ผมเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านหญิง

บทที่ 8 สิ่งที่น่าขยะแขยงของน้องสาวภรรยา



บทที่ 8 สิ่งที่น่าขยะแขยงของน้องสาวภรรยา

เซี่ยเมิ่ง อารมณ์ร้อน พลางเดินไปเปิดประตูอย่างไม่ประสบ อารมณ์ “มีอะไร”

“อาหารเช้า! ”

หานคงยืนตะลึง เพราะการระเบิดอารมณ์ที่กะทันหันของเธอ จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นเพื่อโชว์อาหารเช้าที่ซื้อมา

“นายกินคนเดียวเลย ฉันไม่หิว”

เธอทําเหมือนไล่คนขอทานอย่างไรอย่างนั้น และปิดประตู ทันที

ปรอทความโกรธของหานดงพุ่งสูงขึ้น : “ไม่กินก็ตามใจ

สิ่งที่เซี่ยเมิ่งเกลียดที่สุดก็คือ คนที่ไม่มีความสามารถอย่างเขา อารมณ์ที่ฉุนเฉียว ทำให้เธอพูดจาประชดประชันใส่เขา : “ฉัน รับความหวังดีของคุณไว้ไม่ได้หรอก ใครจะรู้ในของกินอาจจะ วางยา เหมือนที่จางเจ้นชื่อทำ……

เพลง!

หานคงไม่รอให้เธอพูดจบ ก็ปล่อยอาหารเช้าที่อยู่ในมือออก และน้ำเต้าหู้ก็หกกระเซ็น จนเซี่ยเพิ่งต้องรีบหลบและอุทานด้วย ความตกใจ “คุณบ้าไปแล้ว ”

หานคงรู้สึกเจ็บใจ เมื่อก่อนเซียเพิ่งไม่ได้ทำท่าทีแบบนี้ใส่เขาแต่ตอนนี้กลับเป็นแบบนี้ไปเสียแล้ว อาจจะเป็นเพราะเรื่องคืนนั้น ของทั้งสอง

จะเรียกว่าฉวยโอกาสก็ไม่ถูก เพราะสาเหตุไม่ได้เกิดจากคน คนเดียว

เซี่ยเพิ่งรู้แค่ว่าหลังจากเขาดื่มเหล้าก็เป็นบ้าไป แต่เธอไม่ได้ คิดว่า เขาดื่มเหล้าไปเยอะแค่ไหน

บรรดาลูกพี่ลูกน้องของเธอที่ชอบดูถูกคนอื่น พยายามมอม เหล้าเขา และเขาให้เกียรติเซียเพิ่งจึงไม่ได้เดินออกไปกลางคัน

เพราะแบบนี้ เขาพยายามเก็บอาการสะลึมสะลือไว้และไปส่ง เซี่ยเมิ่งที่โรงแรม และไม่คิดจะทำอะไรเธอ ทว่าหลังจากที่ภรรยา ตัวเองเมาแล้วกลับเรียกชื่อผู้ชายคนอื่น ใครกันจะทนไหว

“ขอโทษครับ มือมันลื่น คุณเรียกพนักงานมาเก็บกวาดหน่อย ละกัน ผมจะไปขับรถ”

หานดงแก้ตัวลวกๆ ก่อนจะเดินอ้าวไป

เซี่ยเพิ่งจ้องเขาจากด้านหลังอย่างไม่กระพริบตา ตั้งแต่เมื่อคืน เธอก็รู้สึกว่าหานดงมีท่าทีที่เปลี่ยนไป ราวกับคนแปลกหน้า

แต่เดี๋ยวเดียว ความรู้สึกนึกคิดนี้ก็จะหายไปเอง

เขาจะกลายเป็นคนแปลกหน้าหรือไม่ ก็ไม่สำคัญ เพราะเธอ ตัดสินใจแล้วว่า หลังจากที่กลับไปดงหยาง เธอจะไปหาแม่เพื่อ ปรึกษาเรื่องหย่ากับหานคง
เมื่อก่อน เธอรู้สึกว่าหานคงไม่ได้มีอำนาจอะไร และคงไม่ได้ กระทบกับชีวิตประจำวันของเธอ แต่ตอนนี้หานคงเส้นเธอ ความก้าวหน้าของความสัมพันธ์ไม่ใช่ให้เธอยอมรับหานคงใน ฐานะสามี แต่กลับเป็นการขัดแย้งกันอย่างรุนแรงและมันสะท้อน ความรุนแรงนั้นกลับมา

เรื่องที่จะกลับไปสานสัมพันธ์อีกครั้งกับชีวผิงดีหรือไม่ ตอนนี้ เธอยังไม่อยากคิด แต่เรื่องที่จะหย่ากับหานคงดีไหม เธอมีค่า ตอบที่ชัดเจน

ระยะทางจากหลินอานถึงดงหยางประมาณหนึ่งร้อยห้าสิบ กิโลเมตร หากขับรถด้วยความเร็วปกติก็ใช้เวลาประมาณสองถึง สามชั่วโมง

ในตอนเดินทาง หานคงทำหน้าที่ขับรถ หวางนั่งเบาะข้างคน

ขับ ส่วนเซียเมิงนั่งเบาะข้างหลังคนขับ

เวลาในการออกเดินทางคือเก้าโมงเช้า ประมาณสิบโมง ก็เข้า สู่ด่านเก็บค่าผ่านทางดงหยาง

มณฑลเจียงเปียเป็นมณฑลใหญ่ที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจระดับ ชาติเป็นอันดับต้นๆ จะไม่พูดถึงเมืองหลินอานที่ใหญ่โตและ เจริญรุ่งเรืองเท่าไร เพราะบ้านเกิดของเซี่ยเมิ่งและหานคงอยู่ที่ดง หยาง ก็ได้ใกล้ชิดกับเมืองระดับแนวหน้ามากมาย

เส้นทางที่เหมือนใยแมงมุม ใหม่เอี่ยม ราบเรียบ กว้างขวาง อีกทั้งยังมีทางยกระดับมากมาย
หานดงขับรถกลับบ้านอย่างชำนาญทาง เมื่อขับผ่านป้ายรอ รถเมล์ เขาก็ได้ยินสิ่งที่เซี่ยเพิ่งสั่งอย่างเย็นซาว่าให้จอดรถ

ด้วยความเอื้ออารีของเขา เวลาสั้นๆเขาก็สามารถปรับอารมณ์ ให้สมดุลได้ จากนั้นเขาจึงหันไปถามเธอ : “มีอะไรหรือเปล่า ? “คุณหารถกลับบ้านไปก่อน ฉันกับเสี่ยวจะไปเคลียร์งานที่

บริษัทหน่อย ”

หานคงเห็นสีหน้าที่เป็นเฉยของเธอ ใจคอเหี่ยวแห้งเป็นที่สุด

ดูจากสภาพแล้ว เซี่ยเมิ่งไม่อยากอยู่กับเขาแม้วินาทีเดียว เพราะเพิ่งถึงดงหยาง เธอก็ร้อนอกร้อนใจรีบไล่เขาเสียแล้ว

เขาทำอะไรไม่ได้ เพราะรถคันนี้เป็นของเซี่ยเมิ่ง เขาจึงต้องลง จากรถและรอรถเมล์

เขานั่งรถเมล์และเปลี่ยนรถเมล์ไปแล้วสามคัน จากนั้นเดินต่อ

ด้วยระยะทางประมาณเกือบหนึ่งกิโลเมตร จนในที่สุดก็เดินมา

ถึงประตูบ้าน หมู่คฤหาสน์เทียนเหอส่วน

ร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงเทียบไม่ได้กับจิตใจที่ดูห่อเหี่ยว เขามีนิสัยหยิ่งทะนง และยังซึมเศร้าอีกด้วย ตอนที่อยู่ในตระ กูลเซีย ความหยิ่งทะนงค่อยๆ ถูกเช็ดออกไปทีละนิด

ที่ตั้งของตระกูลเซี่ยอยู่ที่อาคารที่หกเขต หลังผ่านประตูหลัก เข้ามาได้ไม่นาน เขาก็ได้มองออกไปยังที่ไกลๆ

จะถึงช่วงเที่ยงแล้ว บนถนนมีชายเฒ่าและหญิงชราเดินอยู่ๆ ใต้ร่มเงา แล้วมีพยาบาลเพิ่งไปผักมาจากด้านนอก กลับเข้ามา เมื่อเห็นหานคง คนเหล่าก็อตเขาได้ เรื่องที่คนไม่เอาอ่าว แต่งงานเข้าบ้านฝ่ายหญิง เอ่ยคำ พูดสะเทือนใจต่างนานา บังเอิญลอยผ่านเข้าหูของท่าน

หลังจากเขามาครูใหญ่ ก็อดไม่ว่าตนเองขุด สุสานบรรพบุรุษบ้าน เขา? กลุ้มใจไปเปล่าประโยชน์ ทำใจให้ปลอดโปร่งกว่า

เขาพลางไป เขาเร่งจังหวะก้าวเดิน เมื่อเข้ามาลาน

ของวิลล่า เขากำลังหยิบกุญแจมาประตูห้องแขก

ในตอนนั้นรถสองคันน้องสาวภรรยาเซี่ยหมิงหมิงและเซี่ย เพิ่งซื้อมาอย่างละคัน

เซี่ยหมิงหมิงทำอยู่สถานีโทรทัศน์ดงหยาง หน้าที่ก็คือ พิธีกรดำเนินรายการ ปกติแล้วธุรกิจกิจกรรมเกี่ยวกับ โฆษณาหลากหลายประเภท นอกจากเขาแล้ว ต้องออกงานอยู่บ่อยครั้ง เป็นคนที่งานหนึ่ง จากแต่งงานเซี่ยเพิ่งเป็นเวลาหลายเดือน แล้ว เขาไม่เห็นหน้าเลย

แต่ว่าเธอไม่น้องสาวภรรยาคนนี้ แต่เธอก็มีนิสัยเหมือน แกะแม่พิมพ์ออกมาจากยายผิด ไว้หน้า เผด็จการและหยาบคาย หากบอกว่าเมิ่งเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เช่นนั้นเซี่ยหมิงหมิงก็เหมือนกองไฟ ที่แผดเผา ผู้คนได้อย่างง่ายดาย

เป็นภาพความประทับใจอันลึกซึ้งของหานคงก็คือ ในตอนที่ เขาเพิ่งแต่งงานกับเซี่ยเม็ง ยามที่ครอบครัวมาทานข้าวด้วยกัน คำพูดราวกับสนิทชิดเชื้อประโยคแรกจากเซี่ยหมิงหมิงก็คือ “พี่ เขย พี่ว่าพี่อยากได้เงินแต่ก็ไม่มีเงิน อยากได้คนก็ไม่ได้คน ทำไม ถึงจีบพี่ของฉันติดเบี้ย” คำพูดล้อเล่นอะไรแบบนี้ แล้วยังน้ำเสียง ที่หยาบกระด้าง ในตอนนั้นทําเอาหานคงอยากหาหลุมเหวสักที เลยทีเดียว

เขาคิดเพลินๆ เขาเปิดประตู ห้องรับแขกเงียบสงัด ไม่มีใคร อยู่เลยสักคน แม้แต่เจ้าสุนัขสุดรักของแม่ยายก็ไม่อยู่ พอลอง คำนวณเวลาดู น่าจะถูกแม่ยายอุ้มไปตรวจสุขภาพ

ห้องนอนอยู่เขาอยู่ที่ชั้นสาม ซึ่งอยู่ข้างๆ ห้องของเซี่ยเม็ง การ แยกกันอยู่อย่างเย็นชาของคนทั้งสองไม่เป็นความลับภายใน บ้าน แรกๆ เซี่ยหลงเจียงยังได้ยินเสียงซึ่งรู้ว่าทะเลาะกันรึเปล่า ต่อมาเมื่อไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว

ยามที่เดินผ่านชั้นสอง หานคงรู้สึกได้ยินเสียงบางอย่างแว่วๆ เหมือนเสียงแมว ภายใต้การยั่วยุในหัวใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับ ตัว เหมือนกับดังออกมาจากห้องของน้องสาวภรรยา

หัวใจของเขาเต้นถี่รัว เขาขยับไปข้างหน้าหลายก้าว ถึงจะ บอกว่านิสัยของเซี่ยหมิงหมิงจะน่าละเหี่ยใจ แต่เธอก็เป็นหญิง สาวที่งดงามจริงๆ เธอเป็นตาลาที่สำคัญสุดของช่องดงหยางเสมอมา มีแฟนคลับที่ติดตามบนเวย์นิ้วมีจำนวนถึงล้านคน

หานคงรู้ดีว่าไม่ควรคิดอะไรกับเธอ ทว่าเขาควบคุมเลือดอัน ร้อนรุ่มของเขาไว้ไม่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเซี่ยหมิงหมิงชอบใส่ กางเกงขาสั้นมากๆ เผยต้นขาทั้งสองโอ้อวดมันเบื้องหน้าเขา เขายังแอบมองอยู่หลายครั้งไป

จนใกล้เข้าไปอีก เสียงก็ยิ่งดังชัดขึ้นเรื่อยๆ ในห้องของน้อง

สาวภรรยามีผู้ชายบางคนอยู่ด้านใน

เธอพาแฟนหนุ่มเข้าบ้าน ขณะที่กำลังคิดอะไรสะเปะสะปะ เซี่ยหมิงหมิงก็ร้องขอความ ช่วยเหลือดังลั่นออกมาจากในห้อง

“ช่วยด้วย อ๊า ทําอะไรน่ะ!”

น้ำเสียงฟังดูอู้อี้ ขาดหายๆ

ตามมาด้วยเสียงของชายหนุ่ม “นังชั่ว วันนี้ต่อให้แกตะโกน จนคอแตกก็ไม่มีประโยชน์หรอก” จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียง หอบหายใจหนักๆ และเสียงการเคลื่อนไหวลึกลับ

หานคงสะอึกไป ขออย่าให้เกิดเรื่องเลย

เขารีบเดินไปสองก้าว เขาถีบประตูโพล่งเข้าไปทีเดียว

เสียงปังดังกึกก้อง มีหรือที่ประตูห้องนอนจะทัดทานแรงของ หานดงได้ ประตูเปิดออกฉับพลัน

ทั้งหมดที่ปรากฏต่อดวงตา เล่นเอาหานดงที่กำลังจะพุ่งตัวเข้าไป เขาหยุดชะงักอยู่กับที่

เซี่ยหมิงหมิงใส่ชุดพยาบาล มันถูกฉีกจนรุ่งวิ่งไปหมด ยากที่ จะปกปิดเรือนร่างไว้ได้ ภายใต้แสงไฟที่จ้าตา ผิวกายขาวแทบจะ ครอบคลุมชุดพยาบาลเสียมากกว่า…

เสื้อผ้าอยู่ในสภาพขาดวิ่นรุ่งริ่ง กระดุมปลดออกทั้งหมด หน้าอกเปลือยเปล่าเปิดเผยสู่อากาศ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ