ตอนที่ 7 ประวัติ
ตอนที่ 7 ประวัติ
โล่หวินหลานสะกดจิตโม แต่ว่าถูกสะกดจิตโดยไม่รู้ตัว หาก จะให้เจาะตำราเล่มนี้ก็จะทำให้ไม่มุ่งงแล้วจะทำให้เขาตื่นได้
เกิดว่าโม่ฉีม่ตื่นขึ้นมาตัวนางต้องตายแน่! โล่หวินหลานไม่รู้จะ ทำยังไงจะไปหาคัมภีร์เล่มนี้มาจากไหนตอนนี้จะไปทำขึ้นมาใหม่ ก็คงไม่ทันแล้วเพราะโม่ฉีสิงได้สั่งให้คนไปค้นจวนหลินอ๋องแล้ว
โน่ หมิงเหลือบไปมองโล่หวินหลานเห็นนางสีหน้าเคร่งเครียด ถึงแม้จะพยายามข่มเอาไว้แต่ว่าก็รอดสายตาเขาไปไม่พ้น ไม่ ฉีหมิงแอบยิ้มแห้งในใจที่แท้ผู้หญิงคนนี้ก็มีช่วงเวลาที่หวาดกลัว เหมือนกัน
โล่หวินหลานคิดว่าเวลาในตอนนี้เดินช้ามากทุกวินาทีทุกนาที มันทรมานมากสวรรค์ให้โอกาสนางได้ข้ามภพมานางไม่อยาก ตายไปง่ายๆ แบบนี้ โล่หวินหลานกำลังคิดหาวิธีรับมืออยู่ก็ได้ ยินทหารที่ไปค้นจวนอ๋องกลับมารายงานว่า
“ทูลฝ่าบาทพบคัมภีร์ในห้องนอนของหลินอ๋องพะยะค่ะ”ทหาร ยกตำราขึ้นถวายทันทีรับมาแล้วยื่นให้กับโม่ฉีสิง
โล่หวินหลานคิดว่าตัวนางฟังผิดค้นเจอคัมภีร์จริงๆหรอ?
โม่ฉีสิงเห็นหน้าตำราเขียนว่าคัมภีร์ทานตะวันจากนั้นก็เปิด เข้าไปด้านใน ด้านในเขียนไว้ว่าผู้ที่ฝึกวิชานี้ต้องตอนของตัว เอง!
โม่ฉีสิงโยนคัมภีร์เล่มนั้นทิ้งไปข้างๆโม่ฉีม่จากนั้นก็ด่าว่า “เจ้า เครฉานทําไมข้าถึงได้มีลูกชายไม่เอาไหนอย่างเจ้าให้ทหารกัก บริเวณหลินอ๋องไว้ในจวนไม่มีคำสั่งข้า ห้ามเขาออกจากจวนเด็ด ขาด”
โปฉีสิงโกรธมากหยามเกียรติพี่น้องของตัวเองไม่พอ ยังฝึก วิชาประหลาดอีกเขารู้สึกว่าลูกชายของเขาทำให้เขาอับอายเสีย หน้ามาก
พระสนมเอกตอนเฟยกับฮ่องเฮาคิดอยากจะช่วยพูดให้กับโม่ฉี ทั้งคู่กำลังจะเอ่ยปากก็ได้ยินไม่ฉีสิงหันมาต่อว่าพวกนางว่า “ดู ลูกชายตัวดีของเจ้า เจ้าเลี้ยงลูกยังไงพวกเจ้าออกไปให้พ้น หน้าขาเดี๋ยวนี้ ใครกล้าขอร้องแทนหลินอ๋องข้าจะปลดนางซะ
พระสนมเอกตอนเฟยกับฮ่องเฮาหน้าเสียไปรู้ว่าโม่ฉีสิงโกรธ มากจริงๆ ก็เลยไม่กล้าพูดอะไรอีกทำได้แค่กลับออกไป
ภายในตำหนักเหลือเพียงโม่ฉีหมิงกับโล่หวินหลานสองคน
สายตาของโม่ฉีสิงรู้สึกเสียใจติดค้างลูกชายคนนี้ของเขามาก ห มิงเอ๋อข้า…….โม่ฉีสิงหยุดพูดไปคิดอยากจะพูดอะไรแต่สุดท้ายก็ ไม่ได้พูดออกมา
เขาถอนหายใจแล้วหันไปพูดกับโล่หวินหลานว่า “เจ้าดูแลท่าน อ๋องให้ดี”
โล่หวินหลานพยักหน้าแล้วรับคำว่า “เพคะหม่อมฉันทราบแล้ว
โม่ฉีสิงนั่งลงบนเก้าอี้มังกรอย่างหมดแรงแล้วพูดว่า “พวกเจ้า กลับไปเถอะ”
โม่ฉีหมิงคำนับแล้วพูดว่า “หม่อมฉันทูลลา”จากนั้นก็ถูกคนหาม ออกไปจากตำหนัก เหวินรีบเดินเข้ามาพยุงโล่หวินหลานที่ คุกเข่าจนปวดเข่าไปหมด ทั้งคู่ออกจากประตูวังไป
ในรถม้าโล่หวินหลานกำลังคิดว่าทำไมถึงได้มีคัมภีร์ทานตะวัน โผล่ขึ้นมาได้ก็เลยถามโม่หมิงไปว่า “เฮ้ คัมภีร์เล่มนั้นเป็นฝีมือ เจ้าหรอ?” เรื่องนี้นอกจากโม่ฉีหมิงแล้วโล่หวินหลานนึกไม่ออก จริงๆ ว่าจะเป็นใคร
โม่ หมิงพูดว่า “ข้าฟังไม่เข้าใจ
โล่หวินหลานยิ้มแล้วพูดว่า “เจ้าแกล้งต่อไปเถอะ ข้ามองออก ถึงแม้เจ้าจะเดินไม่ได้แต่ในใจของเจ้ารู้ดีทุกอย่าง เจ้าบอกว่าเจ้า มันคนไร้ประโยชน์แต่จริงๆเจ้ามันซ่อนเขี้ยวเล็บเอาไว้
โม่ หมิงจ้องไปที่นางในใจคิดว่าที่เขาช่วยหรือว่าเขาจะคิดผิด? เมื่อคืนที่ไม่หวินหลานพูดกับโม่ปูเขาจำได้เขาก็เลยแอบทำ ตำราขึ้นมาเล่มหนึ่งตามที่นางบอกจากนั้นก็เขียนประโยคที่นาง พูดนั้นลงไป
ที่เขาทำอย่างนั้นแค่เผื่อเอาไว้วันนี้ ในวังหลวงตาม สถานการณ์คือเขาชนะแต่ว่าเพราะเหตุนี้มันถือเป็นการส่งสาร ท้ารบไปยังฮ่องเฮากับพระสนมเอกตอนเฟยอย่างเป็นทางการไป แล้ว
“ถึงแม้คราวนี้เจ้าจะรอดไปได้แต่ว่าทางข้างหน้ายังมีอันตรายรอ อยู่อีกเยอะฮ่องเฮากับพระสนมเอกตอนเฟยไม่มีทางปล่อยเจ้าไป แน่ยังมีเงินอ๋องอีก”ไม่ฉีหมิงเน้นหนักมากที่คำว่าเป็นอ๋อง
โล่หวินหลานชะงักไปวันนี้นางพูดเรื่องที่หลินอ๋องหยามเกียรติ หมิงอ๋องมันทำให้ฮ่องเฮากับพระสนมเอกตวนเฟยจับจ้องมาที่ นาง ผู้หญิงในวังหลวงสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการใช้อุบายแต่ยังดีที่นางดูซีรีย์วังหลังมาเยอะนางคิดจะลองสัมผัสดู เองสักครั้ง
“พวกเขาคิดจะลงมือกับข้าจริงก็คือคิดลงมือกับเจ้า พวกเขา เป็นศัตรูของเราดังนั้นต่อไปเราต้องร่วมมือกัน โล่หวินหลาน แสดงท่าทางอย่างมีอุดมการณ์
ไม่มีหมิงพูดว่า “เจ้าคิดได้ไงว่าข้าจะร่วมมือกับเจ้า?เจ้าจะเป็นจะ ตายไม่เกี่ยวอะไรกับข้าขอแค่เจ้าอย่าทำให้ข้าเดือดร้อนก็พอ”
โล่หวินหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ พูดกับเขาแทบจะอกแตกตาย โล่หวั่นหลานพูดว่า “ถ้ามันทำให้ท่านอ๋องเดือดร้อนมากขนาด นั้นก็รบกวนท่านอ๋องเขียนใบหย่าให้ข้าเถอะปล่อยข้าไปท่อง ยุทธภพออกรักษาผู้คนแบบนี้ดีกว่า”
โม่ฉีหมิงตะลึงไปผู้หญิงคนนี้ขอใบหย่าจากเขา หรือว่านางไม่รู้ ว่าผู้หญิงที่ถูกหย่านั้นเป็นการหยามเกียรติมากแล้วไม่มีหน้าที่จะ มีชีวิตต่อไปอีก นางบอกว่าจะท่องยุทธภพออกรักษาผู้คนหรอ?
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ