บทที่ 14 สิ่งที่เธอต้องอดทน
คณบดีตัวสั่นงกๆ
“คุณเทรมอนต์ครับ… มันเป็นเพียงแค่ครั้งครั้งเดียวครับ ติวเตอร์คนนั้นเป็นลูกจ้างชั่วคราว ผมจะบอกให้เธอออกไป ครับ!”
มาร์ค เทรมอนต์ ไม่พูดอะไร มีเพียงเปลวไฟที่สะท้อนออกมา จากความโกรธ ในแววตาของเขาในตอนนี้
ทิฟฟานี่ยอกย้อน “ลูกจ้างชั่วคราว? แหงล่ะ คณบดีถึงกับพูดไม่ออก “คุณเลน อย่ายุ่งดีกว่าครับ คุณเป็น นักเรียนที่ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับกิจการของมหาวิทยาลัย
ทิฟฟานี่ขมวดคิ้ว เมื่อเธอกำลังจะโต้กลับ แล้วคุณหมอก็เดิน ออกมา
“ครอบครัวของผู้ป่วย
“ฉัน” “ผม” ทิฟฟานี่ เลน และมาร์ค เทรมอนต์ ตอบพร้อมกัน
ทิฟฟานี่ค่อนข้างประหลาดใจกับน้ำเสียงของมาร์ค เทรมอนต์ สําหรับเรื่องนี้เธอถือว่าเป็นบทบาทของครอบครัว เนื่องจากเธอ ไม่สามารถติดต่อกับคนที่แอเรียนเรียกว่าพี่ชายได้ แล้วมาร์คเทรมอนต์รู้อะไร?
เป็นเหตุผลที่ดีที่แพทย์เลือกมาร์ค เทรมอนต์ ซึ่งดูน่าเชื่อถือกว่า เพื่อจะอธิบายสถานการณ์ “คนไข้ไม่เป็นอะไรครับ เธอเป็นโรค กระเพาะ คนไข้อายุยังน้อยแต่สุขภาพไม่ค่อยจะดี ดูว่าเธอทาน อะไรและให้เธอทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น คนไข้สามารถออกไปได้หลังจากการให้วิตามินเสร็จครับ
มาร์ค เทรมอนต์ ตอบด้วยเสียงในลำคอเบาๆแล้วเดินเข้าไปที่
ห้องฉุกเฉิน
แอเรียน วินน์ ยังคงไม่ได้สติและนอนผมยาวรุงรังอยู่บนเตียง ของเหลวเย็นๆถูกฉีกเข้าไปในร่างกายของเธอผ่านท่อบางๆ เส้นเลือดบนมือของเธอเห็นได้จากผิวที่ขาวซีดของเธอ มาร์ค เทรมอนต์ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กันที่เธอทำให้ตัวเองตกอยู่ในสภาพ แบบนี้…
ทิฟฟานี่ เลน ก้าวไปข้างหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “แอริ ไม่มีพ่อแม่ แต่มีพี่ชายนอกสายเลือด พี่ชายของเธอไม่ได้ สนใจเธอเลย เธอกินขนมปังเย็น ๆ กับน้ำเปล่าเย็น ๆ ในฤดู หนาว แล้วเธอจะไม่เป็นโรคกระเพาะได้อย่างไรกัน
สิ่งที่ทิฟฟานี่ไม่ทันได้สังเกตคือมาร์ค เทรมอนต์ นั้นดูเคร่งขรึม ขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่แววตาของเขาเคบีอบด้วยอารมณ์ที่ซับ
ซ้อนเธอกล่าวต่อไปว่า “พี่ชายของเขาดูเหมือนจะกลับมาเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากเธอต้องกลับบ้านตรงเวลาทุกวัน ฉันไม่สามารถพา เธอไปกินอาหารดี ๆ ได้เลย นั่นบ้ารึเปล่า?”
“มันบ้ามาก” มาร์ค เทรมอนต์ ตอบด้วยน้ำเสียงอันล้อเลียน “แล้วมีอะไรอีกล่ะ?”
ทิฟฟานี่ เลน เปิดการสนทนา “ฉันรู้จักเธอมาตั้งแต่สมัยมัธยม ปลาย ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา ฉันไม่เคยเห็นเธอซื้อ เสื้อผ้าใหม่เหมือนคนทั่วไป ราวอย่างกับว่าเธอมาจากในสลัม เธอทํางานพาร์ทไทม์ตั้งแต่สมัยมัธยมต้น ทำงานเล็ก ๆ น้อยทุก ประเภทไม่ว่าอะไร ตั้งแต่แจกใบปลิวไปทุกที่ในฤดูร้อนที่ อบอ้าว ไปยันล้างจานในร้านอาหารในฤดูหนาว… ใจของฉัน เจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้
“ก็ดี ที่พี่ชายของเธอไม่เป็นห่วงเธอ แถมยังสั่งห้ามไม่ให้คนอื่น แสดงความสงสารต่อเธอ ตอนนี้เธอไม่สามารถทำงานได้แล้ว ชีวิตของเธอคงน่าอนาถแน่นอน มันทำให้ฉันโกรธเมื่อใด ก็ตามที่ฉันนึกถึงมัน เธอปั่นจักรยานไปกลับจากมหาวิทยาลัย ในฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ มือของเธอที่มีไว้เพื่อวาดรูปนั้นเย็น และแตกกร้าน
มาร์ค เทรมอนต์ สูดหายใจเข้าอย่างเบาๆ บางอย่างไหลเข้ามา
ในดวงตาของเขาอย่างคลุมเครือ
“ขอบคุณที่ดูแลเธอทิฟฟานี่อึดอัดและค่อนข้างไม่สบายใจ “เธอเป็นเพื่อนเพียงคน เดียวของฉันดังนั้นมันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว ฉันหวังให้พี่ ชายของเธอจะดูแลเธอดีขึ้นกว่านี้ แม้ว่าเขาจะทำไม่ได้ เขาก็ไม่ ควรสั่งห้ามไม่ให้คนอื่นทำตัวไม่ดีกับเธอไปด้วย ไม่อย่างนั้น เขาก็เป็นแค่ไอ้คนห่วยแตก ถ้าได้เจอเขาสักครั้งจะต่อยเข้าหน้า หนัก ๆ สักหมัด!
ดูจากบทสนทนาที่พูดพล่อยไปเรื่อยเหมือนจะไม่จบสักที คณบดีลากทิฟฟานี่ออกมาเพราะเกรงว่าเธอจะพูดอะไรที่ไม่ ควรออกไป “ไปกันเถอะ คุณเทรมอนต์ยังคงอยู่ที่นี่ พวกเราไม่ ต้องกังวลแล้ว คุณเทรมอนต์ผู้มีความสามารถอย่างเขาจะ ติดต่อครอบครัวคุณวินน์และจัดการเรื่องนี้อย่างแน่นอน อย่า รบกวนเวลาพักผ่อนของคุณวินน์เลย ฉันจ่ายค่ายา ในนามของ มหาวิทยาลัยแล้ว
มาร์ค เทรมอนต์เงียบและหันไปมองแอเรียน วินน์ เมื่อพวกเขา จากไป เขาจับมือที่เย็นและแตกกร้านนี้พร้อมกับจ้องมองเธอ ด้วยท่าทีไร้เรี่ยวแรงอะไรเช่นนี้
“ทำไมคุณไม่บอกผม? ทำไมคุณถึงใช้ชีวิตอย่างน่าเวทนาต่อ หน้าคนอื่น เธอเป็นอะไร… ดื้อรั้นงั้นหรอ?
แอเรียนไม่รู้ว่าตัวเองหมดสติไปนานแค่ไหนจนกระทั่งเธอได้ยิน เสียงกระซิบเหล่านั้นอย่างมึนงง เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาก็พบกับ สายตาอันร้อนรุ่ม
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ