท้คุณหนูซูก็ ชอบถ้ำมองแบบนี้นี่เอง เหลือเชื่อจริง ๆ”

สายตาของเขามันเหมือนมีอะไรแฝงอยู่ ปลายตาและ รอยยิ้มของเขามันจับจ้องมาที่ตัวของซูมิ่งเย่ เหมือนกับว่าอยากให้คนตกอยู่ในภวังค์

ซูมิ่งเย่ตะลึง แล้วก็ได้สติกลับมา สายตาของนางมีแต่ ความเยาะเย้ย “เหมือนกันเลย เหมือนกันเลย”

หยู้ชิงหันรู้ว่านางหมายความยังไง เขาไม่โกรธแต่กลับ ยิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าพวกเขารู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือ ของคุณหนูมันจะเป็นยังไงนะ?”

สายตาของเขามันเพิ่มความท้าทายขึ้นมา ดูเหมือน ปีศาจร้ายตัวหนึ่ง

แต่มันก็เหมือนจะกระจายจนยากที่จะสัมผัส

เห็นนางไม่พูด หยู้ชิงหันก็นิ่งเขาไปอีก เหมือนอยากจะ หยั่งเชิงนางมากขึ้น

“ขอตัวก่อน” ซูมิ่งเย่ขมวดคิ้ว เดิมนางหลบดูละครฉาก เด็ดของคนอื่น แต่กลับถูกคนอื่นจับได้

อีกทั้งคนที่ระวังตัวมากอย่างนาง กลับไม่รู้สึกตัวเลยว่ามี คนมา

เขาเป็นคนที่อันตรายมากเกินไป สายตาของเขามัน ทำให้นางรู้สึกเสียวสันหลัง
นางไม่อยากมีปัญหา อีกทั้งยังรู้สึกว่ามีไม่ได้ด้วย ดังนั้น นางต้องเลี่ยงไปก่อน

ขณะที่นางกำลังเดินเฉียดไหล่ไป หยู้ชิงหันก็จับมือของ นางเอาไว้ ซูมิ่งเย่ตื่นตัวขึ้นมา กำหมัดแล้วก็ซัดออกไป ทันที

ความรวดเร็วที่ไปพร้อมกับความโกรธ

นางคิดว่าคงสามารถชกหญ้ชิงหันได้ มือใหญ่ ๆ มือหนึ่งก็ จับมาที่หมัดของนาง ความอบอุ่นมันสลายแรงของนางจน หมด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ