ร้ายพ่ายรัก

บทที่15 เปิดทางรัก



บทที่15 เปิดทางรัก

วันต่อมา

มะลิตื่นแต่เช้าเข้าไปในห้องภาคินเพื่อเตรียมของใช้ต่างๆ เหมือนทุกวัน ส่วนภาคินยังนอนหลับอยู่บนเตียง มะลิจึงเดิน เข้าไปดึงผ้าห่มขึ้นปิดอกของภาคินให้ ยังไม่ทันชักมือกลับภาคิ นก็ลืมตาตื่นขึ้น พร้อมกับจับมือของเธอไว้ก่อน

“พี่คินตื่นแล้วเหรอ มะลิทำให้พี่ตื่นหรือเปล่า”

“เปล่า พยุงฉันไปเข้าห้องน้ำหน่อย”

“ค่ะ” มะลิเข้าไปจับพยุงตัวภาคินลุกขึ้นนั่งลงบนวีลแชร์เข็นตรง เข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นก็อาบน้ำแต่งตัวให้ใหม่

พอเสร็จมะลิจึงนั่งลงกับพื้นใช้มือจับบริหารกล้ามเนื้อขาให้ภาคิ นไปเบาๆ ส่วนภาคินก็ก้มมองดูขาตัวเองที่ขยับไปมาจากฝีมือของ มะลิ แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลยเหมือนไม่มีขายังไงอย่างงั้น

“รู้สึกอะไรไหมคะ” เงยหน้าขึ้นถามภาคิน

“ไม่ ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย” ภาคินส่ายหน้าเบาๆ
“มะลิจะทำให้ขาของพี่คินกลับมาขยับให้ได้คอยดูเถอะ” ส่งยิ้ม

ให้ภาคิน

แล้วฉันคอยดู” ”

“อย่าดูอย่างเดียวนะคะ ให้ความร่วมมือด้วย”

“นี้กวนประสาทฉันเหรอ”

“เปล่าค่ะ มะลิพูดจริงๆ” เอ่ยยิ้มๆ

“ฉันขอโทษก็แล้วกัน ที่ฉันโมโหเอาข้าวต้มหกใส่เธอเมื่อวัน ก่อน”

“อะไรนะคะ มะลิไม่ได้ยินเลย หูต้องฝาดไปแน่ๆ

“นี้เธออยากจะโดนฉันจูบอีกใช่ไหม” ภาคินเอ่ยเสียงดุ

“มะลิล้อเล่นค่ะ มะลิไม่โกรธพี่หรอก”

“ไม่โกรธก็ดี”

“พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกันค่ะ เดี๋ยวค่อยมาทำต่อ” ลุกขึ้นจากพื้นภาคินจึงคว้าแขนมะลิดึงไปนั่งลงบนตักของตัวเอง

“พี่คินจะทําอะไรคะ!”มะล็ถามด้วยความตกใจที่อยู่ ภาคินก็ดีง เธอไปนั่งลงบนตักเขา

“ก็จูบเธอยังไงล่ะ” ยื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้ามะลิ

“พี่คิน อย่าค่ะ” ใช้มือดันหน้าภาคินไว้

“ทําไมล่ะ เมื่อคืนฉันยังทำได้เลย”

“แล้วทําไมพี่คินถึงอยากจะทำแบบนั้นล่ะคะ” ก้มหน้าลงไม่กล้า สบตากับภาคิน

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” เชยคางมะลิขึ้นให้มองสบตากันกับเขา แล้วประกบจูบริมฝีปากทันที

“อื้อ” มะลิได้แต่เปล่งเสียงอยู่ในลำคอเท่านั้น

ภาคินจูบดูดเม้มริมฝีปากของมะลิอย่างนุ่มนวลอ่อนโยนพร้อม กับใช้ลิ้นซอกซอนเข้าในโพรงปากเพื่อควานหาน้ำหวานอย่างหิว กระหายและใช้ลิ้นตวัดเกี่ยวพันหยอกล้อกันไปมาจนพอใจแล้ว ถอนริมฝีปากออก เพราะเห็นว่ามะลิหายใจไม่ทัน
พอมะลิเป็นอิสระก็รีบลุกขึ้นจากตักของภาคินทันที ด้วยความ เขินอายที่ปล่อยให้ภาคินจูบเธอแต่ตัวเองกลับนั่งนิ่งให้ภาคินได้ ตามใจชะงั้น

“เราไปข้างนอกกันเถอะค่ะ” อ้อมไปด้านหลังเป็นภาคินออกจาก ห้องไป

ทั้งคู่พากันตรงไปยังบ้านใหญ่เพื่อร่วมโต๊ะทานมื้อเช้ากัน ทุกคน มากันพร้อมหน้ากันหมดแล้วยกเว้นมินที่ยังไม่ลงมาจากห้องของ ตัวเอง ทุกคนทานกันไปสักพักมินก็เดินเข้ามาในห้องนั่งลงข้าง มะลิ

“ทำไมวันนี้ถึงลงมาช้ล่ะลูก” อัมพรเอ่ยถามขึ้น

“คือหนูตื่นสายนิดหน่อยค่ะ”

“คงจะทํางานเหนื่อยสินะ เบาๆบ้างก็ได้นะลูก”

“ค่ะ แม่ มินจะพยายาม” ก้มหน้าทานข้าวต่อ ที่เธอลงมาช้าเพราะ ยังรู้สึกเพลียอยู่

หลังมื้ออาหารผ่านไปมินก็รีบออกไปที่ร้านกาแฟ ส่วนมะลิก็พา ภาคินเข้าไปทํากายภาพกันต่อที่ห้อง หลังทำเสร็จมะลิก็พยายาม หาอะไรให้ภาคินทําเพื่อไม่ให้น่าเบื่อ
“พี่คินชอบวาดรูปไหมคะ “ถือสมุดดินสอออกมาจากบ้าน

“ไม่ ฉันไม่ชอบ”

“งั้นเดี๋ยวมะลิวาดรูป คินดีกว่า พอวาดเสร็จพี่คินต้องให้คะแนน ด้วยนะคะ ว่าเต็มสิบพี่จะให้เท่าไหร่”

พอพูดจบมะลิก็ลงมือวาดทันที โดยมีแบบเป็นภาคินที่นั่งวีลแชร์ อยู่ตรงหน้าเธอ มะลิวาดภาพใบหน้าของภาคินวาดไปยิ้มไปคน เดียว จนภาคนอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่ามะลิต ก าอะไรหนักหนาถึง ยิ้มอยู่คนเดียว ไม่นานมะลิก็วาดเสร็จ

“พี่คินเสร็จแล้วค่ะ สวยไหมคะ” ยกภาพวาดขึ้นโชว์ตรงหน้าภาค นพร้อมกับยิ้มกว้าง

ภาคินเห็นภาพวาดรูปตัวเองแล้วก็ต้องชะงักหันหน้าหนีไปทาง อื่นเพื่อเก็บอาการไว้ ภาพตรงหน้าเป็นผู้ชายหัวโตนั่งวีลแชร์อยู่ ยิ้มกว้างจนปากจะถึงหู แต่กลับมีหนวดเครารกรุงรังแถมยังใส่ หมวกและยังถือผลส้มลูกใหญ่อยู่ในมือข้างขวา แล้วยังมีรูปหัวใจ ดวงใหญ่อยู่ข้างๆตัวเขาอีก

“หันหน้าหนีไม่ยอมมองอย่างนี้แสดงว่าไม่สวย ”

“ฉันไม่มีหนวดเครารกรุงรังอย่างนั้นสักหน่อย เธอวาดลงไปทำไม”

“ก็เพิ่มความน่าเกรงขามและตลกค่ะ” มะลิหัวเราะเบาๆ

“เธอตลกแต่ฉันไม่ตลก”

“ก็ได้ค่ะ ถ้างั้นพี่คินวาดภาพมะลิบ้างสิคะ” วางสมุดกับดินสอลง บนตักของภาคิน

“ก็ได้ ฉันจะวาด” หยิบสมุดกับดินสอขึ้นมามองหน้ามะลิที่ส่งยิ้ม ให้เขาแล้วลงมือวาดทันที

“วาดสวยๆนะคะ”

“เสร็จแล้ว” ยื่นสมุดวาดรูปส่งคืนให้มะลิ

มะลิรับสมุดมาพอเห็นรูปวาดฝีมือภาคิน แล้วก็อดที่จะขำออกมา ไม่ได้ มองหน้าภาคินพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ภาคินวาดรูปเธอหัว โตแต่แขนขาเล็กนิดเดียวและมีไฝเม็ดใหญ่สีดำอยู่ตรงกลางหน้า ผากของเธอ ภาคินเห็นมะลิชอบใจก็อดที่จะอมยิ้มออกมาไม่ได้

“พี่คินค่ะ ถ้าเกิดมะลิมีไฝแบบที่พี่วาดคงจะตลกน่าดูเลย” ส่งยิ้ม

ให้ภาคิน
“จริงๆ ฉันจะเติมหนวดเคราให้เธอด้วย แต่ลืมไปว่าเธอเป็นผู้

หญิง”

“พี่คิน จะเติมเพิ่มก็ได้นะคะ ” ยื่นสมุดไปให้ภาคิน

“ไม่ เดี๋ยวไม่สวย”

“แม้ไม่สวย แล้วไฟตรงหน้าผากคงสวยมากเลยสิคะ”

“ก็ดีกว่ามีหนวดก็แล้วกัน”

“ค่ะ สวยก็สวย มะลิขอเก็บรูปนี้ไว้นะคะ”

“ก็ตามใจเธอสิ” เคลื่อนวีลแชร์หายเข้าไปในบ้าน

ตอนเย็นของวันหมอตันเดินเข้าไปในร้านกาแฟตรงไปหามินที่ ยืนอยู่ตรงเคาร์เตอร์ ที่เขารีบมาก่อนร้านปิดก็เพราะจะได้ตามมินก ลับบ้านไปเยี่ยมมะลิที่บ้าน

“คุณใกล้จะปิดร้านหรือยัง”

“ค่ะ กำลังช่วยกันเก็บของอยู่” มินก้มหน้าเก็บของตรงหน้า
“ให้ผมช่วยนะ” หมอดินอาสาช่วย

ไม่นานก็เก็บของกันเสร็จ พนักงานในร้านก็พากันกลับ ส่วนม นก็ปิดไฟและล็อคประตูร้าน จากนั้นก็ตรงไปที่รถแล้วขับออก ไป โดยที่หมอต้นขับตามไปติดๆ ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงหน้าบ้าน มินจึงเลี้ยวเข้าไปจอดตรงโรงจอดรถในบ้าน หมอต้นจึงลี้ยวตาม เข้าไปจอดข้างๆรถมิน

“ตามมาค่ะ มันเดินนำหน้าหมอต้นไปทางบ้านหลังเล็ก

“ครับ”

มันเดินเข้าไปในบ้านเพื่อเรียกมะลิออกมาพบหมอต้น เจอมะลิ กำลังแต่งตัวให้ภาคินเสร็จพอดี

“มะลิมีคนมาหาน่ะ

“ใครเหรอ”

ออกไปเดี๋ยวก็รู้เองแหละ
มะลิเดินออกไปตรงหน้าบ้านก็เจอหมอต้นยืนส่งยิ้มให้เธออยู่ ตรงหน้าบ้าน พอหมอต้นเห็นหน้ามะลิก็เดินเข้าสวมกอดทันที โดยที่มะลิไม่ทันได้ตั้งตัว มินเข็นภาคินออกมาเห็นทั้งคู่พอดี ทั้ง มินและภาคินต่างก็ชะงักนิ่งไปชั่วครู่ พอหมอต้นผละออกจากมะลิ ก็ชวนกันไปคุยตรงริมสระบัว มินกับภาคินได้แต่มองดูอยู่ห่างๆ

“พี่คิดถึงมะลิทุกวันเลยนะ”

“พี่ต้นก็พูดเกินไปค่ะ มะลิมาทำงานนะคะ”

“ครับ พี่รู้ พี่ดีใจมากเลยนะ ที่ได้เจอมะลิวันนี้”

“ขอบคุณนะคะ ที่อุตส่าห์มาเยี่ยมกันถึงนี้”

“ไม่เป็นไรพี่เต็มใจ อีกหน่อยพี่คงต้องมาบ่อยๆ แล้วล่ะ”

“ไม่ต้องก็ได้ค่ะ เสียเวลาเปล่าๆ

“ก็พี่บอกแล้วไง ว่าพี่เต็มใจ”

“ค่ะ

มินเข็นภาคินไปอยู่ตรงริมสระบัวแต่อยู่ห่างจากมะลิกับหมอนพอสมควรอยู่

“พี่คินอยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ มันจะไปเอาของว่างมารับแขกสัก หน่อย”

อืม” ”

มินเดินหายเข้าไปในบ้านใหญ่สักพักก็ออกมาพร้อมกับ ผลไม้ คุกกี้อย่างละจานและน้ำผลไม้ใส่ถาดไปวางตรงโต๊ะข้างริมสระบัว

“ของว่างค่ะ” หันไปทางหมอต้นกับมะลิ

“ขอบคุณครับ” หมอต้นเอ่ยขึ้น

“คุยกันตามสบายนะ” มินหันไปบอกมะลิแล้วเดินออกไปหาภาคิน

หมอต้นกับมะลิคุยกันสักพักก็เดินตรงมาทางภาคินกับมิน เพื่อ มาทักทายทำความรู้จักกันกับภาคิน

“พี่ตัน นี้พี่คินค่ะ”มะลิแนะนำ

“สวัสดีครับ”
ภาคินไม่ตอบรับใดๆ นั่งนิ่งเฉยแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่นแทน หมอตันเห็นอย่างนั้นแล้วก็หน้าเสียลงทันที ที่ภาคินมองเขาเป็น แค่ธาตุอากาศไม่มีตัวตน

“เย็น หมอทานข้าวเย็นด้วยกันนะคะ” มินเอ่ยชวน

“ครับ” หันหน้าไปทางมะลิ

หมอตันกับมะลิกลับไปนั่งคุยกันอย่างสนิทสนมที่โต๊ะริมสระบัว โดยมีภาคินมองดูอยู่ห่างๆ ยิ่งหมอต้นยื่นมือไปจับมือมะลิไว้ ภาคิ นก็เริ่มมีอาการไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ จึงหันหน้าหนีไปทางอื่น

ส่วนมินก็กลับไปที่บ้านใหญ่เพื่อทำธุระส่วนตัว ภาพหมอต้น สวมกอดกับมะลิยังติดตาเธออยู่ ถ้าหากมะลิกับหมอต้นรักกัน จริงๆ เธอก็ยินดีด้วย

ถึงมื้ออาหารเย็นทุกคนก็นั่งทานกันพร้อมหน้า โดยมีหมอต้น เป็นแขกร่วมโต๊ะในมื้อนี้ด้วย ระหว่างที่ทานข้าวกันไป หมอต้นก็ คอยตักอาหารใส่จานให้มะลิด้วยความใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ จนมิน และภาคินเริ่มจะอึดอัด

“ถ้าหมอต้นไม่บอกว่าเป็นรุ่นพี่ของมะลิ แม่นึกว่าเป็นแฟนกันเลย นะเนี่ย ใส่ใจกันขนาดนี้” อัมพรเอ่ยขึ้น
“ไม่แน่นะครับ อนาคตอาจจะเป็นก็ได้” หมอต้นหันหน้าไปทาง มะลิ

มะลิก็ไม่ต่างอะไรกับมินและภาคินเลย ที่หมอต้นทำตัวสนิท สนมกับเธอจนออกนอกหน้า เธอจะปฏิเสธก็ไม่อยากจะหักหน้า หมอต้น และกลัวจะเสียน้ำใจเขาเปล่าๆ ได้แต่ก้มหน้าทานข้าวไป เงียบๆ

“ผมขอตัวก่อนก็แล้วกัน” ภาคินวางช้อนลงกระแทกจานเสียงดัง แล้วเคลื่อนตัวเองออกไปจากโต๊ะอาหาร

“พี่คินรอมินด้วยค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” มินหันไปบอกทุกคนบนโต๊ะ อาหาร

มินรีบเดินตามหลังภาคินออกไปเสียดื้อๆ จนทุกคนต่างก็งงงัน กับสองพี่น้องที่อยู่ๆ ก็ออกไปจากโต๊ะอาหารพร้อมกัน โดยไม่ได้ นัดหมาย มะลิกับหมอต้นได้แต่มองตามหลังทั้งคู่ที่พากันออกไป

หลังมื้ออาหารมะลิก็ไปส่งหมอต้นที่รถ โดยมีมินแอบมองอยู่ ห่างๆหมอต้นจะก้าวขาขึ้นรถแล้วแต่ตาก็สอดส่องมองหาอะไร บางอย่างจนมะล็อดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้

“พี่ต้นมองหาอะไรเหรอคะ” มะลิถามพร้อมกับมองตามหมอต้น
“เปล่า พี่กลับก่อนนะ ไว้จะมาหาใหม่

“ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ”

ระหว่างทางกลับหมอตันก็นึกถึงหน้ามันขึ้นมาเสียดื้อๆ ทั้งที่คน ที่เขาควรจะคิดถึงควรจะเป็นมะลิมากกว่า เขารู้สึกเหมือนมันพยา ยามจะหลบหน้าเขา หรือไม่เขาก็คิดมากไปเองส่ายหน้าเบาๆ แล้ว จดจ่อมองทางข้างหน้าแทน

มะลิกลับเข้าไปในบ้านตรงไปยังห้องของตัวเอง เพื่อทำธุระ ส่วนตัว จากนั้นก็ตรงไปยังห้องของภาคิน เห็นภาคนกำลังนั่งดู โทรทัศน์อยู่ จึงเดินเข้าไปใกล้ๆ

พี่คิน จะเอาอะไรไหมคะ ”

“ไม่”

แล้วจะแปรงฟันก่อนนอนเลยไหมคะ” ”

“ฉันทำเองได้” เคลื่อนตัวเองเข้าไปในห้องน้ำทันที มะลิจึงเดิน ตามหลังไป

“ให้มะลิช่วยดีกว่าค่ะ เข้าไปหยิบแปรงสีฟันแล้วบีบยาสีฟันลงที่ แปรงยื่นให้ภาคิน พร้อมกับแก้วใส่น้ำ
“แฟนเธอกลับไปแล้วเหรอ” รับแปรงฟันมาถือไว้

“ไม่ใช่นะคะ มะลิยังไม่มีแฟน” ปฏิเสธทันควัน

“งั้นเหรอ ดูหมอจะชอบเธอมากเลยนะ”

“แต่มะลิ คิดกับหมอเป็นแค่พี่ชายค่ะ ”

ภาคินได้ยินอย่างนั้นก็ก้มหน้าแปรงฟันทันที พอเสร็จมะลิก็เข็น ภาคินไปตรงข้างเตียง จัดการดึงผ้าห่มลงแล้วพยุงภาคินลงนอน บนเตียง แล้วห่มผ้าให้

“ฝันดีนะคะ มีอะไรก็สั่นกระดิ่งเรียกได้เลย”

“เดี๋ยวก่อน ฉันยังไม่ได้ นใจเธอเลย” ยื่นมือไปจับแขนมะลิไว้

“ชื่นใจอะไรคะ” มะลิมองหน้าภาคินด้วยความงงงวย

“ช่างเถอะ เธอไปนอนเถอะ” ปล่อยแขนลงมะลิทันที

“ค่ะ” เดินไปปิดไฟแล้วออกจากห้องไป
มะลิไปล้มตัวลงนอนตรงโซฟาหน้าห้องภาคิน ที่เธอไม่ยอมให้ ภาคินสัมผัสหรือใกล้ชิดกับเธอมากเกินไป เพราะเธออยากจะรู้ เหตุผลของภาคินมากกว่าแล้วอีกอย่างเขาจะลืมรักเก่าของเขา จริงๆไหม เธอยังคาใจอยู่

ส่วนภาคินหลังจากในห้องมืดสนิทก็หลับตาลง เขารู้ว่าที่มะลิไม่ ยอมให้เขาสัมผัสอีก เพราะมันเกินขอบเขตมากเกินไป เขาก็ไม่รู้ เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไรถึงได้อยากจะสัมผัสเธอนัก

ด้านมินกำลังยืนมองดาวอยู่ริมหน้าต่างในห้องนอน เพราะนอน ไม่หลับ เธอยังจำทุกสัมผัสจากหมอต้นในวันฝนตกได้เป็นอย่าง ดี แต่สำหรับเขาคงลืมมันไปหมดแล้ว ยืนสักพักก็ไปล้มตัวลงบน เตียง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ