หัวใจอสเรศ

ตอนที่ 18 เกลียดชัง



ตอนที่ 18 เกลียดชัง

ตอนที่ 18 เกลียดชัง

เขาเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ดังนั้นก็เลยล้มเลิกความคิดที่จะให้ โล่หวินหลานตามไปด้วย ไม่ล่ะเราไปกันเถอะ”โม่ฉีหมิงปล่อยผ้า ม่านรถม้าลงแล้วนั่งพิงหลังรถไป

รถม้าค่อยๆวิ่งไปทางสุสานหลวงที่ห่างออกไปจากเมืองหลวง ประมาณห้า ด้านในนี้ไม่ได้ฝังกระดูกของพระสนมเฉินเฟย วันนี้ศพของพระสนมเฉินเฟยถูกเผาจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกในนี้ ได้ฝังเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ของพระสนมเฉินเฟยเท่านั้น

เมื่อมาถึงสุสานหลวงโม่ฉีหมิงสั่งให้คนเตรียมของเส้นไหว้แล้ว ให้ถอยไปรอ ห่างออกไปประมาณสิบจั้งส่วนตัวเองก็เข็นรถเข็น ไปที่หน้าป้ายหลุมศพ

สิบสองปีก่อนเขาเป็นองค์ชายที่ฮ่องเต้โปรดปรานที่สุดแม่ของ เขาพระสนมเฉินเฟยเป็นสนมที่ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานมากในวัน เกิดวัยสิบสองปีของเขาทุกอย่างก็สิ้นสุดลงในวันนั้น

มีชายสวมชุดดำบุกเข้ามาตัดเอ็นขาของเขาฆ่าคนในตำหนัก ของแม่เขา ย่ำยีแม่ของเขาแล้วจุดไฟเผาตำหนักทิ้ง
เขาได้ยินเสียงรําไห้ของแม่เขา เขาอยู่ข้างห้องแต่ทำยังไงก็ ไปไม่ถึงไฟแรงมากมันเผาใบหน้าของเขา มันทำให้เขาจำได้ ไม่มีวันลืม

โม่ฉีหมิงหลับตาลงแล้วพิงไปที่ป้ายหลุมศพความทรงจําที่เจ็บ ปวดมันเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานทุกวินาทีมันฝังลึกอยู่ในใจเขา มันเจ็บปวดมาก

ไม่ไกลนักฉินหยิ่นกับเย่เพิ่งยืนอยู่ด้วยกัน พวกเขาเห็นโม่ห มิงเจ็บปวดพวกเขาก็เจ็บปวดไปด้วยทุกๆ ปีไม่ฉีหมิงจะอยู่ที่นี่ นานมากหลังจากกลับไปที่จวนก็จะเงียบไปอีกหลายวัน

เวลาผ่านไปฉินหมิ่นเงยหน้ามองท้องฟ้าเหมือนกำลังจะมีฝน

ไม่ผิดจากที่คิดเมฆดำลอยมาฝนเริ่มหยดลงมามันตกหนักมาก ด้วย ฉินหยื่นมองไปที่โม่ หมิงแล้วพูดว่า “ท่านอ๋องฝนตกแล้ว เรากลับกันเถอะ”

แต่โม่ฉีหมิงกลับไม่ขยับเลยฉินหมิ่นเห็นไม่ฉีหมิงมีปฏิกิริยาผิด ปกติก็รู้สึกว่าต้องมีอะไรแน่ๆเลยเดินเข้าไปพยุงโม่หมิง แต่ไม่ ฉีหมิงกลับสลบไปแถมหายใจรวยรินอีกด้วย

“เย่เฟิงแย่แล้วเกิดเรื่องกับท่านอ๋อง”ฉินหยิ่นรีบอุ้นโม่ฉีหมิงข็นเย่เพิ่งรีบพุ่งเข้ามาเห็นไม่ฉีหมิงไม่มีปฏิกิริยาแล้วก็ตกใจ

“รีบกลับกันเถอะ”เย่เฟิงพูดแล้วก็สั่งให้องครักษ์ที่เหลือเก็บของ จากนั้นเขากับฉินหยิ่นก็รีบใช้วิชาตัวเบาฝ่าสายฝนกลับไป

หลังจากเวลาหนึ่งก้านธูป ฉินหมิ่นกับเย่เฟิงอุ้มโม่ฉีหมิงกลับ มาถึงเรือนเย่เพิ่งรีบสั่งให้คนไปตามหมอหลวงมา ฉินหยิ่นนัก ขึ้นมาได้ว่าโล่หวินหลานตรวจรักษาอาการรัชทายาทเมื่อคืนนี้ ได้ก็เลยพูดขึ้นมาว่า “ไปตามพระชายามาเร็วพระชายารู้เรื่องการ แพทย์”

เย่เฟิงรีบไปที่เรือนเฟิงเห่อเขาเห็นโล่หวินหลานนั่งมองฝนตก อยู่นอกหน้าต่าง นางตกใจที่เห็นเงาโผล่มา เมื่อมองชัดๆ โล่ห วินหลานก็หน้าตาของเขาเหมือนกับเย่เฟิงเลย

“พระชายาท่านอ๋องเกิดเรื่องแล้ว ท่านรีบตามข้าน้อยไปดู

เร็ว”เย่เฟิงรีบพูด

โล่หวินหลานได้ยินเย่เฟิงบอกว่าไม่ฉีหมิงเกิดเรื่องนางก็รีบลุก ขึ้นมาแล้วพูดว่า “ท่านอ๋องเป็นอะไร?”

เย่เฟิงตอบว่า “ข้าน้อยไม่ทราบพระชายาท่านรีบไปดูเถอะ”
โล่หวินหลานรู้สึกร้อนใจมากรีบฝ่าสายฝนไปที่เรือนของเขา ทันที เหวินกับเเฟิงก็ตามไปด้วย

เมื่อมาถึงห้องของโม่หมิง โล่หวินหลานก็เดินมาที่เตียงทันที นางเห็นไม่มีหมิงนอนอยู่บนเตียง โล่หวินหลานรีบตรวจชีพจร ของเขา

หลังจากตรวจพบว่าชีพจรของเขาอ่อนมากโล่หวินหลานก็ตกใจ แล้วพูดว่า “ท่านอ๋องไปกินอะไรมา?”

ฉินหมิ่นยืนอยู่ข้างหลังแล้วตอบว่า “วันนี้ท่านอ๋องไปไหว้พระ สนมเฉินเฟยก่อนไปก็ไม่ได้กินอะไร”

โล่หวินหลานหยิบเข็มขึ้นมาแล้วทิ่มไปยังจุดชีพจรใหญ่ของโม่ หมิงหลายจุด จากนั้นก็ถามว่า “แล้วท่านอ๋องถูกพิษได้ยังไง?”

ฉินหยิ่นได้ยินว่าไม่ฉีหมิงถูกพิษก็หายใจหายคอแทบ ไม่ทัน“ปกติท่านอ๋องจะคุกเข่าอยู่ที่หน้าหลุมศพพวกเราจะเฝ้าอยู่ ข้างนอกไม่ไกลนักไม่มีใครเข้าใกล้ท่านอ๋องเลย”

“คิดให้ดีๆ โล่หวินหลานตำหนิ

ฉินหยิ่นทบทวนอีกรอบ โล่หวินหลานฟังจากที่เขาเล่าแล้วก็นึกขึ้นมาได้: ป้ายหลุมศพมีคนวางยาไว้ที่ป้ายหลุมศพ แสดง ว่าจะต้องเป็นคนที่รู้ว่าท่านอ๋องจะไปสักการะหลุมศพท่านแม่วันนี้ แล้วก็รู้ด้วยว่าท่านอ๋องจะต้องลูบไปที่ป้ายหลุมศพ วางแผนได้ แยบยลมาก”

โล่หวินหลานกัดฟัน ไม่มีหมิงก็แค่ไปไหว้หลุมศพแม่เท่านั้น กลับถูกลอบทําร้ายหรือว่าพวกเขาจะไม่ยอมปล่อยเขาไปหรอ?

“พิษที่ท่านอ๋องได้รับคือพิษสามวันตาย ภายในสามวันจะต้อง ทำยาแก้พิษให้ได้”โล่หวินหลานเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือแล้ว เขียนสูตรยาแล้วพูดว่า “รีบไปหาตัวยาพวกนี้มาให้ข้าต้องให้เร็ว ที่สุด”

ฉินหมิ่นรับเทียบยาไปแล้วรีบไปดำเนินการทันที โล่หวินหลาน เห็นโม่ฉีหมิงเปียกไปทั้งตัวก็พูดขึ้นมาอีกว่า “เหวินไปเตรียมน้ำ ร้อนกับเสื้อผ้าแห้งมา ตอนนี้ท่านอ๋องจะช่วยเพิ่มอีกไม่ได้ ไม่ งั้นจะอยู่ไม่ถึงสามวัน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ