ฉันเป็นสายลับ ทำไมต้องเกิดใหม่

บทที่ 2 คุณหนูตระกูลซูหน้าโง่



บทที่ 2 คุณหนูตระกูลซูหน้าโง่

บทที่ 2 คุณหนูตระกูลซูหน้าโง่

อาหยิวไม่อยากเชื่อเลยว่ามือที่ถือมีดแทงหน้าอกตน กุม ไว้แน่น ถามเจ้าของมือว่า “อาเชี่ย เจ้า เพื่ออะไร…”

อาเซี่ยเหวี่ยงมือของอาหยิวออกโดยแรง หันหลังไม่มอง

นางอึก “เจ้ามีภารกิจของเจ้า ข้ามีภารกิจของข้า ขอโทษ

อาหยิว…

อาหยิวหงายหลังล้มลงกับพื้น ฟ้ามืดแล้ว บนท้องฟ้ามี ดารานับไม่ถ้วนกำลังส่องประกายกระพริบ กับประกาย ตาส่างไสวในดวงตาของอาหยิว ดูเหมือนจะหลอมรวม เป็นหนึ่ง อย่างเงียบ ๆ ส่องระยิบระยับ

ที่ถนนเมืองหลวง

ถนนเมืองหลวง ราชวงศ์วิ่งเย่ว

“คุณหนู! คุณหนูท่านช้าลงหน่อยเจ้าค่ะ!”

“ข้าไม่! ข้าจะไปตามหาพี่ห้าว!”

บนถนนเต็มไปด้วยผู้คนแออัดยัดเยียด รถม้าวิ่งกัน ขวักไขว่ ตู่จีสาวรับใช้ใบหน้างดงามสดใส ไล่กวดซูมื่งเย่ไปพลาง ตะโกนหอบแฮ่กแฮกไปพลาง ส่วนซูมิ่งเย่ ใต้เท้าดุจเกิดลมพัดมาแล้วปานนั้น ฝีเท้าสะดุดโงนเงน แต่กลับยกกระโปรงวิ่งเร็วมาก

ผมของนางยุ่งเหยิงเป็นกระเซิง ผมขมวดหลวม ๆ ปักไว้ ด้วยดอกไม้สีแดงขนาดใหญ่ดอกหนึ่ง ใบหน้าดวงน้อยใบ หนึ่งได้ทาแป้งสีแดงหนานหนึ่งไว้แล้ว กระทั่งสีผิวยังไม่ สามารถมองเห็นได้ เดิมรูปร่างระหงบอบบางกลับถูกเสื้อ คลุมกระโปรงตัวใหญ่กว้างสีเขียวมันเหลื่อมตัวหนึ่งคลุม ปิดเรือนร่างไว้แล้ว ยิ่งเสริมความงามที่ไม่ธรรมดาของ นางอย่างอดไว้ไม่ได้เท่านั้น

ถนนเต็มไปด้วยผู้คนไป ๆ มา ๆ หลังจากนั้นสักพักไม่ นาน ตู่จีก็ไล่ตามซูมิ่งเย่พลาดไปแล้ว นางมองไปทั่ว สารทิศรอบ ๆ กระทืบเท้าอย่างร้อนใจกล่าวต่อว่าตนเอง

ซูมิ่งเย่วิ่งตลอดทางเข้าไปในหรงหัวโหลวแล้ว ไม่สนใจ หายใจสักพักด้วย ก็ตะโกนเสียงสูงไปยังประตูใหญ่ กล่าวว่า “พี่ห้าว! พี่ห้าวเจ้าออกมา!

กล่าวไปก็บังเอิญ ไป๋หลี่ห้าวองค์ชายสี่เพิ่งดื่มสุรากับ ผู้คนเสร็จสิ้น กำลังเดินออกด้านนอก ดาหน้าก็เจอซูมิ่งเย่ ที่มาหาเขาแล้ว

เรื่องซูมิ่งเย่รักไป๋หลี่ห้าว ทุกคนรู้กันมานานแล้ว ถูกหญิง โง่งมในความรักคนหนึ่งเช่นนี้รักเข้า ทำให้ไป๋หลี่ห้าวอับอายขายหน้ามาก ตอนนี้เจอนาง เพียงเห็นสภาพ การแต่งหน้าที่ชั่วร้าย พฤติกรรมปล่อยตัว ความรังเกียจ ในใจยิ่งมากขึ้น

คิ้วที่สง่างามของเขาย่นขึ้นเล็กน้อย เพียงใช้หางตา เหลือบมองไปที่ซูมิ่งเย่คราหนึ่ง เบี่ยงตัวก็คิดจะอ้อมผ่าน นาง

ครั้งแรกที่ได้เห็นไป๋หลี่ห้าว ผมยาวของเขาถูกมัดไว้ ใส่ เสื้อคลุมสีขาวนวล มุมปากยักขึ้นรูปโค้งอย่างมีเสน่ห์ ยั่วยวนผู้คน ซูมิ่งเย่ยิ้มจนเห็นฟันแล้ววิ่งขึ้นคว้าแขนเสื้อ ของเขาไว้ ร้องตะโกนว่า “พี่ห้าว พี่ห้าว ทำไมเจ้าไม่สนใจ ข้า? ข้าคือเย่เอ๋อ!”

“ใครคือพี่ห้าวของเจ้า?” ไป๋หลี่ห้าวถูกนางจับไว้ทันที คิ้ว ย่นลายตัวอักษรชวนยิ่งย่น บล็ก เดิมคิดจะผลักนางออก ไป แต่มองไปรอบ ๆ สายตามากมายจ้องไว้ ไม่อยากเสีย มารยาทแล้ว ก็ฝืนอดทนไว้ กล่าวว่า “คุณหนูรีบปล่อยมือ ชายหญิงมิอาจแตะเนื้อต้องตัวกัน ท่านมิอาจทำเช่นนี้เด็ด ขาด”

ซูมิ่งเย่ไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่เพียงแต่ไม่ยอมปล่อย ยังเอา หน้าไปแนบบนแขนของเขา ทําปากเบ้สูง พึมพำกล่าวว่า “ข้าไม่ปล่อย! พี่ห้าวข้าจะแต่งงานกับเจ้า!”

ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นผู้หญิงบอกรักที่ถนน ต่างอดไม่ได้ต้องหยุดมองพวกเขา พลางสั่นศีรษะหัวเราะ พลาง ยื่นมือซ้ำ ๆ พวกเขา

ประกายตาของไป๋หลี่ห้าวมีสีหน้าอึดอัดแวบผ่านเข้ามา ทันที รีบสะบัดแขนของนาง กล่าวเสียงเย็นชา “คุณหนู โปรดถนอมตน!

กล่าวจบ เขาก็ยกขาจะเดินไป กลับถูกซูมิ่งเย่ร้องไห้ สะอึกสะอื้นกอดเอวด้านหลังไว้ “พี่ห้าว พี่ห้าว เจ้ามิอาจ ไม่ต้องการข้า!”

ผู้ชมรอบด้านยิ่งมายิ่งเพิ่มขึ้น ไป๋หลี่ห้าวสีหน้าเย็นยะ เยือกทันที ข้อศอกก็กระแทกใส่นางทันใด

นางถูกกระแทกจนหน้าอกเจ็บปวด แต่ยังคงกอดเขาไว้ แน่นไม่ปล่อย ในที่สุดเขาอดทนจนไม่รู้อดทนอย่างไร หัน หลังยกฝ่ามือซัดใส่นางอย่างแรงหนึ่งครั้ง ฝ่ามือนี้ถูกจุด สําคัญพอดี บังเอิญทำลายเส้นชีพจรหัวใจนางขาดสะบั้น ซูมิ่งเย่ในปากหวานคาวพักหนึ่ง ร่างปลิวขึ้นสู่อากาศ เหมือนว่าวสายป่านขาดบินออกไปแล้วปานนั้น ส่วนไป๋ หลี่ห้าวกลับหันหลังไปอย่างไม่สบอารมณ์ ไม่มองนางอีก สักครา

ร่างของซูมิ่งเย่ปลิวไปใส่มุมถนน บังเอิญชนเข้าไปใน อ้อมอกของคนคนหนึ่ง แล้วก็หมดสติไปแล้ว…
ความเจ็บปวดในหน้าอกดูเหมือนจะถูกมือยักษ์คู่หนึ่งฉีก เป็นชิ้น ๆ อย่างทารุณแล้วเช่นนั้น อาหยิวลืมตาขึ้นอย่าง ดุดัน สบเข้าไปในดวงตาที่ลึกล้ำอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มุม ดวงตานั้นดูเหมือนแฝงความอบอุ่นหลายส่วน แต่ความ หนาวเหน็บอันไม่มีที่สิ้นสุดในรูม่านตาดำนั้นทำให้ผู้คน สั่นเทิ้มโดยไม่ทันหนาว นางถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย ชั่วพริบ ตานี้ ทำให้นางคลับคล้ายคลับคลาราวกับใจสั่นนับหมื่นปี ทันทีชนิดหนึ่งแล้ว

แต่ว่าสัญชาติญาณหลายปีที่เดินท่ามกลางชีวิตและ ความตาย ทำให้นางเกิดความเป็นปรปักษ์อย่างแรงกล้า ต่อสายตาที่สบกระชากวิญญาณของผู้คนคู่นี้แล้ว

เกือบจะเป็นสัญชาติญาณ มือทั้งคู่ของอาหยิวกำไว้แน่น ก็โบกสะบัดพุ่งไปยังเจ้านายของดวงตานั้นอย่างดุเดือด

แต่หมัดยังไม่ทันถูกใส่บนร่างของคนคนนั้น พลังพิเศษ กระแสหนึ่งก็พุ่งกระแทกเข้าใส่หน้าอกของนาง อาหยิวรับ ความเจ็บปวดไม่ได้ร้องเสียงหนึ่งออกมาด้วยความตกใจ พลันร่างโค้งสายหนึ่งก็ปลิวออกไปแล้ว

เกือบจะตกถึงพื้นดิน นางพลิกร่างม้วนตัวหันไปด้าน ข้างอย่างหมดจดคราหนึ่ง เข่าข้างหนึ่งคุกลงบนพื้นอย่าง ปลอดภัย กวาดสายตาสวยงามมองไปยังคนนั้น
ศีรษะ …มึนดี ประกายตาอาหยิวมีร่องรอยของความ สับสนกระแสหนึ่งลื่นผ่านไป คนตรงหน้าจู่ ๆ ก็ไม่สามารถ เห็นลักษณะได้ชัดเจนแล้ว

ซูมิ่งเย่ซื่อบื้อ ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้กันทั้งหมด แต่ แววตาเมื่อครู่ที่นางมองเขา เห็นได้ชัดว่าคมชัดทั้งดุดัน เย็นชา ราวกับสระลึกพันฟุต ทำให้จิตใจผู้คนหนาวเย็น แต่อดไม่ได้คิดยิ่งอยากเข้าไปสำรวจให้ลึกมากขึ้น

นี่ไหนเลยเป็นแววตาที่คนโง่งมผู้หนึ่งสามารถมีได้?

ดวงตาอันลึกซึ้งที่สุดไป๋หลี่เชิงคู่นั้นมีแววสนุกสนานกระ พริบผ่านไปจาง ๆ แต่เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ หญิงสาวที่ถูก เขาโจมตีจนล้มลงกลับลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ลอบจู่โจมใส่ เขาเหมือนสายฟ้าสายหนึ่งฟาดมาอีกครั้ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ