ร้ายพ่ายรัก

บทที่11 เริ่มงานใหม่



บทที่11 เริ่มงานใหม่

หลายวันต่อมา

มินกับมะลิเดินไปที่บ้านหลังเล็กโดยในมือของกระเป๋า เสื้อผ้าหนึ่งใบ ทั้งคู่ไปยืนอยู่ข้างๆ วีลแชร์ของภาคน ที่กำลังนั่ง มองเหม่อลอยไปข้างหน้าอยู่ตรงริมสระบัว ด้วยสายตาอันแสน เศร้า

“พี่คินค่ะ น้องพาพยาบาลคนใหม่มาแล้วค่ะ”

“สวัสดีค่ะ พี่คิน” พนมมือไหว้พร้อมส่งยิ้มให้

ภาคินหันไปมองตามเสียงที่คุ้นๆแล้วก็ต้องชะงักไปชั่วครู่หนึ่ง เขาไม่คิดเลยว่ามินจะพามะลิมาเป็นพยาบาลและยาของหน้า มะลิแวบหนึ่งแล้วหันกลับไปทางเดิมไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ เหมือนมะลิไม่มีตัวตนยืนอยู่ตรงนั้นเลย

“พี่คินค่ะ จะไม่ทักทายมะลิซักหน่อยเหรอคะ”

“ไม่เป็นไรมิน ไม่ต้องหรอก

ก็ได้ งั้นไปดูห้องกันเถอะ

มะลิเดินตามหลังมินเข้าในห้องนอนที่เธอต้องอยู่หลับนอนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป วางกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองลงบนโต๊ะ จากนั้นก็ หยิบสมุดกับปากกาขึ้นมา

“มินพี่คนชอบหรือไม่ชอบอะไรบ้าง บอกฉันหน่อยสิ”

“แม้มาถึงก็ทำงานเลยนะ

“จ้ะ ฉันไม่อยากเสียเวลา อีกอย่างต้องทำให้พี่คินยอมทำ กายภาพก่อนปล่อยไว้นานไม่ดีแน่”

“เตรียมจดเลยนะ ฉันจะบอกอย่างละเอียดเลยแหละ” พูดจบก็ บอกสิ่งต่างๆที่ภาคินชอบกับไม่ชอบให้มะลิฟังอย่างละเอียด

“ขอบใจนะที่บอกจะได้ทำงานได้สะดวกมากขึ้น”

“จ้ะ งั้นฉันกลับไปที่ร้านกาแฟก่อน สู้ๆนะ ฉันเชื่อว่าเธอจะต้อง ทำได้” มินเข้าไปสวมกอดมะลิเป็นกำลังใจให้

“ขอบใจนะ ที่เชื่อมั่นในตัวฉัน”

“จ๊ะ ไปก่อนนะ” มินเดินออกไปจากบ้านทันที

หลังจากที่มินบอกเรื่องต่างๆเกี่ยวกับตัวภาคินแล้ว มะลิจึงเข้าใน ห้องของภาคินเพื่อดูข้าวของที่จะตกแตกได้ เพื่อที่จะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป วางกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองลงบนโต๊ะ จากนั้นก็ หยิบสมุดกับปากกาขึ้นมา

“มินพี่คนชอบหรือไม่ชอบอะไรบ้าง บอกฉันหน่อยสิ”

“แม้มาถึงก็ทำงานเลยนะ

“จ้ะ ฉันไม่อยากเสียเวลา อีกอย่างต้องทำให้พี่คินยอมทำ กายภาพก่อนปล่อยไว้นานไม่ดีแน่”

“เตรียมจดเลยนะ ฉันจะบอกอย่างละเอียดเลยแหละ” พูดจบก็ บอกสิ่งต่างๆที่ภาคินชอบกับไม่ชอบให้มะลิฟังอย่างละเอียด

“ขอบใจนะที่บอกจะได้ทำงานได้สะดวกมากขึ้น”

“จ้ะ งั้นฉันกลับไปที่ร้านกาแฟก่อน สู้ๆนะ ฉันเชื่อว่าเธอจะต้อง ทำได้” มินเข้าไปสวมกอดมะลิเป็นกำลังใจให้

“ขอบใจนะ ที่เชื่อมั่นในตัวฉัน”

“จ๊ะ ไปก่อนนะ” มินเดินออกไปจากบ้านทันที

หลังจากที่มินบอกเรื่องต่างๆเกี่ยวกับตัวภาคินแล้ว มะลิจึงเข้าใน ห้องของภาคินเพื่อดูข้าวของที่จะตกแตกได้ เพื่อที่จะได้เอาไปเก็บไว้ที่อื่นแทน เพราะภาคินชอบทำลายสิ่งของถ้า อารมณ์เสียขึ้นมา มะลิเก็บแจกันดอกไม้และแก้วน้ำออกมาจาก ห้องของภาคิน กำลังจัดของต่างๆ ให้เป็นระเบียบมากขึ้นเพื่อที่ จะใช้งานได้ง่ายขึ้นเวลาจะหยิบจับ ตาก็เหลือบไปเห็นการ์ดที่ เธอเขียนให้ภาคินอยู่ตรงหัวเตียงเขา จึงเดินไปหยิบขึ้นมาอ่าน ข้อความที่ตัวเองเขียนให้ภาคินแล้วยิ้มกว้าง เขาคงอ่านข้อความ แล้วพิมพ์คิดในใจ

ภาคินเข้ามาข้างในห้องพอดี มะลิจึงวางการ์ดลงไว้ที่เดิมทันที แล้วหันไปทางภาคิน เพื่อที่จะพูดคุยทำความสนิทกันให้มากขึ้น มะลิมองดูนาฬิกาที่ข้อมือเพื่อดูเวลาตอนนี้กำลังสิบโมงเช้าอยู่

“พี่คินทำกายภาพกันดีไหมคะ”

“ไม่ ฉันไม่ทํา”

“ก็ได้ค่ะ ไม่ทำก็ไม่ทำ”

“แล้วอยากทำอะไรไหมคะ”

“ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นแหละ ฉันอยากอยู่คนเดียว”

“ได้ค่ะ เดี๋ยวมะลิมานะคะ” พูดจบก็เดินตัวปลิวออกไปจากห้อง

มะลิเดินตรงไปยังห้องครัวของบ้านใหญ่ เพื่อหาของว่างให้ภาค นทานเจอป้าซุ่มอยู่ในครัวพอดี

“ป๋าค่ะ หนูขอทำของว่างให้พี่คนหน่อยได้ไหมคะ

“ได้สิคะ เต็มที่เลยค่ะ ป้าออกไปข้างนอกดีกว่าจะได้สะดวกขึ้น

“ขอบคุณค่ะ” พูดจบก็เดินไปเปิดตู้เย็นเจอแอปเปิ้ลกับแตงโม มะลิจึงเก็บออกมาทันที

มะลิลงมือทำเองทั้งผ่าทั้งปอกพอให้ได้หนึ่งจานรวมกันทั้งสอง อย่าง พอหั่นทั้งสองอย่างลงจานแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนสำคัญ มะลิ หยิบแตงโมหนึ่งชิ้นขึ้นมาใช้ปลายมีดค่อยๆ กรีดลงไปตรงเนื้อ แตงโมจนเกิดเป็นลวดลายขึ้นมา ทำชิ้นแล้วชิ้นเล่าจนเต็มจําน จากนั้นก็จัดแจงให้สวยงาม ป้าชุ่มกับอัมพรเดินเข้ามาเห็นพอดีก็ พากันยิ้มกว้าง

แม้สวยขนาดนี้คุณค้นคงไม่กล้ากินแล้วแหละค่ะ”ป้าซุ่มเอ่ยขึ้น

“ป้าก็อย่างนั้นแหละ เพิ่งจะรู้นะว่าหนูเป็นงานแกะสลักด้วย”อัมพรส่งยิ้มให้

“ก็พอได้ค่ะ หนูขอตัวก่อนนะคะ”

“จ๊ะ ไปเถอะ”

มะลิถือจานผลไม้เดินออกจากห้องครัว ตรงไปยังบ้านหลังเล็ก เดินตามหาภาคินจนทั่วบ้านแต่ก็ไม่เจอ จึงออกไปตรงริมสระบัว เห็นภาคินนั่งเหม่อลอยอยู่คนเดียว

“พี่คินทานผลไม้หน่อยนะคะ มะลิตั้งใจปอกให้พี่โดยเฉพาะเลย”

มะลิวางจานลงบนโต๊ะข้างๆตัวภาคินแล้วกลับเข้าในบ้านรินน้ำ

ดื่มใส่แก้วเอาไปวางบนโต๊ะข้างๆ จานผลไม้

“ทานให้อร่อยนะคะ “เดินเข้าไปในบ้าน

ภาคินเอาแต่นั่งเงียบหันไปมองจานผลไม้ แล้วก็ต้องสะดุดตา กับลายต่างๆ บนผลไม้ที่มีทั้งลายดอกไม้และรูปหัวใจเต็มจานไป หมดจนไม่กล้าที่จะยื่นมือไปหยิบขึ้นมาทาน

มะลิเดินกลับเข้าไปในบ้านหยิบสมุดเล่มเปล่าออกมาหนึ่งเล่ม พร้อมกับดินสอสีต่างๆ จากนั้นก็ลงมือวาดรูปหัวใจดวง
ใหญ่หนึ่งดวงพร้อมกับแต้มระบายสีในหน้าแรกของสมุด และ หน้าถัดไปวาดเป็นตัวการ์ตูนต่างๆตรงริมกระดาษทุกหน้าในเล่ม พอเสร็จก็ออกไปหาภาคินตรงริมสระบัว

“พี่คิน นี้ค่ะสมุดเอาไว้เขียนระบาย พี่คนอยากจะเขียนอะไรลงไป ก็เขียนไปเลยนะคะ” วางสมุดกับปากกาลงบนตักของภาคิน

“สวนผลไม้ทานด้วยนะคะ เดี๋ยวคนทําให้น้อยใจ

มะลิออกไปจากตรงที่ภาคินอยู่แล้วแอบมองดูอยู่ห่างๆ เพื่อดู ปฏิกริยาของภาคินว่าจะรับในสิ่งที่เธอทําให้ไหม ถึงภาคินจะไม่ อยากจะคุยกับเธอแต่อย่างน้อยก็ขอให้ภาคินรับในสิ่งที่เธอทำให้ บ้างก็ยังดี

ภาคินเปิดสมุดหน้าแรกออกก็เจอภาพวาดรูปหัวใจดวงใหญ่ พร้อมกับข้อความที่เขียนอยู่ตรงกลางรูปหัวใจ สู้ต่อไปนะคะ อย่า พิ่งท้อ มะลิเป็นกำลังใจให้พี่เสมอค่ะ พออ่านข้อความเสร็จก็ปิด สมุดลง จากนั้นก็ใช้ช้อนซ้อมจิ้มผลไม้ชิ้นแรกขึ้นมาเข้าปาก มะลิ ที่แอบมองดูอยู่ก็ยิ้มออกมาแก้มแทบปริดีใจที่ภาคินสนใจสิ่งที่เธอ ทําให้ หลังจากที่ทานผลไม้นําแรกก็ก้มหน้าลงไปเขียนอะไรบาง อย่างในสมุดเขียนเสร็จก็วางสมุดลงบนโต๊ะแล้วเคลื่อนวีลแชร์ เข้าบ้านไป

มะลิออกจากที่ซ่อนตรงไปยังสมุดเล่มนั้น หยิบขึ้นมาเปิดอ่านอย่างว่องไว พออ่านข้อความในสมุดแล้วก็ต้องตกใจ เธอไม่ คิดว่าภาคินจะเขียนมันลงไปในสมุดที่เธอให้ข้อความฉันอยาก ตาย มันบ่งบอกถึงสภาพจิตใจของภาคินที่ไม่ปกติและหมดกำลัง ใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป

“โธ่ พี่คินมะลิจะช่วยพี่ยังไงดี แม้แต่พูดกับมะลิสักคำพี่ยังไม่ อยากจะพูดเลย”

มะลินั่งลงมองข้อความในสมุดและจานผลไม้ที่ไม่พร่องลงเลย สักนิด ไม่ว่าจะยังไงเธอจะต้องช่วยภาคินให้ได้ ในเมื่อเธอตัดสิน ใจจะช่วยตั้งแต่แรกแล้ว ถึงจะยากขนาดไหน เธอจะต้องทำให้ได้ แม้จะต้องใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม

มะลิเดินเข้าในห้องเห็นภาคินจะเข้าไปในห้องน้ำก็รีบเข้าไปช่วย

ประคองทันที

“พี่คินอยากจะได้อะไร อยากจะทำอะไรบอกมะลิได้เลยนะคะ ไม่ ต้องเกรงใจ ” ประคองภาคินไปนั่งบนชักโครก

“มะลิถอดให้ดีกว่า” ยื่นไปจะถอดกางเกงให้ภาคิน

“นี้เธอ!” เอ่ยเสียงดุ

“งั้นมะลิไปรอข้างนอกก็ได้ค่ะ เสร็จแล้วเรียกด้วยนะคะ เดินออกไปแล้วปิดประตูลง

หลังจากภาคินเสร็จธุระส่วนตัวแล้วมะลิก็เข้าไปช่วยพยุงภาคิน นบนวีลแชร์ พร้อมกับเข็นภาคินออกมาจากห้องน้ำ มองดูนาฬิกา ที่ข้อมือเที่ยงพอดี

“พี่คินไปทานข้าวเที่ยงกันเถอะค่ะ” จับจะเข็นวีลแชร์ให้ แต่ภาคิน เคลื่อนไปข้างหน้าก่อน

มะลิเดินตามหลังภาคินไปติดๆ จนไปถึงข้างในห้องรับประทาน อาหาร อัมพรกับสุวัตรนั่งรออยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับส่งยิ้มให้ทั้งคู่

“นั่งลงเลยจ้ะ หนูมะลิ”อัมพรเอ่ยขึ้น

“ค่ะ”

“ทานเยอะๆเลยนะ จะได้มีแรงดูแลพี่คินเขา” อัมพรตักกับข้าวใส่

จานให้มะลิ

“ขอบคุณค่ะ”

“แล้วคินล่ะ ได้ทำกายภาพหรือยังวันนี้”สุวัตรถามขึ้น
“หลังทานข้าวเสร็จ พี่คินจะให้มะลิทำให้ค่ะ” มะลิเห็นสีหน้าภาคิ นเหมือนไม่พอใจก็เลยชิงพูดขึ้นก่อน

“ดีแล้วล่ะ นึกว่าจะไม่ยอมทำอีกแล้ว”

“พี่คินก็ทานเยอะๆ นะคะ” มะลิกกับข้าวใส่จานให้ภาคินพร้อม กับส่งยิ้มให้

ภาคินนั่งทานไปเงียบๆ จนมะลิหันไปเห็นเศษอาหารติดปาก เธอ จึงยื่นมือไปหยิบกระดาษทิชชู ไปเช็ดปากให้ภาคิน อัมพรกับสุ วัตรเห็นก็พากันยิ้มกว้าง ส่วนภาคินก็ชะงักไปชั่วครู่ที่อยู่ๆมะลิก็ เช็ดปากให้เขา แต่ก็ยังทำหน้านิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไร

“คินลูกรู้ไหม หนูมะลิยอมลาออกจากงานมาเพื่อดูแลลูกเลยรู้ ไหม อย่าไปไล่เขาล่ะ” อัมพรเอ่ยขึ้น

ภาคินได้ยินอย่างนั้นก็อึ้งไปไม่คิดว่ามะลิจะยอมทิ้งงานเพื่อมา ดูแลตัวเขาถึงที่บ้าน

“ให้ความร่วมมือกับหนูมะลิด้วยนะลูก อย่าใช้แต่อารมณ์รู้ไหม”

“ครับ”
หลังมื้ออาหารพิมพ์เดินตามภาคนที่เคลื่อนไปข้างหน้าไปจนถึง บ้านหลังเล็ก แล้วเข้าไปในห้องมะลจึงตามภาคนเข้าไป

“พี่คนค่ะ ทำกายภาพกันเถอะ

“ฉันไม่ทำ

“ทำไมถึงไม่อยากทำคะ บอกมะลิหน่อยได้ไหม

“ไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น ออกไปน่ารำคาญ

“มะลิเข้าใจนะคะว่าพี่เสียใจกับสิ่งที่ที่ต้องเจอ แต่มันก็ไม่จำเป็น ที่พี่จะต้องอยู่กับความทุกข์ไปตลอดมะลิอยากให้พี่เปิดใจรับ ความหวังดีของคนอื่นบ้าง อย่างน้อยๆ ก็เพื่อตัวพี่เอง

“ไม่ต้องมาสอบฉัน เธอเป็นเด็กจะรู้อะไร

“มะลิยอมรับค่ะว่าตัวเองเป็นเด็ก แต่ขอร้องเถอะค่ะ ให้มะลิได้ทำ หน้าที่ของตัวเองบ้าง

“ถ้าทนไม่ได้ก็กลับไป
“กลับก็ได้ค่ะ แต่ต้องทำให้พี่เดินได้ก่อนมะลิถึงจะยอมกลับ

ภาคินได้ยินอย่างนั้นก็นิ่งไป ไม่คิดว่ามะลิจะมีความตั้งใจจริง ขนาดที่จะช่วยทําให้เขากลับมาเดินได้อีกครั้ง

“ถ้าเกิดว่าพี่ยอมทำกายภาพแล้วกลับมาเดินได้อีกครั้ง พี่ไม่ เสียดายเวลาที่ปล่อยไปเปล่าประโยชน์เหรอคะ แทนที่จะกลับมา เดินได้เร็วขึ้น”

“เธอพูดเหมือนจะทำให้ฉันเดินได้อย่างนั้นแหละ ไม่มีทาง

“ก็ไม่แน่นะคะ มะลิอาจจะทำได้ก็ได้ แต่ถ้าพี่ไม่อยากทำก็ไม่ เป็นไรค่ะ เดินจะออกจากห้องไป

“เดี๋ยวก่อน ทำก็ได้”

“จะทำจริงๆ เหรอคะ มะลิหูฝาดไปหรือเปล่า”

“เธออย่ามาเล่นลิ้นกับฉันหรือจะให้ฉันเปลี่ยนใจ

“มะลิล้อเล่น มาค่ะ มะลิช่วย” เดินเข้าไปพยุงตัวภาคินขึ้นไปนั่ง บนเตียง

มะลิจัดท่าทางให้ภาคินนั่งอยู่เคียงแล้ว จากนั้นก็ลงไปนั่งกับพื้นห้อง ลงมือนวดขาเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อขาทั้งสองข้าง ให้ภาคินประมาณครึ่งชั่วโมง ระหว่างที่นวดมะลิก็ถามความรู้สึก ตรงขาว่าภาคินรู้สึกอะไรไหม ภาคินก็ตอบไปตามตรงว่าไม่รู้สึก อะไรเลย แอบลอบมองหน้ามะลิที่เอาแต่ก้มหน้าผ่อนคลายกล้าม เนื้อขาให้เขา

“มาค่ะเปลี่ยนท่าบ้าง” จัดหมอนซ้อนกันสองใบ จากนั้นก็จับตัว ภาคินให้นอนลงพิงหมอนตรงหัวเตียง

“นี้เธอจะปล้ำฉันเหรอ” ภาคินมองหน้ามะลิที่โน้มลงมาใกล้หน้า ของเขา

“เปล่าค่ะ แค่จะจัดท่าให้พี่นอนสบายขึ้น

พอจัดท่านอนเสร็จมะลิก็เดินไปตรงปลายเตียงยกบริหารขาทั้ง สองข้างเป็นชั่วโมงเพื่อให้กล้ามเนื้อมีการยืดหยุ่นและแข็งแรง มากขึ้น ระหว่างที่มะลิทำกายภาพไป ภาคินก็เอาแต่มองหน้ามะลิ ไม่วางตา

ตอนเย็นมินกลับมาจากร้านกาแฟก็ตรงไปที่บ้านหลังเล็กเลย เดินเข้าในห้องภาคินเห็นประตูห้องน้ำเปิดอยู่ จึงเดินเข้าไปดูก็เจอ มะลิกำลังสระผมให้ภาคินอยู่ ก็ยิ้มกว้างออกมาจนหน้าบาน

“เป็นยังไงบ้างคะ พี่คินฟินไหม มีคนสระผมให้” มินเอ่ยแซวขึ้น

” ภาคินนั่งนิ่งเงียบ

“แล้วมะลิล่ะ เป็นยังไงบ้าง คนไข้ดื้อไหม”

“ก็ดื้ออยู่นะ แต่คงน้อยลงแล้วมั้ง”มะลิส่งยิ้มให้มินมือก็สระผมให้ ภาคินไป

“จ้ะ ดีแล้วแหละ ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ น้องไปก่อนนะพี่คิน” ส่งยิ้มให้คนทั้งคู่แล้วเดินออกไปทันที

หลังมื้ออาหารเย็นมะลิก็ไปช่วยภาคินทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ จาก นั้นก็ตรงไปยังห้องของตัวเอง หยิบเอาหมอนกับผ้าห่มออกมา จากห้องไปวางตรงโซฟากลางบ้าน เพราะเวลาภาคินมีอะไรให้ ช่วยกลางดึกจะช่วยได้เร็วขึ้น มะลิเดินเข้าไปในห้องเห็นภาคินนั่ง จ้องจอโทรศัพท์อยู่ จึงเดินเข้าไปใกล้ๆ

“พี่คินอยากจะเข้านอนเลยไหมคะ”

“อืม”

มะลิช่วยพยุงตัวภาคินไปนอนลงบนเตียงพร้อมกับห่มผ้าให้ จัดแจงท่านอนให้และถือโอกาสบริหารกล้ามเนื้อขาให้อีกขา
ละยี่สิบครั้งก่อนจะนอน

“ฝันดีนะคะ พี่คน เดินไปปิดไฟในห้องจนมืดสนิทแล้วปิดประตู

ภาคนพยายามข่มตาให้หลับลง แต่ก็อดนึกถึงเรื่องเมื่อตอน เย็นไม่ได้ที่มะลิ อาบน้ำสระผมให้เขายังไม่พอยังจะสามาร ในให้เขาอีก ถ้าเขาไม่ห้ามไว้เธอคงจะใส่ให้เขาไปแล้วหน้าตา เฉย พูดมาได้ว่าเคยเห็นของคนไข้ทุกคนแล้ว สลัดหัวเขาแล้ว หลับตาลง

ส่วนมะลิก็นอนห่มผ้าหลับตาอยู่ตรงโซฟา แต่ในหัวก็คิดถึงเรื่อง ภาคิน เธอแอบแปลกใจเล็กน้อยที่ภาคินยอมให้เธอทำกายภาพ ให้ ทั้งที่เธอเพิ่งมาทำงานวันแรกเอง ท่าทางภาคนเหมือนจะซื้อ มากเหมือนจะไม่ยอมง่ายๆ แต่กลับยอม ถ้าเกิดมีอะไรมากระตุ้ นอารมณ์ให้โกรธก็ไม่แน่อาจจะเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยก็ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ