ผมเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านหญิง

บทที่ 4 จางเจ้นชื่อที่น่ารังเกียจ



บทที่ 4 จางเจ้นชื่อที่น่ารังเกียจ

เซี่ยเพิ่งไม่รู้ว่าจางเจ้นชื่อที่เธอกำลังเผชิญอยู่เป็นคนอย่างไรกัน

แน่ เมื่อก่อนจางเจ้นชื่อเป็นนักเลงเต็มตัว หรือว่าจะเป็นตอนนี้ ก็

ยังคงเกี่ยวข้องกับบางคนที่เป็นนักเลง

ลักษณะเฉพาะของเขาก็คือลามก ในเมืองหลินอ่านไม่ต้องพูด ทุกคนก็รู้ และเขายังมีชื่อเสียง เป็นแขกประจำของไนท์คลับ ต่างๆ ขาดผู้หญิงไม่ได้

มาเจอคนผิดปกติแบบนี้ เซี่ยเพิ่งมาคุยธุรกิจ ก่อนอื่นถ้าไม่ ลงทุนหน่อย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคุยธุรกิจกันได้

แน่นอนว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นพนักงานอื่น จางเจ้นชื่อคงไม่แม้แต่ จะมา ตอนนี้บริษัทเพิ่งหยวนมีมูลค่ากว่า 1000ล้าน อย่าพูดถึง บริษัทขนส่งที่อยู่ภายใต้บริษัทเจิ้นเวยเลย แม้แต่บริษัทเจิ้นเวย ไม่มีสิทธิ์คุยเรื่องธุรกิจ

ออกจากร้าน ดวงอาทิตย์ยังคงส่องแสง แต่การเดินของเธอ

นั้นเหมือนคนกำลังง่วง

สาเหตุหนึ่งคือเมื่อคืนพักผ่อนไม่เพียงพอ และอีกสาเหตุหนึ่งก็ คือมองไม่เห็นอนาคตของบริษัทเจิ้นเวย

เธอโตมากับคำชื่นชมตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ความสามารถ และทุกๆ อย่าง เธอคิดว่าตัวเองนั้นเก่งที่สุดมาโดยตลอด

หลังจากที่เรียนจบบริหารธุรกิจจากสหรัฐอเมริกา เซียเพิ่งเคย คิดวางแผนไว้ว่าจะทำยังไงให้กิจการของครอบครัวพัฒนาและ ประสบความสําเร็จ

น่าเสียดาย เมื่อเข้าสังคมจริงๆ เธอถึงรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้น ไม่เหมือนกับที่เธอคิดไว้เลยแม้แต่น้อย

บนโลกใบนี้ อยากจะทำธุรกิจธรรมดาแล้ว ให้ราบรื่นและ ประสบความสำเร็จ มันยากมากจริงๆ การรับรู้สิ่งเหล่านี้ ทำให้ เธอเสียความเชื่อมั่นในใจของตัวเอง

ภายในรถ หวาง และหานคงกำลังคุยเรื่องความแปลก ประหลาดของจางเจ้นชื่อ

“หานดง คุณไม่รู้หรอกว่าสายตาที่เขามองประธานเซียน

น………. ต้องคิดไม่ดีแน่ๆ เลย

ในระหว่างที่สนทนา จู่ๆ เธอก็หยุดพูด เป็นเพราะเซี่ยเพิ่งเข้า

เสียงปิดรถดังขึ้น จากนั้นเซี่ยเพิ่งก็พูดขึ้น “กลับโรงแรม

หานคงแอบมองเธอ เขาวิเคราะห์ได้จากคำพูดของหวางว่า เซี่ยเพิ่งอยากจะพึ่งจางเจ้นชื่อในการแก้ไขปัญหาของบริษัท ใน ความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้เลย………..อกเสียจาก เธอจะ ยินยอมที่จะนอนกับจางเจ้นชื่อหนึ่งคืน หรืออาจจะหลายคืน

เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้อย่างนี้ หานดงก็รู้สึกหมดคำจะพูด
ยังไม่ชัดเจนกับสถานะของผู้ชายที่ชื่อวฝั่งเลย ก็มีผู้ชายที่ น่ากลัวอย่างจางเส้นชื่อโผล่มาอีกแล้ว

ไม่ได้ ไม่สามารถนอกใจได้เด็ดขาด

“เซี่ยเมิ่ง ปัญหาของบริษัทในตอนนี้ก็คือเกี่ยวกับบอดี้การ์ดที่ ว่างงานพวกนั้น ผมคิดว่าถึงแม้มันจะขาดทุน แต่เราก็สามารถ จัดการให้พวกเขาได้ที่เมืองตงหยางนะ”

เซียเพิ่งโมโหขึ้นมาทันที ไม่รอให้หานคงพูดจบ ก็พูดขัดขึ้นมา “คุณจะเข้าใจอะไร นี่ไม่ใช่การแก้ปัญหาชั่วคราว ฉันมาเมือง หลินอานเพราะคิดถึงอนาคตที่ยาวไกลของบริษัท

หานคงพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “จะมาใส่อารมณ์ใส่ผม ทำไม นิสัยแบบนี้ทำไมไม่ใช้กับจางเจ้นซื้อล่ะ คนซุ่มซ่ามแบบนั้น ตบไปทีเดียวก็จบแล้ว!”

เซี่ยเมิ่งไม่อยากทะเลาะด้วย โดยเฉพาะต่อหน้าหวาง

ไม่อยากจะสนใจคนที่เธอแค่นึกถึงก็รู้สึกจะเป็นบ้าอย่างหาน ดงแล้ว ตอนที่ผ่านร้านยา เธอ ให้สัญญาณว่าให้จอดรถ

หานคงนึกคิดอยู่เล็กน้อย ก็นึกอะไรบางอย่างออก เมื่อคืนเขาสองคนไม่ได้ป้องกัน ผู้หญิงคนนี้คงจะกลัวท้อง…… เขาคิดถูกแล้ว เซี่ยเพิ่งมาร้านยาเพราะเรื่องนี้

เมื่อถึงร้านยา เธอทำตัวเหมือนกับโจรเลย เห็นว่าลูกค้าเยอะ ก็เลยทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเดินรอบร้าน
เธอไม่รู้เลยว่าควรจะพูดอย่างไร และควรซื้อยาอะไร พนักงานในร้านสังเกตเห็นเธอ จึงเข้าไปถามเธออย่างมี มารยาท “คุณผู้หญิงคะ ไม่ทราบว่าต้องการซื้อยาอะไรคะ?

เซียเพิ่งมองซ้ายทีขวาที เมื่อเห็นว่าไม่มีคนแล้ว จึงพูดขึ้นเบาๆ ว่า “ฉัน… เธออึ้งอยู่ตั้งนานแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา สุดท้ายก็ เลือกที่จะเปลี่ยนคำพูด “ฉันแค่มาเดินดูเฉยๆ”

และในเวลานั้นเอง ข้างหลังของเธอก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา “มี ยาคุมกำเนิดไหมครับ ยาคุมที่ใช้หลังทำกิจกรรม

เธอหันหลังกลับไปมองทันที สีหน้าของเธอทั้งแดงและซีดขาว ในเวลาเดียวกัน ไอ้บ้าหานดงนี้ตามมาได้ยังไง แล้วยังกล้าถาม แบบนี้ออกไปแบบหน้าไม่อาย

แล้วก็ เขารู้ได้ยังไงว่าเธอจะซื้อยาคุมกำเนิด

เรื่องที่เธอมองว่ายากมาก ความเป็นจริงแล้วมันง่ายจนไม่รู้จะ ง่ายยังไงแล้ว

พนักงานในร้านขายยาถามอะไรเพิ่มเล็กน้อย จากนั้นก็หยิบ

ยากล่องนึง ให้หานคง แล้วเขาก็นำยาไปคิดเงิน

ชั่วขณะหนึ่ง หลังจากที่หานดงจ่ายเงินเสร็จ ไม่มองเธอแม้แต่ น้อย ใส่ยาลงในกระเป๋าแล้วเดินออกไปจากร้าน

“เอามา”

หลังออกมาจากร้าน เซี่ยเพิ่งรีบวิ่งตามเขาไป แล้วพูดขึ้นอย่างไม่เกรงใจไม่ได้น้อย

หานคงยิ้มแล้วส่งยาให้เธอ

เซี่ยเมิ่ง รีบเก็บยาใส่เข้าไปในกระเป๋า แล้วเดินนำไปยังรถ และในตอนที่เดินผ่านทานดงนั้น รองเท้าส้นสูงของเธอก็เหยียบ ลงบนเท้าของเขา

สีหน้าของหานคงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ยัยนี่ อุตส่าห์ใจดีมา ช่วยเธอซื้อยา แต่เธอกลับมาตอบแทนแบบนี้

การกระทำของเธอ ในเมื่อสักครู่ทำให้เขาเดินยังลำบากเลย รองเท้าส้นสูงของยัยบ้านแหลมเป็นบ้าเลย!!

เมื่อถึงโรงแรม หานคงเดินกะเผลกกลับไปที่ห้องของตัวเอง หลังถอดรองเท้าออกก็เห็นว่าขาของตัวเองนั้นเกิดอาการเขียว เล็กน้อย

หัว….เท้า

วันนี้กลายเป็นวันซวยของเขาแต่โดยดี

เพราะเมื่อคืนไม่ได้พักผ่อนดีๆ ตอนนี้จึงทำให้เขาง่วงมาก เขา อาบน้ำเสร็จ ล้มตัวลงบนเตียงแป๊บเดียวก็หลับแล้ว

คุณภาพในการนอนหลับของเขาไม่ค่อยดีนัก เพิ่งหลับไปแป๊บ เดียว ฝันร้ายก็ปรากฏขึ้นทีละฉากๆ

บางครั้งเป็นฉากเสียสละของเพื่อนร่วมทัพ และบางครั้งก็เป็นฉากที่ได้รับหน้าที่เป็นหนอนบ่อนไส้แต่กลับถูกจับได้แล้วมีปืนมา จ่ออยู่บนหัว

ตาย…..เกิด

หานคงในฝันนั้นไม่ค่อยสนใจอะไรนัก

ทันใดนั้นเขาก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา และนั่งอย่างเหนื่อยล้า ดวงตาคู่ นั้นเหม่อลอย ผ่านไปสักพักถึงจะสังเกตเห็นว่าท้องฟ้าข้างนอก นั้นมืดแล้ว

เขาถอนหายใจออกมา เขาคิดว่าหลังจะออกมาจากการเป็น ทหารทุกอย่างจะราบรื่น ตอนนี้เขาถึงรู้ว่า ตัวเองนั้นคิดฝันมาก เกินไป

สิ่งเหล่านี้ได้ถูกสลักไว้ในความทรงจำของเขา มันคงจะติดตัว เขาไปตลอดชีวิต

เขารู้สึกหิวเล็กน้อย จึงอยากจะออกไปหาอะไรกิน ในตอนที่ เดินผ่านห้องของเซี่ยเมิง เขาคิดอะไรบางอย่างได้ จึงไปเคาะ

ประตู “ที่รัก กินข้าวหรือยัง?”

ไม่มีเสียงตอบรับ น่าจะไม่มีคนอยู่

เขาสงสัยว่าดึกขนาดนี้แล้วเซียเพิ่งออกไปทำอะไรข้างนอก จากนั้นเขาก็ตัดสินใจโทรหาหวางเลขาของเธอ

หลังจากที่รู้ว่าหวางและเซี่ยเพิ่งอยู่ที่โรงแรมหวาถึง เขาก็ ถามขึ้นว่า “ไปทําอะไรที่นั่น ทำไมไม่เรียกผม
“ประธานเซียไม่ให้เรียก……..หานดง คุณรีบมาเถอะ มันมีอะไร ผิดปกติ จางเจ้าชื่อไม่ให้ฉันเข้าไปด้วย ฉันกลัวว่าจะเกิดเรื่องกับ ประธานเซีย………..

เสียงของเธอ มาก และมีการตื่นตระหนกเล็กน้อย

หานคงไม่ทันคิดอะไรมาก แม้แต่รองเท้าก็ไม่ได้เปลี่ยนก็รีบวิ่ง ลงบันไดไป โบกรถแล้วมุ่งหน้าไปยังโรงแรมหวาถึง

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว 80%เป็นการที่จางเจ้นชื่อนัดเซียเพิ่งไป

คนอย่างผู้หญิงคนนี้ที่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ถึงแม้จะเดา ได้ว่าเขาคิดจะทำอะไร แต่ก็ยังคงใช้โชคไปเสี่ยง

แต่หานองนั้นเป็นผู้ชาย เขาไม่มีทางใช้โชคไปเสี่ยงหรอก

หรือว่าเซี่ยเจิ่งนั้นคิดจะเอาตัวเข้าแลกกับจางเจ้นซื่อ แต่เขา เป็นสามีของเซี่ยเมิ่ง เรื่องแบบนี้เขาจะไม่มีทางให้เกิดขึ้นเด็ด

ขาด

โรงแรมหวาถึงนั้นอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่เขาพัก ใช้เวลา ประมาณ 15 นาทีก็ถึงแล้ว

สิ่งแรกที่หานดงเห็นคือรถBMW R8คันสีแดงของเซี่ยเพิ่ง

ข้างในนั้นมีเพียงคนคนเดียวก็คือหวาง หานคงไปเคาะ กระจกรถ หลังจากที่กระจกเลื่อนลงเขาก็รีบถามขึ้นมาทันที “เกิด อะไรขึ้น?”

“ฉันก็ไม่รู้ นี่ก็จะชั่วโมงหนึ่งแล้ว เบอร์ของประธานเซียก็ยังติดต่อไม่ได้…..………..

หวางลี่นั้นเป็นกังวลใจอย่างมาก มองเห็นหานคงก็เหมือนมอง เห็นแกนนํา

จากนั้นหานคงก็ถามขึ้นอีกสองสามค่า หลังจากที่รู้ว่าเขี่ยเม

งอยู่ภัตตาคารอาหารจีน เขาก็รีบเข้าไปทันที

แต่ในตอนนี้ในภัตตาคารอาหารจีนมีลูกค้าแค่ไม่กี่คน และ ไม่มีแม้แต่เงาของเซี่ยเพิ่ง

เซ้นส์ของเขาบอกอย่างชัดเจนว่าเซี่ยเพิ่งยังคงอยู่ในโรงแรมนี้ และถ้าไม่อยู่ชั้น 1 จะไปอยู่ที่ไหน?

ชั้นบนนั้นล้วนเป็นห้องพักทั้งหมด หรือว่าเธอนั้นไปเปิดห้อง กับจางเจ้นชื่อเสียแล้ว

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หานคงก่นด่าขึ้นมา จากนั้นก็เดินเข้าไปใน

ลิฟต์

ด้วยฐานะของจางเจ้นชื่อแล้ว ถ้าจะเปิดห้อง ก็คงจะเปิดห้อง พิเศษ โดยทั่วไปแล้วโรงแรมส่วนใหญ่จะจัดห้องพวกนี้อยู่ใน ประเภทห้องชมวิว มันอาจจะอยู่ชั้นบนสุด หรือไม่ก็หนึ่งในสอง ชั้นบนสุด

หานดงกดไปที่ชั้น48 แล้วมองหาที่ละห้อง

เขานั้นถือว่ายังโชคดี ในตอนที่เขาไปถึงชั้นที่ 49 ตรงระเบียง ทางเดินนั้นเขาได้เห็นคนที่คุ้นเคย คนๆ นั้นคือเลขาที่เปิดประตูรถ ให้จางเจ้นชื่อเมื่อตอนกลางวัน

นอกจากเขาแล้ว ยังมีผู้ชายอีกสองคนที่สวมชุดสูท ร่างกาย กาย ดูแล้วน่าจะเป็นบอดี้การ์ด

ในเวลานั้น คนพูดนั้นรวมกลุ่มกัน เหมือนกำลังคุยอะไรบาง อย่างที่มันเป็นความลับ

ในตอนที่หานดงเดินใกล้เข้าไป ก็ได้ยินศัพท์ที่เกี่ยวกับเรื่อง อย่างว่า

ผู้หญิง วางยา ประธานาง อัดวีดีโอ……….

ไม่ต้องใช้ความคิดอะไร หานคงก็สามารถฟังออกได้ ตอนนี้ เซี่ยเมิ่งและจางเจ้นชื่ออยู่ในห้อง และยัยผู้หญิงโง่คนนั้นก็จะโดน วางยาแบบไม่รู้ตัว

เขาโกรธจนเหมือนไฟลุกทั้งตัว ดวงตาของหานคงเปลี่ยนไป

เป็นมืดมน

“แกเป็นใคร!”

บอดี้การ์ดคนหนึ่งสังเกตเห็นถึงหานดงจึงเดินเข้ามาหา เพียง ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวก็ใช้มือผลัก ตั้งใจที่จะกีดกัน

แต่มือนั้นยังไม่โดนตัวคนที่มาใหม่ ข้อมือของเขาก็ถูกผู้มา

ใหม่ล็อกไว้แล้ว แรงที่ไม่สามารถตอบโต้ได้แบบนั้น ทำให้บอดี้การ์ดเบิกตาก

ว้าง ยกขาถีบออกไป “ไอ้ห่านี่…….
ยังพูดไม่ออกเลยสักคำ ร่างกายก็เหมือนโดนรถไฟชน บอดี้ การ์ดร่วงลงไปกับพื้นและค่อยๆ ถอยหนี แต่ก็โดนถีบอีกรอบ โดยกุมท้องไว้แล้วชนกับกำแพงอย่างแรง

การสู้กับบอดี้การ์ดของจางเจ้นชื่อเป็นอะไรที่ง่ายมาก ฆ่าคนก็ เคยทํามาแล้ว ในตอนนี้ถ้ามองจุดประสงค์การมาของหานคง ไม่ ออกก็คงจะโง่มากแล้ว

บอดี้การ์ดอีกคนเห็นว่าสถานการณ์เป็นแบบนี้จึงหยิบมีดสั้น ออกมา เขาคิดว่าคนที่มาเป็นศัตรูของจางเจ้นชื่อ

แต่น่าเสียดาย เขายังไม่ทันได้ใช้มีดไปยังทานดง บอดี้การ์ด ก็จับคอของตัวเองไว้ พยายามร้องออกมาเหมือนเห็นผี แต่ร้อง แค่ไหนก็ไม่มีเสียงออกมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ